Zack's Rule กฎของเเซค
‘กฎของแซค’ นอนด้วยกัน ไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ
ห้ามรักและห้ามแสดงความเป็นเจ้าของ
เมื่อเลือกที่จะตกลงเป็นผู้หญิงของแซคถ้าพอใจกับความสัมพันธ์แบบนี้ก็ทนต่อไป
แต่ถ้าไม่ไหวก็ให้เลือกเดินออกไปเอง
-พลช พัฒนรุ่งเรืองกิจ-
ผับ Zack’s Rule
ร่างสูงใหญ่สวมเสื้อยืดสีขาวแขนสั้นกับกางเกงยีนส์สีซีดพร้อมรองเท้าผ้าใบ หุ้มข้อยี่ห้อดัง มือซ้ายที่มีรอยสักลวดลายสวยงามยกขึ้นเอาบุหรี่เข้าปาก จากนั้นก็สูบเอานิโคตินเข้าปอดพ่นควันสีขาวพวยพุ่งเหนือศีรษะ เดินตรงไปยังผับที่ครึกครื้นไปด้วยแสงสีและเพลงที่เปิดดังระงม
ประตูห้องเป็นทั้งห้องทำงานและห้องนอนไปในตัว ทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้นวม ตรงหน้าเป็นโต๊ะทำงานขนาดใหญ่มีแฟ้มเอกสารมากมายที่กระจายอยู่บนโต๊ะ “ไม่ได้เอาดอกไม้มาใส่แจกันให้หรือไง?”
“ขอโทษด้วยครับคุณแซค ผมจะสั่งให้ไปซื้อเดี๋ยวนี้ครับ”
‘แซค พลช พัฒนรุ่งเรืองกิจ อายุ 28 ปี’ เจ้าของผับชื่อดังย่านใจกลางกรุงที่มีนักท่องเที่ยวไฮโซหรือดารามักจะมาดื่มและนั่งฟังเพลงที่ผับของเขา มีนักร้องขาประจำมาร้อง แซคให้โอกาสนักร้องที่ร้องตามถนนมาร้องที่นี่ให้เงินจำนวนมาก หวังว่านักร้องที่ไม่ได้เด่นดังจะโด่งดังตามความฝันที่เขาอยากจะให้เป็น
“คาร์เนชั่นสีเขียว”
“ครับ” บอกแค่นั้นคนของแซคก็ออกจากห้องไป ส่วนเขาก็เอนพลังพิงเก้าอี้มองแจกันที่ว่างเปล่าก็ทำให้รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา อาจเพราะไม่ได้เห็นดอกคาร์เนชั่นสีเขียว ที่เป็นสีโปรดของตัวเอง ความหมายของมันก็เหมือนกับเขาไม่มีผิด คาร์เนชั่นสีเขียว มีความหมายว่าสุขภาพที่ดี ความแข็งแรงและมีเอกลักษณ์เป็นตัวของตัวเอง
Rrr
สมาร์ทโฟนเครื่องหรูสีน้ำเงินดังเรียกให้คนเป็นเจ้าของรับสายสักที พอสายตามองปลายสายจึงค่อยผุดยิ้มขึ้นมา
“ว่าไง”
(“เฮียแซค วันนี้มาหาหนูไหม?”) ได้ยินเสียงใสออดอ้อนเขาก็เคาะนิ้วชี้ลงบนโต๊ะ (“หรือเฮียแซคนัดคนอื่นแล้ว”)
“ไม่ได้นัด”
(“ถ้างั้นเฮียมาหาหนูนะคะ หนูคิดถึงเฮียแซคมากเลย”)
“จำได้ว่าเฮียเพิ่งไปหาหนูเองนะ”
(“แต่มันไม่พอนี่นา เฮียมาแค่รอบเดียวเอง”)
“อะไรรอบเดียว? เฮียก็ยังจำได้อยู่ดีนะว่าเฮียไม่ได้ไปหาหนูรอบเดียว” น้ำเสียงงอแงกรอกใส่จนเขายิ้มออกมาไม่หยุด
(“เฮียไม่รู้เหรอว่าหนูไม่เคยพอกับเฮียเลย”)
“หึ”
(“หนูอาบน้ำรอแล้วนะคะ พรุ่งนี้หนูต้องไปมหาลัยด้วย”)
“ต้องไปเรียนแล้วจะชวนเฮียไปหาทำไม” มองร่างสูงที่เดินเข้ามาพร้อมหยิบแจกันจากมุมโต๊ะออกไปข้างนอก
(“ก็อยากเจอเฮีย”)
“เฮียให้โอกาสหลินพูดอีกที” แซคพยายามต้อนคนในสายให้พูดในสิ่งที่ตัวเองต้องการจริงๆ เพราะว่าเขาน่ะชอบที่ผู้หญิงต้องการและโหยหาเขาขนาดนี้
(“หนูอยากได้... เฮีย”)
“โอเค เฮียออกจากผับเที่ยงคืน เฮียไปเลย”
(“หนูจะรอนะคะ เฮียแซคของหลินน่ารักที่สุด”)
กดวางสายไปสักพักประตูก็เปิดขึ้นอีกครั้ง มองดอกคาร์เนชั่นรอยยิ้มที่ไม่ได้เจ้าเล่ห์ก็ผุดขึ้นมา ทว่ารอยยิ้มครั้งนี้กลับอ่อนโยนจนคนที่ยืนอยู่ยังไม่เคยเห็นรอยยิ้มของเจ้านายที่ยิ้มให้กับดอกไม้ไร้ชีวิตแบบนั้น
“คุณแซคครับ”
“ว่า” แซคเอ่ยถามก่อนจะยื่นมือไปจับตามกลีบดอกไม้ “มีอะไรปราบ”
“ผมไม่รู้ว่าควรถามคุณแซคออกไปไหม” แซคขมวดคิ้วมองปราบคนสนิท ยืนเอามือผสานไว้ระหว่างหน้าท้อง ใบหน้าหล่อเหลาอายุเพียงยี่สิบห้าปี เขากับแซค เจอกันได้ตอนที่เขาต่อยตีเป็นอันธพาล แซคเห็นฝีมือแล้วจึงเชิญชวนปราบให้มาทำงานกับเขาซึ่งพอปราบได้ฟังแบบนั้นก็รู้สึกตื่นตันใจและเป็นเกียรติที่จะได้ทำงานกับแซค ผู้ชายที่มีอิทธิพลมากๆ คนหนึ่ง
“ถามมาสิ ถ้าตอบได้ฉันจะตอบ”
“ดอกคาร์เนชั่นน่ะครับ” ปราบเอ่ย แซคจึงผละมือออกและเปิดแฟ้มเอกสารเพื่อตรวจสอบงาน
“นายกำลังจะถามว่าทำไมผู้ชายอย่างฉันที่ตัวใหญ่ ถึงชอบดอกไม้”
“ครับ แล้วต้องคาร์เนชั่นสีเขียวด้วย” สายตาคมตวัดมองปราบและมองดอกไม้ที่อยู่ในแจกันใส รอยยิ้มของเขาก็ผุดขึ้นมาอีกครั้ง
“คาร์เนชั่นสีเขียวมันหมายถึงเอกลักษณ์เป็นตัวของตัวเอง และฉันเป็น แบบนั้น”
“...”
“อีกอย่าง มีคนเคยบอกว่าคาร์เนชั่นสีเขียวมันเหมาะกับฉัน”
ใครบางคนที่บอกแซคไม่แม้แต่จะเอ่ยชื่อออกไป เมื่อได้คำตอบที่อยากได้แล้วปราบก็ขอตัวไปดูแลผับต่อ แต่แซคก็สั่งให้ปราบเรียกใครอีกคนเข้ามาพบ ระหว่างที่กำลังเซ็นเอกสารในแฟ้มประตูก็ถูกเคาะ
“คุณแซคเรียกเบียร์มามีอะไรหรือเปล่าคะ?”
“ช่วงนี้เธอว่างหรือเปล่า” แซคถามหญิงสาวตรงหน้าที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ปลายเสื้อมัดเป็นโบว์ไว้ตรงเอวเพื่อโชว์เอวขอดรับกับหน้าอกหน้าใจที่ใหญ่โต กระดุมเสื้อเชิ้ตถูกปลดลงมาสองเม็ดเผยให้เห็นก้อนเนื้อที่ดันล้นบวกกับกางเกงขาสั้นเพื่อให้เห็นเรียวขายาว ใบหน้าสวยเก๋ที่ต้อนรับแขกมีชื่อได้อย่างดี เบียร์เป็นอีกคนที่แซคเชื่อและไว้ใจมาเสมอ แต่มักจะถูกมองว่าเธอเป็นเด็กของแซคก็เลยไม่ค่อยมีใครกล้ายุ่ง แม้จะยื่นข้อเสนอเลี้ยงดูแต่เบียร์ก็มีศักดิ์ศรีที่จะไม่ยอมเป็นเมียน้อยของใคร รักและเคารพแซคเสมือนพี่ชาย
“คุณแซคถามแบบนี้ เบียร์ก็ต้องว่างไหมคะ” เธอฉีกยิ้มให้กับเขา
“งั้นช่วยจัดการบัญชีแล้วก็เอกสารสั่งของมาในผับให้ที ฉันมีธุระ”
“ได้ค่ะ”
“เสร็จก็ให้ปราบตรวจเช็คอีกที”
ลุกขึ้นหยิบสมาร์ทโฟนกับกุญแจรถก่อนจะออกจากห้องและผับ กดปลดล็อกรถ Jaguar f-type 5.0 liter v8 สีน้ำเงินราคาสิบล้านนิดๆ แต่ก่อนจะได้ขึ้นรถแซคก็เอนสะโพกพิงประตูทางคนขับ จากนั้นก็ล้วงซองบุหรี่มาร์ลโบโร่ซองแดงเข้าปาก จุดไฟแช็กเงินที่เป็นแบบสำหรับเติมก๊าซลงไปได้ ควันบุหรี่พวยพุ่งแซคจึงเงยหน้ามองท้องฟ้า ยามค่ำคืนที่เวลานี้ใกล้จะเที่ยงคืนแล้วแต่เขามีนัดกับหญิงสาวที่เลี้ยงดู เรียกง่ายๆ เขามีผู้หญิงเป็นฮาเร็มเลยล่ะ
“ผับที่นี่นะ เลิศมากแกอย่ามาไม่อยากเข้าสกาย”
“แต่ฉันไม่อยากเข้านี่น่า เผื่อมีนักข่าวอยู่ด้วยนะ”
“ไม่มีหรอก ผับแซคไม่เคยมีนักข่าวหรือพวกปาปารัสซี่”
สายตาของผมมองผู้หญิงคนหนึ่งกำลังพยายามลากผู้หญิงอีกคนที่ส่ายหน้า ไปมาไม่อยากเข้าไปในผับ ร่างบอบบางสวมชุดเดรสสีดำกับส้นสูงแหลม ใบหน้าสวยหวานแต่งแต้มจนสวยงามคิดว่าถ้าลบหน้าออกมาคงสวยใช่ย่อย ผมสีเขียวอมฟ้าขลับกับผิวขาวๆ ที่ทำให้มองแล้วรู้สึกไม่เบื่อ เป็นผู้หญิงที่น่ามองจนต้องเหลียวหลัง (ความคิดของแซค) สายตาคมมองตามผู้หญิงสองคนนั้น ในที่สุดก็พาเพื่อนที่ไม่อยากเข้าไปด้วยจนได้
“หึ” รอยยิ้มของแซคผุดขึ้นก่อนจะทิ้งก้นบุหรี่ลงบนพื้นและใช้ปลายรองเท้าเหยียบจนแหลก ขึ้นรถเพื่อพาเขาไปหาความสุขที่เขาชอบนั่นคือ ‘เซ็กซ์’
บนเตียงนอนขนาดคิงไซส์ภายในห้องอบอวลไปด้วยราคะและไฟสวาทแผดเผาคนสองคนที่ ณ เวลานี้ได้เสร็จสมอารมณ์หมาย ต่างคนต่างทิ้งตัวลงนอนร่างสูงใหญ่เปลือยเปล่าหอบหายใจหนัก พลางหยิบบุหรี่ตรงลิ้นชักหัวเตียงมาจุดสูบพ่นควันไปทั่วห้องนอน แม้จะไม่ได้หรูหราแต่กว้างขวางพอที่จะทำให้พวกเขาหลับนอนกันอย่างมีความสุข เรือนร่างบอบบางขาวนวลดั่งไข่มุกขยับตัวมานอนบนแผงอกแกร่งที่เต็มไปด้วยรอยสักมากมายนับไม่ถ้วน กวาดนิ้วตั้งแต่ลำคอมาถึงสะโพกผายที่เพิ่งจะทำให้เธอ มีความสุขถึงสองรอบ “เฮียแซคของหนู แรงดีไม่มีตกเลยนะคะ”
“หลินเองไม่ใช่เหรอ ที่บอกให้เฮียจัดหนักๆ”
“งือ ก็หนูชอบที่เฮียจัดหนักจัดเต็มกับหนูนี่นา” เธอทำหน้ากระเง้ากระงอดพลางกดจูบไปยังแก้มสากที่มีหนวดขึ้นรำไร
“ไปเรียนไหวหรือเปล่า?”
“ระดับหนูมีเหรอคะว่าจะไม่ไหว” แซคปลายตามองหญิงสาววัยยี่สิบปี เป็นนักศึกษาปีสอง แน่นอนว่าผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ใช่คนรักของแซค เพียงแต่เป็นผู้หญิงที่ แซคเลี้ยงดูส่งเสียเงินและมาเสพสุขบ้างเป็นบ้างครั้ง ต่อให้นับนิ้วทั้งหมดก็คงบอกไม่ถูกว่ามีผู้หญิงอยู่ในฮาเร็มเขากี่คนแล้ว ซึ่งแต่ละคนมักจะหวังเกินตัวและแสดงตัวตนเกินขอบเขตที่ตกลงกันไว้ แซคจึงเอ่ยปากให้ทุกคนที่ยอมมาเป็นผู้หญิงของเขา อย่าได้หวังสูงว่าจะได้เคียงคู่กัน
กฎของแซค... ห้ามหวง ห้ามแสดงความเป็นเจ้าของ
“เฮียต้องกลับก่อน”
“อ้าว แล้วไม่ค้างกับหนูเหรอ” เพราะหยิบสมาร์ทโฟนสุดหรูขึ้นมาดูหน้าจอก็พบว่ามีข้อความมากมายจากสาวที่แซคเลี้ยงดูด้วย แต่ทว่ามันไม่ได้สำคัญเท่ากับข้อความนี้หรอก
Zee :: เฮีย กลับบ้านหน่อย มีเรื่องจะคุยด้วย