ตอนที่ 2

1599 Words
ใครๆก็บอกว่าพี่เชอร์รี่คือนางฟ้าส่วนนางมารคงไม่พ้นใครนอกจากเธอที่ถูกตามใจมาโดยตลอด และรุ่นหลานอย่างพวกเราดันมาผู้หญิงแค่สองคนส่วนอีกห้าคนนั้นเป็นผู้ชายหมดเลยทำให้เธอถูกยกไปเปรียบเทียบจนน่ารำคาญพวกคนแก่หัวโบราณ ถ้าเป็นเรื่องดีๆพี่เชอร์รี่ชนะขาดส่วนเรื่องแย่ก็เป็นเธอนี่สิที่รับไว้หมด แต่อย่างน้อยเธอก็รวยกว่าเยอะนะ! ต้องย้อนไปเมื่อสองปีที่แล้ววันที่ยายเสียชีวิตด้วยโรคชราทำให้แม่ที่เป็นลูกสาวคนเดียวรับมรดกทั้งหมดแต่ด้วยความรักอันมหาศาลของยายที่มีต่อหลานสาวคนเดียวอย่างเธอนั้นเลยเขียนพินัยกรรมเอาไว้ให้ หุ้นส่วนสิบห้าเปอร์เซ็นนั้นเป็นของเธอพร้อมกับเงินอีกสองพันล้านและทรัพย์สมบัติอื่นๆเพราะกลัวหลานรักจะใช้ชีวิตลำบาก พ่อแม่ก็ดูจะไม่ตกใจเรื่องนี้เลยสักนิดนอกจากถอนหายใจแล้วเตือนให้ใช้เงินประหยัดอย่าเอาไปเลี้ยงผู้ชายเยอะเกินไปแต่ว่าตอนนั้นยังเวอร์จิ้นอยู่ แต่นั่นเป็นคำสอนที่เธอทำตามไม่ค่อยได้นะ! ทุกเดือนเธอต้องกลับบ้านตามสัญญาที่ให้แม่ไว้ก่อนจะออกมาอยู่คอนโดคนเดียวเมื่อตอนเข้ามหาลัยได้ บ้านของเธอมีทั้งหมดหกชั้นจัดสรรพื้นที่ได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะเรื่องห้องนอนเพื่อจะได้ไม่ต้องมีใครไปรบกวนใครในเวลาดึกๆที่อาจจะส่งเสียงดังเกินไปในตอนมีกิจกรรมเข้าจังหวะ พ่ออยู่ชั้นสี่ แม่อยู่ชั้นห้าและเธออยู่ชั้นที่หก นับว่าเป็นครอบครัวที่แปลกมากแต่ก็สนุกดี! "มาได้ซะทีนะน้องอายตา!" "นัดมาทำไมไม่รู้แต่เช้าง่วงก็ง่วง นี่ขากลับแม่ต้องเลี้ยงกาแฟหนูนะไม่งั้นไม่ยอมนอนที่บ้านแน่" "โถ่วๆๆ...ไปทวงกับพ่อหนูนู้นไม่รู้จะรีบอะไรนักหนาแม่ก็แต่งตัวแทบไม่ทันเหมือนกัน ดูสิเลือกเครื่องเพชรไม่ได้จำใจต้องใส่ชุดเก่าแทน" "กาแฟแค่แก้วสองแก้วพ่อเลี้ยงได้น่าเลิกบ่นได้แล้ว ยัยหนูที่คอน่ะอย่าให้มันเป็นรอยชัดนักสิเดี๋ยวคนเขาจะถามเยอะพ่อขี้เกียจตอบ" "ก็เมื่อคืนหนูเมา!" "รอยจางแค่นี้ไม่มีใครเห็นหรอกน่าถ้าไม่มาจ้องจริงๆ เราไปกันเถอะจะได้รีบๆกลับฉันจะพาลูกไปสปาด้วย วันนี้กะว่าจะทำเล็บต่อด้วยเลยแล้วเจอกันตอนเย็นนี้ห้ามเบี้ยวนัดล่ะ" "ยัยหนูกลับบ้านทั้งที่ใครจะเบี้ยวนัดได้ล่ะคุณ บ่ายกินกาแฟเสร็จแล้วจะไปไหนก็ไปแต่กลับบ้านก่อนสองทุ่มแล้วคืนนี้คุณห้ามพาลูกไปบาร์โฮสล่ะ!" "นี่คุณ!" "พ่อแม่อย่าพึ่งทะเลาะกันสิหนูอายเขา!" เธอจับพ่อแม่ออกจากกันแล้วแทรกตัวเข้าไปตรงหน้าควงแขนทั้งสองคนเดินเข้าไปในคฤหาสน์ที่มีญาติคนอื่นรออยู่และเป็นบุญที่ไม่ได้อยู่ที่นี่เหมือนคนอื่นเพราะว่าเธอไม่ชอบหน้าทุกคนเลย เราทั้งครอบครัวเก่งเรื่องการแสดงละครต่อหน้าทุกคนอยู่แล้วจนต้องแอบหัวเราะในความตลกร้ายแบบนี้นะ พ่อหัวเราะออกมาเพราะรู้ดีว่าเธอไม่ชอบใจเท่าไรนักส่วนแม่ก็รักษาสีหน้าสวยสง่าได้ทั้งที่น่าจะรู้สึกเบื่อเหมือนกัน โดยรวมแล้วพวกเรานี่มันนักต้มตุ้นเลยนะ! หลอกคนทั้งตระกูล!! "คุณ!!" "เธอ!!" เราสบตากันอยู่เกือบนาทีใบหน้าตกใจก็เปลี่ยนอย่างรวดเร็วเสียยิ่งกว่ากิ้งก่าตอนเปลี่ยนสีซะอีก รอยยิ้มกว้างมองไปทางญาติผู้พี่ทั้งหลายก่อนจะยกมือไหว้และทักทายทุกคนด้วยน้ำเสียงหวานใส เขาเองก็ดูตกใจมากแต่ก็ยิ้มกว้างออกมาเหมือนว่าเราไม่รู้จักกันมาก่อน แต่ว่าเรารู้จักร่างกายกันดีนะ! "รู้จักเหรอลูก?" "ไม่ค่ะ หนูพึ่งเคยเจอเขาครั้งแรก" "นั่นแหละว่าพี่เขยอย่าเผลอไปแอบกินละพ่อยังไม่อยากมีปัญหาตามมา" "แต่หล่อๆแบบนี้เสียดายอ่ะ" "ล้านหนึ่งพอไหมยัยหนู?" "สามค่ะถึงจะพอ" "พ่อโอนค่าความเสียดายให้แล้วนะ" เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็คยอดเงินเข้าบัญชีทันทีก่อนจะหันไปส่งยิ้มหวานให้กับพ่อที่ตามใจทุกอย่างอีกเช่นเคย เราทั้งสามคนเดินไปนั่งมองการอวดว่าที่ลูกเขยของลุงหนึ่งว่าจะโม้ได้มากขนาดไหนและหวังว่าเขาจะไม่ทำอะไรแผลงๆหรอกนะ แต่บางทีก็อยากหักหน้าพี่เชอร์รี่เหมือนกันนะ ...เอาไงดีล่ะ? เราหันมาบังเอิญสบตากันอีกครั้งในช่วงที่ผู้ใหญ่กำลังพูดคุยกันด้วยเรื่องน่าเบื่อก่อนที่พ่อของเขาจะหยิบเอาแหวนเพชรเม็ดโตออกมาวางไว้ส่วนเขาก็ทำหน้าตกใจมากแต่เพียงเสี้ยวนาทีก็กลับไปนิ่งเฉยเหมือนไม่ได้เกิดอะไรขึ้น นี่คือไม่รู้ตัวรึไงว่ากำลังจะจับถูกหมั้น! เธอหัวเราะเบาๆส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะยิ้มหวานให้ทุกคนที่นี่ด้วยความยินดีมาก "ถ้าอย่างนั้นผมคงต้องขอหมั้นหนูเชอร์นี่ให้ลูกชายส่วนเรื่องงานแต่งก็อีกหกเดือนข้างหน้า คุณหนึ่งว่าดีไหมครับ?" "ดีครับทางผมไม่ขัดข้อง ในส่วนของสินสอดทองหมั้นให้ลูกสาวคนเดียวสักสองร้อยล้านคงไม่เยอะเกินไปใช่ไหมครับคุณไมค์?" "เงินแค่นี้เองไม่ถือว่ามากหรอกครับสำหรับสะใภ้ทั้งสวยทั้งเก่ง ถ้าอย่างนั้นเรา…" "ผมหมั้นไม่ได้ครับ ผมไม่สามารถแต่งงานกับใครได้ทั้งนั้น" "มิเกล!" "ผมทำแบบนี้ไม่ได้จริงๆครับ!" น้ำเสียงสั่นเครือดังขึ้นท่ามกลางความเงียบและความตกใจของทุกคนที่นี่โดยเฉพาะพ่อที่เก็บสีหน้าไม่อยู่อ้าปากเหว่อถลึงตามองกันแต่ช่วยไม่ได้นี่หว่า เขาแค่มาดูตัวไม่ได้คิดจะมาผูกมัดตัวเองกับผู้หญิงจืดชืดแบบเชอร์รี่ซะหน่อย