ลับฝีปาก 2

1273 Words
“คุณหนูใหญ่ อย่ามีเรื่องเลยนะเจ้าคะ” เสี่ยวเจวียนสาวใช้ของซ่งอิ้งหร่วนเอ่ยห้าม “ก่อนหน้านี้คุณหนูก็เกือบจะมีเรื่องมีราวกับคุณหนูเจียวเหม่ยลี่คราวนี้หากท่านแม่ทัพรู้เข้า บ่าวเกรงว่าครั้งต่อไปคุณหนูอาจไม่ได้ออกมาเดินเล่นนอกจวนอีกนะเจ้าคะ” เสี่ยวเจวียนเอ่ยเตือนด้วยความเป็นห่วง ด้านแขที่ยืนมองดูเหตุการณ์อยู่เพราะตนก็ไม่รู้ว่าทั้งสองมีเรื่อบาดหมางอะไรกันอีกทั้งฝ่ายเป็นใคร เธอได้แต่นิ่งเงียบเท่านั้น เพ่ยเพ่ยสาวใช้อีกคนของซ่งอิ้งหร่วนหันมากล่าวกับแข “แม่นางเยว่ชิงท่านช่วยพูดกับคุณหนูหน่อยเถิดเจ้าค่ะ สองคนนี้เจอกันทีไรต้องทะเลาะกันเสียทุกครั้งจนต้องพาองครักษ์มาเพื่อระงับเหตุเสมอ” “แล้วฉันจะห้ามยังไงล่ะ อีกฝ่ายเป็นใครก็ยังไม่รู้” แขเอ่ยปากท้วง “ไปก่อนเถอะเจ้าค่ะ เร็วเถอะ” เพ่ยเพ่ยพูดพลางใช้มือดึงอีกฝ่ายให้มายืนด้านข้างคุณหนูของตน ด้านซ่งอิ้งหร่วนไม่ได้สนใจคำเตือนของเสี่ยวเจวียน ยังคงมีปากเสียงกับเจียวเหม่ยลี่สตรีที่หมายจะมาเป็นฮูหยินของพี่ชายตน จนกระทั่งเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เพี๊ยะ! “โอ้ย! อีรากไส้” แขสบถออกมาอย่างลืมตัว ซ่งอิ้งหร่วนเห็นว่าสหายที่เพิ่งรู้จักถูกเจียวเหม่ยลี่ทำร้าย นางรีบสาวเท้าประคองแขที่ยืนใช้ฝ่ามือกุมใบหน้า “เยว่ชิง เจ้าเป็นเช่นไร เจ็บตรงไหนหรือไม่” นางกล่าวอย่างนึกเป็นห่วง ทั้งไม่นึกว่าสหายผู้นี้จะก้าวเท้าเข้ามาขวาง “ไม่เจ็บสิแปลก ถามมาได้อีห่า..โดนตบนะไม่ได้โดนจูบ” แขสบถในใจทั้งไม่คิดว่าหนึ่งในสาวใช้จะกล้าผลักเธอให้เป็นหน่วยกล้าตาย สาวใช้ในนิยายก็ร้ายไม่เบา! เธอได้แต่ยกฝ่ามือลูบแก้มของตนที่ปรากฏรอยนิ้วมือแดงบนแก้มทั้งเอ่ยด้วยคำพูดสุภาพ “ไม่เป็นไร...เจ็บนิดหน่อยแต่ทนได้” ทว่าในใจกลับคิดย้อนแย้ง ’ เรียกค่าเสียหายได้ไหมเนี่ย นี่ถ้าเป็นที่บ้านหน่อยล่ะก็ ตบเป็นตบ!’ ทางด้านเจียวเหม่ยลี่เห็นว่าตบผิดคนก็หน้าเสียแต่ด้วยศักดิ์ศรีของคุณหนูก็ไม่คิดที่จะกล่าวคำขอโทษใดๆ ออกมาจากปาก ทำเพียงมองประเมินอีกฝ่าย “เจ้านี่นอกจากจะไม่มียางอายแล้ว ยังชอบใช้กำลังอีกนะ” ซ่งอิ้งหร่วนตำหนิเจียวเหม่ยลี่ทันที “แล้วใครใช้ให้สาวใช้ของเจ้า มาขวางทางข้าล่ะ ไม่เช่นนั้นคนที่โดนตบคงเป็นเจ้า!” “โถ! คุณหนูเจียวผู้น่าสงสารนอกจากจะไร้ยางอาย ยังตกข่าวอีก เจ้ารู้หรือไม่ว่าสตรีที่เจ้าลงมือไปเมื่อครู่คือว่าที่ฮูหยินน้อยของตระกูลซ่ง” ซ่งอิ้งหร่วนไม่พูดเปล่านางกลับดึงแขนของแขมายืนข้างๆ ตน เพื่อแสดงให้หญิงสาวที่ตนไม่ชอบหน้าเห็นหญิงที่ตนเองเพิ่งมอบฐานะให้และเป็นยืนยันคำพูดของตน แขมีสีหน้ามึนงงจากการโดนตบหน้าฉาดใหญ่เมื่อครู่ เดิมทีเมื่อโดนตบหน้าอาการชาจะค่อยหายไปและความเจ็บแสบจะเข้ามาแทนที่ ทว่าเมื่อได้ยินว่าตนกลายเป็นว่าที่สะใภ้ของซ่งอิ้งเทียน ใบหน้ากลับมาชาอีกครั้งหนึ่งทั้งที่ไม่ได้โดนตบ... “ห๊า! อะไรนะ? ฉันนี่นะ” แขใช้นิ้วชี้ที่จมูกของตัวเองเพื่อให้เจ้าของคำพูดยืนยันอีกครั้ง “อืม” ซ่งอิ้งหร่วนพยักหน้าพร้อมตอบเสียงหนักแน่น นางยิ้มร่าพลางส่งสายตาอ้อนวอนพร้อมส่งเสียงออกทางไรฟัน “ช่วยข้าก่อน กลับจวนข้าจะอธิบายให้ฟังทีหลัง” แขแอบบ่นในใจ “แม่งเอ้ย! อยู่ดีๆ ก็โดนยัดเยียดสามีให้ เอาวะ! ไหนๆ เจ้าตัวก็ไม่อยู่โดนตบแล้วนี่” เมื่อตัดสินใจแล้วแขพลันส่งยิ้มหวานให้ซ่งอิ้งหร่วนเอ่ยคำ “เดี๋ยวเจ๊จัดให้น้องสามี” พูดจบแขหันไปเผชิญหน้ากับศัตรูที่เพิ่งทำร้ายตนเองหมาดๆ “แม่นาง ข้าไม่ทราบว่าท่านกับน้องหร่วนเอ๋อร์ มีเรื่องขัดข้องหมองใจกันมาก่อน ข้าก็ขออภัยแทนนางด้วย อาจเพราะนางยังเด็ก ส่วนท่านก็ได้ลงมือทำร้ายข้าไปแล้วถือว่าเรื่องนี้จบไปเสียเถิด” ‘พูดดีจัง นางเอ๊ก…นางเอก รางวัลออสก้าค่ะ’ แขคิดกระหยิ่มในใจที่ตีบทแตกเพราะอยู่กับเพื่อนนัทตี้มานาน ถ้าแสดงไม่เป็นก็อย่าเรียกว่า ‘อีแข’ “สมน้ำหน้า ใครใช้ให้เจ้าเอาหน้ามาขวางเล่าแล้วอีกอย่างข้าก็ไม่มีทางเชื่อว่าเจ้าจะเป็นคนรักของท่านแม่ทัพซ่ง” เจียนเหม่ยลี่กล่าว พร้อมถลึงตาใส่ "จุ๊ๆ ทำสีหน้าเช่นนี้ไม่งามนะแม่สาวน้อย" แขไม่ชอบคนที่ถลึงตาใส่ ทั้งกิริยาก็ยังชวนหาเรื่องจึงเอ่ยน้ำเสียงยียวน "มันเรื่องของข้า! ใบหน้าของข้าเจ้าไม่เกี่ยว เจ้าบอกข้ามาเดี๋ยวนี้ว่าเจ้าเป็นอะไรกับท่านแม่ทัพของข้า" “ข้าจำเป็นต้องอธิบายให้เจ้ารู้ด้วยรึ? เรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างข้ากับท่านแม่ทัพ คนนอกอย่างเจ้ามิสมควรจะรับรู้ หากรู้นั่นแสดงว่าเจ้าแส่เรื่องผู้อื่น และอีกอย่างข้าเพิ่งได้ยินว่าเจ้าก็มีผู้หมั้นแล้วทำเยี่ยงนี้ออกจะไม่ไว้หน้าเขาและเจ้ายังทำให้วงตระกูลเสื่อมเสียชื่อเสียงเพราะความอยากได้ของผู้อื่น อย่าให้ข้าต้องสอนเลย ประเดี๋ยวมันจะเพลินปากเมื่อข้าได้พูดแล้วหยุดยาก ข้านี่นิสัยเสียจริงๆ เอาอย่างนี้แล้วกันหากว่างและข้าพอมีเวลาหลังจากจิบน้ำชายามบ่าย ค่อยคัด ‘สุภาษิตสอนหญิง’ หรือไม่ก็ ’ แบบเรียนจรรยา เรื่อง สมบัติผู้ดี’ ให้ท่านไปเคี้ยวกินแทนอาหารและเก็บน้ำที่ต้มจิบแทนน้ำชาก็คงจะดีมิน้อย อ้อ! แต่ข้ายังมิได้รับปากนะว่าจะว่างพอมีเวลาให้เจ้าหรือไม่” แขพูดช้าๆ ชัดๆ พร้อมทำหน้าตาลอยไปลอยมา เพราะเธอก็ไม่ได้สะทกสะท้านอะไรกับเจียวเหม่ยลี่ “เจ้า! เจ้ากล้ารึ!” เจียวเหม่ยลี่โกรธจัด “เรื่องสอนคนไยข้าจะไม่กล้า ข้าสอนมาเป็นพันๆ คน รุ่นต่อรุ่น มีแต่คนยกมือไหว้ข้าเช้า-กลางวัน-เย็น ข้านี่แหละคืออาจารย์ของแผ่นดิน แม่พิมพ์ของชาติ ลองให้ข้าสอนเจ้าสักคราดีหรือไม่เล่า รับรองคนในสกุลของเจ้า หรือแม้แต่สามีในอนาคตต้องรีบทำพานมาไหว้ข้าเลยแหละ” “เจ้า…ปากดีมากใช่หรือไม่ ไม่รู้รึว่าข้าเป็นใคร” “เอ๊า! ขนาดตัวเจ้ายังไม่รู้ว่าเจ้าเป็นใคร แล้วข้าจะรู้ได้อย่างไรเล่า อีกอย่างข้ามีความจำเป็นด้วยหรือที่ข้าจะต้องรู้ว่าเจ้าเป็นใคร” “ข้าจะไปฟ้องท่านพ่อข้า” “นี่! แม่สาวน้อย...ข้าล่ะกลั๊วกลัว ใจของข้านั้นสั่นไปหมดแล้ว เชิญขี่ม้าสามศอกไปบอกเลยนะ ข้าจะรอแต่เกรงว่าข้าจะไม่ได้คุยกับท่านพ่อเจ้าล่ะสิ แต่จะให้ดีถ้าจะฟ้องบิดาเจ้า ก็โปรดเรียกบิดาเจ้ามาพบข้าสักหน่อยเถิด ข้าจะได้สอนทั้งพ่อทั้งลูก โอเคร้? จบนะผีจูออน ทุกคนกลับ!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD