ซ่งอิ้งเทียนเดินกลับไปออกไปยังบริเวณ ที่หญิงสาวทั้งสองยืนอยู่มุ่งตรงไปยังเรือนพยัคฆ์เมฆาของตน ก่อนเข้าด้านในซ่งอิ้งเทียนเอ่ยปากสั่งบ่าวมิให้ใครเข้ามารบกวน ทั้งสั่งให้ไปตามคนมาพบตนที่เรือน
“เจ้าไปตามไป๋หลันมาพบข้า”
“ขอรับ”
เวลาไม่ถึงหนึ่งก้านธูปไป๋หลันก็เข้ามาพบท่านแม่ทัพที่เรือนของนาย
“ข้ามีเรื่องให้เจ้าทำ สืบมาให้ละเอียดว่านางที่อยู่กับน้องสาวข้าเป็นใคร มาจากไหน และที่สำคัญนางใช้วิธีใดถึงเข้ามาในห้องหนังสือ โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น ข้าต้องการรู้ให้เร็วและมากที่สุด”
“ขอรับ!” ไป๋หลันเอ่ยรับเสียงหนักแน่นก่อนจะเหลียวกายออกไป
หลังจากสั่งการไป๋หลัน ทหารผู้ใต้บังคับบัญชาที่เก่งในเรื่องสืบข่าวคนหนึ่งเรียบร้อย ซ่งอิ้งเทียนก็ย้อนกลับไปยังห้องหนังสืออีกครั้ง เนื่องจากมั่นใจว่าน้องสาวได้พาแขกที่ไม่ทราบประวัติแน่ชัด
ไปยังเรือนรับรองเรียบร้อยแล้ว
เมื่อเดินทางมาถึงยังห้องหนังสือ เขาสำรวจภายในห้องก็ไม่พบสิ่งผิดปกติหรือการถูกรื้อค้นแต่อย่างใด เขาเพียงเดินไปยังโต๊ะหนังสือ สายตาพลันเห็นกระดาษปึกหนึ่ง ที่จัดไม่เป็นระเบียบมากนัก
กระดาษมีลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยมสีขาว มีตัวหนังสือเรียงตัวกันเป็นระเบียบเต็มหน้ากระดาษ ทั้งตัวอักษรไม่ใหญ่แต่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน มุมบนซ้ายมือของกระดาษจะมีตราประทับเป็นสัญลักษณ์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนว่ามาจากแคว้นใด พร้อมยังมีตัวหนังสือสีน้ำเงินที่มีลักษณะคล้ายตัวหนังสือสีดำหากแต่ใหญ่บ้างเล็กบ้างปะปนกัน
เขาคาดว่าผู้ที่เขียนอักษรดังกล่าวคงจะไม่ใช่คนเดียวกัน
ซ่งอิ้งเทียนเปิดไปหลายแผ่น แต่ที่หน้าแปลกคือ บางแผ่นมีสัญลักษณ์เครื่องหมายขีดเส้นขึ้นหรือกากบาท ด้วยหมึกแดง หลังตัวอักษรสีน้ำเงินซึ่งมีจำนวนไม่มาก ทั้งยังมีสัญลักษณ์แปลกตาอีกคือ เขียนอักษรและวงกลมแดง พร้อมด้วยลายเส้นหยักไปมา ดูไม่เป็นระเบียบ
หัวคิ้วยิ่งชนเข้าหากันมากขึ้น เขาไล่เปิดแผ่นกระดาษไปเรื่อยๆ และพบกับกระดาษที่เย็บติดกันด้วยลวดขนาดเล็กมากที่มุมซ้าย เขาเปิดเห็นมีภาพวาดของหญิงสาวด้วยภาพสีดำและภาพที่มีสีสันหลายแผ่น ในใจยิ่งบังเกิดความกังวลมากยิ่งขึ้นว่านางคงเป็นสายสืบจากแคว้นอื่น แล้วทิ้งหลักฐานไว้เพื่อทำร้ายคนในตระกูลในอนาคต
เขาเปิดไปมาก็พบกับภาพวาดที่มีขนาดไม่ใหญ่นัก ในภาพเป็นภาพของแขกับเด็กหญิงอายุราวสิบสี่สิบห้าปี บางภาพก็เป็นภาพคู่กับชายที่ไม่รู้จักทั้งสองดูสนิทสนมกันเป็นอย่างดีราวกับคู่รัก ทว่าภาพที่สะดุดตาคือภาพของสตรีผู้นั้นเพียงคนเดียวที่ไม่มีคนอื่นร่วมด้วย
“เจ้าเป็นใครกันแน่ ข้าต้องรู้ให้ได้ เมื่อเจ้ากล้าเข้าถ้ำเสือ ข้าก็จะลองเป็นกระต่ายให้เจ้าเล่น ดูสิว่าข้าหรือเจ้าใครจะเป็นฝ่ายชนะ”
ซ่งอิ้งเทียนเอ่ยเสียงเบาก่อนจะเหลียวหลังกลับเรือนพยัคฆ์เมฆา
โดยที่ไม่ลืมหยิบเอกสารของสตรีผู้นั้นกลับไปด้วย
หลังจากถึงจวนของตน ซ่งอิ้งเทียนเลือกเอกสารบางส่วนให้บ่าวหน้าเรือนไปมอบให้ไป๋หลันเพื่อสืบหาร่องรอยและดูว่าสิ่งนั้นเป็นสารลับหรือไม่ ส่วนที่เหลือเขาเก็บไว้ที่ห้องของตนเพื่อเค้นหาความจริงภายหลังเมื่อสืบเรื่องราวได้ จะมีแค่ภาพของสตรีที่เป็นภาพเดี่ยว เขาเก็บไว้กับตนโดยที่ไม่ทราบว่าเพราะอะไร