ครั้งแรกที่ไม่น่าจดจำ / 2

1296 Words
“เป็นไง พอได้เจอตัวจริงแล้ว สวยอย่างที่แม่ว่าหรือเปล่า” วิชุดาเอ่ยถามลูกชายของเธอ ถึงความรู้สึกหลังได้เจอกับว่าที่เจ้าสาว เธอหวังว่าความสวยของมาลาแก้วจะช่วยให้ชนะศึก รู้สึกอยากแต่งงานขึ้นมาบ้าง แม้ว่ามาลาแก้วนั้นจะดูอ่อนต่อโลกเกินไปสักหน่อย แต่ก็นั่นแหละปัญหา เพราะลูกชายของเธอไม่ได้ชอบผู้หญิงประเภทนี้เสียด้วย “สวย แต่ไม่ชอบ ดูเป็นลูกแหง่เกินไป” ชนะศึกตอบตามตรง ปฏิเสธเรื่องความสวยของผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เลยจริงๆ เธอดูสวยโดยธรรมชาย แทบจะปราศจากการปรุงแต่งใดๆ หากไม่นับเสื้อผ้าและเครื่องประดับแบรนด์เนมบนตัวของเธอ ที่ดูก็รู้ว่าแม่คงจะเป็นคนเลือกและบังคับให้สวมมา “แม่ก็เพิ่งบอกไปไม่ใช่หรือไง ว่าบ้านนี้เขาเลี้ยงลูกแบบไข่ในหิน แต่ก็ดีแล้วโง่ๆ แบบนี้นี่แหละหลอกง่ายดี” “ผมแค่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น ตามที่แม่ต้องการ แต่ไม่รับปากว่าจะหลอกเธอ และขอบอกเอาไว้ก่อนว่าถ้าแม่บีบให้ผมหลอกเธอ ผมไม่ยอมแน่” “แหม ก็แค่พูดเฉยๆ แม่ก็หมายถึงเรื่องที่ว่า เขาจะได้ไม่รู้เรื่องที่บ้านเราถังแตกน่ะ” “แล้วที่แม่บอกว่า ผมไม่ต้องทนอยู่กับผู้หญิงคนนี้ไปตลอดชีวิต ผมจะเลิกกับเธอได้ตอนไหน” ชนะศึกรู้ในทันทีว่าเขาคงไม่สามารถใช้ชีวิตกับผู้หญิงคนนี้ได้นาน และข้อเสนอที่แม่บอกกับเขาว่า เมื่อแม่ของเขาได้สิ่งที่ต้องการแล้ว ก็อนุญาตให้เขาเลิกกับเธอได้ “ตอนที่แม่ได้หุ้นของพ่อคืนน่ะสิ” “แม่แน่ใจใช่ไหมว่าจะได้คืน” เขาไม่ค่อยเชื่อมั่นนักว่าแม่จะทำเรื่องนี้สำเร็จ ตั้งแต่โตมาเขาเห็นแม่ทำแค่ห้าที่แม่บ้านได้ดีที่สุด ยิ่งเมื่อพ่อตายไปแล้วแม่ทำทุกอย่างเละเทะไปหมด เขายิ่งมั่นใจว่าแม่เป็นได้แค่แม่บ้านที่ดูแลพ่อ ซึ่งก็ไม่ต่างจากตัวเขาเองนัก ตอนที่พ่อยังอยู่เขาจะเป็นลูกชายที่ไม่เอาไหนแค่ไหนก็ได้ เพราะมีพ่อคอยปูทางและดูแลให้ทุกอย่าง พอมาคิดๆ ดูแล้วเขาเองก็ไม่ได้ต่างจากผู้หญิงคนนั้นสักเท่าไร “แน่ใจสิ แม่ต้องทำทุกวิถีทางให้ได้คืนนั่นแหละ แม่เสียใจมากนะที่โง่โดนคนอื่นหลอกเอาสมบัติชิ้นสำคัญของพ่อไปแบบนั้น” วิชุดาอ้างกับลูกชายว่าเธอถูกหลอกขายหุ้นบริษัท ซึ่งชนะศึกเชื่อก็เพราะเห็นว่าแม่ของเขา ไม่มีความรู้เรื่องหุ้น “แล้วเรื่องนั้น แกจะเอายังไงต่อ” อยู่ๆ วิชุดาก็พูดเรื่องบางเรื่องขึ้นมา สีหน้าและแววตาของชนะศึกเปลี่ยนไปอย่างทันที เขาดูเจ็บปวดเมื่อรู้ว่าแม่กำลังพูดถึงเรื่องอะไร “แม่ไม่ต้องห่วงไปหรอก เรื่องนั้นผมจัดการของผมเอง” เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบ และเบือนหน้าหนีคนถาม ด้วยอยากซ่อนความรู้สึกที่มี “จะไม่ให้ห่วงได้ยังไง แกเป็นลูกฉันนะ” “จะเล่นบทแม่ที่แสนดีหรือไง แม่ก็มีส่วนทำให้เรื่องมันเป็นแบบนั้นนะ หวังว่าคงไม่ลืม” เขาหันไปพูดด้วยสายตาเย็นชา แต่ในใจลึกๆ ก็ยังคงรู้สึกโกรธอยู่ “ถึงฉันไม่ทำอะไรเลย เรื่องมันก็ต้องเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ควรจะขอบคุณฉันด้วยซ้ำ ที่ทำให้แกรู้เร็วขึ้น” “ถ้าอยากให้การคลุมถุงชนผ่านไปด้วยดี ถือว่าผมขอก็แล้วกันนะแม่ อย่าพูดถึงเรื่องนี้อีก” คนเป็นลูกชายยื่นคำขาด วิชุดายักไหล่เธอไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว ที่ถามก็แค่เป็นห่วงเท่านั้น แต่ดูจากคำตอบของลูกชายแล้ว คิดว่าปล่อยให้เขาจัดการปัญหานี้เองก็คงจะดีกว่า “แล้วได้แลกเบอร์ แลกไลน์กันเอาไว้หรือเปล่า แม่รู้สึกเหมือนไม่เห็นแกกับยัยหนูแก้วคุยกันเลย” “ก็แลกไว้ แต่ก็ตามที่แม่เห็น ไม่ได้คุยอะไรกันหรอก หน้าตายัยนั่นเหมือนพวกชอบคุยนักนี่” “แกก็ชวนเขาคุยสิ นี่คนจะแต่งงานกันมันก็ควรจะทำความรู้จักกันเอาไว้บ้าง อีกอย่างแกก็เป็นผู้ชาย จะไปหวังให้ผู้หญิงเริ่มก่อนได้ยังไง ยิ่งผู้หญิงไม่มีปากแบบนั้นด้วยแล้วนะ” วิชุดาต่อว่าลูกชายของเธอ “ยากกว่าที่คิดไว้เยอะเลย ถอนตัวตอนนี้ได้หรือเปล่า” ลูกชายแกล้งว่า “ไม่ได้!!!” ชนะศึกพยักหน้ารับ เขารู้สึกอึดอัดมากกับการตัดสินใจแบบนี้ คิดไปคิดมาแล้วก็รู้สึกผิด ที่แม่ของเขาทำอยู่รวมทั้งเขาที่ร่วมมืออยู่นั้น มันไม่ต่างอะไรกับการไปหลอกครอบครัวของคุณหญิงกันยาภรณ์เลย ไม่อยากจะคิดว่าถ้าอีกฝ่ายรู้เข้า เรื่องที่บ้านของเขาถังแตก จะว่ายังไงกัน เพราะเท่าที่ฟังแม่ของเขาเล่า เหมือนว่าทางนั้นจะยอมเอาลูกสาวมาแต่งงานด้วย ก็เพราะคิดว่าบ้านเขายังมีเงินเหมือนตอนที่พ่อยังอยู่ “อีกเรื่อง แม่คุยกับคุณกันยาแล้วนะ ว่าจะหาฤกษ์ที่เร็วที่สุดให้ แต่ถ้าไม่มีก็จะเอาฤกษ์สะดวก” วิชุดาบอกกับลูกชาย “เร็วที่สุดของแม่นี่มันเมื่อไหร่” “ใจแม่ก็อยากให้เป็นวันนี้พรุ่งนี้เลยน่ะสิ แต่คุณกันยาบอกว่าขอเวลาสักเดือน ให้แกทำความรู้จักกับลูกสาวเขาก่อน เพราะยัยเด็กแก้วนั่นยังไม่เคยมีแฟน” “มีแต่ไม่รู้เองหรือเปล่า” “ไม่มีทาง เด็กนั่นเชื่อฟังแม่มันอย่างกับอะไร ยังไงก็รีบๆ ทำความรู้จักกับเขาล่ะ แล้วก็ระวังอย่าหลุดพูดอะไรไปเชียว” “ผมกลายเป็นคนปากโป้งในสายตาแม่ตั้งแต่เมื่อไหร่” ลูกชายย้อนถาม “ก็เตือนไว้ก่อน แต่ก็รู้ว่าถ้าพลาดคนนี้แล้ว แม่หาคนอื่นแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว ที่สำคัญไปกว่านั้นเรามีเวลาไม่มากแล้ว แม่คงทำตัวเหมือนเดิมได้อีกไม่นาน วินก็รู้ว่าเราไม่เหลือเงินแล้ว” ชนะศึกพยักหน้ารับอีกครั้ง แม้เขาจะไม่อยากทำแบบนี้เลย แต่เพื่อแม่และเพื่อพ่อของเขาแล้ว ก็ต้องทำ แต่คงจะพยายามออกมาให้ไกลจากคำว่า หลอก ให้มากที่สุด เมื่อต้องทำความรู้จักกัน เขาคงไม่เสแสร้งเป็นคนอื่นเพื่อทำให้มาลาแก้วมาหลงรัก แต่จะเป็นตัวของตัวเอง ที่เย็นชาที่สุด ต่อให้เธอไม่รัก ก็หวังว่าเธอจะไม่เตลิดยกเลิกงานแต่งกับเขา ชนะศึกสัญญากับตัวเองว่า จะแต่งงานกับมาลาแก้วให้อยู่ด้วยกันในระยะเวลาที่สั้นที่สุด ซึ่งเขารู้ดีว่าแบบนั้นเขาก็ต้องหาทางช่วยแม่ในการเอาหุ้นคืนกลับมา และมันก็ไม่ง่ายเลย การจะได้หุ้นคืนนั้นต้องใช้เงินในจำนวนมาก เขาเองก็ต้องหาทางหาเงินด้วย และเขายังคิดอีกว่าลำพังแค่งานนิยายคงทำรายได้ได้ไม่มากพอที่เขาจะหาเงินไปซื้อหุ้นคืนแน่ๆ แต่คนอย่างเขาจะทำอะไรได้ จะให้ทำงานก็ไม่รู้ว่าจะทำได้หรือเปล่า เพราะนอกจากเขียนนิยาย เขาก็ไม่เคยทำงานอื่นเลย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD