ตอนที่ 5 คนบนเขา 1

2362 Words
[ให้พ่อเช็กบริษัทก่อนไหมลูก ไปทำงานไกลขนาดนั้นพ่อเป็นห่วง] เสียงของชายวัยกลางคนดังขึ้นเมื่อจู่ๆ ลูกสาวก็กลับบ้านไปขนเสื้อผ้าเพื่อเตรียมจะเดินทางไปต่างจังหวัด หากว่าคนใช้ที่บ้านไม่โทรหาเขาก่อน คุณบรรจงก็คงไม่ทราบว่าลูกสาวสุดที่รักต้องไปทำงานต่างจังหวัดอย่างกะทันหัน แม้แต่ภรรยาและลูกชายก็ไม่มีใครทราบข่าวเรื่องนี้ “หนูเพิ่งได้รับโทรศัพท์โทรเรียกตัวค่ะ ตอนแรกว่าจะบอกพ่อกับแม่ก่อน แต่กลัวว่าแม่จะไม่ยอมให้ไปเลยตัดสินใจว่าจะไปเลยดีกว่า พ่อคะจีนโตแล้ว...หวังว่าพ่อจะไม่เป็นห่วงจีนเกินไปนะคะ จีนดูแลตัวเองได้” จีนพยายามพูดด้วยน้ำเสียงที่ร่าเริงเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายกังวลใจ แม้ว่าดวงตาจะแดงก่ำก็ตามที [แล้วลูกจะไปอยู่กรุงเทพฯ ให้พ่อโทรบอกอาให้ไหม? หนูจะลำบากหรือเปล่า] “บริษัทมีที่พักให้ค่ะ พ่อคะหนูต้องเข้าเกตแล้ว ยังไงจะพยายามโทรหาพ่อบ่อยๆ นะคะ” [เดินทางปลอดภัยนะลูก ดูแลตัวเองด้วย เดี๋ยวแม่เขากลับมาจากวัดแล้วพ่อจะพูดให้] “ขอบคุณค่ะพ่อ หนูรักพ่อกับแม่นะคะ” [พ่อก็รักจีน ดูแลตัวเองดีๆ นะ] “ค่ะ” จีนวางสายด้วยความไม่สบายใจ เธอมองไปยังคนข้างตัว เขากำลังมองเธออยู่เช่นกัน สายตาของบีมไม่บอกอารมณ์ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ แต่ทิวทัศน์ที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเนื่องมาจากเขากำลังจะพาเธอไปอยู่ด้วย และความจริงแล้วสถานที่แห่งนั้นไม่ใช่เมืองหลวงอย่างที่จีนบอกพ่อ แต่เป็นบ้านพักตากอากาศของบีมที่เขาตั้งใจจะกลับไปพักผ่อน “ไม่สบายใจเหรอ” บีมถาม “อืม...ไม่เคยออกจากบ้านนานๆ กลัวว่าพ่อกับแม่จะเป็นห่วง” “ไม่ต้องห่วง บนเขามีโทรศัพท์ทางไกลและไฟฟ้าเพียงพอ ขอแค่เธอเป็นเด็กดีกับฉัน” จีนรู้สึกแปลกใจกับน้ำเสียงและคำพูดของบีมเล็กน้อย กระนั้นแล้วเธอก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะด้วยความที่รู้จักกันมานาน บีมไม่ใช่คนที่ทำอะไรไร้เหตุผล ถึงแม้ว่าเขาจะอยากเก็บเธอไว้ข้างตัวเพื่อชดใช้ความบริสุทธิ์ที่สูญเสียไปก็ตาม ยังไงมันก็ดีกว่าการที่เธอต้องแต่งงานกับผู้ชายที่ไม่ได้รักเพียงเพราะเขาเป็นคนที่พรากพรหมจรรย์ของเธอไป อีกอย่างครอบครัวของบีมค่อนข้างลึกลับ จีนไม่แน่ใจว่าจะมีปัญหาอะไรหรือเปล่าหากที่บ้านเขาทราบว่าชายหนุ่มถูกผู้หญิงรวบหัวรวบหางเรียบร้อยแล้ว อีกอย่าง...เซ็กส์มันก็ไม่ได้แย่ ในฐานะที่โสดมาตั้งแต่เด็กจนโต เธอคิดว่าบางทีมันอาจจะถึงเวลาแล้วที่จะต้องสัมผัสโลกของผู้ใหญ่ One Night Stand ก่อนหน้านี้เธอไม่นับ เพียงแค่คิดว่าบีมเป็นเด็กโฮสต์ที่เธอซื้อตัวมาเพื่อสนองความสุขทางกายของตัวเอง ตัดเรื่องอารมณ์และความกระอักกระอ่วนก่อนหน้านี้ทิ้ง ก็ถือว่าเธอได้กำไร อีกอย่างย้ายมาอยู่กับบีม เธอไม่จำเป็นต้องเดือดร้อนเรื่องเงินด้วยซ้ำ มันหมดยุคที่หนีตามผู้ชายจนๆ แล้วต้องไปกัดก้อนเกลือกิน คนอย่างจีนถ้าจะไปกับใครสักคน นอกจากความหล่อก็คงต้องเป็นความรวยของเขานั่นแหละ พ่อแม่ไม่เคยเลี้ยงเธอมาให้ลำบาก ทำไมเธอต้องทนลำบากด้วยล่ะ เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่จะยอมอดมื้อกินมื้อเพราะได้อยู่กับผู้ชายที่รักอย่างแน่นอน และหลังจากคิดทบทวนมาสองสามวัน การแต่งงานกับบีมก็ไม่ได้แย่ แต่เหนือสิ่งอื่นใด การทดลองอยู่ด้วยกันมันดีกว่าเสมอ ผู้หญิงถ้าไม่โง่จนเกินไปก็ต้องมองออกว่าบีมมีความรู้สึกกับเธอมากเกินกว่าคำว่าเพื่อน แล้วอย่างไรเล่า? แม้ว่าเขาจะมีความรู้สึกกับเธอ แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะต้องรู้สึกเพื่อตอบแทนเขา เพราะหากเป็นแบบนั้นเธอคงต้องรับรักผู้ชายทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต มันคงเหนื่อยแย่เลยไม่ใช่เหรอ? คนที่อยู่ในสถานะทางสังคมแบบจีน การแต่งงานด้วยความรักนั้นเป็นไปได้ยากอยู่แล้ว พ่อแม่ของเธอไม่มีทางยอมให้เธอแต่งงานกับผู้ชายที่ไม่สามารถเลี้ยงดูลูกสาวท่านให้สบายได้ ส่วนมากก็จะถูกจับไปดูตัวและถ้าหากพูดคุยถูกคอกันก็คงถูกจับคลุมถุงชนเรียบร้อย การแต่งงานที่เกิดจากผลประโยชน์ร่วมระหว่างตระกูลมันเลี่ยงได้ยาก ดังนั้นจีนจึงอยากยื้อเวลาหนึ่งปีที่ตกลงกับบีมไว้เพื่อดูว่าเธอจะสามารถหาผู้ชายที่เหมาะสมได้หรือไม่ ความจริงแล้ว...พ่อของเธอเคยเกริ่นไว้ก่อนที่เธอจะเรียนจบ หลังจากรับปริญญาเสร็จเขาจะให้เธอดูตัวกับลูกชายของเพื่อนสนิท หากเข้ากันได้ดีท่านก็คาดหวังไว้ว่าจีนจะหมั้นหมายกับอีกฝ่ายและแต่งงานในปีต่อมา เหมือนที่เฮียแจ็ค พี่ชายของเธอต้องแต่งงานเมื่อหลายปีก่อน โชคดีที่พี่สะใภ้ของจีนนิสัยน่ารัก แต่งงานกันได้สองปีเฮียแจ็คก็หลงเมียหัวปักหัวปำ พ่อกับแม่จึงมั่นใจว่าคู่ชีวิตที่หามาให้ลูกนั้นคือคนที่ดีและเหมาะสมที่สุดในสายตาของพวกท่าน ความคิดของพ่อกับแม่คือสิ่งที่จีนกลัว กลัวว่าพวกท่านจะมั่นใจกับการจับคู่และสุดท้ายเธอจะไม่โชคดีเหมือนที่เฮียแจ็คโชคดี เดินทางกว่าสองชั่วโมงในที่สุดรถหรูสีดำก็พาคนทั้งคู่ไปยังหุบเขาแห่งหนึ่งนอกตัวเมือง จีนค่อนข้างแปลกใจเล็กน้อย เนื่องด้วยทิวทัศน์ที่ไม่คุ้นเคย ในสายตาของคนที่เกิดจังหวัดนี้มันดูเหมือนหลุดไปในอีกโลกหนึ่ง แต่กระนั้นแล้วรถหรูหราที่ขับสวนรถของเธอและบีมเป็นระยะนั้นก็บ่งบอกได้ว่ามีคนเข้าออกสถานที่แห่งนี้อยู่ตลอด กระทั่งเขตเขาเปลี่ยนไป กลายเป็นพื้นที่โล่ง ริมทางไม่ใช่ทุ่งหญ้ารกร้างแต่เป็นทุ่งดอกไม้ที่ไกลสุดลูกหูลูกตา เรียกได้ว่าหากมีนักท่องเที่ยวสักคนผ่านมาในที่แห่งนี้และถ่ายรูปออกไป มันก็จะกลายเป็นสถานที่ฮิตได้ไม่ยาก ถนนยาวคดเคี้ยวผ่านทุ่งดอกไม้หลากสีเข้าไปลึกขึ้นเรื่อยๆ อากาศพลันเย็นลงอย่างรวดเร็วจนจีนต้องเอามือลูบแขน ฟึ่บ! สูทสีเข้มปกคลุมร่างกายของจีนอย่างรวดเร็ว เมื่อหันกลับไปก็พบว่าบีมที่ตอนแรกแต่งตัวอย่างเคร่งขรึมสวมเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวเดียว เขาเหลือบมองเธอและพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ที่นี่อากาศหนาวตลอดปี ฉันลืมบอกเธอ” “...” จีนไม่พูดอะไร ในเมื่อเขามอบสูทให้เธอ เธอก็จะใส่มันแต่โดยดี ระหว่างทางเริ่มมีหมู่บ้านประปราย แต่บ้านเรือนส่วนใหญ่ถูกสร้างอย่างเป็นระเบียบราวกับบ้านในยุโรป ร้านรวงสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อยเสียจนเธอเข้าใจว่ารถคันนี้พาเธอวาร์ปข้ามทวีป ผู้คนส่วนใหญ่สัญจรไปมาด้วยรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ มีบ้างที่ปั่นจักรยาน แต่โดยรวมแล้วคนส่วนใหญ่เป็นชายฉกรรจ์รูปร่างสูงใหญ่ และส่วนมากดูไม่เหมือนคนไทย กระทั่งรถเข้าสู่เขตรั้วขนาดใหญ่ เธอจึงได้เห็นบ้านทรงทันสมัยที่สร้างขึ้นบนเขาสูงต่ำลดหลั่นกันไป ราวกับรีสอร์ตขนาดใหญ่ที่ครอบครองพื้นที่ของเขาทั้งลูก บ้านเรือนที่ส่วนใหญ่กรุกระจกรอบทิศทำให้มองเห็นวิวในหุบเขาเกือบทั้งหมด สวยจนเธอคิดไม่ถึงว่ามันคือสถานที่ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดบ้านเกิดของเธอ ทันใดนั้นจีนก็สงสัยว่าผู้ชายข้างตัวเป็นใครกันแน่ ทำไมอยู่ๆ ก็รู้สึกว่าเธอกำลังพาตัวเองเข้ามาในรังมาเฟีย รถจอดหน้าบ้านหลังที่อยู่บนสุด ซึ่งแสดงถึงตำแหน่งของเจ้าของบ้านได้ไม่ยาก “ถึงแล้วครับนายน้อย” คนขับรถพูด ก่อนจะลงมาเปิดประตูรถให้บีมอย่างสุภาพ จากนั้นจึงวิ่งกลับมาเปิดประตูรถให้จีนและถอยไปขนกระเป๋าลงจากรถอย่างรวดเร็ว “ลงรถสิ ถึงแล้ว” บีมว่า เดินลงไปก่อนและช่วยคนขับรถขนกระเป๋าลงมา จีนค่อนข้างเคอะเขินเมื่อได้ยินคนขับรถเรียกนายน้อยด้วยน้ำเสียงแปลกแปร่งหู กระนั้นแล้วก็ยังคงเดินไปรับกระเป๋าใบเล็กจากด้านหลังอย่างรวดเร็ว “บ้านนายหลังนี้เหรอ” “อืม...ขึ้นไปกันเถอะ” บ้านของเขาเป็นบ้านสองชั้นตั้งอยู่บนยอดเขา สวนสไตล์เรียบง่ายโรยด้วยกรวดสีขาว ข้างทางเดินเต็มไปด้วยดอกไม้ที่ชอบอากาศเย็น ขณะเดียวกันเมื่อเดินไปถึงประตูทางเข้าก็จะเห็นว่ามีสระขนาดห้าหกเมตรที่มีไอลอยกรุ่น กลิ่นกำมะถันจางๆ ทำให้จีนขนลุกเล็กน้อย มองตามแผ่นหลังของร่างสูงที่เดินนำเข้าไปในบ้านด้วยความรู้สึกแปลกๆ ผู้ชายคนนี้เข้าใจหาความสะดวกสบายให้ตัวเอง ต่างกับคนที่ไปสมบุกสมบันกับเธอที่ค่ายอาสาลิบลับ อีกอย่างการที่เขาจะหาแหล่งน้ำพุร้อนเช่นนี้ได้ นั่นหมายความว่าพื้นที่แห่งนี้จะต้องเต็มไปด้วยแหล่งน้ำร้อนธรรมชาติอย่างแน่นอน แล้วตระกูลของบีมมาเจอเขาลูกนี้ได้อย่างไร นี่เป็นสิ่งที่ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัย บ้านหลังใหญ่มีสองชั้น ห้องของทั้งคู่อยู่ชั้นบน โชคดีที่บีมยังคงแคร์ความรู้สึกของจีนอยู่บ้างและให้ห้องส่วนตัวเธอหนึ่งห้อง หลังจากแยกห้องนอนเสร็จแล้ว จีนจึงสังเกตการตกแต่งภายใน ห้องนอนของเธอปูด้วยพรมขนสัตว์นุ่มสีขาว ไม่มีทางที่เท้าจะสัมผัสกับพื้นเย็นเฉียบได้เลย ขณะเดียวกันเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ทำจากไม้สีอ่อน และเมื่อจีนรูดผ้าม่าน ก็ต้องอ้าปากค้างอีกครั้งกับวิวแบบพาโนรามาตรงหน้า เดิมทีเธอคิดว่าทุ่งดอกไม้ข้างทางนั้นสวยงามอยู่แล้ว แต่เมื่อมองจากจุดที่สูงที่สุดของอาณาจักรขนาดเล็กแห่งนี้ คนที่จิตแข็งอย่างเธอก็แทบทำอะไรไม่ถูก บ้านเรือนที่ลดหลั่นต่ำลงไปเต็มไปด้วยการตกแต่งที่สวยงามและเป็นระเบียบเรียบร้อย หลังคากระจกที่มองเห็นไกลลิบ ความจริงแล้วคือแผงโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่ คล้ายกับโซลาร์ฟาร์มไซซ์ย่อมๆ พื้นที่น่าจะเกือบพันไร่แบ่งสัดส่วนอย่างเป็นระเบียบ แหล่งเกษตรกรรม แหล่งน้ำ รวมไปถึงปศุสัตว์ที่ครบวงจรทำให้เธอหวนคิดว่าตัวเองหลุดเข้ามาในโลกแฟนตาซี และอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้จีนพูดอะไรไม่ออก มันคือสนามกีฬาขนาดใหญ่ ฟาร์มม้า รวมทั้งพื้นถนนคดเคี้ยวที่ดูคล้ายกับเป็นสนามแข่งรถรวมถึงรันเวย์ที่อยู่ไกลลิบ พื้นที่ทั้งหมดมันเกือบจะมีขนาดครึ่งหนึ่งของเมืองเชียงใหม่ด้วยซ้ำ หัวใจของจีนเต้นแรง อยู่ๆ ก็เกิดความคิดแปลกๆ ขึ้นมา แม้ว่าบีมจะเป็นเพื่อนสนิทของเธอ แต่เธอมั่นใจว่าเพื่อนทุกคนรวมถึงเธอไม่เคยทราบถึงความมั่งคั่งเหล่านี้ ที่สำคัญ เมื่อได้เห็นสิ่งที่อาจจะเป็นอาณาจักรของเขา บางทีการแต่งงานกับบีมก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ดี ที่แม้แต่พ่อของเธอก็ไม่อยากปฏิเสธ อย่างไรก็ตามมันก็เป็นเพียงความคิดชั่ววูบ เพราะสุดท้ายแล้วโลกของเขามันก็ลึกลับเกินกว่าที่เธอจะพยายามทำความเข้าใจได้ จีนถอนหายใจเดินกลับเข้ามาในห้อง หยิบสูทสีเข้มของบีมขึ้นมาและกะว่าจะเอาไปคืนเขา ทว่าทันใดนั้นผนังห้องก็สั่นครืด หญิงสาวสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ ทันใดนั้นผนังที่ราบเรียบก็เลื่อนเปิดเผยให้เห็นร่างสูงที่เปลี่ยนชุดเป็นชุดลำลองสีอ่อน เขามองคนที่หน้าเผือดสีตรงหน้าด้วยความสับสน “เป็นอะไร” “ฉันนึกว่าแผ่นดินไหว” บีมเกือบจะหลุดหัวเราะออกมากับท่าทางจริงจังของเธอ แต่ก็ต้องกลั้นไว้และพูดว่า “ลืมบอกว่าห้องของเราเชื่อมต่อกัน ประตูปลดล็อกแบบธรรมดาไม่ได้ แต่ต้องใช้ลายนิ้วมือในการปลดล็อก มานี่สิจะลงทะเบียนให้” จีนนิ่วหน้า “หมายความว่าใครจะแอบเข้าห้องใครก็ได้งั้นเหรอ” “ใช่” เขาตอบตามตรง ดึงมือจีนไปที่ผนังแล้วจับปลายนิ้วมือทั้งหมดของเธอลงทะเบียนทีละนิ้วโดยไม่สนใจท่าทางนิ่งขรึมของจีนเลยแม้แต่น้อย “เสร็จแล้ว” “ฉันอยากได้ห้องส่วนตัว” จีนพูดเสียงขุ่น รู้สึกว่าต้องเรียกร้องสิทธิ์ให้ตัวเองมากขึ้น “จะอยากได้ห้องส่วนตัวไปทำไม ในเมื่อนี่เป็นบ้านฉัน ถ้าฉันจะไปหาเธอจริงๆ คิดเหรอว่าประตูเล็กๆ จะกั้นได้” เขาพูด “แต่ฉันไม่ชินกับการอยู่บ้านกับผู้ชายสองต่อสอง” “ไม่ต้องกลัว ที่นี่มีคนของฉันหลายร้อยคนไม่ใช่แค่ฉันคนเดียว อีกอย่าง...” เขามองเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า “คนที่เคยนุ่งโจมตีโป่งในน้ำต่อหน้าฉันอย่างเธอ ยังมีอะไรให้อายอีกเหรอ” “นั่น!” จีนหน้าแดงก่ำ แก้มปูดด้วยความไม่พอใจ “นั่นมันเพราะว่าฉันไม่ได้คิดอะไรกับนายไง” “แล้วตอนนี้เธอคิดอะไรกับฉันแล้วเหรอ” เขาสวนกลับทันควัน “...” จีนแทบสำลักน้ำลายกับคำพูดร้ายกาจของบีม “แต่ฉันมาอยู่กับนายในฐานะเพื่อนหรือเปล่าล่ะ?” เขานิ่งไปพักหนึ่ง จู่ๆ ก็ยิ้มมุมปาก “นั่นสินะ ตอนนี้เธอมาที่นี่ในฐานะผู้หญิงของฉันไงจีน เธอควรจะดีใจที่ฉันใจดีขนาดนี้นะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD