ตอนที่ 7

1453 Words
ดอกไม้ไฟกระจายเต็มท้องฟ้ามืดมิดอย่างต่อเนื่อง เพื่อเฉลิมฉลองพิธีอภิเษกสมรสขององค์สุลต่านแห่งฟาดิลาห์ และก็เพื่อแสดงความยินดีกับว่าที่องค์สุลตาน่าพระองค์ใหม่ นั่นก็คือ ฮันนา พี่สาวต่างมารดาของหล่อนนั่นเอง แม้หล่อนจะแอบรักองค์สุลต่านลูฟาสมาตั้งแต่จำความได้ แต่ก็ไม่เคยอิจฉาริษยาในวาสนาของฮันนาเลย หล่อนยินดีกับฮันนา ยินดีกับลูฟาส และขอให้พวกเขาครองรักกันอย่างสงบสุข กลีบปากอิ่มคลี่ยิ้มเศร้าหมอง ดวงตากลมโตมีน้ำตาคลอจับจ้องมองดอกไม้ไฟแสนสวยบนท้องฟ้า แม้จะเจ็บปวด แต่หล่อนก็ยินดีกับคนทั้งสองจากหัวใจ “ไม่เข้าไปร่วมงานอภิเษกขององค์สุลต่านหรือจินนี่” เสียงนุ่มของแม่ดังขึ้นด้านหลัง จิรัชยารีบกะพริบตาถี่ๆ เพื่อไล่หยาดน้ำตา จากนั้นก็หันไปฝืนยิ้มให้กับมารดา “ฉันกำลังรอแม่อยู่ยังไงล่ะคะ” จันจิราระบายยิ้มบางๆ ยกมือขึ้นตบบ่าลูกสาวอย่างเข้าใจความรู้สึก “งั้นเราไปร่วมงานกันเถอะ ไปช้า เดี๋ยวจะถูกครหาเอาได้” “คนอื่นเขาจะครหาเราทำไมคะแม่” ขณะที่ออกเดินมุ่งหน้าสู่วังหลวง จิรัชยาก็อดที่จะเอ่ยถามด้วยความสงสัยไม่ได้ “ก็เพราะลูกเป็นน้องสาวของคุณหนูฮันนายังไงล่ะจินนี่” น้องสาว... ที่ฮันนาไม่เคยคิดจะยอมรับ หรือแม้แต่บิดาแท้ๆ ก็ยังไม่อยากจะยอมรับหล่อนเป็นลูกเลย จิรัชยาคิดอย่างเจ็บปวด แต่ก็ยังคงฝืนยิ้ม “ฉันเข้าใจแล้วค่ะแม่” จันจิราระบายยิ้มก่อนจะรีบจูงมือบุตรสาว เดินเข้าไปในรั้วของพระราชวังหลวง “องค์หญิงเพคะ อย่าพระพักตร์งอแบบนั้นสิเพคะ” ฟาเซียเอ่ยเตือนสติเจ้านายของตัวเอง “ก็จะให้เรายินดีได้ยังไงกัน ในเมื่อเสด็จพี่กำลังจะรับนังแม่มดมาเป็นองค์สุลตาน่าน่ะ” “แต่องค์หญิงทรงขัดพระทัยองค์สุลต่านไม่ได้หรอกเพคะ” “เรารู้น่า เจ้าไม่ต้องมาพูดให้เรายิ่งเครียดหรอก” มารีอาห์ตำหนิคนของตนเอง ก่อนจะลุกขึ้นยืน “ดูสิว่าเราแต่งตัวเรียบร้อยดีหรือยัง” “งดงามแล้วเพคะ” คำตอบของนางกำนัลไม่ได้ทำให้องค์หญิงมารีอาห์รู้สึกคลายความหงุดหงิดเลยแม้แต่นิดเดียว “โอเค งั้นพวกเจ้าตามเราเข้าไปในงานเลี้ยงเถอะ” “เพคะองค์หญิง” องค์หญิงมารีอาห์เดินออกจากตำหนัก มุ่งหน้าไปยังส่วนของราชวังที่เป็นสถานที่จัดงาน แต่ระหว่างทางก็พบเข้ากับจิรัชยาและมารดาโดยบังเอิญ “จินนี่” จิรัชยาหันไปมองตามเสียงเรียก และเมื่อเห็นว่าเป็นใครก็รีบพามารดาเดินเข้าไปถวายความเคารพ “ถวายบังคมเพคะองค์หญิง” ทั้งจิรัชยาและผู้เป็นมารดากล่าวคำถวายพระพร “ตามสบายเถอะ” “ขอบพระทัยเพคะ” “นี่เจ้าเพิ่งมาเหรอจินนี่” “เพคะ” จิรัชยาตอบแผ่วเบา และก้มหน้ามองพื้น องค์หญิงมารีอาห์กล่าวทักทายจันจิราสักสามประโยค ก่อนจะพูดกับสหายสนิทอีกครั้ง “งั้นเจ้าเข้างานพร้อมเรานะ” “เอ่อ... คงไม่ดีหรอกเพคะ” “ทำไมจะไม่ดีล่ะ ในเมื่อถ้านับญาติจริงๆ ตอนนี้เจ้าก็เป็นถึงน้องสาวของว่าที่องค์สุลตาน่าเชียวนะ” จิรัชยายิ้มเศร้าหมอง เพราะรู้ดีว่าฮันนาไม่มีทางยอมรับตนเองในฐานะนั้นอย่างแน่นอน “ไปเถอะ ไปพร้อมกัน” “เพคะ” องค์หญิงมารีอาห์พาจิรัชยากับจันจิราเข้าไปในงานเลี้ยง “เสด็จพี่ทรงไม่ว่างแม้แต่จะมองเราเลยด้วยซ้ำนะนั่น” จิรัชยามองไปตามสายตาขององค์หญิงมารีอาห์ ก็พบว่าลูฟาสกำลังอยู่ในกลุ่มของแขกเหรื่อกิตติมศักดิ์มากมาย ใบหน้าหล่อจัดยิ้มแย้มและเต็มไปด้วยความสดชื่น ลูฟาสคงกำลังมีความสุขมาก ที่กำลังจะได้เข้าหอกับฮันนาพี่สาวของหล่อน “แต่ตามธรรมเนียมประเพณีแล้ว เจ้าบ่าวก็มักจะยุ่งในคืนวันฉลองพิธีอภิเษกแบบนี้แหละ” แล้วองค์หญิงมารีอาห์ก็แก้ตัวให้กับพี่ชายด้วยตัวเอง จากนั้นก็คว้าแขนของจิรัชยา “เราไปหาเครื่องดื่มกันดีกว่า จินนี่” “เอ่อ...” “ไปเถอะจินนี่ แม่ก็จะอยู่แถวๆ นี่แหละ” จันจิราพูดขึ้นอย่างรู้ทันความคิดของลูกสาว “ค่ะแม่” แม้จะห่วงใยมารดาไม่น้อย แต่ก็จำต้องยอมเดินไปกับองค์หญิงมารีอาห์อย่างไม่มีทางเลือก “เจ้าดื่มนี่สิ อร่อยนะ” องค์หญิงมารีอาห์ยื่นแก้วน้ำสีสวยซึ่งเป็นแก้วเล็กๆ ให้กับจิรัชยา “เอ่อ... น้ำอะไรเหรอเพคะ องค์หญิง” “น่าจะน้ำหวานมั้ง เจ้าลองดูสิว่าอร่อยไหม ถ้าอร่อย เราจะได้ดื่มตามเจ้าไง” รอยยิ้มหวานๆ ขององค์หญิงมารีอาห์ทำให้จิรัชยาไม่กล้าพอที่จะปฏิเสธ “เพคะ” จิรัชยาดื่มน้ำสีสวยเข้าไปเพียงครั้งเดียวก็หมดแก้ว ใบหน้าหวานแดงก่ำ และสำลักไอแค่กๆ ออกมาทันที เมื่อน้ำหวานที่องค์หญิงมารีอาห์ยื่นให้นั้นมีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ “เจ้าเป็นอะไรไปจินนี่” “เอ่อ... หม่อมฉัน... ไม่เป็นไรเพคะ” “แต่เจ้าหน้าแดงก่ำเลย แถมไอด้วย เป็นอะไรไป ให้เราตามหมอหลวงไหม” จิรัชยาส่ายหน้าใบหน้าที่ยังแดงก่ำไปมา ขณะยกมือขึ้นทาบอกเอาไว้ “หม่อมฉันไม่เป็นไรจริงๆ เพคะ” องค์หญิงมารีอาห์ถอนใจออกมาอย่างโล่งอก “เจ้าไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ว่าแต่น้ำหวานที่เจ้าดื่มไปอร่อยไหม” จิรัชยาสบประสานสายตากับองค์หญิงมารีอาห์ ก่อนจะพูดความจริงออกไป “มันคือเหล้าเพคะ” “อุ๊ย ตายจริง เหล้าเหรอ ทำไมสีสวยนักล่ะ เจ้าแน่ใจหรือเปล่า” สีหน้าขององค์หญิงมารีอาห์แสดงความแคลงใจ ก่อนที่มือเรียวขาวสะอาดจะคว้าแก้วเล็กที่ภายในบรรจุแอลกอฮอล์เอาไว้ขึ้นมาถือจ่อที่ริมฝีปาก “อย่าเพคะองค์หญิง... พระองค์ทรงแพ้แอลกอฮอล์นะเพคะ” “ก็เราอยากดื่มนี่ สีมันสวยดี” “แต่ว่ามันคือเหล้าจริงๆ เพคะ” จิรัชยาพยายามห้ามปราม ในขณะที่องค์หญิงมารีอาห์ไม่ได้มีทีท่าทุกข์ร้อนอะไรเลย “แต่เราอยากดื่มจริงๆ นี่” “ไม่ได้นะเพคะ ไม่ได้จริงๆ” จิรัชยาเต็มไปด้วยความหวาดวิตก และดึงแก้วเหล้าออกจากมือขององค์หญิงมารีอาห์ไปถือเอาไว้เสียเอง “งั้นเจ้าดื่มแทนเราหน่อยได้ไหม เราเสียดายน่ะ สีมันสวยเหลือเกิน” “ให้หม่อมฉัน... ดื่มเหรอเพคะ” “อืม หรือว่าแค่นี้เจ้าทำให้เราไม่ได้” น้ำเสียงขององค์หญิงมารีอาห์เต็มไปด้วยความกระเง้ากระงอด จิรัชยาส่ายใบหน้าที่แดงก่ำของตนเองไปมา “ก็ได้เพคะ” องหญิงมารีอาห์ฉีกยิ้มกว้าง “งั้นเจ้าดื่มสิ ดื่มเลย” “เพคะ” เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น จิรัชยาจึงจำเป็นต้องยกแก้วเหล้าในมือขึ้นดื่มจนหมด หล่อนคิดว่าทุกอย่างจะหยุดแค่นี้ แต่องค์หญิงมารีอาห์กลับยื่นมาให้ใหม่อีกแก้ว “ดื่มต่อสิ เราเห็นเจ้าดื่ม ก็เหมือนกับเราดื่มเองไม่มีผิดเลย” “แต่หม่อมฉัน... ดื่มเหล้าไม่เป็นนะเพคะ แค่สองแก้วก็มึนแล้วเพคะ” “เอาน่า อีกนิดเดียว” จิรัชยาจำต้องยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม ครั้งแล้วครั้งเล่าที่หล่อนพยายามจะหยุด แต่องค์หญิงมารีอาห์ก็ส่งให้มาอย่างต่อเนื่อง จนใบหน้าของหล่อนแดงก่ำมากยิ่งขึ้น สมองของหล่อนเริ่มเบลอ การทรงตัวเริ่มมีปัญหา “อุ๊ย... เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า จินนี่ เมาแล้วเหรอ” “หม่อมฉันไม่... ไม่เมาเพคะ...” หญิงสาวพูดได้แค่นั้น สติสัมปชัญญะก็ดับวูบลง ร่างสาวสิ้นเรี่ยวแรงอยู่ในการประคองขององค์หญิงมารีอาห์ “จินนี่... จินนี่...” องค์หญิงมารีอาห์แตะแก้มของสหายสนิทแผ่วเบา แต่เจ้าหล่อนไม่รู้สึกตัวอีก จึงเรียกให้ทหารมาช่วยเหลือ “เจ้ามาช่วยเราพานางไปพักหน่อย นางเป็นลมน่ะ” “พ่ะย่ะค่ะ” ร่างของจิรัชยาถูกทหารอุ้มออกไปจากงานเลี้ยงมงคลสมรส โดยมีองค์หญิงมารีอาห์เดินตามประกบออกไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD