ตอนที่ 3 เกือบข้ามเส้น

3132 Words
วันต่อมา วันนี้เป็นวันหยุดของฉัน ฉันเลยได้มีโอกาสเก็บห้องหลังจากที่ไม่ได้เก็บมาแรมปี ตื่นมาตั้งแต่เช้าอะ ขยันสุด ๆ Rrrrrrrrrrrr ฉันกำลังจะหยิบถุงมือมาใส่เพื่อที่จะขัดห้องน้ำ แต่เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ฉันจึงเดินไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ก่อนจะรู้ว่าใครโทรมา ‘เจ้ากรรมนายเวร’ “ว่า...” ฉันรับสายธันพร้อมกับกรอกเสียงไปตามสาย ‘ไปห้างกับกูหน่อย’ “ไม่เอา ไม่ไป ไม่ออก วันนี้กูจะนอนอยู่ห้อง” ‘นอนเชี้ยไร นี่มึงยังไม่เห็นในไลน์กลุ่มไง วันนี้เพื่อนนัดกันอะ’ “นัดไปไหน กูพึ่งจะจับโทรศัพท์ตอนมึงโทรมานิ” ‘วันนี้เพื่อนนัดกินเหล้าที่ GQ ยังไงมึงก็ต้องออก เพราะงั้นมึงไปซื้อของกับกูก่อน’ “คือกูจะปฏิเสธมึงไม่ได้เลยดิ” ‘ถูกครับ เจอกันอีกครึ่งชั่วโมง’ “เดี๋ยว...ธัน ไอ้ธัน!” ยังไม่ทันที่ฉันจะได้พูดไรเลย อิตาบ้านี่ก็วางสายไปซะก่อน ฉันรีบทิ้งอุปกรณ์ขัดห้องน้ำลงพื้นทันทีพร้อมกับวิ่งไปคว้าผ้าเช็ดตัวแล้วรีบเข้าห้องน้ำ พออาบน้ำทำอะไรเสร็จ ฉันก็รีบออกมาแต่งตัว ที่ฉันต้องรีบขนาดนี้เพราะอิตาบ้านั่นมันขับรถอย่างกับเหาะได้ หมดกันวันหยุดของฉัน T^T ติ๊ง! ไม่ต้องสืบเลยว่าใครทักมา ฉันส่งสติกเกอร์ไปให้ธันก่อนจะลงมารอธันที่หน้าคอนโด ไม่นานรถธันก็มาจอดตรงหน้าฉัน ฉันเปิดประตูพร้อมกับเข้าไปนั่งในรถ “จะเต็มไปไหนครับแม่คุณ” ธันหันมามองฉันก่อนจะถามแล้วหันไปขับรถต่อ “นี่ยังน้อยนะ ถ้าเวลาเหลือเยอะกว่านี้กูเต็มกว่านี้อีก” ฉันพูดพร้อมกับยักคิ้วใส่ธัน “ถ้าจะใส่สั้นแบบนี้ ทีหลังมึงถอดออกแล้วเหลือแต่กางเกงในก็ได้นะ” ธันพูดเสียงเรียบโดยที่ไม่ได้หันมามองฉัน แค่ธันพูดแค่นี้ใจฉันก็เต้นแรงแล้ว “มึงนี่ มันเป็นสไตล์ของชุดปะ ทีมึงอะยังใส่กางเกงขาด ๆ ได้เลย” “ก็กูเป็นผู้ชายปะ ใส่ยังไงก็ไม่โป๊ แต่มึงอะ” โอ๊ย ฉันจะเขินตายอยู่แล้ว ยิ้มจนแก้มจะฉีกแล้วนะ ธันทำเหมือนกับว่าเขากำลังหวงฉันอะ มโนอีกแล้ว “เอ้า! กูก็ไม่ได้สั้นขนาดนั้นปะ หวงกูหรอ” ฉันพูดพร้อมกับใช้นิ้วชี้สะกิดไปที่คางของธันเบา ๆ “ป่าว กูสงสารคนที่เห็นอะ อย่างกูเป็นต้น” ธันหันมาพูดใส่ฉันก่อนจะหันไปมองถนนต่อ “อิธัน!” ฉันพูดพร้อมกับหยิกไปที่เอวของธัน “อย่า...ไอ้เบลล์ กูขับรถอยู่ นั่งนิ่ง ๆ เลยมึงอะ” ฉันยอมหยุดเพราะกลัวตาย ฉันคุยอะไรกับธันไปเรื่อยพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็คไอจีจนมาถึงห้าง วันนี้ธันแวะมาเอาของให้แม่แล้วก็พี่สาว เห็นบอกว่าสั่งกระเป๋าไว้แล้วของมาวันนี้พอดี พอมาถึงที่ร้านกระเป๋า ธันก็เข้าไปรับของพร้อมกับเซ็นอะไรไม่รู้แล้วเดินออกมาหาฉัน “มาแค่นี้เนี่ยนะ” ฉันถามธันด้วยความสงสัย “ตามมาเถอะ ถามมากจริง ๆ” ธันพูดพร้อมกับล็อคคอฉันให้เดินตามเขาไป ฉันก็ดิ้นมันไปทั้งทางอะ ธันก็ไม่ปล่อย เหมือนเขาสนุกที่ได้แกล้งฉัน ไม่นานธันก็พาฉันมาหยุดที่หน้าร้านนาฬิกา Rolex ก่อนจะพาฉันเดินเข้าไป พนักงานก็เดินมาต้อนรับอย่างดี “สวัสดีค่ะคุณธัน วันนี้ดูเป็นเรือนไหนดีคะ” พนักงานหญิงพูดพร้อมกับยิ้มให้ธันและฉัน “รุ่นนี้เท่าไหร่ครับ” ธันพูดพร้อมกับชี้ไปที่นาฬิกาเรือนสีดำทอง “เรือนนี้จะเป็น รุ่น Oyster Perpetual Cosmograph Daytona ค่ะ ตัวเรือนทำจากทองคำเหลือบเหลืองหรือทองคำขาวค่ะ” พนักงานพูดพร้อมกับหยิบนาฬิกาเรือนที่ธันชี้ขึ้นมาให้ดู มันสวยมากเลยล่ะ ธันเป็นพวกบ้านาฬิกาเขาชอบสะสม แพงแค่ไหนก็ซื้อ ฉันยืนฟังพนักงานพูดถึงคุณสมบัติของเจ้านาฬิกาเรือนนี้ ฟังดูคุณสมบัติมันเยอะมาก และแน่นอนฉันเชื่อว่าราคามันต้องไม่ธรรมดาเหมือนกัน “เอาเรือนนี้แหละครับ เท่าไหร่ครับ” “เรือนนี้ 659,000 ค่ะ” ฉันหันขวับทันทีเมื่อได้ยินราคา จะบ้าหรอนาฬิกาอะไรตั้งเป็น 6 แสน ธันพยักหน้าให้พนักงานพร้อมกับส่งบัตรให้ “นี่! ซื้อนาฬิการาคาขนาดนี้เลยหรอ” ฉันรีบเดินเข้าไปสะกิดไหล่ธันแล้วถาม “ก็คนมันชอบ ถึงมันจะแพงแค่ไหนถ้ามันถูกใจ มันก็คุ้มปะวะ” “ยอมใจค่ะป๋า ซื้อให้หนูสักเรือนสิคะ” ฉันพูดแซะธันก่อนจะทำหน้าอ้อน ๆ “เดี๋ยวครับ เอาเรือนนี้ให้ผมดูหน่อย” ฉันหันไปมองธันที่เขาเรียกพนักงานให้มาหยิบนาฬิกาอีกเรือนที่อยู่ในตู้ให้ดู “สวยไหม” จู่ ๆ ธันก็หันมาถามฉัน “ก็สวยนะ แต่หน้าปัดมันเป็นสีฟ้าอะไม่เหมาะกับผู้ชาย แต่เดี๋ยวนะ นี่อย่าบอกนะจะซื้อใส่อีก?” “ไหนยื่นข้อมือมาหน่อยดิ” “ยื่นทำไมอะ” ฉันถามด้วยความสงสัย แต่ธันก็เอื้อมมือมาจับข้อมือฉันแล้วใส่นาฬิกาให้ฉันหน้าตาเฉย “คุณธันนี่ตาดีมากเลยนะคะ เรือนนี้เป็น Lady-Datejust 28 เป็นรุ่น oyster เหมาะสำหรับคุณผู้หญิงมาก ๆ เลยค่ะ” พนักงานพูดพร้อมกับส่งยิ้มให้ฉันกับธันเดอร์ “ชอบมั้ยครับที่รัก” อึ้งกว่าค่ะ ฉันมองธันตาค้างก่อนจะเริ่มรู้สึกว่าหูตัวเองเริ่มแดงขึ้นเรื่อย ๆ “ธันเล่นอะไร กูไม่เอา” ฉันกระซิบบอกธันพร้อมกับจิกตาใส่ “เอาเรือนนี้ด้วยครับคิดรวมกับเรือนนั้นเลย” ธันหันไปพูดกับพนักงานพร้อมกับถอดนาฬิกาที่ใส่ให้ฉันออกแล้วยื่นให้พนักงาน “ค่ะคุณธัน” พนักงานยิ้มก่อนจะเดินไป “ธัน มึงบ้าปะเนี่ย กูไม่เอา” ฉันกระซิบด่าธัน แต่ธันกับยิ้มให้ฉันเฉย “ธัน! ไม่ตลก ไม่เอา” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง แล้วนี่ไม่รู้ที่ธันซื้อให้มันราคาเท่าไหร่ด้วยเนี้ย “ใส่ ๆ ไปเถอะ เพื่อนอุตส่าห์ซื้อให้ กูไม่ได้ใจดีบ่อย ๆ นะครับ” ไม่นานพนักงานก็เดินกลับมาพร้อมถุงแล้วก็ใบเสร็จกับบัตรเครดิต “ขอบคุณนะคะ” พนักงานพูดพร้อมกับยกมือไหว้ธันกับฉัน ธันหยิบถุงใส่นาฬิกามาถือแล้วเดินกอดคอฉันออกจากร้าน “เอาใบเสร็จมาดู” พอเดินออกมาจากร้านได้ไกลพอสมควรฉันก็หยุดเดินแล้วหันไปขอดูใบเสร็จ “ทิ้งไปละ” ธันพูดหน้าตาย แต่มีหรอฉันจะเชื่อ ฉันก็ค้นจนเจอนั่นแหละ พอเจอฉันก็รีบหยิบขึ้นมาดู “เชี้ย!!! 590,880 ธัน...มึงเอาไปคืนเลยนะ” ฉันพูดด้วยความตกใจ นาฬิกาบ้าไรวะเนี้ย “ทีมึงยังซื้อกระเป๋าใบละแสนได้เลยเบลล์ นี่กูซื้อให้มึง มึงไม่ได้จ่ายเองซะหน่อย” “แต่มึง กูกลัวทำหาย” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ขนาดแหวนที่แม่ซื้อให้ฉันยังทำหายเลย แล้วนาฬิกามันจะรอดไหม “ถ้ามึงทำหายกูก็จะซื้อให้ใหม่ไปเรื่อย ๆ เคนะ” ธันพูดพร้อมกับกอดคอฉัน นี่ฉันต้องมาคอยดูแลรักษานาฬิกาเรือนนี้ใช่มั้ย T^T “บ้านมึงผลิตเงินเองรึไง อิโย่ง” ฉันบ่นอุบอิบตามหลัง “กูได้ยินนะอิเตี้ย” ธันหันมาผลักหัวฉันก่อนจะกอดคอฉันเดินดูของต่อ -_- ธันพาฉันเดินดูของไปเรื่อย ๆ จนเกือบเย็น ก่อนจะพาไปกินขนมหวานร้านประจำของฉัน ปกติธันไม่ชอบกินของหวานหรอก ถ้าเข้าไปนั่งธันจะสั่งแค่กาแฟมากิน ส่วนฉันก็สั่งของหวานมากิน ถ้ากินไม่หมดก็เหมือนเดิมค่ะ บังคับธันให้ช่วยกิน “เตี้ย” ในระหว่างที่ฉันกำลังจับส้อมเพื่อจะจิ้มไปยังชูครีม แต่ธันเดอร์ก็เรียกฉันไว้ ฉันเงยหน้าไปหาธันก่อนจะเห็นว่าธันกำลังถ่ายรูปฉัน “ถ่ายไม...” ฉันถาม “แหน่ะ มึงจะแกล้งไรกูอีกแน่ ๆ” ฉันพูดพร้อมกับมองหน้าธัน แต่ธันก็ไม่ตอบและไม่มองหน้าฉัน “ธันนน” ฉันยังคงเรียกธันต่อไป “กิน ๆ ไปมึงอะ” ธันพูดโดยที่ไม่มองหน้าฉันสักนิด ชิ! ไม่สนใจแม่งกินหนมดีกว่า ฉันนั่งกินขนมหวานตรงหน้าจนเกือบหมดแหนะ แต่มันก็ไม่หมดซะทีเดียวนะ ยังเหลือนิด ๆ ส่วนธันก็นั่งไขว้ห้างเล่นเกมโดยที่ไม่สนใจใยดีฉันสักนิด ฉันเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นบ้าง ฉันเล่นนู่นเล่นนี่ไปเรื่อยเปื่อย ก่อนจะเข้าไปเช็คไอจีแล้วไปสะดุดเข้ากับรูปที่ธันลงไปเมื่อ 40 นาทีที่แล้ว ธันลงรูปฉันงั้นหรอ รูปเดี่ยวฉัน ฉันละทิ้งสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์ก่อนจะเงยหน้ามองร่างสูงตรงหน้า อยู่ ๆ ก็มีความคิดที่ว่า ฉันพอจะมีหวังอะไรบ้างไหม “ปะ พวกนั้นมันใกล้ถึงร้านละ กว่าเราจะไปถึงก็เกือบ 2 ทุ่มพอดี” ธันเงยหน้าขึ้นมาพูดกับฉันกะทันหัน ทำให้ฉันเกือบละสายตาจากเขาไม่ทัน “ไปสิ” ฉันทำตัวปกติก่อนจะหันไปหยิบกระเป๋าขึ้นมาถือไว้ แล้วลุกขึ้นเดินตามร่างสูงไปจ่ายเงิน คลับGQ กว่าจะมาถึงคลับได้เล่นทำฉันกับธันปวดก้นเลยทีเดียว เพราะช่วงเย็นรถมันติดมาก ยิ่งเส้นทางที่พวกฉันมาร้านนะ ติดหนักมากจริง ๆ พอหาที่จอดรถได้ ฉันกับธันก็เดินเข้าไปในคลับทันที นักท่องราตรีก็ทยอยเดินทางมาเรื่อย ๆ แต่ดีที่พวกเจ้าขุนมันสนิทกับเจ้าของคลับ เลยจองโซน VIP ล่วงหน้าได้ “โห่ ไอ้ห่ากว่าจะเสด็จกันมาได้” พอขึ้นมาโซน VIP ที่พวกเพื่อน ๆ จองไว้ ราชันย์ก็พูดขึ้นมาทันที “ก็รถมันติดอะ” เป็นฉันที่ตอบแทนธันไป แล้วเดินไปนั่งข้าง ๆ มิรินกับเจ้าจอม วันนี้เกรซไม่ได้มาด้วยเพราะติดธุระ นางเสียดายใหญ่ “หรอ...ไปไหนนี่ไม่เคยจะชวนพวกกูเลย ไปสวีทกันสองคนตลอดเลยน้า” เจ้าจอมพูดพร้อมกับกอดอกมองหน้าฉัน “ก็เขาจะไปสวีทกัน มึงจะไปเป็นก้างขวางคอเขาไมล่ะไอ้เจ้า” เจ้าขุนพูดพร้อมกับปาเม็ดมะม่วงใส่เจ้าจอม “เชี้ยขุน! มันโดนหัวกูนะ!!” เจ้าจอมโวยวายพร้อมกับปัดหัวตัวเอง “พวกมึงสองคนนี่ยอม ๆ กันบ้างเถอะ กูเริ่มปวดหัวละเนี่ย อะเบลล์แก้วมึง เป๊ปซี่​ผสมเหล้า” มิรินหันไปบ่นใส่เจ้าจอมกับเจ้าขุนพร้อมส่งแก้วเหล้ามาให้ฉัน ที่มิรินพูดว่าเป๊ปซี่​ผสมเหล้าเพราะเพื่อน ๆ ในกลุ่มจะรู้ว่าฉันน่ะ กินเหล้าบาง ๆ บางมาก ๆ เลยล่ะ ฉันไม่ค่อยเน้นไง แต่ก็กินได้แต่ไม่ชอบกินเยอะ ๆ พึ่บ!!! ในระหว่างที่ฉันกำลังนั่งเม้าท์กับมิรินและเจ้าจอม จู่ ๆ ธันก็ลุกขึ้นก่อนจะเอาเสื้อคลุมของเขามาคลุมไว้ที่ขาฉัน แล้วเขาก็หันไปคุยเรื่องสาว ๆ กับเจ้าขุนและราชันย์ต่อ ปล่อยให้ฉันหน้าร้อนผ่าวกับการกระทำของเขา ฉันก้มมองเสื้อหนาที่คลุมอยู่ที่ตักฉันกับหน้าธันสลับกัน มันอาจจะเป็นเรื่องปกติของธันที่เขาจะคอยดูแลความเรียบร้อยของฉัน แต่สำหรับฉันมันไม่เคยปกติเลยสักครั้ง ไม่เลย... พวกเพื่อน ๆ ฉันรีบยกโทรศัพท์ขึ้นมาคุยในไลน์กลุ่มกันทันที ยังไม่ทันที่พวกฉันจะได้ตอบเกรซ จู่ ๆ เสียงเจ้าขุนก็โผล่ขึ้นมา “เดี๋ยวแดกเหล้ารอบหน้าพวกกูจะยึดโทรศัพท์พวกมึงให้หมดเลย เล่นแต่โทรศัพท์อยู่นั่นแหละ” เจ้าขุนพูดพร้อมกับมองมาที่พวกฉันตามด้วยราชันย์แล้วก็ธันเดอร์ แล้วคือฉันสามคนเงยหน้าพร้อมกันแล้วยังวางโทรศัพท์พร้อมกันอีก ไม่มีพิรุธเลยจ้า “อะไรกัน เพื่อนจะส่องผู้บ้างไม่ได้เลย?” เจ้าจอมพูดพร้อมกับมองจิกใส่ขุน “ส่องทำไมผู้ ส่องพวกกูนี่ งานดีขนาดนี้” เจ้าขุนพูดพร้อมกับกอดคอราชันย์แล้วก็ธันเดอร์ “มึง อย่ากินเยอะนะ มึงยังไม่ได้กินข้าวมาอะ เดี๋ยวเมา” ฉันนึกขึ้นได้ว่าธันยังไม่ได้กินข้าวก่อนมาคลับฉันกลัวเขาจะเมา “รู้ละน่า ระดับกูละ” ธันพูดพร้อมกับยักคิ้วให้ฉัน “น่อว...มีความเป็นห่วงเบา ๆ” เจ้าขุนยังไม่หยุดแซวจนโดนธันเดอร์เอาน้ำแข็งยัดปาก เรานั่งกินกันไปเรื่อย ๆ จนคลับใกล้เวลาจะปิด แล้วให้ทายธันเมาไหม บอกเลยว่าหมดสภาพค่ะ ฉันก็บอกแล้วว่าอย่ากินเยอะ ฟังกันที่ไหน อวดดีไงรู้ว่าตัวเองท้องว่างยังจะกินเยอะ ส่วนมิรินกับไอซ์ไม่ต้องพูดถึง เมาไม่รู้เรื่องแล้ว เจ้าขุนก็เมาพอกัน ดีนะที่ยังเหลือฉันกับราชันย์ “แล้วเอาไงล่ะทีนี้ พวกนี้แม่งเมาแล้วลำบากกูตลอด” ราชันย์พูดพร้อมกับเกาหัวตัวเองแล้วมองไปที่สภาพเพื่อน ๆ “กินอย่างกับน้ำเปล่า” ฉันบ่น “เอางี้เบลล์เดี๋ยวมึงไปส่งไอ้ธัน เดี๋ยวกูไปส่งไอ้พวกนี้เอง” “ได้ แต่มึงเอาอยู่ใช่ปะคิงส์” ฉันหันไปถามราชันย์ จริง ๆ ราชันย์ชื่อเล่นชื่อคิงส์ แต่เพื่อน ๆ ติดเรียกมันว่าราชันย์มากกว่า “เออไหว มึงเอาไอ้ธันให้ไหวเถอะ” ฉันพยักหน้าให้คิงส์ก่อนจะเรียกให้พนักงานมาช่วยกันแบกเหล่าเพื่อน ๆ ไปที่รถ หลังจากนั้นเราก็แยกย้าย ส่วนฉันก็ไปส่งธันตามสเต็ป คอนโดธันเดอร์ “ธันอยู่นิ่ง ๆ ดิ” ฉันหันไปดันหน้าธันออกจากซอกคอ อิตาบ้านี่เมาแล้วชอบเรื้อน ตอนนี้ฉันกำลังช่วย ผยุงธันให้เดินมาที่หน้าประตูห้อง กว่าจะหาคีย์การ์ดได้เอาซะฉันเหนื่อยเลย พอเข้ามาให้ห้องได้ฉันก็พาพ่อตัวดีไปนั่งที่โซฟาก่อนจะเท้าเอวมองสภาพเพื่อนรักของฉันที่ตอนนี้เอาหัวพิงโซฟาพร้อมกับหลับตาหมดสภาพ “อวดดี เป็นไงล่ะ หมดสภาพ!!” ฉันโวยวายใส่ธันเสียงดัง ก่อนจะเดินไปหาผ้าสะอาดไปชุบน้ำแล้วบิดให้หมาด ๆ ก่อนจะเดินเอามาเช็ดหน้าให้ธัน “อยู่นิ่ง ๆ ดิธัน” ฉันนั่งข้าง ๆ ธันก่อนจะหันไปเช็ดหน้าให้เขา แต่อิตาบ้านี่ก็หันหน้าหนีไง ฉันเลยต้องจับหน้าเขาไว้ก่อนจะค่อย ๆ เช็ดหน้าธันเบา ๆ “ธันผิดอะไรวะ ทำไมนับต้องทิ้งธันไปอะ ทำไมวะนับ” ธันพูดออกมาคล้ายกับคนเพ้อ เจ็บดีเนอะ ฉันเช็ดหน้าให้ธันต่ออีกนิดนึงก่อนจะค่อย ๆ ลุกขึ้น แต่จู่ ๆ มือหนาก็จับแขนฉันไว้ ฉันหันไปมองก่อน ที่ธันจะค่อย ๆ ปรือตาขึ้นมามองฉัน “กลับมาได้ไหม กลับมานะ” เขาพูดพร้อมกับดึงตัวฉันเขาไปกอด “ธัน ปล่อย! กูไม่ใช่นับ” ฉันพูดพร้อมกับพยายามดันตัวเองออกจากอกของธัน “ไม่อะ นับกลับมาหาธันนะ กลับมานะ” ยิ่งฉันดิ้นธันยิ่งกอด มันโครตเจ็บเลยที่คนที่เรารักกอดเราอยู่แต่ปากเขาเรียกหาอีกคนอะ “ธัน!! กูไม่ใช่ นะ…อื้อ!!” เสียงฉันถูกกลืนหายไปด้วยริมฝีปากหนาที่จู่ ๆ ก็ก้มลงมาจูบฉัน ฉันทั้งทุบทั้งผลักธันแต่ก็ไม่เป็นผล ร่างสูงบดจูบลงมาที่ริมฝีปากฉันอย่างแรงจนฉันรู้สึกเจ็บไปหมด “อื้อ...ธัน! หยุด! อื้อ” ฉันพยายามเบี่ยงหน้าหลบ แต่ธันก็ตามมาจูบฉันไว้อีกครั้ง ลิ้นหนาค่อย ๆ สอดเข้ามาเกี่ยวรัดลิ้นเล็กของฉัน กลิ่นแอลกอฮอล์จากลมหายใจของธันมันค่อย ๆทำให้สมองฉันเริ่มมึน บวกกับเหล้าที่ฉันเองก็กินไปด้วย เรี่ยวแรงตอนแรกที่มีตอนนี้มันค่อย ๆ หายไปหมด ให้ตายเถอะ... ร่างสูงปล่อยริมฝีปากฉันให้เป็นอิสระ ก่อนจะค่อย ๆ เลื่อนหน้ามาซุกไซ้ที่ซอกคอฉันแทน มือเขาก็ลูบไล้ไปตามส่วนเว้าส่วนโค้งของร่างกายฉัน “ธะ ธัน…” ฉันเรียกชื่อธันเสียงสั่น เพราะธันค่อย ๆ ปลดเชือกที่รัดเอวฉันออก มือหนาค่อย ๆ แหวกชุดฉันออกจากกัน พร้อมกับก้มลงมาซุกไซ้หน้าอกฉัน “อ๊ะ!! ธัน” ฉันร้องเสียงหลงเมื่อจู่ ๆ ธันขบเม้มที่บริเวณเนินอกของฉันอย่างแรง มือหนาค่อย ๆ เลื่อนขึ้นมากอบกุมเต้านมฉันแล้วบีบเบา ๆ เขาซุกไซ้หน้าอกฉันไปเรื่อย ๆ แต่การกระทำทุกอย่างค่อย ๆ หยุดลงพร้อมกับร่างสูงที่ทิ้งน้ำหนักตัวลงนอนทับฉัน ธันหลับไปแล้ว แต่หน้าเขายังคงอยู่ที่หน้าอกฉัน เกือบไปแล้ว ฉันเกือบยอมเขาไปแล้ว ฉันค่อย ๆ ดันตัวธันออกพร้อมกับลุกขึ้นยืนแล้วรีบจัดชุดตัวเองให้เรียบร้อย เมื่อกี้ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าธันคิดว่าฉันเป็นนับ แต่ฉันก็ยังยอมให้เขาทำแบบนี้ ดีนะที่มันไม่ได้เลยเถิดไปมากกว่านี้ ใจง่ายชะมัด… แค่ตัวแทนของคนอื่นก็ยอมงั้นหรอวะเบลล์ ฉันต่อว่าตัวเองก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองร่างสูงที่หลับไม่รู้เรื่องบนโซฟา ก่อนจะไปสะดุดเข้ากับรอยลิปสติกของฉันที่ติดอยู่ที่ปากธัน ฉันรีบเดินไปหากระดาษทิชชู่มาเช็ดที่ปากของธันทันที ฉันเชื่อว่าพรุ่งนี้เขาตื่นมาเขาก็คงจำอะไรไม่ได้ เพราะฉะนั้นก็ไม่ควรมีร่องรอยอะไรไว้ ฉันยืนมองธันอีกสักพักก่อนจะตัดสินใจกลับคอนโดตัวเอง ด้วยการโทรให้รถที่คอนโดมารับ เพราะฉันก็ไม่กล้าเสี่ยงที่จะนั่งแท็กซี่กลับตอนนี้ ฉันยกมือแตะปากตัวเองเบา ๆ นั่นมันจูบแรกของฉัน จูบที่มาจากคนที่ฉันรัก ฉันควรจะดีใจดีไหม...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD