ช่วยกันทำ

1174 Words
​ บทที่7 ช่วยกันทำ กลับมาถึงบ้านผมก็จัดการเดินสายไฟให้เธอ เธอจะลงมือทำคืนนี้เลยพรุ่งนี้จะได้เหลือแค่กวนไส้บีบแล้วส่งลูกค้า มือเล็กๆ หยิบโน้นจับนี้ทำขนมได้คล่องแคล่วเธออายุ18แต่มีความคิด มีความขยันรู้จักทำงานหารายได้เอง “อาจารย์สนใจไหมคะ” “สอนหน่อยก็แล้วกัน วันนี้ฉันจะเป็นลูกศิษย์ของเธอเอง” ธันวาถกแขนเสื้อขึ้นแล้วสวมใส่ผ้ากันเปื้อน ข้าวปั้นจึงสอนตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสำคัญนั่นก็คือการบีบแป้งเพื่อรอเข้าอบ “ยากเหมือนกันแฮะ” “ต้องมือนิ่งๆ แล้วนับหนึ่งถึงสามแล้วก็ยกแบบนี้ค่ะ หนึ่ง สอง สาม ยก” “หนึ่ง สอง สาม ยก” ธันวาแทบหลุดหัวเราะทำไมแป้งของเขามันเบี้ยวๆ บูดๆ ไม่กลมสวยเหมือนของข้าวปั้นเลย แต่เขามีความพยายามมากพอจึงฝึกฝนจนคล่องแคล่ว หนึ่งเตาก็ได้สามสิบกล่องพอดีเหมือนจะวุ่นวายแต่ไม่เลย “เดี๋ยวหนูล้างของก่อนดีกว่าอาจารย์ดูขนมในเตาไว้นะคะ” “อื้ม” ข้าวปั้นล้างอุปกรณ์เก็บเข้าที่เธอเรียงทุกอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยแถมยังหันมาทำข้าวไข่เจียวปูให้ธันวาได้ทานอีก ทั้งสองจึงแบ่งกันทานจนหมดจาน เมื่อขนมในเตาสุกได้ที่ธันวาก็อาสาเป็นฝ่ายยกออกมาจากเตาเพื่อผึ่งไว้ให้แป้งเย็นสนิทข้าวปั้นจึงเก็บใส่ถุงเอาไว้เพื่อรอบีบไส้ในวันพรุ่งนี้ ดูเวลาอีกทีก็ปาไปเกือบเที่ยงคืนทั้งสองจึงแยกย้ายกันไปพักผ่อน วันต่อมา ข้าวปั้นตื่นแต่เช้าเพื่อลงมากวนไส้ขนม เธอทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยจนถึงขั้นตอนการบีบธันวาลงมาเห็นก็เกิดอยากลองจึงอยู่ช่วยเธอจนเสร็จแถมยังช่วยแพ็กใส่กล่องให้เธอด้วย “ต้องไปส่งที่ไหนบ้างจะคุ้มค่าน้ำมันไหมเนี่ย” “ในหมู่บ้านนี่เองค่ะ” “ให้ฉันพาไปไหม” “ไม่เป็นไรค่ะ หนูปั่นจักรยานไปได้แค่นี้เอง” เธอโชว์สปิริตให้เขาได้เห็นถึงความพยายามของเธอและเธอก็ทำได้ดั่งใจหวัง เธอจัดการออกส่งขนมเองด้วยจักรยานสีชมพูของแม่บ้าน ธันวาเดินงุ่นง่านโดยไม่มีสาเหตุ เขาเดินไปเดินมา เดินมาแล้วก็เดินไปไม่รู้ว่าป่านนี้ข้าวปั้นจะส่งขนมเสร็จหรือยัง กว่าจะปั่นจักรยานไปซอยนั้นซอยนี้คงจะช้าและเหนื่อยน่าดูเขาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดสั่งซื้อจักรยานไฟฟ้าที่มีตะกร้าใส่ของจะได้สะดวกเวลาเธอต้องขนขนมไปเยอะๆ “เดี๋ยวพรุ่งนี้ร้านจะเอามาส่งให้ถึงที่ เร็วดีนี่” “คุณธันวาคะอย่าลืมทานขนมที่หนูข้าวปั้นทำไว้ให้นะคะ เมื่อกี้ป้าชิมของป้าแล้วอร่อยมากเลยค่ะ” ธันวาไม่รอช้ารีบหันมาหยิบจานชูครีมขึ้นมา ลูกเบี้ยวๆ บูดๆ นี่คงเป็นฝีมือของเขาเอง เขานึกสงสารลูกค้าอยู่ไม่ใช่น้อยออเดอร์แรกก็เจอผลงานของเขาเลย “อร่อย เด็กคนนี้ทำไมถึงได้เก่งทุกเรื่องเลย” เขาไม่อยากคิดถึงเรื่องอย่างว่ากับเธอเพราะเธอเป็นเด็กในปกครอง เขาจะไม่มีวันคิดอกุศลกับเธอเด็ดขาด ไม่นานข้าวปั้นก็ปั่นจักรยานกลับมาเธอยิ้มแก้มปริเพราะขนมขายหมดเกลี้ยงระหว่างทางกลับบ้านก็มีคนโทรมาสั่งขนมเธอเพิ่มด้วย “เห็นเงินแล้วหายเหนื่อยเลยค่ะ อาจารย์คะเงินนี่หนูขอผ่อนค่าเตาอบให้อาจารย์นะคะ” ธันวามองเงินหลายร้อยที่เธอส่งมาเขาไม่ได้อยากได้มันเลยสักนิดแค่เธอมีอะไรทำในเวลาว่างมันก็ดีกว่าการที่เธอเก็บเรื่องเจ็บช้ำมาคิดซ้ำๆ ซากๆ ชีวิตคนเรามันต้องเดินไปข้างหน้า “เก็บไว้เถอะเปลี่ยนจากเงินเป็นทำอาหารเช้าให้ฉันก็พอ” ปัณณลักษณ์ยิ้มกริ่มเธอเก็บเงินใส่กระเป๋าจากนั้นก็เข้าไปเตรียมของทำอาหารเช้าให้เขาเหมือนทุกวัน วันนี้เธอทำเมนูง่ายๆ และไม่ต้องใช้เวลามากนั่นก็คือข้าวต้มหมูสับสูตรของคุณยายคือการต้มน้ำซุปหอมๆ กลิ่นหอมคละคลุ้งไปทั่วบ้านจนธันวาทนไม่ไหวต้องเดินเข้ามาดู “หอม” “ใกล้เสร็จแล้วค่ะ” “ว๊ายย!!” ปัณณลักษณ์ไม่รู้ว่าเขาเดินเข้ามาซ้อนด้านหลังเธอหันพลิกกลับมาชนเข้ากับแผงอกแกร่งจนเซ สองแขนของธันวารีบโอบรับเธอเอาไว้ เขาดึงเธอเข้ามาหาตัวไม่เช่นนั้นเธอคงถอยชนหม้อน้ำซุปไปแล้ว ธันวาก้มมองคนตัวเล็กในอ้อมแขนของเขาแล้วใจหาย เธอตกใจจนหน้าซีดแต่ทำไมถึงได้น่าแกล้งแบบนี้ก็ไม่รู้ ปัณณลักษณ์เงยหน้าขึ้นมาสบตากับธันวาเธอหวิวๆ หัวใจอย่างบอกไม่ถูก “ซุ่มซ่ามจริง” เขาดุเธอเบาๆ แต่น้ำเสียงไม่ได้น่ากลัวออกจะเป็นแนวหยอกล้อเสียมากกว่า “ก็หนูตกใจนี่คะ อาจารย์มายืนตรงนี้ไม่ให้สุ้มให้เสียง” ทั้งสองจ้องมองสบตากันมือหนาขยับเลื่อนขึ้นมาจับปอยผมทัดหู แก้มนวลอมชมพูจนเกือบแดงไม่รู้ว่าเขินหรือว่าอะไร อีกมือของเขายังโอบเอวเธออยู่ไม่ยอมปล่อย “อากาศบ้านเราเนี่ยมันร้อนจริงๆ เลย ส้มจุกแล้วตาธันวาไปไหนอย่าบอกว่าเมื่อคืนไม่กลับบ้านนะ” เสียงคุณหญิงดารุณีดังเข้ามาถึงในครัว ทั้งสองรีบผละออกจากกันโดยเร็วไม่นานฝีเท้าก็เดินเข้ามาหยุดตรงประตูสายตามองลูกชายที่ขยับถอยออกจากสาวน้อยข้าวปั้น “คุณป้าสวัสดีค่ะ” “คิดถึงจังเลยแล้วนี่ทำอะไรอยู่ ข้าวต้มเหรอดีเลยป้ากำลังหิวอยู่พอดี ธันวามาช่วยแม่ขนของหน่อยสิ” “ครับ” ธันวาเดินตามผู้เป็นแม่ออกมาที่สวนด้านหลัง เธอกอดอกมองลูกชายตั้งแต่หัวจรดเท้า เธอไม่อยู่แต่ลูกชายไม่ได้ซูบผอมหรือทานของไม่มีประโยชน์ แก้มใสใบหน้าอิ่มเอิบ อดไม่ได้ที่จะยื่นหน้าไปดมเสื้อฟุดฟิด “กลิ่นผู้หญิง?” “จมูกดีจริง” เขาตอบแม่อย่างเบื่อหน่าย “แล้วนี่พ่อไปไหนทำไมไม่มาด้วยกัน” “พ่อแกไปประชุมที่กระทรวงต่อ งานด่วนพ่อกับแม่เลยต้องรีบกลับมา ได้ข่าวว่าข้าวปั้นสอบติด GTE ใช่ไหม” “ใช่ครับ” “ค่อยชื่นใจหน่อย ธันวาลูกก็อายุจะ30แล้วทำไมไม่ลองศึกษาดูใจกับใครสักคนดู เพื่อนแม่ได้อุ้มหลานกันหมดแล้วนะเจ้าเฟรมเพื่อนลูกก็จะได้แต่งงานแล้ว เฮ้ออ ลูกแม่สิเป็นเวรกรรมผู้ใด๋หนออออ” “วาสนาไหม -_-!” ---------------------------------- คุณแม่กลับมาแล้วค่ะ ป๋าธันวาเตรียมรับแรงกระแทกนะคะ ​ ​
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD