EP 4/1 รุกให้รัก

1026 Words
บทที่ 4 รุกให้รัก แมคโลริคดึงมือของคนป่วยมาจุมพิตอ้อยอิ่ง ก่อนจะแนบมือข้างนั้นกับแก้มของตนอย่างอ่อนโยน ชายหนุ่มหลับตาพริ้ม ดื่มด่ำเอาความนุ่มนิ่มของฝ่ามือบางมาประทับในหัวใจ พิชฎามองแมคโลริคอย่างพิศวง เขายังไม่รู้ว่าเธอตื่นแล้ว “คุณ? ปะ...ปล่อย ปล่อยมือฉันเถอะ” บอกเขาเสียงแผ่ว แมคโลริคลืมตาขึ้น ใบหน้าหล่อเหลาหันมาทางใบหน้างามที่ยังซีดเซียว “ฟื้นแล้วเหรอ ผมนั่งรอตั้งนาน” ตัดพ้อเสียงนุ่มอ่อน มือข้างหนึ่งเลื่อนมาเกลี่ยปอยผมที่ระอยู่ข้างแก้มซีดเซียวนั้น “ปล่อยมือฉันก่อน เดี๋ยวยัยรัญมาเห็น” เธอเอ่ยติดกังวล สร้างความไม่พอใจเล็กๆ ในดวงตาเขา “คุณกลัวหรือพิชฎา แต่ผมไม่กลัวสักนิด” “แมค...ฉัน...ฉันไม่อยากเห็นหลานเสียใจ” พิชฎาเอ่ยเสียงแผ่ว มองมายังมือเขาที่กุมมือเธออยู่ แมคโลริคปล่อยมือหล่อนอย่างเสียดาย ดวงตาสีเงินยวงมีประกายขุ่นเคืองชัดเจน เขาเบื่อที่จะต้องหลบหลีกมิให้รัญตารู้ความจริง เบื่อที่ต้องเล่นละครตบตา เขาอยากทำอะไรตามที่หัวใจต้องการ อย่างเช่นตอนนี้ที่อยากจุมพิตคนป่วยเหลือเกิน “เมื่อไหร่จะบอกความจริงให้หลานรู้เสียที ผมเบื่อที่จะต้องหลบๆ ซ่อนๆ ปกปิดความต้องการ ผมว่าคุณยอมรับความจริงแล้วบอกรัญตาเรื่องพี่ชายผมเถอะ” “ไม่...ฉันไม่มีวันยอมแพ้” คนป่วยค้าน “แต่พี่ชายผมไม่เคยแข่งกับคุณ คุณไม่มีวันแพ้เขา ถ้าคุณยังดื้อรั้นคนที่จะต้องสูญเสียก็คือคุณ” “ฉันไม่เคยสูญเสีย...อะไรเลย” โต้กลับเสียงเครือ เพราะมั่นใจว่าตัวเองยังมิได้สูญเสียสิ่งใด “คุณรู้เท่าที่ผมรู้ว่าคุณเสียอะไรมาแล้วบ้าง” เขาเอ่ยนิ่มๆ หวนคิดถึงเรื่องราวที่ทำให้เขาได้มีโอกาสใกล้ชิดหล่อนชนิดถึงเนื้อถึงตัว แล้วยังจะกล้าพูดว่าตัวเองยังไม่สูญเสียอะไรอีกอย่างนั้นหรือ พิชฎานิ่งเงียบ เริ่มไตร่ตรองคำพูดของเขา มันเจ็บลึกๆ ที่เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าเขาแฝงอะไรไว้ในประโยคแสนธรรมดานั้น “จิรายุทธมีในสิ่งที่คุณไม่มีนั่นก็คือเงิน พวกเขายอมทุ่มทุกอย่างเพื่อจะให้รัญตามีความสุข” แมคโลริคพยายามชี้แจง อยากให้หล่อนยอมผ่อนปรนให้พี่ชายเขาบ้าง “ฉันก็ยอมทุกอย่างเพื่อให้รัญตามีความสุขเช่นกัน” เสียงเครือของคนเป็นน้าค้านขึ้น เธอลุกมาเถียงกับคนที่นั่งอยู่ข้างเตียง “ผมรู้ รู้ว่าคุณยอมทำทุกอย่างเพื่อแลกเช็คใบนั้น” เปรยขึ้นมาเหมือนเยาะอยู่ในที “ฉันเปล่า ฉัน...ยังไม่ได้แลก” เธอยืนยัน มั่นใจที่สุดเพราะพรหมจรรย์ของตนยังเหลือเท่าเดิม “คุณแลก ยอมรับความจริงเถอะพิชฎา ตอนนี้คุณเป็นผู้หญิงของผม ต้องมาอยู่บนเตียงของผมทุกเวลาที่ผมต้องการ” เขาว่าแล้วลุกยืน มือข้างหนึ่งเอื้อมมาบีบปลายคางมนให้หันมาเผชิญหน้า พิชฎาพยายามเบี่ยงหน้าหนี เขาเลยต้องกอดหล่อนไว้ “ไม่มีวัน ฉันไม่มีวันทำตามที่คุณต้องการหรอก แม้ว่าฉันจะ...” เธอเถียงไม่ออก ใบหน้าซีดเซียวแดงขึ้นเพราะความกระดาก รู้สึกว่าร่างกายนี้มันเป็นของเขาแม้ว่ายังไม่ลึกซึ้งถึงขั้นนั้นก็ตาม “แต่คุณต้องทำที่รัก ตอนนี้คุณเป็นผู้หญิงของผมแล้วนะ อย่าเบี้ยวสิ เพราะดอกเบี้ยที่ผมจะเก็บจากเงินที่คุณยืมไปก็คือร่างกายของคุณ ที่ยังไม่เอาจริงก็เพราะอยากให้คุณยินยอมพร้อมใจเท่านั้น” เหมือนคมมีดกรีดลงกลางใจพิชฎา ในที่สุดเธอก็ได้กลายเป็นโสเภณีเต็มรูปแบบ ต้องขายเรือนร่างแลกเงิน! “คุณมันเลวที่สุดเลยแมคโลริค!” “หึๆ ขอบคุณ คุณก็เจ้าเล่ห์เหมือนกันนั่นแหละ ไหนบอกว่าจะยืมแค่ค่าดาวน์รถไง แต่เช็คใบนั้นมันขึ้นเงินผมไปตั้งสองล้าน! คิดว่าผมจะไม่สังเกตหรือไง” แมคโลริคยิ้มเยาะ พิชฎาทำไม่รู้ไม่ชี้ “ฉัน...ไปยืมเงินคุณตอนไหนไม่ทราบ ขอดูหลักฐานหน่อยสิ” หญิงสาวโต้คืนน้ำขุ่นๆ แมคโลริคยิ้มอย่างรู้ทัน พิชฎาแสบอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด “หลักฐานก็อยู่บนคอคุณนั่นไง รอยคิสมาร์กที่ผมทำขึ้นกับปากของผมเอง หรือคุณจะเถียง” “คุณ!” เรียกเขาแล้วเม้มปากแน่น มันถูกต้องอย่างที่เขาพูดนั่นแหละ “ยอมรับความจริงซะคนสวย อย่ามาเล่นลูกไม้กับคนอย่างผมจะดีกว่า เพราะคุณรู้อยู่แก่ใจว่าไม่มีวันชนะ” ไม่ว่าเปล่าแต่ก้มลงสูดดมหน้าผากเกลี้ยงนูนอย่างหมั่นเขี้ยว มีเสียงดังเล็ดลอดจากริมฝีปากหยักดังจ๊วบอย่างจงใจ น้าสาวของรัญตาดิ้นขลุกขลัก ตีหน้ายักษ์เข้าใส่แต่ไม่เป็นผล เขายังกอดเธอไว้จนตอนนี้ไม่สามารถกระดิกกระเดี้ยได้เลย พยาบาลคนงามเข็นรถเข็นมื้อเที่ยงของผู้ป่วยเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม เมื่อเห็นกิริยาของญาติและผู้ป่วย เจ้าหล่อนรีบถอยร่นออกไปราวกับรู้ตัวว่ากำลังจะกลายเป็นก้างขวางคอ “ทานข้าวดีกว่า จะได้ทานยา” แมคโลริคแนะ เขาปล่อยพิชฎาออกจากอ้อมแขนแล้วเลื่อนรถเข็นมาข้างเตียง ให้ตรงตำแหน่งที่หล่อนสามารถรับประทานได้โดยสะดวก “ฉันไม่กิน” คนป่วยเอ่ยเสียงดังฟังชัด ใบหน้าซีดเซียวหันหนีพยาบาลจำเป็น “คุณต้องกิน ถ้าอยากออกจากโรงพยาบาลค่ำนี้” เขาแนะอีก พิชฎาตาขวางใส่ ไม่พอใจแต่ก็ต้องยอม เธอกินเองได้ แม้ว่าเขาต้องการจะป้อนก็ตาม “พรุ่งนี้ผมไม่อยู่นะ” จู่ๆ เขาก็เอ่ยขึ้นมา จังหวะนั้นพิชฎาก็วางช้อนลง เธอเพิ่งรับประทานไปได้เพียงสองสามคำเท่านั้น “บอกฉันทำไม ฉันไม่ได้อยากรู้สักหน่อย” ว่าแล้วเบะปากใส่ ผิดกับใจที่วูบโหวงว่างเปล่าพิกล
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD