คำทำนาย

3676 Words
"เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 องค์อรินดาต้องอภิเษกสมรสกับบุตรแห่งพญาครุฑเพื่อรักษาเมืองบาดาลเอาไว้ หากไม่มีพิธีอภิเษกขึ้น เมืองบาดาลจะถึงคราล่มสลายพ่ะย่ะค่ะ" โหรหลวงในชุดขาวทูลบอกคำทำนายด้วยสีหน้าจริงจัง พิธีทำนายดวงชะตาถูกจัดขึ้นเงียบ ๆ ภายในพระตำหนักของเจ้าแห่งเมืองบาดาล เป็นธรรมเนียมมาตั้งแต่โบราณกาลแล้วที่บุตรของผู้ครองเมืองจะต้องถูกทำนายดวงชะตาโดยโหรหลวงเมื่ออายุครบ 1 ปีบริบูรณ์  และในวันนี้ 'อรินดา' ธิดาเพียงองค์เดียวของ 'องค์นิลนาค' ผู้ซึ่งเป็นผู้ครองเมืองบาดาลอยู่ในตอนนี้ก็มีอายุครบ 1 ปีบริบูรณ์พอดี "เหตุใดต้องอภิเษกกับครุฑ" องค์นิลนาคเอ่ยถามด้วยแววตาเรียบนิ่ง ผิดกับคู่ชีวิตอย่าง 'องค์ไอรินลดา' ที่น้ำตาเริ่มเอ่อคลอ "ตามตำราโหรหลวงที่มีมาหลายร้อยปี องค์อรินดามีไฝสีดำอยู่กลางกระหม่อม ในตำราทำนายไว้ว่าหากธิดาแห่งเมืองบาดาลมีตำหนิอยู่บนศีรษะ จะต้องอภิเษกสมรสกับพญาครุฑที่เหาะเหินเดินบนเวหาได้ มิเช่นนั้นบ้านเมืองจะล่มสลายในที่สุด" องค์นิลนาคจ้องมองลูกน้อยที่กำลังนอนหลับอยู่ในเบาะสีขาวสะอาดที่ทำจากฝ้ายธรรมชาติด้วยแววตาเป็นห่วง จากนั้นก็ถอนหายใจหนักหน่วงออกมา "มีทางอื่นหรือไม่" โหรหลวงประจำเมืองบาดาลส่ายหน้าน้อย ๆ แทนคำตอบ ทางแก้มีเพียงทางเดียวเท่านั้น "ต้องปลิดชีพองค์อรินดา" "..." "มีเพียงหนทางเดียวพ่ะย่ะค่ะ" น้ำตาขององค์ไอรินลดาไหลรินอาบสองแก้มในที่สุด จะทำแบบนั้นได้อย่างไรในเมื่อนางสุดรักและหวงแหนธิดามากมายขนาดนี้  ถึงแม้จะเป็นเวลาแค่หนึ่งปี แต่ไอรินลดาก็เฝ้าเลี้ยงดูฟูมฟักลูกน้อยมาทุกวัน ยุงสักตัวเดียวก็ไม่เคยให้เข้าใกล้และไต่ตอม จะให้ปลิดชีพธิดาเธอขอปลิดชีพตัวเองจะยังดีเสียกว่า "ข้าทำตามที่ท่านโหรหลวงบอกไม่ได้" "ข้าเองก็ไม่ยอมให้องค์นิลนาคทำเช่นนั้นแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ" โหรหลวงค้อมหัวให้ด้วยความเคารพ การฆ่าแกงกันเป็นบาปมหันต์ในเมืองบาดาลแห่งนี้ "ข้าคงต้องรอเวลา เพื่อบอกให้อรินดาเข้าใจสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต" "หวังว่าอรินดาจะเข้าใจนะเพคะ" องค์นิลนาควาดแขนไปกอดคู่ชีวิตเอาไว้และลูบเรือนผมดำขลับนั้นเบา ๆ อย่างต้องการปลอบประโลม ต่อให้ต้องสิ้นชีวิตชาตินี้องค์นิลนาคจะปกป้องธิดาและพระมเหสีให้สุดความสามารถ "แต่สิ่งที่ต้องรีบทำให้เร็วที่สุดก็คือองค์นิลนาคต้องไปเจรจากับพญาครุฑให้ทราบเรื่องก่อนนะพ่ะย่ะค่ะ" โหรหลวงทูลบอก "วันพรุ่งนี้ข้าจะเสด็จไปเมืองครุฑธาเวสี" "ข้าขอเสด็จไปด้วยได้หรือไม่ท่านพี่" "เจ้าดูแลลูกอยู่ที่นี่ ข้าจะรีบไปรีบกลับ" เมืองบาดาลและเมืองครุฑอยู่ห่างไกลกันพอสมควร ต้องเดินทางสามวันจึงจะไปถึง และการเดินทางครั้งนี้องค์นิลนาคอาจต้องห่างลูกเมียเป็นเวลากว่าสัปดาห์ ทั้งที่ไม่เคยห่างกันเกินหนึ่งวันมาก่อน แต่ครั้งนี้ผู้ครองเมืองบาดาลต้องไปเจรจาเรื่องสำคัญกับผู้ครองเมืองครุฑธาเวสี ดังนั้นองค์ราชาแห่งเมืองบาดาลจึงจำใจต้องห่างดวงใจเป็นเวลาหลายวันอย่างเลี่ยงไม่ได้ "อรินดาลูกพ่อ" องค์นิลนาควางมือลงบนศีรษะของลูกรักอย่างเบามือ "พ่อจะไม่ยอมให้เจ้าเจ็บปวด แม้แต่ปลายเล็บ" ริมฝีปากจุมพิตลงกลางกระหม่อมของเด็กหญิงตัวน้อยที่นอนไม่รู้เรื่องอยู่ในเบาะด้วยความรักใคร่สุดหัวใจ "พรุ่งนี้เช้าเราจะออกเดินทาง พร้อมผู้ติดตามอีกสามคน ที่เหลือจงปกป้องรักษาเมืองบาดาลของพวกเราเท่าชีวิต" ทหารที่รับใช้มาอย่างยาวนานก้มหน้ารับคำสั่ง มีเพียงคนดูแลใกล้ชิดเพียงสามคนเท่านั้นที่จะได้ตามองค์นิลนาคไปยังเมืองครุฑธาเวสี ส่วนที่เหลือต้องอยู่ที่นี่ คอยรักษาเมืองบาดาลเท่าชีวิต ที่สำคัญต้องปกป้องพระมเหสีและธิดาองค์น้อยสุดชีวีเช่นเดียวกัน "ขอให้ท่านพี่เดินทางปลอดภัยนะเพคะ" "ข้าจะรีบกลับมา" องค์นิลนาคจุมพิตหน้าผากนวลของภรรยาอย่างทะนุถนอม สองมือวาดมากกกอดคู่ชีวิตเอาไว้ แม้รู้ว่าระหว่างทางจะไม่มีอันตรายใด ๆ เกิดขึ้น แต่ก็รับปากไม่ได้ว่าเมื่อถึงเมืองครุฑธาเวสีแล้วชีวิตของท่านและผู้ติดตามจะยังอยู่ดีอีกหรือไม่   "มีนาคาสี่ตนเข้ามาในเขตป่าหิมพานต์พ่ะย่ะค่ะ" ครุฑที่ทำหน้าที่ลาดตระเวนคุกเข่าลงต่อหน้าเจ้าเมืองแล้วเอ่ยบอกถึงความผิดปกติที่ตนได้เห็นมาให้พญาครุฑธาได้ฟัง ขณะนี้มีนาคาตัวใหญ่กำลังรุกล้ำเข้ามายังป่าหิมพานต์ซึ่งเป็นอาณาเขตของเมืองครุฑธาเวสี และทั้งหมดก็มุ่งหน้าตรงมายังที่ตั้งของเมือง  "สังเกตการณ์ต่อไป อย่าเพิ่งทำสิ่งใด" ทหารครุฑผู้นั้นรับคำแล้วรีบออกไปเพื่อสังเกตการณ์ต่อในทันที "ตอนนี้หรัญญ์อยู่ที่ใด" "ฝึกต่อสู้อยู่พ่ะย่ะค่ะ" 'พญาครุฑธา' ผู้ที่ครองเมืองครุฑธาเวสีอยู่ในตอนนี้เอ่ยถามหาธิดาเพียงองค์เดียวของท่านกับทหารที่รับใช้ใกล้ชิด 'หรัญญ์' เป็นบุตรีของท่านพญาครุฑธาเพียงคนเดียว แต่กระนั้นหรัญญ์ก็ยังถูกฝึกฝนให้เป็นคนแข็งแกร่งเฉกเช่นดังชายชาตรีอยู่ดี เกิดเป็นครุฑจะอ่อนแอไม่ได้ ท่านพญาครุฑธาจึงฝึกฝนให้หรัญญ์ต่อสู้ตั้งแต่อายุได้เพียงสี่ขวบเท่านั้น และตอนนี้ธิดาของท่านพญาครุฑธาก็มีอายุเจ็ดขวบแล้ว "ไปเรียกหรัญญ์มาพบข้า" ทหารรับคำแล้วรีบทำตามในทันที เพียงเวลาไม่นานสตรีนางหนึ่งซึ่งมีรูปร่างสูงชะลูดก็เดินเข้ามาด้วยท่วงท่าที่มั่นใจ ถึงแม้จะเป็นเด็กหญิงอายุเพียงเจ็ดขวบ แต่หรัญญ์กลับมีร่างกายแข็งแกร่งดุจชายชาตรีวัยหนุ่ม เนื่องจากหรัญญ์ต้องฝึกวิทยายุทธและออกกำลังกายอยู่ทุกวัน และเพราะเป็นครุฑสูงศักดิ์หรัญญ์จึงมีรูปร่างที่สูงใหญ่น่าเกรงขามแม้ผิวกายจะขาวนวลเนียนราวหยวกกล้วยก็ตาม "ท่านพ่อเรียกข้ามาเพื่อสิ่งใด" หรัญญ์เอ่ยถามบิดาด้วยน้ำเสียงติดจะหงุดหงิดเล็กน้อย เหตุเพราะตอนนี้เขากำลังฝึกควงกระบองอยู่ กำลังเข้มข้นแต่ทหารกลับบอกว่าท่านพ่อเรียกหา หากไม่มีเรื่องสำคัญวันนี้หรัญญ์คงได้หงุดหงิดมากกว่าเดิมเป็นแน่ "เจ้าเคยเห็นนาคาหรือไม่" "ข้าเคยเห็นแค่ในตำรา" นาคาคืองูตัวใหญ่ตามที่หรัญญ์เข้าใจ ในตำรานั้นนาคาบางตัวมีสีดำสนิท และบางตัวก็มีสีเขียวมรกตงดงาม หรัญญ์เคยเห็นแค่ในตำราที่ท่านอาจารย์นำมาสอนเพียงเท่านั้น เขาไม่เคยเห็นตัวจริงเลยสักครั้ง "ตอนนี้นาคาสี่ตนกำลังผ่านป่าหิมพานต์เข้ามา หากเจ้าอยากเห็นพ่ออนุญาตให้เจ้าออกนอกเมืองได้" หรัญญ์ยิ้มกว้าง นาคากำลังเดินทางรุกล้ำเขตของเมืองครุฑธาเวสีเข้ามาอย่างนั้นหรือ มาเพื่อสิ่งใดกัน แต่นั่นไม่สำคัญอยู่แล้ว ในเมื่อวันนี้เขาจะได้เห็นนาคาตัวเป็น ๆ ครั้งแรกในชีวิต "อย่าทำอะไรพวกเขาเด็ดขาด ดูแต่ตา" ธิดาตัวน้อยแปลงกายเป็นครุฑในทันทีที่ผู้เป็นพ่อพูดจบ ปีกสีขาวสว่างสยายเต็มแผ่นหลังและกรงเล็บสีทองคมกริบนั่นทำให้พญาครุฑธาภูมิใจในตัวธิดาอยู่ไม่น้อย หากโตกว่านี้หรัญญ์คงเป็นครุฑที่มีร่างกายโดดเด่นหาใครเทียบได้ "ข้ามีปาก ข้าอยากลองพูดกับนาคา" ปีกสยายออกและกระพือเสียงดังผึบผับ หรัญญ์ก็เป็นแบบนี้ ดื้อด้านชอบขัดคำสั่ง และเอาแต่ใจตัวเอง เสียงลมและเสียงต้นไม้โอนเอนทำให้นาคาทั้งสี่ตนหยุดชะงักเพื่อฟังเสียง ท้องฟ้าไม่มีเมฆหมอกปกคลุม และไม่มีทีท่าว่าฝนจะตก เหตุใดพายุถึงได้ก่อตัวเช่นนี้ได้ "พายุอย่างนั้นหรือ" องค์นิลนาคเอ่ยกับตัวเองเบา ๆ  "เกรงว่าจะไม่ใช่นะพ่ะย่ะค่ะ" ผู้ติดตามเอ่ยบอกแล้วมองขึ้นไปบนท้องฟ้า มีครุฑน้อยตนหนึ่งกำลังลอยล่องอยู่กลางเวหา ดวงตาสีดำสนิทคมกริบจ้องมองลงมาอย่างสนใจ ที่ท้องฟ้ากำลังแปรปรวนและลมกำลังกรรโชกอย่างแรงคงมีต้นเหตุมาจากครุฑน้อยตนนี้ไม่ผิดแน่ "พวกเจ้ามาเพื่อสิ่งใด" หรัญญ์พาตัวเองไปยืนอยู่บนต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง สองมือเท้าเอวแล้วมองมายังด้านล่างด้วยสายตาเป็นประกาย ป่าหิมพานต์เป็นป่าขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่กว้างขวาง มีต้นไม้น้อยใหญ่ปกคลุมหนาทึบ มีสิงสาราสัตว์อาศัยอยู่มากมายนับไม่ถ้วน ถึงแม้ว่านาคาจะมีขนาดลำตัวที่ใหญ่มหึมาเพียงใด แต่ก็สามารถเลื้อยผ่านเข้ามาในป่าหิมพานต์แห่งนี้โดยที่ไม่ทำลายต้นไม้และใบหญ้าสักต้นได้สบาย นาคาทั้งสี่ตนช่างน่าเกรงขามยิ่งนัก ลำตัวยาวเฟื้อยเป็นท่อนใหญ่ ใหญ่กว่าต้นไม้ที่หรัญญ์ยืนอยู่เสียด้วยซ้ำไป  หากลองประเมินด้วยสายตาดูแล้ว ลำตัวของนาคามีขนาดใหญ่กว่าเสาที่ตั้งอยู่ตรงทางเข้าเมืองเสียอีก นาคาสีเขียวสามตัวกำลังหยุดชะงักและดวงตาสีแดงฉานก็มองมาที่เขาเป็นตาเดียว แต่มีนาคาเพียงหนึ่งที่แปลกไปจากตัวอื่น นั่นก็คือนาคาตัวเขื่องสีดำสนิทแต่เกล็ดกลับส่องแสงเป็นประกายระยิบระยับ ทั้งดวงตาหรือแม้แต่หงอนก็เป็นสีนิล จากที่หรัญญ์ได้อ่านตำรามาเขาก็รู้ได้ในทันทีว่านาคาสีนิลตนนี้พิเศษกว่าตนอื่น "ท่านเป็นใคร" ไม่มีใครตอบคำถามครุฑน้อย มีเพียงนิลนาคเท่านั้นที่เอ่ยถามกลับคืน "ข้าคือหรัญญ์" "ธิดาของพญาครุฑธาพ่ะย่ะค่ะองค์นิลนาค" ทหารผู้ติดตามกระซิบบอก องค์นิลนาคยิ้มมุมปาก ธิดาของพญาครุฑธาอย่างนั้นหรือ ท่าทางมั่นใจและไม่เกรงกลัวผู้ใดของครุฑตนนี้ช่างน่าสนใจ นี่สินะ คือคนที่จะช่วยเมืองบาดาลให้คงอยู่ตลอดไป "ข้าคือนิลนาค" "หวัดดีนิลนาค" องค์นิลนาคกระแอมเบา ๆ เมื่อผู้ติดตามทำท่าว่าจะเข้าใกล้ครุฑเด็ก คงอยากสั่งสอนว่ามิควรพูดจาเช่นนี้กับผู้ครองเมืองบาดาล