Episode 1
Episode 1
"ออเดอร์132ได้อาหารแล้วค่ะ" เสียงหวานใสของฉันเอ่ยเรียกลูกค้าที่มาซื้ออาหารในร้านฟาสฟู๊ดพร้อมกับฉีกยิ้มหวานเมื่อเห็นหน้าลูกค้า และไม่รีรอที่จะยื่นถุงกระดาษที่มีพวกแฮมเบอเกอร์ ไก่ทอดในนั้น
"ขอบคุณครับ" ลูกค้าผู้ชายเอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มที่มุมปากเบาๆ ขณะที่ฉันยื่นถุงกระดาษให้เขาจู่ๆเขาก็ใช้มือหนามาแตะที่หลังมือฉันเบาๆอย่างลูบไล้ ฉันสัมผัสได้ว่าตอนนี้ฉันกำลังโดนแต๊ะอั๋ง
"ค่ะ ไว้มาใช้บริการใหม่นะคะ" ฉันก็ยังคงต้องแสร้งปั้นยิ้มพลางมองลูกค้าคนนั้นเดินจากไปอย่างทำอะไรไม่ได้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันเคยโดน แต่ฉันเคยโดนเกือบทุกวัน ตัวฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมพวกผู้ชายพวกนั้นถึงมาลวนลามทั้งสายตา และการสัมผัสกับพนักงานอย่างฉัน
ฉันไม่ใช่คนหน้าตาสวยเหมือนใครๆ เรียกได้ว่าบ้านๆเลยก็ว่าได้ มีดีแค่หุ่นและหน้าอกที่ใหญ่กว่าสาวๆคนอื่นๆอาจทำให้เด่นสะดุดตา แถมยังเป็นคนที่จนมากๆเลยด้วย ฉันต้องหาเงินด้วยตัวเองมาตั้งแต่เด็กๆ
ฉันไม่เคยสัมผัสถึงชีวิตวัยเด็กเลย ตั้งแต่จำความได้เมื่อตอนประถมต้น ครอบครัวของฉันก็ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ มีแต่ฉันคนเดียวที่เหลือรอดในรถคันนั้น พ่อกับแม่ของฉันพวกท่านได้เสียชีวิตไปนานแล้ว ฉันอยู่ตัวคนเดียวมาโดยตลอด
ถึงแม้ว่าฉันจะมีครอบครัวของพี่สาวแม่อุปการะไปเลี้ยงดู แต่มันก็ไม่ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนเป็นคนในครอบครัวเลยแม้แต่นิดเดียว ป้าของฉันคอยแต่ดุด่าฉัน ใช้ฉันเหมือนคนใช้ แถมเขาก็ยังไม่ส่งเสียเลี้ยงดูอะไรฉันตั้งแต่ขึ้นมหาลัยฉันก็ต้องหาเงินค่าเทอม ค่ากิน ค่าใช้ทุกอย่างด้วยตัวเอง
แต่เรื่องการหาเงินมันไม่ยากสำหรับฉันหรอก ฉันเริ่มหาเงินตั้งแต่ตอนประถมถึงม.ต้นด้วยการขายของที่โรงเรียน และอินเตอร์เน็ต พอม.ปลายก็เริ่มที่จะไปทำงานพิเศษตามร้านอาหารต่างๆเพราะอายุถึง ถึงแม้ว่าตอนนี้ฉันจะอยู่มหาลัยปี2แล้วแต่ฉันก็ยังทำงานพิเศษตามร้านอาหารเหมือนเดิม
ถ้าเป็นไปได้ฉันก็อยากจะหาเงินได้เยอะๆเหมือนกัน แถมทำงานพิเศษแบบนี้อย่างต่ำได้แค่วันละสามร้อยเอง คิดแล้วก็เหนื่อยใจ ทำไมชีวิตของฉันจะต้องมาลำบากขนาดนี้ด้วยเนี่ย อยากจะสบายเหมือนกับคนอื่นๆซะเหลือเกิน
"ได้เวลาเลิกงานสักที" ฉันบ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆเมื่อมองนาฬิกาข้อมือพบว่าตอนนี้สี่ทุ่ม เป็นเวลาเลิกงานของฉันพอดี ฉันต้องทำงานพิเศษตอนดึกเพราะว่าทำตอนเช้าไม่ได้มันทับกับเวลาเรียนที่มหาลัย
เฮ้อ... พอขึ้นมหาลัยก็มีเงินที่ต้องใช้เยอะมากขึ้น ทั้งกิจกรรม ชีท หนังสือ บลาๆๆ ทำให้เงินเก็บของฉันเหลืออยู่ไม่มาก พอจะมีหนทางอะไรบ้างไหมนะที่จะทำให้ฉันได้เงินเยอะมากขึ้น คิดยังไงก็คิดไม่ออก
"ผู้จัดการค่ะ หนูกลับก่อนนะคะ" ฉันยกมือไหว้ผู้จัดการร้านก่อนจะเดินออกมาจากร้าน และจากนั้นฉันก็เดินตรงดิ่งไปที่ป้ายรถเมล์ทันที ฉันไม่มีรถส่วนตัว และไม่มีเงินมากพอที่จะขึ้นแท็กซี่ทำให้ฉันต้องรอรถเมล์ที่กว่าจะมาก็เกือบชั่วโมง ตอนนี้สี่ทุ่มแล้ว กลับถึงบ้านก็น่าจะเกือบเที่ยงคืน
เกิดเป็น 'ปลายฝน' นี่มันลำบากมากจริงๆ
"ทำไมกลับบ้านมาช้า!" เสียงแหลมสูงของป้าฉันเอ่ยดังลั่นขึ้นทันทีเมื่อฉันเปิดประตูบ้านเข้ามา ทุกวันนี้ฉันต้องอาศัยอยู่ที่บ้านป้าเพราะว่าฉันไม่มีเงินเก็บมากพอที่จะไปเช่าหอพักหรือคอนโดอยู่ทำให้ฉันต้องทนอยู่ที่นี่ บ้านที่ไม่เรียกว่าบ้าน
"หนูไปทำงานพิเศษค่ะ ป้าก็รู้ไม่ใช่เหรอคะ" ฉันเอ่ยเสียงเรียบนิ่งพลางมองป้าตัวเองที่ยืนกอดอกมองฉันด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว
"อย่ามาโกหก ชินบอกป้าหมดแล้วว่าแกกลับดึกเพราะมัวแต่ไปเถลไถลกับผู้ชาย!" เมื่อฉันได้ยินป้าพูดออกมาแบบนั้นก็ถึงกับเลิกคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ
ชินบอกป้าฉันแบบนั้นเหรอ ทำไมเขาจะต้องคอยใส่ร้ายฉันตลอดเวลาเลยนะ ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าฉันไปทำอะไรให้เขานักหนาจนเขาต้องใส่ร้ายฉันอยู่เรื่อย
ชิน เขาเป็นลูกของป้าฉัน อายุเท่ากับฉัน และยังอยู่มหาลัยเดียวกัน เห็นแบบนี้ฉันก็เก่งพอตัวสอบเข้ามหาลัยรัฐได้ แถมยังได้ทุนเรียนดีอีกด้วยทำให้ลดค่าใช้จ่ายค่าเทอมไปได้เล็กน้อย
ตั้งแต่เด็กๆที่ฉันมาอยู่บ้านนี้ชินกับฉันพวกเราก็สนิทกันดีอยู่หรอก แต่เหมือนว่าพอเริ่มโตขึ้นเขาก็เริ่มแกล้งฉันหนักข้อทุกวันๆ ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าฉันไปทำอะไรให้เขาเกลียดนักเกลียดหนาขนาดนี้
"ป้าเชื่อที่ชินพูดด้วยเหรอคะ?"
"ลูกชายฉันไม่เคยจะโกหก ทำไมฉันต้องไม่เชื่อด้วย! ผิดกับคนอย่างเธอ พ่อแม่เธอสั่งสอนมายังไงกันนะถึงทำให้เธอเอาแต่ต่อล้อต่อเถียงผู้ใหญ่ แถมยังทำตัวแรดแบบนี้ด้วย" ป้าด่าฉันด้วยถ้อยคำเสียหาย ฉันได้แต่กำมือแน่นอย่างเจ็บใจ อยากจะตบหน้าป้าแรงๆสักทีสองทีแต่ก็ต้องอดใจเอาไว้
"อย่ามาว่าพ่อแม่หนูนะ... ป้าเองก็เหมือนกันสอนลูกตัวเองให้ขี้โกหกแบบนี้ได้ยังไง มัวแต่พูดมั่วๆใส่ร้ายคนอื่นแบบนี้..." ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบจู่ๆมือของป้าก็ตบเข้าที่หน้าฉันจังๆจนฉันรู้สึกแสบร้อน
เพลี๊ยะ!
"ยัยเด็กปากดี หยุดพูดอะไรพล่อยๆออกมานะ"
"แม่ครับ ใจเย็นสิครับ" เสียงทุ้มเข้มของชิน ลูกชายของป้าฉันโผล่หัวมาแล้ว
"จะให้ใจเย็นได้ไง นังนี่นับวันชักจะเอาใหญ่!" ป้าก็ยังโกรธฉันไม่หยุด ฉันได้แต่มองพวกเขาสองคนแม่ลูกด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง อยากจะหนีออกไปจากบ้านหลังนี้จริงๆ
"ปลายฝนก็โตแล้ว อยากจะกลับบ้านดึกแค่ไหนก็ปล่อยๆไปบ้างก็ได้ครับ ใช่ไหมปลายฝน ฉันไม่เอาเรื่องที่เธอไปหาผู้ชายจนกลับบ้านดึกดื่นไปบอกใครหรอก" ชิน ถึงแม้ว่าหมอนี่จะเป็นเดือนคณะ จะหล่อแค่ไหน แต่นิสัยตอแหลแบบนี้ยังไงฉันก็เกลียดเข้าไส้จนอยากจะอ้วก
"หึ! เลิกหน้าไหว้หลังหลอกสักที บ้านเฮงซวยแบบนี้ฉันโคตรไม่อยากจะอยู่เลย" ฉันบอกออกมาอย่างหัวเสียก่อนจะรีบเดินขึ้นไปยังห้องของตัวเอง เห็นแบบนี้ฉันก็มีห้องของตัวเองที่บ้านหลังนี้นะ แต่เป็นห้องใต้หลังคา...
ฉันตัดสินใจแล้ว ในไม่ช้าฉันจะต้องย้ายออกไปจากบ้านหลังนี้ให้ได้!
เช้ารุ่งขึ้น...
"กรี๊ดดดดดด เปิดประตูให้ฉันออกไปเดี๋ยวนี้นะ!!!"