“ฮือๆๆๆๆ เจ๊เปา พลอยอยากฆ่าคน ฮือๆๆๆ ฆ่าคนจะติดคุกใช่ไหม ฮือๆๆ”
เมื่อเดินกลับมาที่ห้องแต่งตัวพลอยใสก็เอาแต่คร่ำครวญว่าอยากฆ่าคน แต่กลับไม่เล่าอะไรให้เจ๊เปาฟังสักนิด ทำเอาคนที่นั่งฟังดาราสาวคร่ำครวญมาร่วมสิบนาทีถึงกับทนไม่ไหว
“หยุดเดี๋ยวนี้เลยพลอยใส!! แล้วเล่ามา ใครทำอะไรเรา เดี๋ยวพี่จะไปจัดการมันให้เดี๋ยวนี้!!”
เจ๊เปาบอกออกมาอย่างเหลืออด พร้อมทั้งตั้งท่ารอให้หญิงสาวบอกออกมาแล้วตนจะไปจัดการให้ทันที
“ฮือๆๆๆ ไอ้หน้าโหดนั่นมันลวนลามพลอยคะพี่เปา กลางเวทีเลยคะ ฮือๆๆๆๆ”
พลอยใสบอกออกมาทำเอาเจ๊เปาถึงกับตกใจที่มีเรื่องเกิดขึ้นกลางเวทีโดยที่ไม่มีใครรู้แบบนี้ ก่อนที่พลอยใสจะสงบสติอารมณ์ของตนเองได้แล้วเล่าให้เปาฟังทั้งหมด
“ไหนๆๆ คนไหนมาชี้ตัวสิ!!”
เจ๊เปาบอกออกมาพร้อมหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาหาข่าวของวันนี้ ก่อนที่ภาพถ่ายในงานจะปรากฏขึ้น พลอยใสรีบชี้ให้เปาดูทันที
“อะ อะไรนะ นี่มันเจ้าของบริษัทนี่พลอย เราเข้าใจอะไรผิดรึเปล่า เขาไม่มีวันมาทำแบบนี้หรอกน่า คงจะแค่มือไปโดนแหละอย่าคิดมากๆ คงไม่ได้เจอกันอีกแล้วละ”
เจ๊เปาบอกออกมาอย่างไม่เชื่อที่พลอยใสพูดว่าคนอย่างโลเวลจะมาลวนลามดาราสาวของเธอ เพราะพอจะรู้จักมาเฟียหนุ่มนักธุรกิจคนนี้มาบ้างว่าผู้หญิงที่เขาควงแต่ละคนนั้นมีแต่ดารานางแบบแนวหน้าของโลกทั้งนั้น เมื่อเจ๊เปาบอกว่าไม่เชื่อพลอยใสจึงไม่อยากคุยเรื่องนี้แล้ว หญิงสาวลุกขึ้นเดินสะบัดตูดหนีออกมาขึ้นรถทันที เพราะวันนี้เธอไม่มีงานต่อ กะว่าจะไปพักผ่อนเสียหน่อย
ทางด้านโลเวลนั้นเพียงแต่ชั่วโมงกว่าๆมาเฟียหนุ่มก็เดินทางมาถึงยังสถานที่นัดพบเป็นที่เรียบร้อยพร้อมกับอเดลและการ์ดอีกจำนวนหนึ่ง
“มันยอมบอกรึเปล่าว่าทำไมถึงหนีมากบดานอยู่ที่นี่”
อเดลถามออกมาทันทีที่เดินเข้ามายังโกดังร้างในป่าที่ขังแดเนียลเอาไว้
“ไม่บอครับ มันไม่บอกอะไรเลย เอาแต่เงียบ”
สมุนหนึ่งในนั้นของมาเฟียหนุ่มบอกออกมา จากนั้นก็เดินนำพาสองหนุ่มเข้าไปหาแดเนียลในโกดัง
“หึหึ เป็นไงบ้างแก หนีมาซะไกลเลยนะ แต่ก็หนีไม่พ้นอยู่ดี ทำให้เรื่องยุ่งยากซะเปล่า”
โลเวลพูดออกมาทันทีที่เดินเข้ามาเจอกับร่างกายบวมช้ำของแดเนียลที่โดนลูกน้องของเขาเล่นงานแทบปางตาย
“..............”
ไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกมาจากปากแดเนียลสักนิด สมแล้วที่เคยเป็นมือขวาของมาเฟียเก่า อันที่จริงนั้นที่โลเวลต้องตามแดเนียลมาถึงที่ประเทศไทยเพราะว่ามีสายรายงานว่ากลุ่มมาเฟียที่แดเนียลสังกัดอยู่ยังมีทายาทหลงเหลือ แต่โลเวลไม่รู้ว่าใครและมีแต่แดเนียลเท่านั้นที่รู้ เขาจึงตามแดเนียลมาเผื่อว่าจะเจอเบาะแส แต่ก็เปล่าประโยชน์อยู่ดี
“มันไม่พูดก็ยิงทิ้งซะ!!”
โลเวลบอกออกมาก่อนที่อเดลจะหยิบปืนจากลูกน้องมาเล็งไปที่แดเนียลแล้วเหนี่ยวไกทันทีพร้อมกับที่ร่างไร้วิญญาณล้มตึงลงไปจนเลือดไหลอาบพื้น จากนั้นทั้งสองหนุ่มก็พากันเดินออกมาจากโกดังร้างนั้นไปเพื่อให้ลูกน้องได้เก็บกวาดให้หมดสิ้น
“แล้วนายจะเอาไงต่อ ไอ้แดเนียลมันไม่ยอมบอก อย่างนี้นายก็ยังตกอยู่ในอันตรายอยู่”
อเดลบอกออกมาอย่างกังวล เมื่อข่าวที่ได้มาว่าทายาทมาเฟียที่โลเวลคิดว่าฆ่าทิ้งไปหมดแล้วจะยังหลงเหลืออยู่จริงๆ
“อืม ฉันว่ามันต้องมีอะไรเกี่ยวกับประเทศนี้แน่นอน กลับกันก่อนเถอะ”
โลเวลบอกออกมาพร้อมกับเดินนำอเดลไปขึ้นรถ
“ไปสนามบิน”
โลเวลสั่งพร้อมกับเอนหลังพิงนึกถึงเรื่องของทายาทมาเฟียที่ต้องตามล่าเขาอยู่แน่ๆอย่างเป็นกังวล เพราะเขานั้นถือว่าอยู่ในที่แจ้ง ส่วนอีกฝ่ายนั้นอยู่ในที่มืด ยากนักที่จะต่อสู้
“อะไรนะ!! นี่นายไม่คิดจะพักที่นี่สักคืนเหรอ ที่นี่น่าเที่ยวมากนะยิ่งตอนกลางคืนสาวๆเพียบเลยนะโลเวล”
อเดลพูดออกมาเสียงดังเมื่อมาเฟียหนุ่มบอกว่าจะกลับกรุงเทพฯเลยทั้งๆที่เขาอุตส่ารอให้ถึงเวลานี้มาตั้งแต่เครื่องลงแล้วว่าจะหอบหิ้วสาวสักคนสองคนกลับห้องด้วย
“อยากอยู่ต่อก็ได้ไม่ว่า แต่ฉันจะกลับ”
โลเวลบอกออกมาเพียงเท่านี้ก่อนจะแกล้งหลับตาลงไม่อยากสนใจเสียงบ่นของอเดลอีกต่อไป
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
เมื่อรถของมาเฟียหนุ่มขับมาตามทางที่จะตรงไปยังสนามบินเรื่อยๆกลับมีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด พร้อมกับรถของเหล่าสมุนของมาเฟียหนุ่มเริ่มปัดส่ายไปมาก่อนจะหลบจอดข้างทางเมื่อถนนสายนี้ค่อนข้างเปลี่ยว แต่ก็ยังเหลือรถที่ติดตามอยู่อีก 5-6 คัน
“เสียงปืน โลเวลระวังตัวด้วย...ขับเร็วกว่านี้ แซงขึ้นไปข้างหน้าเลยพวกมันอยู่ข้างหลังรีบไปให้ถึงสนามบิน เร็วเข้า!!”
อเดลสั่งออกมาเสียงดังก่อนจะชักปืนออกมาเตรียมพร้อมไม่แพ้โลเวลที่ชักออกมาตั้งแต่ได้ยินเสียงปืนนัดแรกดังขึ้นแล้ว
“พวกมันคงตามมานานแล้ว เพราะฉันสังเกตเห็นมาสักพักแล้ว นี่ก็แสดงว่าเรื่องทายาทเป็นความจริงร้อยเปอร์เซ็นสินะ หึหึ ก็ดี จะได้สะสางให้จบๆไปซะ!”
โลเวลบอกออกมาพร้อมกับหันหลังกลับไปมองรถสองคันที่ขับตามพวกของตนมาไม่ห่างก่อน ก่อนที่พวกมันจะกราดยิงออกมาอีกครั้งทำเอารถของลูกน้องชายหนุ่มนั้นตกข้างทางไปอีกสองคัน
“หาที่จอด ฉันจะสู้กับพวกมันเอง ข้างหน้าจอดเลย!!!”
เมื่อเสียงประกาศิตสั่งออกมา คนขับรถรีบหักรถจอดกลางถนนทันที ทำเอารถที่ขับตามๆกันมาพากันเบรกแทบไม่ทัน
ปัง!ปัง!ปัง!ปัง!ปัง!ปัง!
สองหนุ่มลงจากรถพร้อมกับกราดกระสุนยิงกลับไม่ยั้งเหมือนกัน ทำเอารถที่ขับตามมาเสียหลังพลิกลงข้างทางไปทั้งสองคัน ก่อนที่ลูกน้องของมาเฟียหนุ่มนั้นจะพากันวิ่งไปดูที่รถของฝั่งตรงข้ามเมื่อไม่เห็นมีเสียงโต้กลับมา
“พวกมันคงหนีไปได้ครับ ส่วนที่เหลือตายหมด แต่...ไอ้นี่มันยังไม่ตายครับนาย”
หนึ่งในลูกน้องที่วิ่งมาสำรวจก่อนที่โลเวลกับอเดลจะตามมาเอ่ยขึ้นเสียงดังก่อนจะหันไปเห็นอีกหนึ่งคนยังคงหายใจ
“เอามันขึ้นมา”
เสียงเรียบบอกขึ้นอย่างระงับอารมณ์โกรธที่พวกของตนถูกโจมตีแบบนี้
“ใครเป็นคนสั่ง!!”
