บทที่ 2 ถึงเวลาตัดใจ (2)

1768 Words
ปกติมื้อเที่ยงของวันทำงานประดับดาวจะไปกินข้าวที่โรงอาหารของไร่ ซึ่งเป็นสวัสดิการสำหรับพนักงาน กินฟรี ดื่มฟรี ไม่ต้องเสียเงิน แต่วันนี้รับปากป้าช้อยไว้ก็เลยมากินข้าวที่ร้านอาหารตามสั่งเจ้าดัง โดยมีหลานชายของป้าช้อยขับรถไปรับถึงไร่ เก่งกล้าไม่คิดว่าชีวิตนี้จะได้กลับมาทำงานที่บ้านเกิดอีก เขาดีใจมากที่ได้เจอกับเพื่อนสมัยเด็ก และไม่อยากจะเชื่อว่าคนน่ารักอย่างประดับดาวจะโสดสนิท ไม่รู้เธอรอดมาให้เขาจีบได้อย่างไร “กล้ามาอยู่ถาวรเลยใช่ไหม” หญิงสาวเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ การได้เจอเพื่อนเก่าทำให้เธอมีความสุขไม่น้อย คราแรกเธอแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง เก่งกล้าหล่อมาก หุ่นดีอย่างกับนายแบบ ถ้าไม่บอกนึกว่าดาราท่านหนึ่ง “ใช่ๆ กล้าเบื่อกรุงเทพฯ มากก็เลยตัดสินใจพาพ่อกลับมาอยู่ต่างจังหวัด” คนมีลักยิ้มมุมปากตอบกลับด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ดวงตาเอาแต่จ้องมองใบหน้าประดับดาวทำให้คนถูกมองแอบเขินไม่น้อย “กลับมาอยู่ด้วยกันดีแล้ว ป้าจะได้ไม่เหงา” “ครับป้าช้อย ผมเป็นห่วงป้าด้วยแหละ” “ไอ้หลานคนนี้อยู่เป็นจริงๆ เหมือนพ่อมันไม่มีผิด” “แล้วกล้าจะมาทำงานอะไร ต่างจังหวัดหางานยากนะ” “กล้าทำงานที่ไหนก็ได้ งานกล้าเป็นงานออนไลน์ อธิบายไงดี” “พูดมาเลยเราพร้อมฟัง” เก่งกล้าพยักหน้าให้ประดับดาว กำลังจะอ้าปากเล่าถึงอาชีพของตนเอง แต่กลับต้องหันไปมองตามเสียงของป้าช้อยแทน ประดับดาวเองก็งงเจ้านายเธอมาที่ร้านอาหารร้านนี้ทำไม ปกติตอนเที่ยงเขาจะกลับไปกินข้าวกับคุณยายไม่ใช่เหรอ “คุณเหนือมากินข้าวเที่ยงที่ร้านนี้เหมือนกันเหรอคะ” “ครับป้าช้อย” “ปกติดาวเห็นคุณเหนือกลับไปกินข้าวกับคุณยาย” “พอดีผมอยากเปลี่ยนบรรยากาศ” “อ้อค่ะ” “เจ้ากล้าไหว้คุณเหนือสิ คุณเหนือเป็นเจ้านายป้า” “สวัสดีครับคุณแสงเหนือ ผมได้ยินป้าช้อยพูดถึงบ่อยๆ ดีใจที่ได้เจอตัวจริง” เด็กอายุน้อยกว่ายกมือขึ้นมาไหว้คนแก่กว่าอย่างมีมารยาท เขาได้ยินชื่อแสงเหนือมานับครั้งไม่ถ้วน ไม่คิดว่าตัวจริงจะหล่อเหลาขนาดนี้ หล่อ สะอาด ดูดี ไม่มีตรงไหนบกพร่อง “สวัสดีครับคุณ...” แสงเหนือรับไหว้พลางตั้งคำถาม สาเหตุที่แท้จริงของการมากินข้าวนอกบ้านวันนี้ก็เพราะอยากเห็นใบหน้าหลานชายของป้าช้อย “ผมชื่อเก่งกล้าครับ เพิ่งย้ายกลับมาจากกรุงเทพฯ” “ถึงว่าไม่เคยเห็นหน้า เพิ่งย้ายกลับมานี่เอง” “ครับต่อไปคงได้เจอกันบ่อยขึ้น” ปากพูดกับเจ้านายป้าแต่ดวงตากลับจับจ้องไปที่ใบหน้าประดับดาว แสงเหนือเห็นแล้วแอบรู้สึกขัดใจแต่ทำอะไรไม่ได้ “งั้นผมไม่รบกวนแล้ว เชิญทุกคนตามสบายเลย” “เดี๋ยวค่ะคุณเหนือ ถ้าคุณเหนือไม่รังเกียจ มานั่งกับพวกเราได้นะคะ เก้าอี้ข้างหนูดาวยังว่าง” “ผมไม่รังเกียจหรอกครับป้าช้อย แต่หนูดาวของป้าช้อยจะสะดวกให้ผมนั่งด้วยรึเปล่า” “เชิญคุณเหนือนั่งตามสบาย ดาวจะไม่สะดวกได้ยังไง พูดแปลกๆ ทำเหมือนเราเป็นคนอื่น คุณเหนือเป็นเจ้านายดาวนะคะ” “นั่นสิครับ เจ้านายนั่งกับลูกน้องไม่สะดวกยังไง” “เนอะกล้า” “ใช่ครับดาว” “สองคนนี้ก็มัวแต่คุย เชิญนั่งค่ะคุณเหนือ” “ครับป้าช้อย งั้นมื้อนี้ผมเลี้ยงเอง อยากกินอะไรสั่งเต็มที่ถือเป็นการเลี้ยงต้อนรับคุณเก่งกล้ากลับบ้านเกิด” สองป้าหลานยกมือขึ้นมาไหว้ขอบคุณแสงเหนือด้วยความซาบซึ้งใจ วันนี้ลาภปากของแท้จริงๆ ส่วนประดับดาวก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตาพิมพ์ตอบแชตมือเป็นระวิง เวคินอยากชวนเธอไปเที่ยวทะเลอันดามันในโซนภาคใต้ แต่ยังไม่มั่นใจจะไปเที่ยวจังหวัดไหนดี ถึงได้ส่งสถานที่ท่องเที่ยวมาให้หญิงสาวช่วยเลือก ประดับดาวมัวแต่คุยกับเขาจึงไม่รู้ว่า ตอนนี้ผู้ชายสองคนในโต๊ะกำลังจ้องมองเธอ “ของป้าเอาแค่นี้แหละ แล้วหนูดาวล่ะ” “ดาวครับ ดาว” “คะ กล้าเรียกดาวเหรอ” “ครับ ดาวไม่สั่งอาหารเหรอ ทำไมดูยุ่งจัง” “นั่นสิคุณเวลากินข้าวไม่ต้องขยันหรอก” “ดาวไม่ได้ทำงานค่ะ กำลังคุยกับพี่เวย์ เรื่องสำคัญ” “เรื่องอะไร เอ่อคือตอนนี้เป็นเวลากินข้าวคุณควรโฟกัสเรื่องกินข้าว” ชายหนุ่มให้เหตุผลเพิ่มเติมหลังจากเห็นคนทั้งสามจ้องมาที่ตนเองด้วยความสงสัย ในใจนึกโมโหที่ประดับดาวเอาแต่คุยกับเวคิน “รับทราบค่ะคุณเจ้านาย” “ดาวจะสั่งอะไร เรา ป้าช้อย คุณเหนือสั่งหมดแล้ว” “กินอะไรดี เอาอันนี้แล้วกัน ผัดเผ็ดหมูป่า” “คุณกินเผ็ดไม่ค่อยได้ไม่ใช่เหรอ” “ค่ะ แต่วันนี้อยากเปลี่ยน เราควรลองอะไรใหม่ๆ ดูบ้าง” เธอไม่ได้หมายถึงอาหารอย่างเดียวแต่หมายถึงเรื่องหัวใจด้วย แสงเหนือถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเห็นแววตาของประดับดาว เขาไม่ชอบแววตาแบบนี้เลย เพราะมันทำให้คนมองรู้สึกไม่มีความสุข เจ็บในอกอย่างบอกไม่ถูก เก่งกล้าแอบสังเกตอยู่เงียบๆ สัมผัสได้ถึงความผิดปกติของคนทั้งสอง มันต้องมีอะไรในกอไผ่ ไหนป้าช้อยบอกว่าประดับดาวยังโสด แล้วทำไมเขารู้สึกเหมือนมีจงอางหวงไข่อยู่แถวนี้ “ตอนนี้ดาวทำงานอะไรอยู่เหรอ” “ทำงานเป็นแอดมินให้กับบริษัทของคุณเหนือ” “ดาวเรียนจบอะไรมา” “จบเกษตรแต่ทำงานไม่ตรงสาย ไม่เลือกงานไม่ยากจน” “ฮ่าๆๆ เรื่องจริงกล้าก็เหมือนกัน เรียนจบวิศวะแต่ทำงานเป็นนักวาดรูป” “จริงดิ งานแบบไหน ดูน่าสนใจจัง” “คืองานแบบนี้ เดี๋ยวเล่าให้ฟัง” เก่งกล้าเล่าเกี่ยวกับงานของตนเองให้ประดับดาวฟังด้วยความภาคภูมิใจ ถึงเขาจะทำงานอิสระแต่แลกมากับความสบายใจ ถามว่าค่าตอบแทนน้อยไหม ตอบเลยว่าอยู่ที่ความขยันล้วนๆ “น่าสนใจมากเลยกล้า เก่งสมชื่อ” “มันต้องใจรักถึงจะทำได้” “แล้วมีคนจองคิวให้วาดรูปตลอดไหม” “ไม่อยากจะขิง ยาวไปถึงปลายปีหน้า” “สุดยอดมากกล้า ทำได้ไงแบบนี้ก็รวยเละเลยสิ” หญิงสาวยิ่งฟังก็ยิ่งสนใจ อาชีพของเก่งกล้าถือว่าเป็นอะไรที่ใหม่มากสำหรับเธอ “เละอะใช่แต่รวยอะยัง” “รายได้ขนาดนี้ไม่รวยยังไงก่อน” “นี่รูปที่เราวาด สวยไหม” “โอ้โฮ สวยมาก” สองหนุ่มสาวคุยกันถูกคอหลงลืมไปว่าในโต๊ะอาหารนี้ยังอีกสองคนนั่งอยู่ด้วย ป้าช้อยนั่งมองหลานชายคุยกับเด็กสาวที่ตัวเองเอ็นดูด้วยสายตาเปี่ยมสุข ก่อนจะเอามือขึ้นมาป้องปากพูดกับแสงเหนือ “คุณเหนือว่าไหมคะ สองคนนี้ดูเข้ากันเหลือเกิน” “ครับ” “ถ้าได้แต่งงานกัน ลูกออกมาต้องน่ารักมากแน่” “...” “คุณเหนือไม่เห็นด้วยกับป้าเหรอคะ” “อาหารมาแล้วกินข้าวเถอะครับ” คนไม่อยากออกความเห็นเหลือบไปมองพนักงาน กำลังเดินมาทางนี้พอดีจึงเปลี่ยนเรื่องคุย ทั้งหมดกินข้าวได้ไม่กี่คำก็ต้องหันเหความสนใจไปทางประดับดาว ที่เกิดอาการไอเพราะอาหารรสจัด หลังจากหญิงสาวกินข้าวผัดเผ็ดหมูป่าเข้าไปคำเดียว ก็เกิดอาการแสบปากจึงคว้าน้ำมากระดกดื่มอย่างเร็วทำให้สำลัก ไอจนหน้าดำหน้าแดง น้ำมูกน้ำตาไหลอย่างน่าสงสาร แสงเหนือรีบดึงทิชชูยื่นให้ประดับดาวด้วยความไวแสง เหมือนว่ารอจังหวะอยู่ตลอดเวลาพร้อมกับเอามือไปลูบหลังอย่างอ่อนโยน ก่อนจะสลับจานข้าวบอกให้เธอกินข้าวของเขาแทน “แค่กๆ ทำไมเผ็ดจัง” “ไหวไหมคุณ” “ไหวค่ะ ดาวกินข้าวจานนั้นได้ค่ะ แค่กๆ” “อย่าดื้อสิคุณ เผ็ดจนหน้าแดงหูแดงไปหมด” “แค่กๆ ดาวเกรงใจ” “ทำตามที่ผมบอกคุณกินข้าวของผม” “แต่จานนั้นดาวกินไปแล้วนะคะ” “ผมไม่ถือ ห้ามเถียงผมจะกินข้าวจานนี้เอง” เจ้านายกับลูกน้องมัวแต่เถียงกันไปมาจึงไม่เห็นสายตาของคนร่วมโต๊ะทั้งสองที่กำลังจ้องด้วยความใคร่รู้ ตอนแรกป้าช้อยยังไม่เอะใจแต่จากเหตุการณ์เมื่อสักครู่บอกได้เลยว่า มันไม่ปกติ ส่วนเก่งกล้าเดาได้อยู่แล้วว่าต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลกับสองคนนี้ ในเมื่ออยากรู้ก็ต้องถาม เขาจะได้มีหนทางให้กับตัวเอง หากประดับดาวยังโสดจริงเขาจะจีบเธอ “ถ้าไม่รู้ว่าทั้งสองคนเป็นเจ้านายกับลูกน้อง นึกว่าเป็น...” “นึกว่าอะไรกล้า ทำไมมองแบบนั้น” “ก็นึกว่าเป็นแฟนกันนะสิ ดูคุณเหนือเอาใจใส่ดาวจัง” “ดาวกับคุณเหนือเป็นเจ้านายกับลูกน้องเท่านั้นแหละ” “จริงๆ ดูเหมือนเป็นแฟนกันมาก” “กล้าอย่าพูดไป เดี๋ยวคุณเหนือจะเสียหาย” “แสดงว่าดาวยังไม่มีใคร” “ดาวยังโสด” “เชื่อได้ไหมเนี่ย คนสวยแต่โสด” “เรื่องจริงโสดสนิท รอคอยเนื้อคู่อยู่เหมือนกัน” “งั้นกล้าขอจีบ ถ้าโสดจริงก็ต้องจีบได้” เก่งกล้าไม่ได้พูดเล่นทั้งน้ำเสียงและแววตาเต็มไปด้วยความจริงจัง เขาอยากจีบเธอ ขอแค่เธอให้โอกาสก็พอ ประดับดาวยิ้มแห้งไม่รู้จะให้คำตอบอย่างไรดี สุดท้ายก็เลือกจะพยักหน้า ไหนๆ เธอก็อยู่ในช่วงตัดใจ การลองเปิดใจให้ผู้ชายที่เข้ามาจีบอาจจะเป็นเรื่องที่ดี ใครจะไปรู้เก่งกล้าอาจจะเป็นเนื้อคู่ก็ได้ ส่วนแสงเหนือไม่ได้ออกความคิดเห็นก็จริง หากแต่สายตากลับแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่พอใจ สีหน้าบอกบุญไม่รับ ขนาดป้าช้อยที่เอาแต่ตั้งหน้าตั้งตากินข้าวยังสัมผัสได้ถึงรังสีอำมหิต ทว่าเรื่องของหัวใจคนแก่ไม่อยากเข้าไปยุ่ง ใครดีใครได้ ระหว่างเจ้านายกับหลานชาย อย่างไรคนเป็นป้าก็ต้องสนับสนุนหลานอยู่แล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD