เขาไม่เคยลืมเลือนว่าเคยมีความสัมพันธ์งดงามกับหญิงสาววัยสิบแปดคนหนึ่งที่ฐานะแตกต่างจากเขาแม้มากเพียงใดหากก็ไม่ใช่อุปสรรคขวางกั้นความตั้งใจจริงที่เขาจะ รัก เธอได้ กระทั่งถึงวันที่เขาต้องเดินทางไปเรียนต่อแดนไกล เคนรู้สึกได้ถึงความห่างเหินระหว่างกันแม้เขาพยายามที่จะสานความสัมพันธ์นั้นไว้ให้ยืนยาวมากที่สุด เรียกได้ว่านั่นเป็นรักครั้งแรกและฝังใจสำหรับเขา เป็นความทรงจำปวดร้าวของผู้ชายคนหนึ่งที่ถูกคนรักหักหลังอย่างเลือดเย็น
“คุณไปเรียนต่อเถอะนะคะเคน และคงไม่ต้องติดต่อกลับมาหาลูกสาวของฉันอีกแล้ว”
“ทำไมล่ะครับ ผมแค่อยากพบญาญ่าอีกสักครั้ง”
“เธอไม่อยากพบคุณอีกแล้วล่ะค่ะ เพราะมันอาจไม่เหมาะสม”
“มีอะไรที่ไม่เหมาะสมอย่างนั้นหรือครับ ในเมื่อก่อนหน้านี้เราก็คบกันแล้ว”
“ฟังนะคะ คุณเคน คลีฟตัน...ฉันอยากจะบอกคุณว่ายะหยาเขาคบกับคุณไม่ได้ เพราะเขากำลังจะหมั้นกับคนที่จะเลี้ยงดูเขาได้ ผู้ชายคนนั้นเป็นผู้ใหญ่และมีเงินมากพอจะเลี้ยงดูให้ลูกสาวฉันสบาย”
“ผู้ใหญ่เหรอครับ เขาเป็นใคร?”
“ไม่จำเป็นที่คุณจะต้องมารับรู้หรอกนะคะ เพราะอีกไม่กี่วันเขาก็จะมาหมั้นกับลูกสาวฉันแล้ว กลับไปซะเถอะนะคะ ฉันได้ยินว่าคุณกำลังจะไปเรียนต่อต่างประเทศ คุณยังเด็กมากเคน เด็กมาเกินกว่าที่จะปกป้องยะหยาได้ ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นลูกคนรวยก็เถอะ แต่ยะหยาบอกกับฉันว่าไม่แน่ใจเลยว่าคุณจะเลี้ยงดูเขาได้”
“ญาญ่าอยู่ที่ไหนครับ ขอให้ผมได้พบเธอสักครั้งก่อนเดินทางไปเรียนต่อที่เบลเยี่ยม”
“ไม่ค่ะ ยะหยาไม่อยู่ที่นี่แล้ว เธอบอกว่าไม่อยากพบคุณ กลับไปซะเถอะค่ะ!”
บทสนทนาสุดท้ายระหว่างเขาและมารดาของมษยาแทรกเข้ามาในความคิด และนั่นเป็นความทรงจำสุดท้ายของเขาที่มีต่อผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาทั้งรักและแค้นฝังใจ ตอนนี้ถึงเวลาแล้วสินะที่เขาจะได้ทำอะไร...อย่างที่หัวใจของเขา เรียกร้องให้ทำ!
บทที่ 3 ลวงให้รัก
“ฉันยังไม่ได้แต่งงานกับใคร...เอ้อ...ฉันพึ่งได้งานทำที่นี่เป็นที่แรกด้วยค่ะ”
โกหกหน้าด้านๆ! เสียงนั้นดังอยู่ในสำนึกของชายหนุ่มทว่าเขากลับยกยิ้มมุมปากและมองหญิงสาวด้วยแววตาอ่อนโยน
“ผมเข้าใจว่าหลังจากที่เราไม่ได้พบกันหลายปีคุณจะมีใครไปแล้วเสียอีก”
“ฉันยังไม่มีใครเลยค่ะ”
เธออยากพูดต่อด้วยซ้ำว่ายังฝังใจกับความรักครั้งแรกในครั้งนั้นหากแต่สิ่งที่เธอทำได้ ณ เวลานี้คือการปกปิดความรู้สึกที่แท้จริง พยายามไม่แสดงให้เขาเห็นว่าเธอก็ปวดร้าวมากขนาดไหนที่เป็นฝ่ายหันหลังให้เขาเพื่อหวังจะได้เห็นคนที่ตัวเองรักประสบความสำเร็จในชีวิตมากกว่าการต้องจมปลักอยู่กับผู้หญิงที่ต่ำต้อยและไม่มีอะไรเลยเช่นเธอ
“คุณมาเริ่มงานที่นี่เป็นที่แรก...อย่างนั้นหรือ ?”
เคนถามขึ้น เสียงของเขากลบความเงียบงันภายในห้องที่ได้ยินแต่เสียงแอร์ครางต่ำ ๆ มษยายิ้มให้เขาขณะมือทั้งสองยังประสานไว้เบื้องหน้า
“ค่ะ...ฉันพึ่งได้งานทำที่นี่เป็นที่แรก”
“ผมขอแสดงความยินดีด้วย มิสดารินทรา”
“เคนคะ...เอ้อ...ท่านประธาน”
“มีอะไรที่คุณอยากบอกผมอย่างนั้นหรือ?”
“ฉันดีใจมากเลยนะคะที่ได้เจอคุณอีกครั้ง”
“ผมก็ดีใจมากเช่นกัน”
เคนตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบและออกจะนุ่มนวลมากด้วยซ้ำทั้งที่ภายในของเขาระอุร้อนด้วยความเคียดแค้นที่ครั้งหนึ่งถูกมษยาสลัดทิ้งไปหาผู้ชายคนอื่น ด้วยเหตุผลที่ว่าเขายังไม่เป็นผู้ใหญ่พอและปกป้องเธอไม่ได้ เขาเจ็บจำกับการกระทำของเธอและจะไม่มีวันลืมจนวันตาย รักครั้งแรกที่ถูกทำลายด้วยการหันหลังให้ของผู้หญิงเห็นแก่ตัว มษยาฉีกหัวใจของเขาเช่นไร เขาก็จะฉีกหัวใจของเธอให้แหลกสลายยิ่งกว่าที่เธอเคยทำกับเขา!
“คุณคงยังไม่มีชุดฟอร์มของบริษัทสินะ”
ชายหนุ่มกล่าวพลางกวาดสายตามองไปทั่วเรือนร่างของหญิงสาวภายใต้ชุดกระโปรงสวมทับด้วยเสื้อสูทซึ่งเธอสวมใส่มาในวันแรกเพื่อรายงานตัว ประกายในดวงตาสีน้ำเงินดุจท้องฟ้าเหนือห้วงมหาสมุทรทำให้มษยารู้สึกร้อนผ่าวจนหน้าแดง เธอก้มลงมองตัวเองก่อนช้อนตามองเขาอย่างเคอะเขิน
“ยังไม่มีเลยค่ะ ฉันยังไม่มีชุดฟอร์มของบริษัทเลยค่ะ แต่คิดว่าจะรีบตัดหลังจากนี้”
“ผมจะจัดให้ช่างวัดตัวและตัดให้คุณสิบชุด”
มษยาเบิกตากว้าง “สิบชุดเลยเหรอคะ! เอ้อ...จริง ๆ แล้วแค่สองชุดก็พอแล้วนะคะ”
“คุณต้องทำงานสี่สิบชั่วโมงต่อสัปดาห์ ฉะนั้นแล้วชุดทำงานก็ต้องให้มีความเหมาะสมสำหรับเวลางานของคุณ”
เคนกล่าวจบก็ลุกจากเก้าอี้และยืนสอดมือทั้งสองไว้ในกระเป๋ากางเกง เขายังคงจ้องมองมาที่หญิงสาวซึ่งยืนหน้าแดงก่ำโดยไม่รู้ตัว มษยาไม่รู้ว่าจะยิ้มหรือทำสีหน้าอย่างไรดี การได้พบกับ คนเคยรัก กันครั้งนี้มันทำให้เธอทำตัวไม่ถูกเลยจริงๆ
“ขอบคุณนะคะ...ขอบคุณมากค่ะเคน”
“เชิญคุณกลับไปที่แผนกได้”
“ขอบคุณมากค่ะ”
“ญาญ่า...”