EP. 1 ผู้หญิงแพศยา
EP. 1 ผู้หญิงแพศยา
ชายหนุ่มหยุดยืนอยู่ภายในโรงอาหารสำหรับคนงานในเหมือง จ้องมองภาพข่าวจากจอโทรทัศน์ขนาดยี่สิบเอ็ดนิ้วด้วยสีหน้าบ่งชัดว่าอยู่ในอารมณ์ใด เพราะคิ้วยาวพาดเหนือหน้าผากกว้างขมวดมุ่นจนแทบชิดติดกัน มือหนากำแน่นยังผลให้เส้นเลือดเกร็งปูดโปนเห็นชัดจากผิวหนังสีแทน
เนื้อข่าวฉายภาพงานเลี้ยงฉลองงานมงคลสมรสของ ‘ธเนศวร ธรรมธรา’ อย่างเอิกเกริกเศรษฐีอายุหกสิบปีเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
หลายพันล้านบาท ใบหน้าอวบอูมอย่างคนมีอายุยิ้มกว้างอย่างมีความสุข ผมสีดอกเลาทั้งศีรษะถูกย้อมดำจนดูไม่เป็นธรรมชาติกำลังเดินจูงมือเจ้าสาววัยละอ่อนที่มีอายุแค่เพียงยี่สิบปีไปยังกลางห้องจัดเลี้ยงหรูเพื่อตัดเค้กฉลองงานสมรส
ใบหน้าของผู้สูงวัยเปื้อนยิ้มจนตาเล็กหยี ยกมือขึ้นโอบไหล่หญิงสาวราวกับจะโอ้อวดเจ้าสาวของตนแก่แขกเหรื่อภายในงานให้ได้ประจักษ์ถึงความสวยสดใสทั้งยังอ่อนเยาว์โดยทั่วกัน นักข่าวหลายสิบชีวิตกดชัตเตอร์รัวเร็วจนแสงแฟลชวิบวับสะท้อนไปทั่วงาน ธเนศวรหัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดีแล้วจึงก้มลงหอมแก้มเจ้าสาวฟอดใหญ่ต่อหน้าสื่อมวลชนเพื่อให้ถ่ายภาพไปลงในหนังสือพิมพ์ฉบับเช้าวันถัดไป
ข่าวการแต่งงานของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวที่มีอายุห่างกันถึงสี่สิบปีในครั้งนี้ คงเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ไปอีกนานนับเดือนเลยทีเดียว
“คนนี้ใช่มั้ยแก คุณพ่อของนายหัว”
“ใช่ๆ คนนี้แหละ ฉันเคยเห็นท่านมาหานายหัวที่นี่เกือบทุกเดือน”
“ตายจริงเจ้าสาวยังเด็กมากเลยนะ อย่างกับตาหลานมากกว่าเจ้าบ่าวเจ้าสาว”
“อย่างนี้ล่ะ ก็คนมีเงินนี่นา จะหาสาวสวยอายุน้อยเท่าไหร่ก็หาได้ เงินซื้อได้ทุกอย่าง”
เสียงนินทาเงียบหายเมื่อคนงานคนหนึ่งในกลุ่มสะกิดให้หยุดนินทา แล้วบุ้ยใบ้ให้หันไปมองด้านหลัง เจ้านายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ไว้หนวดเครารุงรัง สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวลายสก็อตสีเขียวแก่ กางเกงยีนสีซีดกับรองเท้าหนังที่บ่งบอกสภาพว่าสมบุกสมบันร่วมกับเจ้าของมานานโข เขายืนนิ่งดวงตาจับจ้องอยู่ที่จอโทรทัศน์ไม่ได้ใส่ใจเสียงนินทาของลูกจ้างแต่อย่างใด
ไม่ถึงสองนาทีต่อมา...ภายในโรงอาหารก็เหลือธรณ์เทพยืนอยู่เพียงลำพัง
ดวงตาคมกร้าวหรี่ลงเล็กน้อยราวกับพยายามจดจำใบหน้าของหญิงสาวที่ปรากฏบนหน้าจอโทรทัศน์เอาไว้ เจ้าของร่างสูงเหยียดยิ้มที่มุมปากอย่างดูแคลน เมื่อเห็นท่าทางประหม่าเขินอายของเจ้าสาววัยละอ่อนที่มีนามว่า ‘เพียงขวัญ’ ถูกสื่อมวลชนคะยั้นคะยอให้หอมแก้มชายสูงวัยคราวพ่อ
“ฮึ ทำเป็นเหนียมอายที่แท้ก็แพศยาเห็นแก่เงิน”
ชายหนุ่มหมุนตัวออกไปจากโรงอาหารของคนงานในเหมือง ด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์นัก มั่นใจว่าบิดาต้องเจอมารยาสาไถยจากผู้หญิงหน้าเงินร้อยมารยา ทำเป็นไร้เดียงสา แต่แท้จริงแล้วก็เป็นแค่เด็กใจแตก ทำตัวกร้านแก่แดดตั้งแต่อายุยังน้อย
เขายังคงไม่เข้าใจว่าเหตุใดบิดาจึงไม่ควงเล่นๆ แก้เหงาเหมือนผู้หญิงที่แล้วๆ มา แต่กลับจริงจังถึงขั้นยอมแต่งงานด้วย ทั้งที่ผ่านมาบิดามักคบผู้หญิงฉาบฉวยไม่เคยคิดลงหลักปักฐานกับใครสักคน ถึงแม้จะหย่าขาดจากมารดาของเขามาเกือบสามสิบปีแล้วก็ตาม
“เป็นอะไรหรือเปล่าลูก หน้าตาบูดบึ้งมาเชียว”
หญิงสูงวัยอายุห้าสิบปลายๆ ยิ้มกว้าง เงยหน้าขึ้นจากหนังสือนวนิยายเล่มโปรดเมื่อเห็นบุตรชายเดินเข้ามาในบ้านด้วยท่าทางฉุนเฉียวไม่สบอารมณ์
“ไม่มีอะไรหรอกครับคุณแม่”
ทัดทองยิ้มกว้างรู้ดีว่าหากบุตรชายปฏิเสธว่าไม่มี...นั่นแสดงว่ามี แม้ปีนี้ธรณ์เทพจะอายุสามสิบห้าปีแล้ว ทว่าเขากลับยังมีนิสัยใจร้อน มุทะลุ เอาแต่ใจตัวเองเป็นใหญ่ไม่เคยเปลี่ยน
“เรื่องคุณพ่อของลูกสินะ”
“ผมไม่สามารถมีความลับกับคุณแม่ได้เลย”
ชายหนุ่มเดินเข้าไปโอบเอวมารดา ผู้หญิงเก่งเด็ดเดี่ยว ที่กล้าหอบบุตรชายวัยเจ็ดขวบหนีสามีจอมเจ้าชู้มาอยู่ที่กระบี่ อีกทั้งยังฟ้องหย่าสามีจนเป็นข่าวครึกโครม ทว่าไม่นานท่านก็ได้พบกับรักใหม่จนปลงใจตั้งรกรากอยู่ที่กระบี่มานานหลายสิบปี
“จะหงุดหงิดใจไปทำไมกัน ในเมื่อพ่อของเราเจ้าชู้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ลูกควรจะชินสิถึงจะถูก แม่ไม่เห็นว่าเชื้อมันจะทิ้งแถวตรงไหน ดูอย่างลูกสิอายุปูนนี้แล้วยังทำตัวเป็นพ่อพวงมาลัยไม่ลงหลักปักฐานกับผู้หญิงคนไหนเสียที ซ้ำร้ายยังควงสาวเข้าบ้านแทบไม่ซ้ำหน้า”
ทัดทองเอ่ยกระเซ้าบุตรชาย ธรณ์เทพถึงกับปั้นหน้าไม่ถูกเมื่อโดนมารดาเหน็บแนมเรื่องแต่งงานมีหลานเข้าให้แล้ว เจอหน้ามารดาทีไรต้องตอบคำถามเรื่องนี้ทุกทีสิน่า...
“มันไม่เหมือนกันนะครับคุณแม่ ผมยังไม่แต่งงานผมมีสิทธิ์เลือก” ชายหนุ่มแก้ตัวทันควัน
“พ่อของลูกก็หย่ากับแม่ไปตั้งนมนานแล้ว เขาจะแต่งงานใหม่มันก็เป็นสิทธิ์ของเขา”
“แต่ต้องไม่ใช่เด็กสาวรุ่นหลานแบบนั้น”
ชายหนุ่มกัดฟันกรอด เถียงออกไปทันควัน ยอมรับว่าอายเหลือเกินที่บิดาตัดสินใจบ้าบิ่นโดยไม่คิดปรึกษาใคร อย่างน้อยท่านน่าจะเห็นแก่ความรู้สึกของเขาผู้เป็นลูกบ้าง ว่าเขาจะรู้สึกเช่นไรที่มีบิดาตัณหากลับแต่งงานกับหญิงสาวรุ่นลูกรุ่นหลานเช่นนี้
“เรื่องเจ้าสาวของคุณพ่อ แม่ขอไม่ออกความเห็นจ้ะ”
ทัดทองเลี่ยงที่จะไม่พูด เพราะหล่อนกับธเนศวรนั้นกลายเป็นเพื่อนสนิทกันไปเสียแล้ว หล่อนจึงไม่มีความเจ็บแค้น หรืออาฆาตพยาบาทเมื่อเขาแต่งงานใหม่ กลับกัน...หล่อนดีใจที่ได้เห็นเขามีความสุขในชีวิตคู่อีกครั้งหนึ่ง
“คุณแม่ใจเย็นเสมอเลย”
“เทพเองก็ใจร้อนตลอด”
ธรณ์เทพไม่ยิ้ม ใบหน้าของเขาเครียดขึ้ง คิดวนเวียนถึงใบหน้าหวานในชุดเจ้าสาวแสนสวย ผู้หญิงแพศยาที่ชื่อ...เพียงขวัญ