ข้าทำอะไรผิดงั้นหรือ
ข้าเป็นลูกกตัญญูเชื่อฟังคำพ่อแม่ ตกลงแต่งงานกับคู่หมายที่พวกท่านเลือกให้อย่างสมัครใจ
ข้าไม่เคยแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวต่อสามี ทั้งรักและเคารพ สนับสนุนทุกอย่างที่เขาพึงปรารถนา
ข้าปฏิบัติตนเป็นแม่ศรีเรือนที่ดี ไม่ต่อปากต่อคำ สามีว่าเช่นไร ข้าว่าตามนั้นเสมอ
ทั้งๆ ที่ทำถึงขนาดนั้นเขาก็ยังกล้าหักหาญน้ำใจข้า! หรือในหัวใจของเขา...ไม่เคยมีข้าอยู่ตั้งแต่ต้น
ข้าไม่สามารถเติมเต็มความต้องการของเขากระทั่งนำพามาซึ่งอนุภรรยาหลายคนหรือไม่ ข้างามน้อยกว่าสตรีอื่นหรือไม่ชำนาญในเรื่องบนเตียงหรืออย่างไรกัน ข้าไม่เข้าใจว่าข้าบกพร่องตรงไหน!
“ซิงจิงของข้ายอดเยี่ยมที่สุด ในที่สุดข้าก็จะมีบุตรสืบสกุลคนแรก!”
สามีไม่เคยมีข้าอยู่ในสายตา เว้นอนุซิง ซุ่ยซิงจิง บุตรสาวคนเล็กของเศรษฐีร้านขายผ้า แต่งเข้าจวนตระกูลเซี่ยได้สามเดือน เป็นอนุลำดับที่สามของใต้เท้าเซี่ยเย้าเต๋อ
หลังก้าวเท้าเข้าจวนได้ไม่เท่าไหร่ นางก็ตั้งครรภ์ลูกคนแรกให้ตระกูลเซี่ยได้ชื่นใจ
มันก็ต้องเป็นเช่นนั้นอยู่แล้วสิ! ทุกคืนใต้เท้าเซี่ยมักนอนค้างอ้างแรมกับซุ่ยซิงจิง ไม่ยอมแวะเวียนมาหาข้าบ้างเลย ไม่แม้จะอยู่กินข้าวด้วยกันแม้สักมื้อด้วยซ้ำ
มันน่าเจ็บใจนัก!
ความหึงหวงผสมปนเปกับความโกรธแค้น อยากเอาชนะอนุซิง อยากยืนเป็นภรรยาเพียงหนึ่งเดียวของเซี่ยเย้าเต๋อ
“ฮูหยินมีเรื่องให้ข้าน้อยช่วยหรือ”
หลังจากแต่งเข้าสกุลเซี่ย บุรุษแปลกหน้าผู้หนึ่งก็ปรากฏตัวต่อหน้าข้า ข้าไม่เคยสังเกตเห็นเขามาก่อน กระทั่งได้เขาคอยช่วยเหลือและเป็นทาสผู้ซื่อสัตย์ภักดี คอยรองมือรองเท้า รองรับอารมณ์โกรธทุกอย่างของข้า
คราแรกข้าไม่รู้จักชื่อของเขา แต่จำสายตาดุดันที่เจือความจริงใจนั้นได้ ท่าทางสุขุมเยือกเย็น สูงสง่าผิดแปลกจากข้าทาสชายภายในจวนอย่างชัดเจน
รู้ตัวอีกที... ข้าก็มีเขาอยู่ข้างกายเสียแล้ว
“หลี่เฉียง ข้าอยากให้เจ้าเข้าหาอนุซิง”
“แต่ว่าอนุซิงตั้งครรภ์อยู่นะขอรับ”
“ช่างปะไร! ดีเสียอีกที่สร้างราคีให้นางในตอนนี้ ไม่แน่ว่าอาจสร้างความเคลือบแคลงสงสัยในตัวลูกของนางที่จะเกิดมา”
ความคิดชั่วร้ายผุดขึ้นแทบทุกวินาทีที่ข้าลืมตาตื่น ข้าต้องการทวงคืนของของข้า อำนาจและตำแหน่งนายหญิงของข้า เอามันคืนมา!
แต่ทว่า…กลับกลายเป็นข้าที่ลักลอบมีสัมพันธ์กับชายอื่นเสียเอง
“หญิงชั่วเช่นเจ้า! สมควรถูกแขวนคอประจานชาวเมือง เหตุใดถึงทำเรื่องน่าละอายเช่นนี้ในจวนของข้า”
“ขะ…ข้า ไม่ใช่นะเจ้าคะท่านพี่ ข้าไม่ได้ทำ”
“หลักฐานคาตาเช่นนี้ยังไม่ยอมรับผิด! เจ้ามันชั่วช้าจริงๆ หญิงแพศยา สารเลว”
“ท่านพี่”
“อย่ามาเรียกข้าว่าท่านพี่ ข้าไม่มีเมียสกปรกอย่างเจ้า!”
วาจาร้ายกาจเสียดแทงหู พร้อมรอยยิ้มเย้ยหยันจากสตรีต้นเหตุที่มองมาอย่างสะใจ ข้าในตอนนี้สูญเสียทุกอย่างจนหมดสิ้น ไม่เพียงสามีที่ไม่รัก แต่กับครอบครัวที่ไว้ใจก็เมินเฉยไม่สนใจข้าอีก
ข้าถูกทิ้งให้ตายช้าๆ ตายอย่างเดียวดาย ไร้คนอยู่เคียงข้าง
...........
......
“ฮูหยินหนอฮูหยิน ท่านทำตัวเองแท้ๆ คิดอยากทำร้ายข้าและลูก จิตใจของท่านช่างอำมหิตนัก”
“ข้าหรืออำมหิต! หากเจ้าไม่เข้ามาแทรกแซงครอบครัวของข้า ข้าก็คงจะไม่...กลายเป็นคนเช่นนี้ ไม่ต้องรู้สึกเหมือนตกนรกทั้งเป็นแบบนี้!!!”
“ช่วยไม่ได้นะ ก็ใต้เท้าเซี่ยรักข้ามากกว่านี่น่า แม้ชาติกำเนิดข้ามิได้สูงส่ง แต่กลับมีวาสนาเหนือฮูหยิน เช่นนั้นควรกล่าวโทษข้าหรือสวรรค์ดีเล่า”
นั่นสินะ... ควรกล่าวโทษใครดีเล่า
ร่างผอมบางค่อยเอนตัวลงนอนบนพื้นเย็นเฉียบ น้ำตาที่เหือดแห้งค่อยๆ ไหลออกมาช้าๆ ในใจตอนนี้เต็มไปด้วยรวดร้าว เจ็บปวดคล้ายหัวใจกำลังแตกสลายจนไม่สามารถประกอบคืนกลับเป็นเหมือนเดิมได้อีก
“อีกไม่นานท่านก็คงถูกกลับส่งตัวกลับจวนตระกูลฉิง โอ้ว! ข้าลืมไปเลย ตระกูลฉิงเองก็ตัดขาดท่านแล้วนี่ น่าสงสารนะ...ใครๆ ก็ล้วนไม่ต้องการหญิงแพศยาเช่นท่านแล้ว”
ซุ่ยซิงจิงหัวเราะอย่างสาแก่ใจ มือหนึ่งลูบท้องนูนใหญ่ ดวงตาเรียวเล็กชายตามองต่ำอย่างเยาะเย้ยและสุขใจในคราวเดียว จากนั้นโยนผ้าขาวผืนยาวลงตรงหน้า
“ท่านไม่เหลือทางเลือกอื่นแล้ว ยอมรับชะตากรรมของตัวเองแต่โดยดีเถิดนะ” กล่าวด้วยเสียงเย็นชาแล้วค่อยก้าวขาเดินออกจากห้องไป ขณะยืนยิ้มกว้างอยู่หน้าประตูก็ได้ยินเสียงคล้ายกลองม้าศึกดังมาทางเรือนด้านหน้า
ซุ่ยซิงจิงเดินออกไปทางหน้าจวน เห็นกลุ่มทหารและบุรุษในอาภรณ์สีดำสง่ายืนสนทนาอยู่กับสามีของตน คราแรกนึกชื่นชมในความหล่อเหลาไร้ที่ติของชายผู้นั้น แต่ทว่าเมื่อเพ่งมองดีๆ จึงจำได้
ชายผู้นั้นคือชู้รักของฮูหยิน!
“ข้ามารับตัวเมียของข้า”
“เมียรึ! นางเป็นเมียข้าหาใช่เมียเจ้า” เซี่ยเย้าเต๋อตะเบ็งเสียงดัง “ลักลอบมีสัมพันธ์กับภรรยาผู้อื่น ไม่มีความละอายใจบ้างหรือไง หน้าไม่อาย!”
“ไหนเมื่อเจ้าไม่ต้องการนางอยู่แล้ว ไยต้องเหนี่ยวรั้งนางไว้อีกเล่า หรือเพราะอำนาจของตระกูลฉิงมีมากจนต้องกักขังนางไว้เช่นนี้ หึ! เช่นนั้นแล้วใครกันแน่ที่น่าละอาย”
“นี่เจ้า!!!”
เห็นเซี่ยเย้าเต๋อทำท่าจะลงไม้ลงมือ ทหารที่ยืนอยู่ทางด้านหลังก็เตรียมจะชักกระบี่ขึ้นต่อกร แต่แล้วเสียงตะโกนด้วยความตกใจของสาวใช้ผู้หนึ่งก็เรียกความสนใจของคนทั้งหมดให้หันไปมอง
“ฮูหยิน!!! ฮูหยินผูกคอตาย! ใครก็ได้รีบมาช่วยเร็วเข้า!!!”