เมื่อวันเกิดคุณยายดวงเดือนมาถึง ลูกหลานก็พากันมาอวยพรพร้อมหน้าพร้อมตา คุณยายมีลูกสาวเพียงคนเดียว
หลังจากลูกแต่งงานไปอยู่กับสามี ท่านก็อยู่ลำพังกับคุณตา จนกระทั่งคุณตาป่วยด้วยโรคชราแล้วจากไปในวัยเก้าสิบปี
ตอนนั้นคุณยายอายุเจ็ดสิบปี ตอนนี้อายุเจ็บสิบห้า ท่านกับสามีอายุห่างกันเยอะพอสมควร แต่เรื่องของหัวใจไม่เกี่ยวกับอายุถึงได้ครองรักกันมายาวนาน
หลังจากทุกคนเข้าไปกราบท่านและอวยพรเสร็จก็ถึงคราวของงานเลี้ยง ประดับดาวมองหาโอกาสที่จะเข้าไปสารภาพรัก ทว่าไม่ง่ายเลยเมื่อเห็นแสงเหนือเอาแต่นั่งคุยกับครอบครัวไม่ยอมลุกไปไหน วันนี้เธอแต่งตัวสวยเป็นพิเศษ แต่งหน้าจัดเต็มอีกต่างหาก หวังจะใช้ความสวยไปพิชิตใจเขา
เธอรออย่างใจจดใจจ่อจนสุดท้ายโอกาสมาถึง เมื่อเห็นแสงเหนือเดินเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ ประดับดาวรีบลุกจากเก้าอี้แล้วเดินตามไปพร้อมดอกกุหลาบหนึ่งช่อใหญ่ที่ตัดมาจากสวน
หญิงสาวนั่งรอชายหนุ่มตรงโซฟาด้วยความตื่นเต้น มือไม้เย็นเฉียบราวกับจุ่มลงในถังน้ำแข็ง
ใจดวงน้อยเต้นแทบไม่เป็นจังหวะกับภารกิจสำคัญของชีวิต รอจนกระทั่งเห็นเขาเดินออกมาจากห้องน้ำ
“มานั่งทำอะไรตรงนี้ประดับดาว”
“ดาวมีเรื่องจะคุยกับคุณเหนือค่ะ”
“มีเรื่องอะไร คุณไม่ได้ไปก่อเรื่องใช่ไหม”
“ดาวโตแล้วนะคะไม่ใช่เด็กจะได้ไปทะเลาะกับคนอื่น”
“แล้วมีเรื่องอะไรจะพูดก็ว่ามาผมให้เวลาสองนาที”
“เอ่อคือดาว”
“หนึ่ง”
“ดาว”
“สอง”
“ดาวรักคุณเหนือค่ะ”
“...”
“ดาวแอบรักคุณเหนือมานานแล้ว เป็นแฟนกับดาวได้ไหมคะ”
“ประดับดาว เธอเป็นผู้หญิงแบบไหน ไม่อายเลยเหรอ”
“ทำไมต้องอาย รักก็บอกว่ารัก คุณเหนือจะรับรักดาวไหม”
“ผมไม่รับ คุณไปรักคนอื่นเถอะ”
“คุณเหนือ” เสียงหวานขาดห้วงเอ่ยเรียกชื่อเขาอย่างแผ่วเบา คำตอบของแสงเหนือทำให้ประดับดาวน้ำตาคลอ ก่อนจะทิ้งช่อดอกไม้ลงข้างตัวด้วยความรู้สึกเสียใจ
นี่ใช่ไหมที่เขาเรียกว่า อกหัก เธอพูดไม่ออกกลายเป็นคนใบ้กิน หลังจากคนตัวโตเดินจากไปอย่างไม่ไยดี
หญิงสาวนั่งยองๆ มองดอกกุหลาบที่นอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้นพลางร้องไห้โฮ มือสวยเอื้อมไปคว้าช่อดอกไม้มากอด ก่อนจะพาตัวเองออกจากบ้านหลังใหญ่ แล้วเดินไปตามทางเพื่อกลับบ้านของตัวเอง ระหว่างทางเธอได้ต่อสายหาเพื่อนสนิทเพื่อระบายความในใจ
‘ฮัลโหลดาวว่าไง’
“...”
‘ดาวทำไมเงียบ เป็นไงบ้าง’
“ฮือ ฮึก หวานคุณเหนือเขา ฮึก”
‘คุณเหนือทำไมแก’
“เขาหักอกฉัน ฮือ แกฉันเสียใจ”
‘โธ่ดาวไม่เป็นไรนะ’
“ฮึกฮือ ฉันถูกปฏิเสธ”
‘ไม่เป็นไรๆ แกยังมีฉัน’
เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของประดับดาวดังไม่หยุด ตาหวานพยายามปลอบใจแต่ไม่ได้ผล
ประดับดาวเดินน้ำตานองหน้ากลับไปถึงบ้านด้วยความเสียใจ รักครั้งแรกพังไม่เป็นท่า เธอถูกผู้ชายที่แอบรักมาหลายปีปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย
หญิงสาวร้องไห้หนัก น้ำมูกน้ำตาไหลเหมือนช่วงที่ญาติเพียงคนเดียวเสียชีวิต จนมาสคาราที่ตกแต่งดวงตาไว้อย่างประณีต ไหลลงมาเปื้อนสองแก้มเป็นคราบสีดำเลอะเทอะ ดูไม่จืด
‘ร้องไห้ให้พอนะดาว พรุ่งนี้แกต้องไม่ร้องไห้อีก’
“ฮึก ฉะ...ฉันจะร้องไห้คืนนี้ คะ...คืนเดียวเท่านั้น ฮึก พะ...พรุ่งนี้ฉันจะไม่ร้องไห้ ฮือ”
‘แกต้องตัดใจ ฉันเชื่อแกทำได้ ผู้ที่ดีคือผู้ใหม่ เชื่อฉัน’
“ใช่ ฮึก ผู้ที่ดีคือผู้ใหม่”
‘เก่งมาก แกทำได้ดาว เชื่อฉัน’
“ฮึก ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ฉะ...ฉันจะไม่รักเขาอีก ฉะ...ฉันจะตัดใจ”
ทางด้านคนที่ไม่รับรักหลังจากงานเลี้ยงจบลง ก็รีบกลับขึ้นไปบนห้องนอนของตัวเอง แล้วเดินไปหยุดยืนตรงกรอบหน้าต่าง
เขาเห็นแสงไฟมาจากบ้านของเธอ ก่อนจะสะบัดหน้าเบาๆ พร้อมกับบอกตัวเองว่า ที่ปฏิเสธน่ะถูกแล้ว ประดับดาวจะได้ตัดใจ ไปรักผู้ชายคนใหม่
หารู้ไม่หากย้อนเวลากลับมาได้
คืนนี้เขาจะไม่มีทางพูดคำนี้กับเธอ