“คุณบอกว่าที่นี่คือแคว้นเยี่ยน?”
“อืม” ซ่งอิ้งหร่วนตอบพร้อมพยักหน้า
“ที่นี่คือจวนแม่ทัพซ่ง?”
“อืม” ซ่งอิ้งหร่วน พยักหน้าเช่นเคย ทุกอย่างเริ่มชัดเจน พร้อมๆ กับที่แขพยายามเรียบเรียงความคิดจากแฟลตไดร์ในสมอง
อันชาญฉลาดของตนและไม่นานเธอเริ่มส่ายศีรษะ เพราะไม่กล้าคิดต่อว่าสิ่งที่คิดหรือสิ่งที่ได้ยินได้อ่านมาจะทำให้เธอได้มาประสบพบเจอกับตน และในที่สุดแขก็เอ่ยถามเพื่อตัดข้อสงสัย
“อย่าบอกนะว่าคุณคือซ่งอี้เทียน ท่านแม่ทัพใหญ่ของแคว้นเยี่ยน ส่วนคุณคือคุณหนูใหญ่ซ่งอิ้งหร่วน น้องสาวสุดเลิฟของพี่ชายคนนี้” แขยังคงได้รับคำตอบจากการพยักหน้าของซ่งอิ้งหร่วนอีกครั้ง คำตอบนี้เหมือนฟ้าผ่าบนศีรษะแข น้ำตาห่าใหญ่ไหลร่วงมาโดยไม่ทันตั้งตัว เธอปล่อยโฮเหมือนเด็กทารกร้องไห้เมื่อไม่ได้ดั่งใจ
ร้องไห้ไปสักพักแขก็ทำท่าตกใจ เหมือนนึกอะไรขึ้นได้
“กระจก ฉันขอกระจกหน่อย”
“ท่านหมายถึงคันฉ่องหรือ? รอสักครู่นะ” ซ่งอิ้งหร่วน เดินไปหยิบคันฉ่องมามอบให้ แขรับและรีบมาส่องที่ใบหน้าของตน โดยไม่ลืมปาดน้ำตาอย่างลวกๆ ดีที่ตาไม่เปรอะเปื้อนสีดำเพราะเธอใช้มาสคาร่ากันน้ำอย่างดี น้ำตาแค่นี้มิทำให้ความสวยลดน้อยลงได้ แขรีบสำรวจหน้า แขนขาว่าเป็นของเธอหรือไม่ เพราะตัวเธอกลัวเหลือเกินว่าจะเจอแบบนิยายออกจากร่างและไปสวมเข้าร่างของคนอื่นดังเช่นนิยายเรื่องอื่นๆ
“ดีนะ ตัวฉัน ยังเป็นของฉัน หน้าสวยๆ หน้าอกใหญ่ๆ ของฉัน ยังไม่เป็นของคนอื่น”
“แม่นางพูดอะไร ข้าไม่เข้าใจ หน้าตาท่านและหน้าอกจะเป็นของคนอื่นได้อย่างไร” ซ่งอิ้งหร่วนถามอย่างงุนงง
“ฉันบริจาคร่างกายให้โรงพยาบาล หากตายยังเอาร่างกายไปใช้ประโยชน์ให้คนอื่นได้นะ” แขตอบคำถามด้วยจิตใจที่สงบลงบ้างแล้ว หลังจากนั้นเธอนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าตนมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร
‘ป้ายหยก! ต้องเป็นเพราะป้ายหยกนั้นแน่’