เมื่อจับมันลุกขึ้นมาได้ มาเฟียหนุ่มจึงถามออกมาเสียงเย็นว่าใครเป็นคนสั่งกันแน่ก่อนจะจ่อปืนไปที่หัวของฝ่ายตรงข้าม แต่เมื่อไม่ได้รับคำตอบเขาก็ลั่นไกปลิดชีวิตมันทันที พร้อมกับเดินไปขึ้นรถเพื่อตรงไปสนามบิน
มาเฟียหนุ่มนั่งเครื่องมาแค่ชั่วโมงกว่าๆด้วยเครื่องบินเล็กส่วนตัว และให้คนขับรถขับตรงมาที่โรงแรมเลยโดยไม่ต้องแวะที่ไหนอีก ทำเอาอเดลที่หิวข้าวอยากแย้งขึ้นมา แต่ก็ได้แต่เงียบเอาไว้ เพราะดูท่าโลเวลจะรีบจริงๆเพราะเร่งการเดินทางเหลือเกิน
เมื่อมาถึงโรงแรมโลเวลรีบเดินขึ้นไปบนห้องทันทีโดยไม่รออเดลเลยสักนิด ทำเอาอเดลถึงกับมึนงงออกมาเป็นรอบที่เท่าไหร่ของวันแล้วไม่รู้ ก่อนจะเดินแยกไปทางห้องอาหารของโรงแรมที่เกือบจะปิดอยู่รอมร่อแล้วอย่างหิวโหย
“อยู่ในห้องใช่ไหม”
เมื่อขึ้นมาถึงหน้าห้องโลเวลถามลูกน้องสองคนที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องออกมาทันที เมื่อได้รับการพยักหน้าเป็นคำตอบ ชายหนุ่มรีบเปิดเข้าไป พร้อมกับสอดส่ายสายตามองไปรอบๆห้องแต่ก็ไม่เห็นมีอะไร จึงเปิดประตูเข้าไปในห้องนอน
“หึหึ หลับอยู่นี่เอง แม่มดน้อย”
มาเฟียหนุ่มกระตุกยิ้มพูดออกมาก่อนจะเดินเข้าไปหาร่างเล็กที่นอนหลับอยู่บนเตียงนอนของเขา
“ตื่นได้แล้ว มาเล่นสนุกกันก่อน...อ่าว นี่คุณ ตื่นสิ คุณ!”
เมื่อเรียกเท่าไหร่ร่างเล็กก็ไร้เสียงตอบรับทำเอามาเฟียหนุ่มถึงกับรีบเขย่าร่างเล็กนั้นทันที แต่เธอก็ยังไม่ตื่น จึงเดินออกไปพร้อมกับเปิดประตูถามลูกน้องสองคนนอกห้องขึ้นมาเสียงดัง
“ทำไมหลับขนาดนั้น อย่าบอกนะว่าใช้ยาสลบ!”
เสียงทรงพลังถามออกมาเสียงดัง ทำเอาลูกน้องทั้งสองถึงกับก้มหน้ายอมรับผิดทันที
“ขะ ขะ ขอโทษครับนาย ก็เธอไม่ยอมมากับเราง่ายๆ แถมขู่ว่าจะแจ้งตำรวจอีก เราเลยไม่มีทางเลือกครับ ยกโทษให้พวกเราด้วยครับนาย”
สองการ์ดหนุ่มหน้าห้องละล่ำละลักบอกออกมาอย่างรวดเร็วเพราะกลัวความผิด เมื่อพวกเขานั้นดันไปใช้ยาสลบกับคนในห้องเข้า เพราะพวกเขาพยายามต่อรองยังไงเธอก็ไม่ยอมแถมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหาตำรวจอีกพวกเขาเลยใช้มาตรการเด็ดขาดกับเธอโดยใช้ยาสลบ
“อืม”
มาเฟียหนุ่มตอบออกมาแค่นั้นก่อนจะปิดประตูเดินกลับเข้าห้องไป ทำเอาการ์ดสองคนถึงกับงง เพราะปกติแล้วต้องโดยสักหมักสองหมันหรือไม่ก็เข่าสองเข่า แต่นี่กลับไม่โดนอะไร พร้อมกับพากันมองหน้ากันงงออกมา
โลเวลที่เดินเข้ามาในห้องที่มีหญิงสาวนอนอยู่อีกครั้งพร้อมกับนั่งลงมองหน้าใสที่โดนลบเครื่องสำอางออกจนหมดอย่างพิจารณา ทั้งที่จริงเขาคิดว่ากลับมาถึงจะได้ลากเธอขึ้นเตียงเลย แต่ทุกอย่างกลับผิดแผนไปหมด เพราะเขาไม่นิยมมีอะไรกับคนหลับอย่างนี้ เมื่อรอให้เธอตื่นคงอีกนานมาเฟียหนุ่มจึงลุกเดินเข้าห้องน้ำไปเพื่ออาบน้ำอาบท่าแทน