เมื่อร่างกายไม่ได้รู้สึกเจ็บจากการกระแทกลงพื้นผมก็รู้ว่ามีคนกอดผมไว้จากด้านหลัง
ผมกะพริบตาปริบๆ มองบุคคลที่อุ้มผมอยู่ตอนนี้ ผมสบตากับดวงตาสีมรกตงดงามราวกับอัญมณีในระยะกระชั้นชิด
เส้นผมของเขาเป็นสีบลอนด์ โค้งงอนธรรมชาติยาวเกือบถึงไหล่ โครงหน้าคมเข้ม จมูกโดงเป็นสัน ริมฝีปากบางเฉียบสีสวย ดวงตาเรียวคมดุดันสีเขียวเหมือนน้ำทะเลที่กระทบแสงอาทิตย์ สบตากับผมอย่างแน่วแน่ คิวเข้มของเขาขมวดเล็กน้อย
งดงามเหมือนเทพเจ้า
ใบหน้าของผมเห่อร้อนจนขึ้นสี หัวใจผมเต้นเร็วขึ้นตึกตักอย่างเป็นจังหวะ
ระบบบอกอย่างร่าเริง "คุณพ่อของนายมาแล้ว~"
เขาคือ อเล็กซ์ เซ็กทัล
"โฮสต์! " ระบบร้องทักในหัวเมื่อเห็นผมเงียบไป ตอนนี้ผมช็อกไปแล้ว
มือของผมสั่นผวาเกาะไหล่ของชายตรงหน้าไว้
"เเด๊ด..." ถ้อยคำเรียกถูกตระเตรียมมาก่อนหน้านั้นเเล้ว ผมเรียกอีกฝ่ายเสียงเบาหวิว ผมหลุบตาลง ก่อนจะช้อนตามองเขาอีกครั้ง "กลับมาเเล้วหรอครับ"
"อืม" เสียงนุ่มทุ้มของเขาตอบรับในลำคอ "กลับมาแล้ว…เธอทำอะไรอยู่" เสียงของเขาไพเราะแล้วก็มีเสน่ห์
อ่า...
"คือ...หนู... อ่านหนังสืออยู่" สรรพนามแทนตัวถูกใช้กะทันหันไม่ทันตั้งตัว
อเล็กซ์สบตาผม สายตาของเขาเรียบนิ่ง คราวนี้ผมไม่ได้หลบตาอีก อเล็กซ์ยื่นมือของเขามาลูบแก้มผมเบาๆ ผิวนุ่มสัมผัสไออุ่นของมือเรียวใหญ่ เมื่อได้รับความอ่อนโยนผมอดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มกว้าง แก้มของผมเป็นสีแดงระเรือยังไม่หาย ดวงตายิ้มจนเป็นเส้นโค้งมน
เขาวางผมลงอย่างนุ่มนวล ผมยืนเก้ๆ กังๆ อยู่นิดหน่อย อเล็กซ์สูงมาก ผมยังเทียบไม่ได้กับอกของเขา ผมสูงเเค่ปลายเนกไทสีดำของเขาเท่านั้น ไหล่ของเขากว้างแล้วก็เเน่น...อืม
"ระวังหน่อย" อเล็กซ์เอื้อมมือของเขามาลูบหัวผมที่ยุ่งเล็กน้อย
" วันหลังไปอ่านที่โต๊ะ" น้ำเสียงของเขาไม่ได้เชิงดุหรืออะไร
" ครับ" ผมตอบรับ
เขาถามว่าผมอ่านอะไรอยู่ ผมตอบชื่อหนังสือเล่มนั้นอย่างสดใส ผมเก็บหนังสือที่หล่นและกำลังจะเก็บเข้าชั้น อเล็กซ์หยิบหนังสือในมือผมออกไป เขาสอดมันบนชั้นและบอกผมว่าห้ามใช้บันไดอีก ผมพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
เราใช้เวลาด้วยกันไม่นาน เมื่อเห็นว่าเป็นเวลาเกือบสามทุ่มเลยเวลานอนปกติของผมมาเเล้ว อเล็กซ์ก็บอกให้ผมกลับห้องนอนของตัวเอง
ผมตกลงอย่างง่ายดาย รู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่ได้เจอ'คุณพ่อ'แค่แป๊บเดียว ผมเก็บของที่เอามาให้เรียบร้อยโดยมีเขายืนมองอยู่ข้างหลัง
"แด๊ด…ราตรีสวัสดิ์นะ"ผมบอกกับเขา
"ราตรีสวัสดิ์" อเล็กซ์ตอบ
เมื่อถึงห้อง ผมปิดประตูลงและคุยกับระบบ
ระบบ "ผมรู้ว่าโฮสต์จะพูดว่าอะไร"
"เขาหล่อมาก" แล้วก็ดู... น่ากลัวด้วย บรรยากาศรอบตัวเขาทำให้รู้สึกถึงความน่าเกรงขาม
สมกับตำแหน่งพระเอกของเรื่องหรือมากเกินไปด้วยซ้ำ พ่อคุณเอ้ย! จำเป็นต้องดูดีขนาดนี้เลยงั้นรึ
ถ้าเปรียบเขาเป็นงานประติมากรรม พระเจ้าก็ปั้นเขาได้ดีมาก ผมให้หนึ่งพันดาวสำหรับความหล่อของเขา ขอยกให้เป็นเทพบุตร
ระบบชม " แต่ว่าเมื่อกี้นายน่ารักมากเลยนะ ฮิฮิ"
ผมไม่ฟังที่ระบบพยายามจะล้อเลียน ผมคุ้นคิด จมกับความคิดของตัวเอง
ผม "สีตาของผมกับเขาไม่เหมือนกัน"
ระบบ "จะเหมือนได้ยังไง นายเหมือนแม่ต่างหาก"
พอถามว่าพ่อของผมคือใคร ระบบก็ตอบว่าไม่รู้ ก็ยังดีที่สีตาของเขาเหมือนแม่ ถ้าเหมือนพ่อนี่ก็คงต้องตั้งคำถามแล้วล่ะ ผมนี่น่าสงสารจังพ่อก็หาย แม่ก็ไม่เคยเห็นหน้า
"มีรูปหรือเปล่านะ?" ผมสงสัย
ระบบ "น่าจะอยู่ในห้องของอเล็กซ์"
'โอ้ งั้นอย่ายุ่งเลยดีกว่า'
ที่ผ่านมาผมก็พอวางแผนไว้อยู่บ้างกับการเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่อง
ผม "ระบบ บางทีเราต้องจับเข่าคุยกัน"
ระบบ "ได้!" ถึงแม้มันจะไม่มีเข่าก็เถอะ
ใบหน้าของอเล็กซ์ยังคงตราตรึงในหัวของผม ผมตั้งสมาธิและพูดต่อ
"คือ ผมจะเปลี่ยนเนื้อเรื่องยังไงก็ได้ใช่มั้ย"
ระบบตอบใช่ มันบอก "แต่สุดท้ายก็ต้อง Happy end นะ" มันลังเล "ความจริงแบบเดิมก็ Happy end แหละ แต่โฮสต์จะตายนะ ถ้าจบแบบเดิมถือว่าภารกิจไม่สำเร็จ"
ผมยิ้มอย่างเขินๆ "โอ้ ผมรู้สึกว่าถ้าโดนเขาฆ่าก็ไม่เสียหายอะไร... ผมจะได้ตายในอ้อมกอดของเขาไหมนะ"
ใครก็ได้ช่วยด้วย โฮสต์ของมันหลุดออกจากโลกไปแล้ว!
"ดาเมจของเขาแรงมาก ผมอาจตายได้ ผมพูดความจริงนะ เข้าใจกันหน่อย"
ผมเกิดความสงสัยในตัวเอลเดน เด็กคนนั้นตามเดิมเป็นคนยังไง ระบบก็เล่าอย่างไม่ปกปิด
เอลเดนเป็นเด็กเงียบขรึม ชอบทำหน้าเศร้าบ่อยๆ ไม่มีใครรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ ชอบอยู่ตัวคนเดียว เด็กคนนั้นไม่ค่อยยิ้มและไม่สนิทกับใครเลยแม้กระทั่งคุณพ่อของเขา เหมือนเขาจะกลัวอเล็กซ์ด้วยซ้ำ เด็กน้อยชอบหลบอยู่หลังเสาเเละมองคุณพ่อของเขาอย่างหวาดกลัว
เพราะเนื้อเรื่องดำเนินโดยพระเอก เอลเดนก็เป็นเพียงตัวประกอบที่ไม่ได้ลงรายละเอียดมากนัก ถ้าตามแนวคิดของพระเอกในช่วงมัธยมเด็กคนนี้จะทำตัวไม่ดี นิยายเล่าไว้ว่าเขาโดดเรียน คบเพื่อนที่นิสัยไม่ดี มีเหตุทะเลาะวิวาทจนทางโรงเรียนต้องเรียกผู้ปกครองหลายครั้ง อะไรที่ว่าไม่ดีเอลเดนจะทำหมด รวมทั้งการควบหญิงด้วย อเล็กซ์จะเรียกเขามาตำหนิ แน่นอนพวกเขาทะเลาะกัน เอลเดนก็เกลียดพ่อของเขา
ซึ่งไม่ใช่ มันไม่ใช่เลย ในฐานะนักอ่านที่เห็นอีกมุมหนึ่งของตัวเอลเดน เด็กน้อยคนนี้ไม่ได้ทำอะไรผิด
สิ่งที่นักเขียนเขียนไว้คล้ายจิ๊กซอที่ต้องเอามาต่อไล่เรียงยาวเป็นพลืด ทุกการกระทำล้วนส่งผลต่อกันเรื่อยๆ
ถ้าเนื้อเรื่องหลักคือ'อเล็กซ์'
'เอลเดน' ก็เป็นแค่จิ๊กซอหลายตัว เป็นชิ้น เล็กๆ แต่กลับกระจายไปทั่วภาพที่นักเขียนให้นักอ่านจับผิดกันเอาเองเป็นการเฉลยปมตัวละคร
และเอลเดนไม่ใช่เด็กไม่ดีตามที่พระเอกคิด
ชิ้นส่วนที่ผิดพลาดที่ทำให้เอลเดนต้องตายนั้นผมจะเป็นคนทำลายมันเอง
ระบบเห็นโฮสต์นิ่งไป มันเลยปลอบสักหน่อย "ก็คงมีบางเรื่องที่ไม่รู้ล่ะ ตอนนี้โฮสต์คือเอลเดนนี่ จะเป็นยังไงก็ขึ้นอยู่กับโฮสต์นะ"
ผม "อืม...จะว่าไป เข้ารู้ว่าผมไม่ใช่ลูกของเขาก็ตอนสิบแปดนี่ เพราะตรวจ DNA ผมบอกให้เขาไปตรวจตอนนี้เลยดีมั้ย?"
ไหนๆ ก็จะรู้อยู่แล้ว ตอนนี้เราก็ไม่ได้เกลียดชังกันอะไร เขาคงไม่ฆ่าผมหรอก
ระบบนึกภาพโฮสต์ของมันจูงมือคุณพ่อเพื่อไปตรวจ DNA มันคิดว่าเรื่องนี้ไม่ถูกต้อง
ระบบ "ถ้าอย่างนั้นนายจะไปอยู่ไหนต่อ"
"หืม" ผมคิด
ถ้าเขารู้ว่าผมไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของเขา เขาก็จะโกรธ? จากนั้นก็เฉดผมออกจากบ้าน? ผมจะกลายเป็นเด็กกำพร้า? ไม่มีเงินสักแดงเดียว? ต้องนอนข้างถนน?
ระบบ "กว่านางเอกจะโผล่ก็อีกตั้งหลายปี กว่าจะจบ Happy end โฮสต์น่าจะ...รอไม่ไหว" ในช่วงท้ายประโยคมันทำเสียงข่มขู่
ผมมองที่นอนนุ่มๆ อย่างอาลัยอาวรณ์ ในใจลึกๆ ผมก็ยังอยากอยู่ที่นี่ พอนึกถึงอเล็กซ์ผู้เปรียบดั่งเทวทูตคนนั้น ใจครึ่งดวงของผมก็อยู่ที่นี่แล้ว
เฮ้อ... เขาดีมาก ผมชอบเขาซะแล้ว
"งั้นเก็บเงินก่อนเป็นไง?" ผมเสนอ
ระบบ"อย่างงั้นก็ได้" อย่างงี้ก็ดีกว่านอนข้างถนนล่ะ มันไม่อยากลำบากพร้อมกับโฮสต์หรอกนะ
"ถ้าผมทำตัวดีๆ ตอนสุดท้ายที่เขารู้ เขาอาจไม่ฆ่าผมก็ได้ ใช่มั้ย?" ผมคิดไปอีกทาง
ระบบตอบทันควัน "ดีๆ ใช่! อันนี้ซื้อ" ระบบส่งอิโมติคอนดวงตาเป็นประกายกลางอากาศ
"เดี๋ยวผมจะหาคู่มือการเป็นลูกที่น่ารักให้โฮสต์เอง" ระบบหัวเราะคิกคัก "ฮิฮิ...ทำให้คุณพ่อหลงรักนายซะสิ"
เพราะไม่ได้ไปโรงเรียน คุณป้าแม่บ้านก็เลยไม่ได้มาปลุกผม วันอื่นๆ ผมก็ใช้นาฬิกาตั้งโต๊ะที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง มีแค่วันแรกที่ให้เธอมาปลุก ผมรู้สึกเกรงใจแล้วก็เขินอะ ระบบก็บอกว่าเอลเดนตื่นเองตลอด เรื่องนี้เป็นเรื่องดี ผมเลยจะทำให้ได้อย่างนั้น
แต่ยังไงก็เป็นวันหยุด เมื่อคืนนาฬิกาปลุกผมก็ไม่ได้ตั้งไว้ ทำให้ตื่นช้ากว่าปกติครึ่งชั่วโมงแต่ยังไงก็ไม่ใช่ปัญหา
ร่างกายยังง่วงงุนเล็กน้อย เมื่อคืนผมกับระบบเราปรึกษากันว่าการเป็นลูกชายที่น่ารักเป็นยังไง ระบบสาทยายเหมือนรอเวลานี้มานานแล้ว แถมยังช่วยลิสต์เป็นข้อๆ อีกด้วย
ระบบนอกจากจะส่งอิโมติคอนได้แล้วยังอัปเกรดสามารถฉายรูปภาพให้ผมเห็นได้อีกด้วย ทั้งนี้มีแต่ตัวผมเท่านั้นที่เห็นได้ คนอื่นจะเห็นเป็นอากาศเปล่าๆ เหมือนเดิม โอ้ เป็นการอัปเดตที่ดี
ผมอาบน้ำแต่งตัวเปลี่ยนชุดนอนเป็นชุดอยู่บ้าน จากนั้นก็จะลงไปขอข้าวเช้าคุณป้า อ้อ...ที่นี่มีเมดอีก 3 คนและคุณพ่อบ้านด้วยนะ แต่เขาไม่ค่อยมาปรากฏตัวให้ผมเห็นเท่าไหร่ วันไหนต้องลองไปหาบ้างแล้วล่ะ
ผมเดินลงบันไดจากชั้นสอง เมื่อผ่านประตูห้องอาหารผมก็สังเกตเห็นคนที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว
หรือว่าวันเสาร์เขาหยุดนะ? ฝีเท้าผมเบาขึ้นเล็กน้อย
อเล็กซ์นั่งอยู่ตรงนั้น เขาไม่ได้สวมชุดสูททำงานแบบเมื่อคืน แต่เป็นเสื้อเชิ้ตสีครีมอ่อนและกางเกงขายาว เขาสวมแว่นกรองแสงสี่เหลี่ยมกรอบทอง ในมือถือไอแพด นิ้วเรียวเลื่อนหน้าจออย่างช้าๆ เมื่อผมเข้ามาในห้อง อีกฝ่ายละสายตามาเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้นก็สนใจสิ่งที่อยู่ในมือต่อ
เมื่อคืนระบบสอนผมเกี่ยวกับการเป็นลูกชายที่น่ารักจนดึกดื่น พร้อมใส่ความกล้าให้ฮึกเหิม ระบบกระซิบบอกว่าถ้าผมไม่ทักทายเขาก็จะดูไม่ดี ระบบส่งเสียงเชียร์เสียงดังอยู่ในหัว
ผมเดินเข้าไปใกล้เขา เอื้อมมือเล็กๆ เกาะแขนเสื้อของเขาไว้ อเล็กซ์ละสายตามาที่ผมทันทีเหมือนถามว่า'จะทำอะไร' ในองศาที่ถูกต้อง ผมยกตัวขึ้นเล็กน้อย ประทับริมฝีปากบนแก้มของเขาจนเกิดเสียง'จุ๊บ' จากนั้นผมก็ยิ้มอย่างสดใสยิ่งกว่าเมื่อวาน
"แด๊ด อรุณสวัสดิ์นะ"
เด็กชายกล่าวเสียงใส ดวงตาใสซื่อช้อนมองเขาเป็นประกาย อเล็กซ์คาดไม่ถึงกับการกระทำของอีกฝ่าย เขารู้สึกแปลกประหลาดนิดหน่อย สุดท้ายเขายิ้มเพียงเล็กน้อยเท่านั้นและกล่าว'อรุณสวัสดิ์' เขาวางของบนมือลงและบอกให้ผมไปนั่งได้แล้ว
ในใจผมโห่ร้องเหมือนฟุตบอลโอลิมปิกที่เต๊ะลูกทำประตูได้แต่ภายนอกแค่ยิ้มอย่างอบอุ่น คู่มือการเป็นลูกชายที่น่ารัก ของระบบหลักสูตรนี้น่าจะถูกต้อง
ผมรู้สึกว่าอเล็กซ์ค่อนข้างชอบนะ
ระบบ "ฮิฮิ"
ระหว่างที่เด็กชายไม่รู้คุณป้าแม่บ้านยืนมองพวกเขาทั้งสองอยู่ข้างหลัง เธอรู้สึกตื้นตัน ยกมือขึ้นปิดปากปกปิดรอยยิ้มความปีติยินดีไว้ คุณหนูของเธอคิดถึงคุณผู้ชายมาก ดีจริงๆ ที่เธอขอให้เขาอยู่กับลูกชายบ้าง เธอเดินไปหาคุณชายและคุณหนูตัวน้อย ถามพวกเขาว่ามื้อเช้าจะรับอะไร เมื่อได้เมนูมาเธอก็รีบจัดแจงให้ไม่เกินสิบนาที ข้าวต้มปลาร้อนๆ ก็ถูกยกไปเสิร์ฟ คุณหนูเป็นคนบอกเมนูเธอ ส่วนคุณผู้ชายเขาไม่คิดมากเรื่องอาหารอยู่แล้ว เขาบอกส่งๆ ว่า'เหมือนกัน' เธอรู้ว่าคุณผู้ชายอยากทานแบบคุณหนูเอลเดนแน่ๆ
ในครัวของเธอมีทุกอย่าง และเธอเป็นแม่ครัวมืออาชีพ คุณหนูอยากได้อะไร ป้าจันทร์คนนี้พร้อมจัดให้ค่ะ! เธอยิ้มกริ่มชื่นใจอยู่ข้างหลัง
ข้าวต้มร้อนๆ ถูกวางไว้บนโต๊ะ ปลาเนื้อแน่นสีขาวชิ้นโต น้ำซุปใสร้อนควันฉุย ใส่ขึ้นฉ่าย กระเทียมเจียวและพริกไทยนิดหน่อย
ท้องของผมร้องทักท้วงผมหยิบช้อนขึ้นมาอาหารตรงหน้าชวนน้ำลายสอ ผมตักมาพอดีคำกำลังจะเอาเข้าปาก เสียงหนึ่งทักท้วงขึ้นก่อน
"เป่าก่อน ระวังร้อน" อเล็กซ์บอก
ผมตอบรับเสียงเบา จากนั้นก็เป่าเบาๆ สองสามครั้งให้หายร้อนก่อน
'อร่อย' ผมมีความสุขกับการกิน ผมค่อยๆ กินอย่างช้าๆ อเล็กซ์เขายืดหลังตรงเสมอ อีกฝ่ายทำท่าอะไรก็ดูหล่อเหลาและสูงส่ง ผมแอบมองเขาเล็กน้อย
ทั้งวันผมค่อนข้างว่าง การบ้านก็ทำเสร็จตั้งแต่เมื่อวานแล้ว วันนี้ก็ไม่รู้จะทำอะไรดี หลังมื้อเช้าอเล็กซ์หายไปไหนแล้วไม่รู้ ผมออกมาเดินเล่นที่สวน ผมเดินดูนู่นนี่นั้นไปเรื่อยๆ ในสวนมีดอกไม้หลายชนิดที่สะดุดตาก็คงเป็นดอกกุหลาบ
ระบบทำตัวเป็นหนังสือพันธุ์ไม้ที่ดี อันไหนผมไม่รู้จักมันก็ฉายภาพชื่อเเละสรรพคุณย่อๆ ไว้อย่างไม่เบื่อหน่าย
บริเวณพื้นที่ใช้สอยของที่นี่กว้างแบบมากๆ บางส่วนเป็นพื้นหญ้าโล่งเตียน มีต้นไม้ใหญ่บางจุด ผมสงสัยว่าที่นี่มาตั้งอยู่ใจกลางเมืองได้ยังไงถึงไม่ใช่โซนที่เจริญที่สุดแต่ก็อยู่ในเมืองหลวง ภูเขาด้านหลังนี่เป็นของอเล็กซ์ด้วยหรือเปล่านะ?
พอนึกถึงนักเขียนที่เนรมิตได้ทุกอย่างผมก็ยอมรับได้
ระหว่างทางที่ผ่านมาผมเห็นคุณคนสวนหลายคน ผมชักไม่แน่ใจว่าที่นี่มีใครบ้างแล้วเพราะจะค่อยๆ เห็นเพิ่มอยู่ทุกวัน
ด้านหลังคฤหาสน์มีเรือนกระจก ผมเดินเข้าไปดูข้างใน ที่นี่ได้รับการดูแลอย่างดี ข้างในนี้ค่อนข้างเย็น
พอเดินเล่นจนพอใจแล้วผมก็กลับเข้าบ้าน ผมถามเมดคนหนึ่งว่าคุณพ่ออยู่ไหน เธอบอกว่าอยู่ในห้องนั่งเล่นด้วยท่าทีที่นอบน้อม
ผมเดินแวะไปที่ห้องสมุด เลือกหยิบหนังสือที่เคยอ่านไว้คราวก่อนมาเล่มหนึ่งก่อนที่จะเดินไปห้องนั่งเล่น
อเล็กซ์นั่งอยู่บนโซฟาอยู่ก่อนแล้ว มีเอกสารบางแผ่นบนบนโต๊ะ ผมเลือกมุมหนึ่งที่พอเหมาะกะจะอ่านหนังสือเงียบๆ โทรทัศน์ถูกเปิดไว้เป็นข่าวสารทั่วไป นักข่าวพูดเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจอะไรประมาณนั้น ผมไม่ได้สนใจแต่อ่านสิ่งที่อยู่ในมือแทน
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เสียงพูดของนักข่าวหายไปไปแทนที่ด้วยเสียงเพลงที่ฟังดูสดใส ผมเงยหน้ามองไปก็เห็นตัวการ์ตูนเป็นตัวหมีสีเหลืองใส่เสื้อสีแดงในมือถือขวดน้ำผึ้ง ผมมองตาไม่กะพริบ
'โอ้ การ์ตูนหลังข่าวงั้นหรอ'
ผมมองเจ้าลาสีฟ้าทำเสียงอึมครึมคุยกับเสือที่ดูน่ารักๆ
ผม "นี่เรื่องอะไร เหมือนเคยดูเลย แต่ลืมชื่อไปแล้ว"
ระบบ " วินนี่-เดอะ-พูห์ หมีพูห์น่ะ"
"อ้อ" ผมนึก
ไม่รู้ตัวผมก็หัวเราะคิกคักกับการ์ตูนไปแล้ว
อเล็กซ์ที่นั่งอยู่อีกฝั่งมองดูลูกชายของเขาเงียบๆ เขายกยิ้มให้กับความไร้เดียงสานั้น เด็กชายไม่รู้ว่าเขาเปลี่ยนช่องให้เป็นช่องการ์ตูน
เด็กก็ต้องดูการ์ตูน ถูกไหม?
เมื่อการ์ตูนจบลงผมทำหน้าเสียดายเล็กน้อย พึ่งรู้ตัวว่าดูมาเกือบหนึ่งชั่วโมงแล้ว ผมเเอบมองว่าอเล็กซ์เขารำคาญหรือเปล่า อีกฝ่ายก็ยังอ่านเอกสารในมือต่อไป
ผมกลับไปคุยกับระบบ "ผมชอบมาก เรื่องนี้สนุกดี แต่มันจบแล้วอะ"
ระบบ "มันมีตอนต่อ ค่อยไปดูต่อก็ได้"
ผมนึกถึงกล่องอิเล็กทรอนิกส์สามชิ้นบนห้อง ยังไม่ได้แกะมันเลย
เหมือนวันนี้จะเป็นวันหยุดของเขาจริงๆ อเล็กซ์อยู่ที่บ้านทั้งวันจนถึงช่วงเที่ยง คุณป้าแม่บ้านมาถามว่าอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหม เขาบอกว่าไม่ จะออกไปทานข้างนอกและจะพาผมไปด้วย
'โอ้ ออกไปข้างนอก น่าสนใจ' ทุกวันแค่ไปโรงเรียนกับที่บ้านยังไม่เคยออกไปข้างนอกเลย
ผมเปลี่ยนชุด จริงๆ ก็คล้ายแบบเดิมแหละ แค่สุภาพขึ้นและเปลี่ยนเป็นกางเกงขายาว จากนั้นอเล็กซ์ก็จูงมือผมออกจากบ้าน
รถคันหรูถูกจอดไว้รอแล้ว คันนี้ไม่ใช่รถที่ใช้ส่งผมไปโรงเรียน รถสปอร์ทสีดำเงาวับคันนี้มันเท่กว่าเยอะ
ในหัวผมมีแต่คำว่า อู้ฮู! อู้ฮู! เมื่อเข้าไปนั่งผมแอบลูบตัวรถเบาๆ อย่างซุกซน
'โอ้ว แพง แพงมากแน่ๆ'
เมื่อรถเคลื่อนตัวออกผมถามอเล็กซ์
"แด๊ดจะไปไหนหรือครับ"
"ห้าง" เขาตอบมาคำเดียว
ผมพยักหน้าหงึกหงัก
อเล็กซ์ไม่ได้เปลี่ยนชุด เขาสวมเสื้อคลุมเพิ่มซึ่งมันเข้ากับชุดเดิมของเขาเหมือนออกมาจากแคตตาล็อกเดียวกัน นาฬิกาหรูหน้าปัดฝังเพชรถูกใส่ที่ข้อมือ
เหมือนเขาจะฉีดน้ำหอมด้วย เพราะอยู่ในรถทำให้ใกล้กันมากขึ้น ผมได้กลิ่นหอมๆ มาจากตัวเขา
อืม...กลิ่นนี่ผมก็ชอบนะ