แต่นี่เป็นพื้นที่ของเมืองครุฑธาเวสี นาคาไม่สามารถทำสิ่งใดได้อยู่แล้ว "เมืองครุฑเขาสอนให้พูดกับผู้ใหญ่แบบนี้หรือ" "หวัดดีท่านนิลนาคและผองเพื่อน" หรัญญ์รีบทักทายใหม่ทันที จะว่าอย่างไรให้เขาก็ย่อมได้ แต่อย่าพาดพิงถึงเมืองครุฑธาเวสีโดยเด็ดขาด "ท่านมาเพื่อสิ่งใด" "ข้ามาพบท่านพญาครุฑธา" "ท่านมาจากที่ใด" ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่เต็มอก แต่หรัญญ์ก็ถามเพื่อความแน่ใจอยู่ดี ในตำรากล่าวว่านาคาที่มีสีดำปรอทตลอดทั้งร่างคือผู้สูงศักดิ์และเป็นผู้ครองเมืองบาดาลอยู่ในตอนนี้ และตำรายังบอกอีกว่าครุฑกับนาคอยู่ร่วมกันไม่ได้ และเป็นศัตรูกันมาอย่างยาวนาน แต่หรัญญ์ไม่คิดแบบนั้น เพราะการทำร้ายและต่อสู้กันรังแต่จะนำมาซึ่งความสูญเสีย แต่ถึงกระนั้นหรัญญ์ก็ยังชอบที่จะต่อสู้อยู่ดี "เมืองบาดาล" "ข้าไม่เคยไป" องค์นิลนาคส่ายหน้าน้อย ๆ เมื่อเด็กตรงหน้าต่อล้อต่อเถียงไม่หยุดหย่อน จะเคยไปได้อย่างไรกัน ในเมื่อครุฑไม่สามารถลงไปยังเมืองบาดาลได้ เนื่องจากต้องดำน้ำลึกลงไปและครุฑก็กลั้นหายใจได้ไม่นาน "ท่านนำทางข้าไปยังเมืองครุฑธาเวสีได้หรือไม่" "ข้ายังเด็ก ไม่ช่วยเหลือใครหากไม่ได้รับสิ่งตอบแทน" เด็กคนนี้มีไหวพริบดี หนำซ้ำยังเจ้าเล่ห์เอาการ จากนาคาตัวใหญ่ยักษ์กลายร่างเป็นมนุษย์เดินดินในชั่วพริบตา เพราะองค์นิลนาคต้องการที่จะตอบแทนครุฑเด็กตนนี้ด้วยของมีค่าซึ่งเป็นของประจำตัวท่าน แหวนทองรูปนาคาถูกถอดออกจากนิ้วนางข้างซ้าย แหวนวงนี้เป็นแหวนที่องค์ไอรินลดาคู่ชีวิตมอบให้ในวันหมั้นหมาย แม้จะเป็นของรักของหวงแต่ท่านก็ยอมตัดใจในที่สุด เมื่อนึกไปถึงอนาคตว่าครุฑตนนี้จะเป็นผู้ที่ปกป้องเมืองบาดาลเอาไว้ เสียแหวนที่รักไปมันเทียบกันไม่ติดเลยกับการเสียเมืองบาดาล "ลงมานี่สิ" หรัญญ์โฉบลงมาจากต้นไม้ใหญ่ด้วยความเร็วรี่ ลมที่เกิดจากกระพือปีกพัดแรงจนใบไม้ใบหญ้าแถวนั้นปลิวไสว ปอยผมสีดำขลับขององค์นิลนาคก็ปลิวไม่แพ้กันเมื่อถูกลมจากปีกของครุฑน้อยพัดพา "นี่คือสิ่งตอบแทนเล็กน้อยจากข้า หากท่านจะใจดีพาพวกข้าทุกคนเข้าไปพบท่านพญาครุฑธา" "มาสิ ท่านพ่อรออยู่" มือเล็ก ๆ นั่นฉวยเอาแหวนไปเก็บไว้กับตัวในทันที หรัญญ์กระพือปีกบินอีกครั้ง และองค์นิลนาคก็แปลงกายเป็นนาคาตามไปในทันที  "ข้าคิดว่าข้าเสียรู้เด็ก" ทหารผู้ติดตามทั้งสามคนหัวเราะน้อย ๆ ครุฑเด็กบอกว่าตอนนี้ท่านพญาครุฑธารออยู่ นั่นก็แสดงว่าท่านพญาครุฑธารู้แล้วว่ามีนาคาบุกรุกเข้ามาในเขตป่าหิมพานต์ เลยให้ธิดาออกมาสังเกตการณ์เพียงเท่านั้น แต่ธิดากลับเจ้าเล่ห์เพทุบาย วางแผนหลอกล่อให้องค์นิลนาคตกหลุมพลาง และท่านก็เสียรู้ครุฑเด็กตนนี้จนได้ น่าเจ็บใจเสียจริง องค์นิลนาคนึกเจ็บใจอยู่เพียงลำพัง แต่ก็ไม่ได้มีอารมณ์แค้นเคืองธิดาแห่งพญาครุฑธา ออกจะเอ็นดูเสียด้วยซ้ำไปที่หรัญญ์สามารถหลอกล่อท่านให้ตกหลุมพรางได้ เพราะเกรงว่าจะเข้าเมืองครุฑธาเวสีได้ลำบากจึงต้องเอ่ยขอความช่วยเหลือจากธิดาของท่านพญาครุฑธา แต่ไม่น่าเชื่อว่าครุฑเด็กจะหลอกท่าน เจ้าเล่ห์เสียจริง ประตูทางเข้าเมืองขนาดใหญ่ซึ่งมีประติมากรรมรูปครุฑที่ทำจากหินสลักตั้งตระหง่านอยู่อย่างน่าเกรงขามแต่ก็แฝงไว้ด้วยความสวยงาม สองข้างของประตูมีท่อนไม้ขนาดใหญ่ยักษ์ตั้งอยู่ นี่คงเป็นต้นงิ้วหนามจากป่าหิมพานต์สินะ เมื่อเดินทางมาหยุดอยู่ที่ทางเข้าเมืององค์นิลนาคและนาคาผู้ติดตามอีกสามตัวก็รีบแปลงกายเป็นมนุษย์ในทันที "ตามข้ามา" หรัญญ์แปลงกายกลับมาเป็นเด็กหญิงตัวเล็กผิวขาวสว่างดังเช่นปีกที่ติดอยู่ด้านหลังยามเมื่อแปลงกายเป็นครุฑไม่มีผิดเพี้ยน แต่ถึงรูปกายของหรัญญ์จะงดงามสักเพียงใดก็ยังแฝงไว้ด้วยความแข็งแกร่งน่านับถืออยู่ดี เด็กน้อยพาผู้มาเยือนทั้งสี่คนเดินผ่านประตูทางเข้าเมืองมาช้า ๆ หรัญญ์ยกมือห้ามทหารครุฑที่ทำท่าว่าจะเข้ามาถามไถ่ ทหารพวกนั้นคงคิดว่าเขาจับผู้บุกรุกได้  นาคากลุ่มนี้บุกรุกก็จริง แต่เมื่อได้ลองพูดคุยแล้วพวกเขาไม่มีพิษภัย หนำซ้ำยังให้ของกำนัลมาอีก หรือหากมีพิษภัยและจ้องจะทำลายเมืองครุฑธาเวสี นาคากลุ่มนี้ก็เพียงมีแค่สี่ตัวเท่านั้น อย่างมากที่ทำได้ก็คงจะเป็นทำกระถางต้นไม้แตกเท่านั้นแหละ  "นั่นคือท่านพญาครุฑธา" หรัญญ์เอ่ยบอกกับผู้มาเยือนเมื่อเข้ามาในห้องโถงขนาดใหญ่ที่มีไว้ใช้สำหรับประชุมและต้อนรับแขกแล้วเห็นผู้เป็นพ่อยืนรออยู่ นาคาทั้งสี่ตนค้อมหัวลงทำความเคารพเจ้าเมือง อยู่ที่เมืองบาดาลองค์นิลนาคก็คือราชา แต่เมื่อใดที่เขาต้องออกจากเมืองไปยังสถานที่อื่นเหมือนดังเช่นในตอนนี้ นิลนาคก็เป็นแค่บุคคลธรรมดาที่ไม่มียศถาบรรดาศักดิ์ใด ๆ เลย "องค์นิลนาค" พญาครุฑธาเองก็ค้อมหัวทำความเคารพผู้มาเยือนเช่นเดียวกัน "เหตุใดท่านถึงต้องเดินทางมาที่นี่" "ข้ามีเรื่องให้ท่านช่วยเหลือ" องค์นิลนาคเอ่ยบอกความประสงค์กับเจ้าเมืองทันที แต่สายตากลับมองดูธิดาของท่านไม่ลดละ "เชิญนั่ง" ข้าวปลาอาหารถูกจัดเตรียมพร้อมไว้สำหรับต้อนรับผู้มาเยือนตั้งแต่ที่ทหารลาดตระเวนเข้ามารายงานว่าพบนาคาสี่ตัวในป่าหิมพานต์แล้ว แม้ไม่รู้ว่านาคาทั้งสี่มาเพื่อสิ่งใด แต่องค์นิลนาคที่เป็นผู้ครองเมืองบาดาลอยู่ในตอนนี้ได้ร่วมเดินทางมาด้วย หากไม่ต้อนรับก็ดูจะแล้งน้ำใจจนเกินไป ครุฑและนาคเป็นศัตรูกันมาตั้งแต่โบราณกาล แต่เมื่อเวลาผ่านไป ยุคสมัยเปลี่ยน จากศัตรูที่คอยแต่จะเข่นฆ่ากันก็แปรเปลี่ยนเป็นเพียงคนรู้จักที่ไม่ค่อยชอบขี้หน้ากันในที่สุด ในยุคนี้ ยุคของท่านพญาครุฑธา ตั้งแต่เกิดมาและครองเมืองจนถึงตอนนี้ ท่านไม่เคยได้พบนาคาบุกรุกเข้ามาในเมืองครุฑธาเวสีเลยสักครั้ง นี่เป็นครั้งแรก และท่านก็มิได้นึกเกรงกลัวหรืออยากเข่นฆ่าให้สิ้นซาก  หากไม่มีธุระสำคัญ องค์นิลนาคคงไม่มาที่นี่ นั่นคือความคิดของท่านพญาครุฑธา เนื่องจากองค์นิลนาคแห่งเมืองบาดาลมีชื่อเสียงในเรื่องคุณธรรมและเมตตา ผู้ครองเมืองบาดาลจิตใจดีจนเป็นที่เลื่องลือ คงไม่คิดที่จะยกทัพมาทำลายเมืองครุฑแน่นอน "ข้ามีเรื่องให้ท่านช่วยเหลือ" ทันทีที่นั่งลงได้องค์นิลนาคก็เอยความประสงค์อีกครั้ง "หรัญญ์ เจ้าออกไปก่อน" หรัญญ์ส่ายหน้าช้า ๆ อย่างนึกขัดใจแล้วเดินออกไป อุตส่าห์จะอยู่แอบฟังสักหน่อยว่านาคามีเรื่องอะไรถึงได้มาที่ แต่ท่านพ่อก็ไล่จนได้  "ท่านมีเรื่องใดให้ข้าช่วยเหลือ" "ธิดาของข้ามีชื่อว่าอรินดา นางเกิดมามีตำหนิตรงตามตำราโบราณ" องค์นิลนาคเล่าทุกอย่างให้พญาครุฑธาฟังด้วยใบหน้าเศร้าโศก หากท่านพญาครุฑธาปฏิเสธ เห็นทีคงต้องกลับเมืองบาดาลและรอเวลาให้อรินดาเติบโต หากคำทำนายเป็นจริงองค์นิลนาคคงมีโอกาสได้ชื่นชมดวงใจของท่านเพียง 20 ปีเท่านั้น "ข้าเองก็มีเพียงธิดาเช่นเดียวกับท่าน" "นี่คือตำราเล่มนั้น" เจ้าเมืองบาดาลยื่นตำราเล่มเก่าคร่ำครึที่เริ่มจะผุพังและขาดวิ่นให้กับพญาครุฑธา "ต้องเป็นบุตรของท่านพญาครุฑธา" "ซึ่งก็คือท่าน" "และต้องเป็นหรัญญ์" เพราะท่านพญาครุฑธามีธิดาเพียงองค์เดียว เป็นกลไกธรรมชาติของชนเผ่าครุฑที่สามารถมีบุตรได้เพียงคนเดียวเท่านั้น ในวันที่ภรรยาคลอดร่างกายจะปรับสมดุลและเปลี่ยนแปลงตัวเองโดยอัตโนมัติ และผลของการเปลี่ยนแปลงก็คือครุฑผู้ชายทุกตนจะต้องเป็นหมันและสืบพันธุ์ต่อไม่ได้ หากภรรยาตั้งครรภ์อีก นั่นก็หมายความว่าลูกในท้องเป็นของชายอื่น  ด้วยเหตุนี้จึงส่งผลให้เผ่าพันธุ์ครุฑทั้งชายและหญิงรักเดียวใจเดียวไปโดยปริยาย "เมื่ออายุครบสิบเจ็ดปีบริบูรณ์ข้าจะบอกเรื่องนี้กับหรัญญ์" "แล้วถ้าธิดาของท่านไม่ตกลงเล่า" "หรัญญ์เป็นคนจิตใจดี เราเชื่อว่าธิดาของเราจะช่วยปกป้องเมืองบาดาลของท่านให้คงอยู่" พญาครุฑธายื่นตำราเล่มนั้นคืนให้ผู้มาเยือน "เมื่อธิดาของท่านอายุครบสิบแปดปีบริบูรณ์ ข้าจะพาหรัญญ์ไปหมั้นหมายนางไว้ ข้าจะทำตามประเพณีอย่างเคร่งครัดทุกประการ" "ขอบคุณท่านพญาครุฑธาเป็นอย่างมาก" องค์นิลนาคลุกขึ้นจากเก้าอี้และลงไปคุกเข่าที่พื้น นาคาผู้ติดตามทั้งสามก็ทำแบบเดียวกัน "เมื่อข้ากลับไปถึงเมืองบาดาล ข้าจะส่งเครื่องทองและเพชรนิลจินดามาเป็นของกำนัลให้แก่ท่าน" "ข้ามีสิ่งนั้นอยู่แล้ว ท่านไม่ต้องลำบากหรอก ข้าแค่อยากช่วยให้เมืองบาดาลคงอยู่ หากรู้ว่าเมืองของข้าจะล่มสลาย ข้าก็คงจะอยู่ไม่สุขเช่นเจ้า" หากในตำราทำนายว่าเมืองครุฑธาเวสีจะล่มสลายในไม่ช้า ท่านพญาครุฑธาก็คิดว่าตัวเองจะอยู่ไม่สุขเช่นเดียวกัน  ในตำราเขียนไว้ว่าต้องเป็นครุฑและเป็นบุตรของเจ้าเมืองเท่านั้น ซึ่งตอนนี้ท่านพญาครุฑธาครองเมืองอยู่ บุตรของท่านก็คือหรัญญ์ ไม่รู้ว่าธิดาของท่านจะยินยอมหรือไม่ แต่ท่านเชื่อว่าหรัญญ์จะช่วยเหลือและรักษาเมืองบาดาลเอาไว้อย่างแน่นอน คงต้องรอให้หรัญญ์โตกว่านี้ถึงจะบอกให้ทราบได้ แต่ท่านพญาครุฑธาคงไม่รู้ว่าขณะนี้ธิดาของท่านได้รับรู้แล้ว หรัญญ์ได้ยินทุกคำพูด และทุกประโยคที่ท่านพญาครุฑธาคุยกับองค์นิลนาค เพราะเขาแอบฟังอยู่ที่หน้าประตู "ข้าต้องทำสิ่งนั้นเพื่อรักษาเมืองบาดาลเอาไว้งั้นหรือ" "แต่มันไม่ใช่เมืองของข้า" "แต่นั่นมันก็คือคำทำนายนะ" ความคิดภายในใจของหรัญญ์กำลังตีกันยุ่งเหยิง เขาไม่รู้ว่าตอนนี้ควรจะต้องทำอย่างไร เอาไว้ให้โตและรู้ความกว่านี้ค่อยตัดสินใจก็แล้วกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD