ปกติมื้อเที่ยงของวันทำงานประดับดาวจะไปกินข้าวที่โรงอาหารของไร่ ซึ่งเป็นสวัสดิการสำหรับพนักงาน กินฟรี ดื่มฟรี ไม่ต้องเสียเงิน แต่วันนี้รับปากป้าช้อยไว้ก็เลยมากินข้าวที่ร้านอาหารตามสั่งเจ้าดัง โดยมีหลานชายของป้าช้อยขับรถไปรับถึงไร่
เก่งกล้าไม่คิดว่าชีวิตนี้จะได้กลับมาทำงานที่บ้านเกิดอีก เขาดีใจมากที่ได้เจอกับเพื่อนสมัยเด็ก และไม่อยากจะเชื่อว่าคนน่ารักอย่างประดับดาวจะโสดสนิท ไม่รู้เธอรอดมาให้เขาจีบได้อย่างไร
“กล้ามาอยู่ถาวรเลยใช่ไหม” หญิงสาวเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ การได้เจอเพื่อนเก่าทำให้เธอมีความสุขไม่น้อย คราแรกเธอแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง เก่งกล้าหล่อมาก หุ่นดีอย่างกับนายแบบ ถ้าไม่บอกนึกว่าดาราท่านหนึ่ง
“ใช่ๆ กล้าเบื่อกรุงเทพฯ มากก็เลยตัดสินใจพาพ่อกลับมาอยู่ต่างจังหวัด” คนมีลักยิ้มมุมปากตอบกลับด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ดวงตาเอาแต่จ้องมองใบหน้าประดับดาวทำให้คนถูกมองแอบเขินไม่น้อย
“กลับมาอยู่ด้วยกันดีแล้ว ป้าจะได้ไม่เหงา”
“ครับป้าช้อย ผมเป็นห่วงป้าด้วยแหละ”
“ไอ้หลานคนนี้อยู่เป็นจริงๆ เหมือนพ่อมันไม่มีผิด”
“แล้วกล้าจะมาทำงานอะไร ต่างจังหวัดหางานยากนะ”
“กล้าทำงานที่ไหนก็ได้ งานกล้าเป็นงานออนไลน์ อธิบายไงดี”
“พูดมาเลยเราพร้อมฟัง”
เก่งกล้าพยักหน้าให้ประดับดาว กำลังจะอ้าปากเล่าถึงอาชีพของตนเอง แต่กลับต้องหันไปมองตามเสียงของป้าช้อยแทน ประดับดาวเองก็งงเจ้านายเธอมาที่ร้านอาหารร้านนี้ทำไม ปกติตอนเที่ยงเขาจะกลับไปกินข้าวกับคุณยายไม่ใช่เหรอ
“คุณเหนือมากินข้าวเที่ยงที่ร้านนี้เหมือนกันเหรอคะ”
“ครับป้าช้อย”
“ปกติดาวเห็นคุณเหนือกลับไปกินข้าวกับคุณยาย”
“พอดีผมอยากเปลี่ยนบรรยากาศ”
“อ้อค่ะ”
“เจ้ากล้าไหว้คุณเหนือสิ คุณเหนือเป็นเจ้านายป้า”
“สวัสดีครับคุณแสงเหนือ ผมได้ยินป้าช้อยพูดถึงบ่อยๆ ดีใจที่ได้เจอตัวจริง” เด็กอายุน้อยกว่ายกมือขึ้นมาไหว้คนแก่กว่าอย่างมีมารยาท เขาได้ยินชื่อแสงเหนือมานับครั้งไม่ถ้วน ไม่คิดว่าตัวจริงจะหล่อเหลาขนาดนี้ หล่อ สะอาด ดูดี ไม่มีตรงไหนบกพร่อง
“สวัสดีครับคุณ...” แสงเหนือรับไหว้พลางตั้งคำถาม สาเหตุที่แท้จริงของการมากินข้าวนอกบ้านวันนี้ก็เพราะอยากเห็นใบหน้าหลานชายของป้าช้อย
“ผมชื่อเก่งกล้าครับ เพิ่งย้ายกลับมาจากกรุงเทพฯ”
“ถึงว่าไม่เคยเห็นหน้า เพิ่งย้ายกลับมานี่เอง”
“ครับต่อไปคงได้เจอกันบ่อยขึ้น” ปากพูดกับเจ้านายป้าแต่ดวงตากลับจับจ้องไปที่ใบหน้าประดับดาว แสงเหนือเห็นแล้วแอบรู้สึกขัดใจแต่ทำอะไรไม่ได้
“งั้นผมไม่รบกวนแล้ว เชิญทุกคนตามสบายเลย”
“เดี๋ยวค่ะคุณเหนือ ถ้าคุณเหนือไม่รังเกียจ มานั่งกับพวกเราได้นะคะ เก้าอี้ข้างหนูดาวยังว่าง”
“ผมไม่รังเกียจหรอกครับป้าช้อย แต่หนูดาวของป้าช้อยจะสะดวกให้ผมนั่งด้วยรึเปล่า”
“เชิญคุณเหนือนั่งตามสบาย ดาวจะไม่สะดวกได้ยังไง พูดแปลกๆ ทำเหมือนเราเป็นคนอื่น คุณเหนือเป็นเจ้านายดาวนะคะ”
“นั่นสิครับ เจ้านายนั่งกับลูกน้องไม่สะดวกยังไง”
“เนอะกล้า”
“ใช่ครับดาว”
“สองคนนี้ก็มัวแต่คุย เชิญนั่งค่ะคุณเหนือ”
“ครับป้าช้อย งั้นมื้อนี้ผมเลี้ยงเอง อยากกินอะไรสั่งเต็มที่ถือเป็นการเลี้ยงต้อนรับคุณเก่งกล้ากลับบ้านเกิด”
สองป้าหลานยกมือขึ้นมาไหว้ขอบคุณแสงเหนือด้วยความซาบซึ้งใจ วันนี้ลาภปากของแท้จริงๆ ส่วนประดับดาวก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตาพิมพ์ตอบแชตมือเป็นระวิง
เวคินอยากชวนเธอไปเที่ยวทะเลอันดามันในโซนภาคใต้ แต่ยังไม่มั่นใจจะไปเที่ยวจังหวัดไหนดี ถึงได้ส่งสถานที่ท่องเที่ยวมาให้หญิงสาวช่วยเลือก ประดับดาวมัวแต่คุยกับเขาจึงไม่รู้ว่า ตอนนี้ผู้ชายสองคนในโต๊ะกำลังจ้องมองเธอ
“ของป้าเอาแค่นี้แหละ แล้วหนูดาวล่ะ”
“ดาวครับ ดาว”
“คะ กล้าเรียกดาวเหรอ”
“ครับ ดาวไม่สั่งอาหารเหรอ ทำไมดูยุ่งจัง”
“นั่นสิคุณเวลากินข้าวไม่ต้องขยันหรอก”
“ดาวไม่ได้ทำงานค่ะ กำลังคุยกับพี่เวย์ เรื่องสำคัญ”
“เรื่องอะไร เอ่อคือตอนนี้เป็นเวลากินข้าวคุณควรโฟกัสเรื่องกินข้าว” ชายหนุ่มให้เหตุผลเพิ่มเติมหลังจากเห็นคนทั้งสามจ้องมาที่ตนเองด้วยความสงสัย ในใจนึกโมโหที่ประดับดาวเอาแต่คุยกับเวคิน
“รับทราบค่ะคุณเจ้านาย”
“ดาวจะสั่งอะไร เรา ป้าช้อย คุณเหนือสั่งหมดแล้ว”
“กินอะไรดี เอาอันนี้แล้วกัน ผัดเผ็ดหมูป่า”
“คุณกินเผ็ดไม่ค่อยได้ไม่ใช่เหรอ”
“ค่ะ แต่วันนี้อยากเปลี่ยน เราควรลองอะไรใหม่ๆ ดูบ้าง”
เธอไม่ได้หมายถึงอาหารอย่างเดียวแต่หมายถึงเรื่องหัวใจด้วย แสงเหนือถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเห็นแววตาของประดับดาว
เขาไม่ชอบแววตาแบบนี้เลย เพราะมันทำให้คนมองรู้สึกไม่มีความสุข เจ็บในอกอย่างบอกไม่ถูก
เก่งกล้าแอบสังเกตอยู่เงียบๆ สัมผัสได้ถึงความผิดปกติของคนทั้งสอง มันต้องมีอะไรในกอไผ่ ไหนป้าช้อยบอกว่าประดับดาวยังโสด แล้วทำไมเขารู้สึกเหมือนมีจงอางหวงไข่อยู่แถวนี้
“ตอนนี้ดาวทำงานอะไรอยู่เหรอ”
“ทำงานเป็นแอดมินให้กับบริษัทของคุณเหนือ”
“ดาวเรียนจบอะไรมา”
“จบเกษตรแต่ทำงานไม่ตรงสาย ไม่เลือกงานไม่ยากจน”
“ฮ่าๆๆ เรื่องจริงกล้าก็เหมือนกัน เรียนจบวิศวะแต่ทำงานเป็นนักวาดรูป”
“จริงดิ งานแบบไหน ดูน่าสนใจจัง”
“คืองานแบบนี้ เดี๋ยวเล่าให้ฟัง”
เก่งกล้าเล่าเกี่ยวกับงานของตนเองให้ประดับดาวฟังด้วยความภาคภูมิใจ ถึงเขาจะทำงานอิสระแต่แลกมากับความสบายใจ ถามว่าค่าตอบแทนน้อยไหม ตอบเลยว่าอยู่ที่ความขยันล้วนๆ
“น่าสนใจมากเลยกล้า เก่งสมชื่อ”
“มันต้องใจรักถึงจะทำได้”
“แล้วมีคนจองคิวให้วาดรูปตลอดไหม”
“ไม่อยากจะขิง ยาวไปถึงปลายปีหน้า”
“สุดยอดมากกล้า ทำได้ไงแบบนี้ก็รวยเละเลยสิ” หญิงสาวยิ่งฟังก็ยิ่งสนใจ อาชีพของเก่งกล้าถือว่าเป็นอะไรที่ใหม่มากสำหรับเธอ
“เละอะใช่แต่รวยอะยัง”
“รายได้ขนาดนี้ไม่รวยยังไงก่อน”
“นี่รูปที่เราวาด สวยไหม”
“โอ้โฮ สวยมาก”
สองหนุ่มสาวคุยกันถูกคอหลงลืมไปว่าในโต๊ะอาหารนี้ยังอีกสองคนนั่งอยู่ด้วย ป้าช้อยนั่งมองหลานชายคุยกับเด็กสาวที่ตัวเองเอ็นดูด้วยสายตาเปี่ยมสุข ก่อนจะเอามือขึ้นมาป้องปากพูดกับแสงเหนือ
“คุณเหนือว่าไหมคะ สองคนนี้ดูเข้ากันเหลือเกิน”
“ครับ”
“ถ้าได้แต่งงานกัน ลูกออกมาต้องน่ารักมากแน่”
“...”
“คุณเหนือไม่เห็นด้วยกับป้าเหรอคะ”
“อาหารมาแล้วกินข้าวเถอะครับ”
คนไม่อยากออกความเห็นเหลือบไปมองพนักงาน กำลังเดินมาทางนี้พอดีจึงเปลี่ยนเรื่องคุย ทั้งหมดกินข้าวได้ไม่กี่คำก็ต้องหันเหความสนใจไปทางประดับดาว ที่เกิดอาการไอเพราะอาหารรสจัด
หลังจากหญิงสาวกินข้าวผัดเผ็ดหมูป่าเข้าไปคำเดียว ก็เกิดอาการแสบปากจึงคว้าน้ำมากระดกดื่มอย่างเร็วทำให้สำลัก ไอจนหน้าดำหน้าแดง น้ำมูกน้ำตาไหลอย่างน่าสงสาร
แสงเหนือรีบดึงทิชชูยื่นให้ประดับดาวด้วยความไวแสง เหมือนว่ารอจังหวะอยู่ตลอดเวลาพร้อมกับเอามือไปลูบหลังอย่างอ่อนโยน ก่อนจะสลับจานข้าวบอกให้เธอกินข้าวของเขาแทน
“แค่กๆ ทำไมเผ็ดจัง”
“ไหวไหมคุณ”
“ไหวค่ะ ดาวกินข้าวจานนั้นได้ค่ะ แค่กๆ”
“อย่าดื้อสิคุณ เผ็ดจนหน้าแดงหูแดงไปหมด”
“แค่กๆ ดาวเกรงใจ”
“ทำตามที่ผมบอกคุณกินข้าวของผม”
“แต่จานนั้นดาวกินไปแล้วนะคะ”
“ผมไม่ถือ ห้ามเถียงผมจะกินข้าวจานนี้เอง”
เจ้านายกับลูกน้องมัวแต่เถียงกันไปมาจึงไม่เห็นสายตาของคนร่วมโต๊ะทั้งสองที่กำลังจ้องด้วยความใคร่รู้ ตอนแรกป้าช้อยยังไม่เอะใจแต่จากเหตุการณ์เมื่อสักครู่บอกได้เลยว่า มันไม่ปกติ
ส่วนเก่งกล้าเดาได้อยู่แล้วว่าต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลกับสองคนนี้ ในเมื่ออยากรู้ก็ต้องถาม เขาจะได้มีหนทางให้กับตัวเอง หากประดับดาวยังโสดจริงเขาจะจีบเธอ
“ถ้าไม่รู้ว่าทั้งสองคนเป็นเจ้านายกับลูกน้อง นึกว่าเป็น...”
“นึกว่าอะไรกล้า ทำไมมองแบบนั้น”
“ก็นึกว่าเป็นแฟนกันนะสิ ดูคุณเหนือเอาใจใส่ดาวจัง”
“ดาวกับคุณเหนือเป็นเจ้านายกับลูกน้องเท่านั้นแหละ”
“จริงๆ ดูเหมือนเป็นแฟนกันมาก”
“กล้าอย่าพูดไป เดี๋ยวคุณเหนือจะเสียหาย”
“แสดงว่าดาวยังไม่มีใคร”
“ดาวยังโสด”
“เชื่อได้ไหมเนี่ย คนสวยแต่โสด”
“เรื่องจริงโสดสนิท รอคอยเนื้อคู่อยู่เหมือนกัน”
“งั้นกล้าขอจีบ ถ้าโสดจริงก็ต้องจีบได้”
เก่งกล้าไม่ได้พูดเล่นทั้งน้ำเสียงและแววตาเต็มไปด้วยความจริงจัง เขาอยากจีบเธอ ขอแค่เธอให้โอกาสก็พอ
ประดับดาวยิ้มแห้งไม่รู้จะให้คำตอบอย่างไรดี สุดท้ายก็เลือกจะพยักหน้า ไหนๆ เธอก็อยู่ในช่วงตัดใจ การลองเปิดใจให้ผู้ชายที่เข้ามาจีบอาจจะเป็นเรื่องที่ดี ใครจะไปรู้เก่งกล้าอาจจะเป็นเนื้อคู่ก็ได้
ส่วนแสงเหนือไม่ได้ออกความคิดเห็นก็จริง หากแต่สายตากลับแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่พอใจ สีหน้าบอกบุญไม่รับ
ขนาดป้าช้อยที่เอาแต่ตั้งหน้าตั้งตากินข้าวยังสัมผัสได้ถึงรังสีอำมหิต ทว่าเรื่องของหัวใจคนแก่ไม่อยากเข้าไปยุ่ง
ใครดีใครได้ ระหว่างเจ้านายกับหลานชาย อย่างไรคนเป็นป้าก็ต้องสนับสนุนหลานอยู่แล้ว