มิเกลตีสีหน้าเศร้าแล้วมองไปทางยัยหนูตัวเล็กที่เราพึ่งจะฟัดกันไปสามยกตลอดทั้งคืนด้วยความคิดดีๆบางอย่างและแผนการเอาตัวรอดจากการถูกมัดมือชกให้หมั้นหมายในครั้งนี้ ผู้หญิงแซ่บซี๊ดเหมือนพริกยกสวยแบบยัยหนูตัวน้อยจะยอมช่วยง่ายๆไหมนะหรือว่าต้องติดสินบน งานนี้คงต้องเอาตัวกับลีลาเข้าแลกแล้วล่ะ! "ผมมีคนรักอยู่แล้วครับ" "ไอ้…" "ผมทรยศความไว้ใจไม่ได้ของคนรักจริงๆครับ ความจริงหลังจากหมั้นก็คิดว่าจะกลับไปบอกเลิกให้จบเพื่อที่น้องเชอร์รี่จะได้ไม่ถูกใครนินทาแต่ผมทำแบบนั้นไม่ได้ครับเพราะว่าน้องก็อยู่ที่นี่" ยัยหนูตัวน้อยนั่งหัวเราะเบาๆกับบทละครด้นสดของเขาแต่คงยังไม่รู้ตัวว่ากลายเป็นส่วนหนึ่งในแผนการเอาตัวรอดครั้งนี้ของเขาไปแล้ว มิเกลตีหน้าเศร้าจ้องมองไปทางยัยหนูน้อยสุดแซ่บอย่างตั้งใจก่อนจะลุกจากที่นั่งตรงนี้เดินไปหาเธอเพื่อสร้างสถานการณ์ให้ทุกคนเข้าใจว่าเราสองคนกำลังคบกันอยู่และเขาเป็นคนผิดที่ไม่ได้บอกความจริง เขาเดินไปหยุดตรงหน้าแล้วคุกเข่าคว้ามือเล็กมากุมเอาไว้จำเป็นต้องด้นบทละครสดต่อหน้าทุกคนที่นี่ ช่วยกันทีเถอะเดี๋ยวคืนนี้จะจัดให้หนักๆเลย! "...พี่ขอโทษ" "..." "พี่ไม่รู้จริงๆว่าหนูเป็นญาติกับน้องเชอร์รี่ พี่…" เขายิ้มอ่อนอย่างเเนบเนียนช้อนตามองคล้ายว่าสำนึกผิดทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิดแล้วยัยหนูตัวน้อยก็หรี่ตามองด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ไม่แน่ใจว่าจะด้นสดไปกับละครฉากใหญ่นี้หรือปฏิเสธทุกอย่างกันแน่ และเขาโดนตบ! เพี๊ยะ!! "พี่มันชั่วที่สุดเลย!" "หนู…" "มีหนูอยู่แล้วคิดจะหมั้นกับพี่สาวหนูอีกเหรอ เลวว่ะ!" "พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้จริงๆ พี่ผิดไปแล้วที่รัก พี่…" "หนูก็รู้ว่าพี่แก่แต่ไม่คิดว่าสมองจะเลอะเลือนทำตามใจผู้ใหญ่ง่ายๆแบบนี้ ใช่สิหนูมันเด็กกะโปโลยังเรียนไม่จบเลยดูไม่ดีเท่าพี่เชอร์รี่ใช่ไหมล่ะ? เหอะ! เลวทั้งหญิงทั้งชาย!!" "พี่...ผมขอตัวนะครับต้องง้อแฟน" "บ่ายนี้เจอกันที่เดินนะคะพ่อแม่ หนูขอตัว!" เธอเดินนำออกไปด้วยท่าทีไม่พอใจมากส่วนเขาก็รีบเดินตามไปโดยไม่หันมาสนใจพ่อที่ยืนอ้าปากค้างอยู่หน้าแตกยับอยู่ตรงนั้น ก็ตามที่บอกว่าไม่ต้องการจะแต่งงานก่อนเพื่อนอีกสองคนและเขาอายุแค่ยี่สิบเจ็ดปีเองมีเวลาอีกเยอะแยะที่จะตามหาแม่ของลูกเองโดยที่พ่อไม่ต้องหาให้ แต่ว่ายัยเด็กนี่แสดงเก่งนะ! "จะไปไหน?" "จะอยู่ต่อทำไมล่ะน่ารำคาญ!" "พี่ขับเอง" "เชิญ!"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD