ตอนที่ 8

1295 Words
ตามประเพณีที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคนของนครฟาดิลาห์ เจ้าสาวขององค์สุลต่าน หรือก็คือองค์สุลตาน่าจะไม่ได้ออกไปต้อนรับแขกเหรื่อที่งานเลี้ยง เจ้าสาวจะต้องมานอนรอเจ้าบ่าวอยู่ในห้องหอ โดยมีผ้าคลุมสีทองบางเบาปิดหน้าเอาไว้จนกว่าเจ้าบ่าวจะเป็นผู้เปิดออกด้วยตัวเอง “เจ้างามมาก ฮันนาลูกแม่” วีณามองลูกสาวคนสวยที่นั่งนิ่งอยู่บนเตียงกว้างภายในห้องหอหรูหราด้วยความชื่นชม และยินดี “ขอบใจท่านแม่มากค่ะ” ฮันนาเปิดผ้าคลุมหน้าสีทองออกไป ก่อนจะถูกมารดาดุเอา “ห้ามเปิดผ้านะฮันนา โบราณเขาถือ มันจะเป็นลางร้าย” “ก็แค่แป๊บเดียวเองนะท่านแม่” ฮันนาโต้แย้ง แต่เมื่อเห็นสีหน้าของมารดาจริงจังจึงต้องยอมคลุมหน้าเอาไว้เช่นเดิม “ก็ฉันอึดอัดนี่ท่านแม่” “อึดอัดก็ต้องอดทน รอให้องค์สุลต่านเป็นคนเปิดหน้าของเจ้าด้วยพระองค์เอง เข้าใจไหมฮันนา” “เข้าใจค่ะท่านแม่” “ดีมาก งั้นเจ้าก็นอนลงนะ นอนนิ่งๆ หรือจะหลับไปเลยก็ได้ เพราะฤกษ์เข้าห้องหอขององค์สุลต่านเกือบเที่ยงคืนนู่นเลย” “ฉันจะนอนหลับได้ยังไงล่ะท่านแม่ ฉันตื่นเต้นจะแย่แล้ว” “ก็อดทนอีกหน่อย พรุ่งนี้ชีวิตของเจ้าก็จะสูงส่งและไม่มีใครเทียบเทียมได้อีกแล้ว” “ค่ะท่านแม่” “งั้นแม่ออกไปหาท่านพ่อในงานเลี้ยงก่อนนะ เจ้าจะนั่งหรือจะนอนรอองค์สุลต่านก็ตามแต่ใจเจ้า” “ค่ะท่านแม่” ฮันนาระบายยิ้มอย่างมีความสุข เสียงฝีเท้าของมารดาเดินจากไปแล้ว หล่อนจึงค่อยๆ เปิดผ้าคลุมหน้าออก “แค่เปิดผ้าคลุมหน้ามันจะเป็นลางร้ายอะไรกัน” หญิงสาวไม่เชื่อคำเตือนของมารดา เสียงแกร็กที่ประตูดังขึ้น ก่อนที่บานประตูจะเปิดออก ร่างของฮูเซ็นปรากฏขึ้น “พี่ฮูเซ็น เข้ามาทำไมคะ” ฮูเซ็นที่ใบหน้าแดงก่ำเพราะดื่มเหล้าย้อมใจมา เดินเข้ามาหยุดตรงหน้าของฮันนา “พี่เจ็บปวดไปหมดทั้งหัวใจแล้วฮันนา... เจ้ากำลังจะกลายเป็นของชายคนอื่น” “พี่ฮูเซ็นออกไปก่อน เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า” หญิงสาวออกปากไล่อย่างหวาดวิตก “แล้วนี่พี่เข้ามาได้ยังไงกัน ทหารไม่เห็นพี่หรอกเหรอ” ใบหน้าของฮูเซ็นเต็มไปด้วยความเจ็บปวด “เห็นสิ แต่ทหารรู้ว่าเราเป็นญาติกันยังไงล่ะ พี่ถึงได้เข้ามาหาเจ้าได้ฮันนา” ฮันนายังไม่หมดความลุ่มหลงในตัวของฮูเซ็น เพราะชายหนุ่มหล่อและลีลารักเป็นเลิศ จึงไม่พร้อมที่จะตัดขาด หล่อนจึงก้าวลงจากเตียงนอน เดินเข้ามาสวมกอดร่างกำยำของพี่ชายบุญธรรมที่ตอนนี้เลื่อนความสัมพันธ์มาเป็นสามีเรียบร้อยแล้ว “ฉันเองก็เจ็บปวดไม่แพ้พี่ฮูเซ็นหรอก แต่เราตกลงกันเข้าใจแล้วไม่ใช่เหรอคะ” “แต่พี่รักเจ้า” “หรือว่าพี่ต้องการให้ฉันรับโทษตายจากองค์สุลต่านคะ” ฮูเซ็นดันร่างฮันนาออกห่าง และส่ายหน้าไปมา “พี่จะยอมให้เจ้าตายได้ยังไงกันล่ะ ในเมื่อพี่รักเจ้ามาก” “งั้นพี่ฮูเซ็นก็ต้องกลับออกไปก่อนนะคะ แล้วพรุ่งนี้ฉันจะติดต่อไปหาพี่เอง” “แต่พี่...” “ถ้าพี่รักฉันจริงอย่างที่ปากพี่พูด พี่ก็ต้องรีบออกไปจากที่นี่ก่อนที่จะมีใครมาเห็นเข้านะคะ” ฮูเซ็นยกมือขึ้นโอบประคองดวงหน้าหวานของฮันนาเอาไว้ ก่อนจะพรมจูบอย่างแสนรัก “พี่รักเจ้านะ ฮันนา” “ฉันก็รักพี่ค่ะ” แล้วฮูเซ็นก็จูบปากฮันนาอย่างดูดดื่ม ก่อนที่จะตัดใจแยกห่างออกไป ฮันนาถอนใจออกมาแรงๆ อย่างโล่งอก “ก็บอกแล้วว่าอย่าเข้ามาก็ไม่เชื่อ ดีนะไม่มีใครเห็นน่ะ” มือเล็กยกขึ้นถูปากแรงๆ อย่างหงุดหงิด จากนั้นก็เดินไปเติมสีปากใหม่จนสวยสดอีกครั้ง ฮันนาระบายยิ้มมองเงาของตัวเองที่สะท้อนออกมาจากกระจกเงาเบื้องหน้าด้วยความพึงพอใจ “เจ้าสวยเหลือเกินนะ ฮันนา” หล่อนชื่นชมตัวเอง ก่อนจะเดินกลับไปที่เตียงอีกครั้ง ดึงผ้าคลุมหน้าลง และปล่อยตัวปล่อยใจให้ล่องลอยไปกับวาสนาที่กำลังจะตกมาอยู่ในอุ้งมือ เสียงประตูเปิดอีกครั้ง ฮันนารีบตลบผ้าคลุมหน้าขึ้น เพราะคิดว่าเป็นฮูเซ็น แต่ไม่ใช่ กลับเป็นนางกำนัลคนหนึ่ง ที่เดินเข้ามาพร้อมกับถาดน้ำอะไรบางอย่าง “เจ้าเข้ามาทำไม” “เอ่อ... หม่อมฉันนำน้ำดอกกุหลาบมาถวายองค์สุลตาน่าเพคะ” เมื่อถูกนางกำนัลเรียกว่าองค์สุลตาน่า ฮันนาก็ฉีกยิ้มกว้างอย่างพึงพอใจ ยื่นมือไปรับถ้วยน้ำดอกกุหลาบขึ้นมาดื่มจนหมด “อืม หอมดอกกุหลาบเหลือเกิน ไหนเอามาอีกถ้วยสิ” “เพคะ” ฮันนาดื่มน้ำดอกกุหลาบจากนางกำนัลไปสี่ถ้วย ก่อนจะยกมือขึ้นปิดปากหาว “พอแล้ว และเจ้าก็ออกไปได้แล้วด้วย เราจะพักผ่อน” “เพคะ” นางกำนัลออกไปจากตำหนักแล้ว ฮันนาที่เริ่มง่วงนอนก็เอนตัวนอนราบกับเตียงนุ่ม และหลับใหลไปอย่างง่ายดาย เมื่อใกล้ถึงฤกษ์ส่งตัวลูฟาสก็เอ่ยลาแขกเหรื่อ ก่อนจะมุ่งหน้ากลับไปห้องหอที่อยู่ในตำหนักใหม่ซึ่งจัดเตรียมเอาไว้เป็นที่ประทับขององค์สุลตาน่า ทหารที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าตำหนักแสดงความเคารพ เขาที่ดื่มแอลกอฮอล์ไปพอสมควรระบายยิ้มให้อย่างอารมณ์ดี และเมื่อก้าวขึ้นมาบนตำหนัก ที่หน้าประตูห้องหอ ก็มีนางกำนัลนั่งคุกเข่าอยู่กับพื้นและยื่นถ้วยน้ำจัณฑ์มาให้ดื่มตามประเพณี ลูฟาสยกขึ้นมาดื่มจนหมด แล้วยื่นถ้วยใบสวยคืนให้กับนางกำนัลที่ตัวเองรู้สึกคุ้นหน้า “เจ้าเป็นนางกำนัลของน้องสาวใช่ไหม” “เอ่อ... ไม่... ไม่ใช่เพคะ หม่อมฉันเป็นนางกำนัลที่เพิ่งเข้ามาใหม่เพคะ” ลูฟาสยกมือขึ้นตบต้นคอ หรี่ตามองหน้านางกำนัลอย่างพิจารณา “แต่เจ้าหน้าเหมือนกับนางกำนัลตำหนักของมารีอาห์เหลือเกิน หรือว่าเราจะดื่มเยอะเกินไป” “เอ่อ หม่อมฉันทูลลาเพคะ” นางกำนัลรีบลนลานออกไปจากตำหนัก ลูฟาสส่ายหน้าไปมาเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องหอเมื่อทหารเปิดประตูให้ บนเตียงกว้างขนาดดับเบิลคิงไซส์มีร่างของเจ้าสาวในชุดประจำชาติสีทองนอนนิ่งอยู่ ที่ใบหน้ามีผ้าสีทองปกคลุมเอาไว้ ลูฟาสขยับมาใกล้เตียงนอน ดวงตาคมกริบสีสนิทไล่สำรวจเรือนกายสาวอวบอิ่มของเจ้าสาวด้วยสายตาพึงพอใจ มือจะยกมือขึ้นปลดเม็ดกระดุมที่ลำคอออกเมื่อความร้อนจากที่ไหนสักแห่งไหนโลกพุ่งเข้าใส่จนเหงื่อไหลซึมออกมา ทั้งๆ ที่ภายในห้องนี้ก็เย็นเฉียบ “ทำไมร้อนแบบนี้นะ” ลูฟาสบ่นพึมพำ ขณะไล่สายตามองเรือนร่างของเจ้าสาวไม่วางตา ความต้องการทางเพศพลุ่งพล่านขึ้นมากะทันหัน และรุนแรงมากจนเขาเองก็ยังตกใจ ที่ซอกขาแข็งชันและขยายใหญ่ จนเขาต้องขยับขาออกห่างจากกันเพื่อคลายความอึดอัด ความหิวกระหายจะร่วมเตียงกับสตรีระเบิดในอกอย่างบ้าคลั่ง ไอร้อนไร้ที่มาไหลไปตามกระแสเลือด และมันก็ควบคุมจิตวิญญาณของลูฟาสเอาไว้อย่างแน่นหนา แม้เจ้าของร่างกำยำจะพยายามสูดลมหายใจเข้าออกช้าๆ เพื่อควบคุมสติ แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะตัณหาราคะที่กำลังเดือดพล่านอยู่ที่ซอกขาได้ นี่เขาเป็นอะไรไป ทำไมถึงได้หิว... ใช่ หิวที่จะฝากฝังตัวเองลงในร่างกายของสตรีแบบนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD