ตอนที่ 4 ลวนลามกลางเวที (หื่นนิ่ง)

1755 Words
งานเปิดตัวสินค้ากำลังจะเริ่มในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า ตอนนี้ทีมงานกำลังพากันวิ่งวุ่นเพราะงานนี้ต้องออกมาอย่างดีที่สุด มีทั้งสื่อไทยสื่อต่างประเทศให้ความสนใจ และงานนี้เป็นงานของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ค่อนข้างมีอิทธิพลต่อระบบเศรษฐกิจอยู่พอสมควรด้วย “โลเวลจะลงมาแล้ว ทุกอย่างเตรียมพร้อมดีใช่ไหม กระจายคนของเราออกไปดูแลความปลอดภัยให้ทั่ว เพราะฉันสังหรณ์ใจว่าต้องมีเรื่องเกิดขึ้นแน่” อเดลบอกพวกการ์ดที่คอยรักษาความปลอดภัยให้กับมาเฟียหนุ่ม เพราะการบินข้ามถิ่นมาอย่างนี้มีความเสี่ยงสูงมากที่จะโดนลอบทำร้ายได้ จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปตรวจดูความเรียบร้อยในงาน ส่วนโลเวลที่กำลังแต่งตัวอยู่ในห้อง พยายามเลือกชุดที่คิดว่าดูเท่ที่สุดทั้งที่มันไม่จำเป็นเลยสักนิดที่จะทำแบบนี้ เพราะยังไงเขาก็คิดว่าไปร่วมงานแค่แปปเดียวเท่านั้น เพราะคนของเขารายงานมาว่าจับตัวแดเนียลได้แล้วนั่นเอง เขาจึงต้องรีบไปจัดการมันก่อนที่มันจะหนีรอดไปได้อีกครั้ง พอแต่งตัวเสร็จมาเฟียหนุ่มก็เดินออกมาจากห้อง ตรงไปยังลิฟต์ทันที เพราะอีกไม่กี่นาทีงานก็จะเริ่มเปิดตัวแล้ว เมื่อมาเฟียหนุ่มปรากฏตัวทั้งเสียงเเฟรชทั้งเสียงคำถามต่างๆนานาจากนักข่าวพากันพุ่งตรงข้ามาหาชายหนุ่มจนแทบจะเดินต่อไปไม่ได้ถ้าไม่มีพวกการ์ดมาคอยกันเอาไว้จนเขาเข้าไปในงานได้สำเร็จ เพราะการเคลื่อนไหวของมาเฟียหนุ่มที่พ่วงตำแหน่งนักธุรกิจหนุ่มพันล้านนั้นเป็นที่น่าจับตามองในทุกๆที่ที่เข้าออกงานสังคมต่างๆเสมอ “เชิญทางนี้เลยครับท่าน” ผู้จัดการบริษัทรีบเดินเข้ามานำทางมาเฟียหนุ่มให้ไปยังที่นั่งที่เตรียมไว้ให้โดยมีอเดลนั่งรออยู่ก่อนแล้ว เสียงซุบซิบพูดกันออกมาไม่ขาดสายเมื่อเห็นชายหนุ่มปรากฏตัว จากนั้นงานก็เริ่มขึ้นทันทีเพื่อไม่ให้เสียเวลาโดยมีพิธีกรหนุ่มได้กล่าวเชิญอเดลให้ขึ้นไปกล่าวเปิดงานเพราะถ้าให้โลเวลไปเองนั้นมันจะเป็นเป้าสายตาเกินไป แต่โลเวลกลับยืนขึ้นแล้วบอกว่าเขาจะพูดเอง ทำเอาอเดลและเหล่าการ์ดพากันเดินเข้ามายืนคอยคุ้มกันไม่ห่างเพราะกลัวเกิดอันตรายเกิดขึ้นเสียก่อนที่งานจะได้เริ่ม โลเวลเดินขึ้นเวทีด้วยมาดสง่าผ่าเผยสมกับที่เป็นผู้กุมอำนาจทั้งด้านสว่างและด้านมืดของบริษัทยักษ์ใหญ่ ชายหนุ่มกล่าวเปิดงานอยู่เพียงไม่นานก็เสร็จสิ้นพร้อมกับเดินลงเวทีมานั่งลงที่เดิม “ทำไมนานอยากขึ้นเวที ปกติไม่เห็นจะเคยขึ้นไปนี่” อเดลถามออกมาอย่างสงสัยเมื่อครั้งนี้โลเวลทำแต่เรื่องให้เขาประหลาดใจอยู่เรื่อย ทั้งยังเรื่องการแต่งตัวที่แต่งยังกับมางานกาล่าดินเนอร์กับพวกเจ้าใหญ่นายโตของประเทศ เพราะมันดูหล่อเหล่าเกินกว่าที่โลเวลจะแต่งในเวลาปกติ “ก็ไม่เห็นแปลกนี่” มาเฟียหนุ่มตอบออกมาแค่นั้นก่อนที่จะนั่งเงียบมองการแสดงบนเวทีที่กำลังจะเริ่มขึ้นในไม่ช้านี้แล้ว “ว่าแต่นายได้ประวัติของพรีเซนเตอร์ของเราแล้วใช่ไหม” อเดลอดถามออกมาไม่ได้ เพราะเมื่อวานเขาโทรไปขอประวัติพรีเซนเตอร์จากผู้จัดการที่ประเทศไทยมาให้มาเฟียหนุ่ม “อืม” และคำตอบที่ได้ก็มีเพียงแค่นั้น จนบางทีอเดลแอบคิดในใจว่าอยากเอาเหล็กมาง้างปากของโลเวลออกให้พูดมากกว่านี้หน่อย เพราะมันทำให้เขามีคำถามที่ไม่เคยได้รับคำตอบอยู่ในใจตลอดเวลา จากนั้นการแสดงก็เริ่มขึ้น ทำเอาเหล่าบรรดาเซเลปที่มาร่วมงานต่างๆพากันฮือฮาตื่นตาตื่นใจกับโชว์สุดอลังการตรงหน้า ที่มีทั้งห้อยโหนบนผ้าสลับกันไปมา ก่อนที่พรีเซนเตอร์สาวสวยในชุดนางโลมสมัยโบราณของจีนเหมือนอย่างที่ซ้อมไว้จะปรากฏตัวขึ้น ทำเอาผู้คนในงานที่รู้จักดาราสาวกันดีถึงกับพากันตกตะลึงในความลงตัวระหว่างชุดที่ใส่กับคนแต่ง เพราะมันเหมือนเจ้าหญิงมากกว่านางโลมด้วยซ้ำ พลอยใสที่ได้เป็นพรีเซนเตอร์ในงานนี้นั้นเดินออกมาพร้อมกับร่ายรำไปรอบๆเวที จนมาถึงจุดสุดท้ายคือการรินไวน์ให้กับแขกกิตติมศักดิ์ที่นั่งกันอยู่สองแถวหน้า ส่วนแถวอื่นๆก็จะมีนางรำคนอื่นเป็นคนรินให้แทน พลอยใสเดินพลิ้วไหวลงมาจากบนเวทีก่อนจะมารินไวน์ให้กับสองหนุ่มผู้บริหารของบริษัทที่จ้างเธอมาพร้อมกับส่งยิ้มยั่วยวนอ่อนหวานไปให้กับทุกคนที่เธอต้องรินไว้ให้และทุกคนต่างก็ส่งยิ้มหวานกลับมาให้หญิงสาวเช่นกันแต่มีเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่ไม่แสดงปฏิกิริยาใดๆแม้กระทั่งรอยยิ้มออกมา ทำเอาหญิงสาวถึงกับชะงักหยุดยิ้มให้ทันทีเหมือนกัน เพราะเธอเริ่มไม่ชอบขี้หน้าชายหนุ่มหน้าตาแสนเย็นชาคนนี้เสียแล้ว พลอยใสรินไวน์ให้กับแขกกิติมาศักดิ์ของงานจนเหลือแค่คนสุดท้าย ซึ่งหญิงสาวนั้นรู้จักเขาดี เพราะอยู่ในวงการเดียวกัน ลูเซียส สุวรรณโชติ ดาราหนุ่มที่เข้าวงการมาก่อนเธอนั้นกำลังยิ้มหวานส่งมาให้กับดาราสาวที่เขาแอบชื่นชอบเธอมาตั้งแต่เข้าวงการใหม่ๆจนกระทั่งได้มีโอกาสร่วมงานกัน เขาเลยค่อยๆสานสัมพันธ์กับดาราสาวมาเรื่อยๆหวังว่าสักวันหนึ่งเธอจะเปิดโอกาสให้กับตนเอง และพลอยใสนั้นก็ไม่อาจปฏิเสธว่าเธอก็รู้สึกชอบดาราหนุ่มคนนี้เหมือนกัน เขาตามเธอไปแทบทุกงานที่เธอนั้นได้รับเชิญโดยอ้างว่าบังเอิญผ่านมา จนหญิงสาวนั้นพอรู้ว่าดาราหนุ่มคิดอย่างไรกับเธอ แต่ตอนนี้เธอขอทำงานไปก่อนเพราะยังสนุกกับงานไม่อยากจะเอาเวลาไปแบ่งให้กับอย่างอื่น “ขอบคุณน้องพลอยมากๆเลยครับ” ลูเซียสเอ่ยออกมาเสียงไม่เบานัก ทำเอาคนที่นั่งอยู่ด้านหน้าอดหันไปมองไม่ได้ เมื่อเห็นปฏิกิริยาที่หนุ่มสาวแสดงออกนั้นทำเอาดวงตาสีมรกตวาวโรจน์ขึ้นมาทันทีก่อนที่จะหันหน้ากลับมาที่เดิม “งานใกล้เสร็จรึยัง ฉันว่าจะออกไปก่อน แกอยู่ที่นี่แล้วกันนะ” โลเวลบอกออกมาเสียงเรียบทั้งที่ภายในกำลังไม่พอใจเป็นอย่างมาก ที่ผู้หญิงที่เขาหมายปองให้เป็นนางบำเรอให้คืนนี้กำลังมีคนอื่นสนใจเธออยู่ “รอก่อนสิ ฉันไปด้วย เหลือแค่ขึ้นไปถ่ายรูปกับพรีเซนเตอร์แล้วก็เสร็จแล้ว รอไม่ได้เหรอ ฉันไม่อยากให้นายไปคนเดียว” เมื่อได้ยินว่าเหลือถ่ายรูปคู่กับพรีเซนเตอร์ของงาน มาเฟียหนุ่มถึงกับเปลี่ยนใจทันที “งั้นฉันอยู่ถ่ายรูปก่อนก็ได้” เขาบอกออกมาเพียงแค่นั้น ทำเอาอเดลสงสัยออกมาอีกแล้ว เพราะแทนที่มาเฟียหนุ่มนั้นจะบอกว่ารอเขาแต่กลับบอกว่ารอถ่ายรูป นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ชายหนุ่มพยายามหาคำตอบเอาเอง แต่ก็หาไม่เจอเหมือนทุกครั้งอยู่ดี สองหนุ่มนั่งรอจนพิธีกรบนเวทีประกาศให้ผู้บริหารทั้งหมดของทางบริษัทขึ้นไปบนเวทีเพื่อถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับพรีเซนเตอร์สาว สองหนุ่มจึงพากันลุกขึ้นพร้อมกับผู้บริหารคนอื่นๆเดินขึ้นไปบนเวทีที่มีพรีเซนเตอร์สาวยืนรออยู่ก่อนแล้ว โดยโลเวลและอเดลได้ยืนขนาบข้างพรีเซนเตอร์คนสวยของงาน “ชิดๆหน่อยครับเก็บภาพไม่หมดครับ” ช่างภาพบอกออกมาทำเอาทุกคนที่ยืนห่างพากันขยับชิดกันเข้ามาอีก โลเวลจึงเอื้อมแขนใหญ่ไปโอบรอบเอวของพรีเซนเตอร์สาวเอาไว้จนเธอหันควับมามองค้อนตาขวางทันที ก่อนที่จะรีบหันกลับไปยิ้มให้กล้องเมื่อเริ่มมีเสียงนับก่อนจะถ่าย “ขอกล้องนี้ด้วยครับ” ช่างกล้องที่ยืนอยู่หน้าเวทีเป็นสิบพากันเริ่มบอกออกมาทีละคนทำเอาพรีเซนเตอร์สาวนั้นแทบอยากเดินลงจากเวทีถ้าไม่เกรงใจกล้องตรงหน้า เพราะตอนนี้มือใหญ่ที่แค่โอบในทีแรกนั้นเลื่อนลงมาลูบไล้สะโพกสวยของเธอไปมาอย่างถือวิสาสะจนเธอต้องเอื้อมมือเล็กไปด้านหลังพร้อมหยิกหลังมือใหญ่ของเขาแรงๆหลายทีเมื่อเขายังไม่ยอมหยุดแถมยังเริ่มออกแรงบีบขยำแรงขึ้นเรื่อยๆจนเธอแอบกลัวคนอื่นมองเห็นแต่ยังดีที่มีผ้าพลิ้วบางปกปิดอยู่ ช่างภาพพวกนี้จะถ่ายอะไรกันนักหนาเนี่ย พอได้แล้ว!!! หญิงสาวคิดออกมาในใจพร้อมกับจับมือใหญ่ที่ยังคงบีบขยำแกล้งเธอเอาไว้แน่นจนเธอแทบทนไม่ไหว รอยยิ้มร้ายปรากฏบนหน้าหล่อเหลาทันทีที่ได้แกล้งพรีเซนเตอร์สาวที่บังอาจมาทำหน้าบึ้งใส่เขาตอนรินไวน์ให้ แต่กลับคนอื่นเธอเล่นยิ้มซะหวานส่งไปให้ กว่าที่การถ่ายรูปจะจบลงก็ทำเอาพรีเซนเตอร์สาวเกิดอารมณ์ขึ้นมาหลากหลายอารมณ์ ทั้งโกรธ ทั้งโมโห ทั้งสยิวเสียวซ่านแปลกๆที่โดนเขาสัมผัสจาบจ้างแบบนั้น เมื่อเสร็จงานสองหนุ่มก็พากับเดินออกจากงานมาทันทีโดยมีสายตาอาฆาตคู่หนึ่งมองตามออกไป “มาหาความตายถึงที่เลยสินะ...โลเวล” เสียงพูดแสนอาฆาตพูดออกมาเบาๆก่อนจะเดินเลี่ยงออกจากงานไปเช่นกัน “ตรงไปสนามบิน” อเดลสั่งออกมา จากนั้นรถยนต์คันหรูก็วิ่งตรงไปยังสนามบินทันที เพื่อไปสะสางความแค้นที่ภูเก็ต
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD