Episode 03 "ด.ญ.พรีมายา พัฒนอำไพวงค์"

1164 Words
Episode 03 แอ้~ อุแว้~ “โอ๋ๆ ไม่ร้องนะคะ” พอรู้ว่าเสียงที่ได้ยินมาจากเด็กทารกจริงๆ เราก็รีบไปอุ้มเขาออกมาจากถังขยะ และพาเข้ามาอยู่ในบ้านทันที “ใครเขาเอาหนูมาทิ้งแบบนี้ ใจร้ายสุดๆ เลย” เด็กที่เราเจอเป็นเด็กผู้หญิงค่ะ อายุเท่าๆ กันกับลูกของเราเลย เพิ่งเกิดได้ไม่ถึงเดือนก็ถูกพ่อแม่ใจร้ายเอามาทิ้งไว้ ทำแบบนี้แย่มากเลยนะคะ อย่างน้อยก็น่าจะเอาไปไว้ที่บ้านเลี้ยงเด็กกำพร้าสิ เอามาทิ้งไว้ในถังขยะแบบนี้มันจงใจฆ่ากันชัดๆ เลย ถ้าเด็กไม่ร้องขึ้นมา เราก็คงไม่มีทางรู้แน่ๆ ว่าเขาอยู่ในนั้น แต่บางที… ข่าวการลักพาตัวเด็กก็มีเยอะแยะ เด็กคนนี้อาจจะถูกลักพาตัวมาก็ได้ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ พ่อและแม่ของเด็กคนนี้ก็คงจะเจ็บปวดใจมากๆ ที่รู้ว่าลูกของเขาหายไป และอีกอย่างหนึ่งก็คือ ที่ตัวเด็กคนนี้มีจี้รูปหัวใจสวมอยู่ด้วย และในจี้ก็สลักวันเดือนปีเกิดของเด็กคนนี้เอาไว้อีก ไม่แน่นะคะ เขาอาจจะถูกลักพาตัวมาจริงๆ ก็ได้ค่ะ ดังนั้นเราจะเลี้ยงเด็กคนนี้เอาไว้ก่อน เผื่อว่าพ่อและแม่ของเขาอาจจะกำลังตามหาเขาอยู่ แต่ถ้าเกิดไม่มีใครมาตามหา แล้วกลายเป็นว่าถูกพ่อแม่ทิ้งเหมือนที่เราคิดไว้ในตอนแรกจริงๆ เราก็ตัดสินใจไว้แล้วว่าเราจะรับเลี้ยงเด็กคนนี้ค่ะ …อีกสามวันค่อยมาดูกัน หลายวันต่อมา ผ่านมาแล้วหลายวัน ตั้งแต่ที่เราได้พบกับเด็กคนนี้ จนตอนนี้ก็ยังไม่มีใครมาตามหาเด็กคนนี้เลย ตอนแรกเราก็ให้โอกาสในการตามหาอยู่ที่สามวัน แต่ก็ยังไม่มีใครมาสักที จนกระทั่งผ่านมาแล้วหลายวันก็ยังไร้วี่แววอยู่ ซึ่งพอเป็นแบบนี้ เราก็เลยตัดสินใจรับเลี้ยงเด็กคนนี้ให้เป็นลูกของเรา อายุของเขาก็ไล่ๆ กันกับลูกสาวของเรา แต่ลูกของเราตายไปตั้งแต่วันแรกที่ได้คลอดแล้ว เขาก็เลยไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้ดื่มนมแม่ “ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะหนูน้อย” เราส่งยิ้มหวานๆ ให้ทารกตัวน้อยๆ ก่อนที่จะเปิดหน้าอกเพื่อที่เขาจะได้กินนมจากเต้าของเรา “ฉันจะรักหนูให้เหมือนลูกแท้ๆ ของฉันเลย ตัวหนูเองเมื่อโตมาก็ต้องรักลูกของฉันด้วยนะ” ว่าพลาง เหลือบสายตาไปมองที่ดอกกุหลาบขาวหน้าบ้าน “ฉันจะเรียกหนูว่า…มินนี่ก็แล้วกันจ้ะ” ด.ญ.พรีมายา พัฒนอำไพวงค์ ชื่อเล่น น้องมินนี่ … … … … … “ค่อยเดินๆ นะคะคนเก่ง” เราหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอัดคลิปวิดีโอตอนที่มินนี่กำลังหัดเดิน “ไม่ต้องรีบนะ เดี๋ยวหนูจะล้มเอา ค่อยๆ เดิน มาเร็วมาหาแม่มา มาๆ” พรึบ! “เย้! เก่งมาก!” เมื่อมินนี่เดินมาถึงเรา เราก็รีบคว้าตัวเขาเข้ามากอดทันที มินนี่เก่งมาก เลี้ยงง่ายแล้วก็ไม่ดื้อเลย พัฒนาการของเขาก็เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด ร่างกายแข็งแรงดีมาก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะเคยตกไปอยู่ในถังขยะ และนับตั้งแต่วันนั้น จนมาถึงวันนี้ วันที่มินนี่เริ่มเดินได้แล้ว ก็ยังไม่มีใครออกตามหามินนี่เลยสักคน ท่าทางคงจะโดนพ่อและแม่ตั้งใจเอามาทิ้งจริงๆ แต่ไม่เป็นไรค่ะ! เพราะแม่คนนี้จะเลี้ยงมินนี่เอง จะเลี้ยงมินนี่ให้ดีที่สุด แม้ว่ามินนี่จะไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของเราก็ตาม แต่ความรักและความผูกพันที่มีต่อกัน มันทำให้เรามีความสุขมาก เราเกือบจะเป็นซึมเศร้าเพราะสูญเสียลูก แต่พอมีมินนี่เข้ามา โลกของเรามันสดใสขึ้นมากๆ การที่ไม่มีใครมาตามหาเขาแบบนี้นั่นแหละดีแล้วค่ะ เพราะถ้าเกิดวันนึงมีคนมาเอามินนี่ไปจากเรา เราก็คงจะเจ็บปวดหน้าดู… หลายปีต่อมา “อันนี้อ่านว่าอะไรคะ?” เราชี้ไปที่ข้อความภาษาอังกฤษและหันไปถามมินนี่ที่นั่งอยู่ข้างๆ “แมวภาษาอังกฤษอ่านว่าอะไรเอ่ย?” “C a t แคท แมวค่ะ” มินนี่พูดตอบ “เก่งมาก” เราปรบมือเบาๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปลูบหัวมินนี่เล็กน้อย “แล้วคำนี้ล่ะคะ? สุนัขภาษาอังกฤษอ่านว่าอะไร?” “D o g ด๊อก สุนัขค่ะ” และมินนี่ก็ตอบได้อีก “เก่งๆๆ” เราปรบมือให้มินนี่อีกครั้ง จากนั้นจึงหันไปหยิบคุกกี้ขึ้นมาสองชิ้น “ถ้ามินนี่แนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษได้ คุณแม่จะให้กินคุกกี้ค่ะ” “Hello! My name is Primaya Pattanaampaiwong My Nickname Minnie” มินนี่พูดแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษกับเรา ซึ่งเขาก็พูดได้ดีมาก อาจจะมีตะกุกตะกักนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไรค่ะ ค่อยๆ ฝึกฝนกันไป “เก่งมาก!” เราปรบมือให้มินนี่อีกครั้งและทำการยื่นคุกกี้ให้มินนี่ไปทั้งหมดสามชิ้นเลย ตอนแรกกะว่าจะให้แค่สองชิ้นพอ แต่ก็เปลี่ยนใจ แถมให้อีกชิ้นเลย “เย้~ ขอบคุณค่ะคุณแม่” มินนี่ดีใจยกใหญ่ ก่อนที่จะรับคุกกี้ไปกิน กริ๊งๆๆ! นั่งเล่นกันไปสักพักก็ได้ยินเสียงกดกริ่งหน้าบ้าน พอรู้แบบนั้นเราก็เดินไปหยิบกระเป๋าสตางค์ เตรียมตัวที่จะออกไปรับพัสดุทันที บ้านนี้ไม่มีใครมาหานอกจากบุรุษไปรษณีย์หรอกค่ะ พ่อกับแม่ของเราก็ตัดหางปล่อยวัดไปแล้ว ท่านไม่มีทางให้อภัยเราหรอก ส่วนพี่เจฟเหรอ? เหอะ! อย่าหวังเลย… “อ…อ่าว” แต่พอเดินออกไป ก็พบว่าคนที่มากดกริ่งดันไม่ใช่บุรุษไปรษณีย์อย่างที่เราเข้าใจ พวกเขาเป็นใครก็ไม่รู้ มาด้วยรถหรูสีดำ แถมยังมากันหลายคนด้วย “พวกคุณเป็นใครกันเหรอคะ?” “พวกผมก็แค่มาตามหา…” ว่าพลางล้วงมือเข้าไปในสูท และหยิบเอารูปถ่ายรูปหนึ่งยื่นมาให้เรา “เด็กคนนึงก็เท่านั้นเอง” “น…นี่มัน!” ซึ่งเด็กที่อยู่ในรูปนั้น ก็คือมินนี่ตอนเด็กๆ นั่นเองค่ะ เราเลี้ยงเขามากับมือทำไมเราจะจำไม่ได้ว่าในรูปที่เขายื่นมาเป็นรูปของมินนี่ “มินนี่…” หมายความว่ายังไงกัน ถึงเวลาที่เราจะต้องแยกจากกันจริงๆ แล้วใช่ไหม? เราไม่อยากจะเชื่อเลย…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD