7

1127 Words
7 ถึงท่อนฮุกโจก็เป่าเมาส์ออร์แกนสลับเสียงทุ้มของเพียว หากมือเขาไม่ยอมปล่อยมือเธอ บ่อยครั้งที่ทอดสายตามองอย่างมีความนัย ใบบัวร้อนหน้าแทบไหม้ หากใจก็เผลอพลั้งไปกับเพลงเพราะกระทั่งเพลงจบ ภาสต่อจังหวะกีตาร์ด้วยเพลงร็อกหนักๆ หนังสือเพลงเล่มนั้นถูกมาตรงหน้าเธอ ร่างใหญ่หนาขยับเข้ามาใกล้ เอียงหน้ามาถามแววตาติดยิ้ม “อยากฟังเพลงไหน” เธอสะดุ้งในใจ เพิ่งรู้สึกตัว ขยับมือจะดึงหนี แต่คนเจ้าเล่ห์กระชับนิ้วไว้แน่น เธอวางมือทั้งสองไว้บนตักอยู่แล้ว เพื่อนๆ ก็คงไม่ทันสังเกตว่า ใครบางคนกำลังทำเรื่องชวนคิดลึกไปไกลแค่ไหน หัวใจเธอเต้นรัวราวกับจะหลุดออกมานอกอก แก้มผะผ่าว ร้อนแล้วร้อนอีก ส่วนหนึ่ง เธอแอบชื่นชมผู้ชายข้างกายอยู่ไม่น้อย ชื่นชมความเก่ง โจเรียนเก่งแม้จะขี้เกียจจดเลกเชอร์ โจหล่อ รูปร่างหน้าตาโดด หล่อกว่าดาราบางคนเสียอีก เธอเคยเห็นดาราที่เรียนมหา’ลัยนี้ ยังดูดีสู้เขาไม่ได้ หน้าตาแบบนี้ หุ่นแบบนี้เป็นดาราได้สบาย ไม่ใช่แค่เธอ สาวๆ ทั้งรุ่นเดียวกันและรุ่นพี่ต่างก็เพ้อถึงเขา อยากเป็นแฟนเขากันทั้งนั้น เหนืออื่นใด เขามีน้ำใจกับเธอ แสดงออกให้เห็นมาตลอดนับแต่รู้จักกัน เธอก็เหมือนสาวๆ ทั้งหลาย มีความรู้สึก มีความฝัน โจมาทำแบบนี้ ใจส่วนที่คิดพร่ำเพ้อก็ยิ่งเตลิดไปกันใหญ่ “บัว อยากฟังเพลงไหน” “มะ...ไม่รู้สิ” เธอจะไปนึกชื่อเพลงออกได้ที่ไหนกันเล่า ใจปั่นป่วนแบบนี้ ก่อนหัวใจเธอจะพองโตจนแตกระเบิด โยก็ช่วยชีวิตไว้ได้ทันการ “อยากเห็นโจตีกลองด้วย” ตามด้วยหญิง พรรณนารี “ภาสเล่นกีตาร์เก่งมากเลย” และ “เพียวเสียงดีมาก” เราเป็นแฟนกัน... ใครๆ ต่างรับรู้กันทั้งคณะ ทั้งชั้นปี ใบบัวน่ารัก ทุกครั้งที่เธอยิ้ม โลกของเขาสว่างไสว โจรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ เขาอาจไม่ได้พูดว่า คบกันนะ เป็นแฟนกันนะ แต่การที่เขาตามติดเธอตลอด มันก็เหมือนรู้กันแก่ใจ เรื่องที่คุยเริ่มเปลี่ยนไปในทำนองเย้าหยอกกันมากขึ้น เริ่มไปเที่ยวกันมากขึ้น เธอชอบฟังเพลงมาก อย่างหนึ่งที่จะเห็นติดตัวใบบัวตลอดนั่นคือ ซาวด์อะเบาต์ เขาเองก็ชอบเพลงจึงเล่นดนตรี ฟังเพลงได้ทุกแนว ทำให้คุยกับใบบัวได้สนุก เราเข้ากันได้เป็นอย่างดี แต่...ไม่ถึงครึ่งปี เรากลับต้องเลิกกันซะแล้ว อาจารย์เข้าสอนช้าจึงปล่อยช้าตาม เกือบหนึ่งทุ่มทั่วบริเวณอาคารสว่างไสวจากแสงไฟ นักศึกษาบางตาไปมาก มีบ้างประปรายที่ยังนั่งกันตามโต๊ะหน้าอาคาร มหา’ลัยนี้กว้างขวางก็จริง แต่หอพักนักศึกษาจะเป็นหอรวม รวมในที่นี้คือทุกคณะสามารถพักได้แยกเป็นหอชายหอหญิง เขตหอพักอยู่เยื้องออกไปด้านข้างมีรั้วรอบขอบชิด แยกห่างจากพื้นที่อาคารเรียนทั้งหมดอย่างเป็นสัดส่วน ในส่วนมหา’ลัยปิดประตูสามทุ่ม “กลับยังไง” โจส่งเสียงถามคนที่เดินนำหน้าลิ่วๆ ที่เขาต้องถามเพราะคิดว่าเพื่อนๆ ของเธอคงกลับหมดแล้ว และใบบัวไม่มีรถใช้ มอเตอร์ไซค์เธอยังขับไม่เป็นเลย ใบบัวไม่ตอบไม่หันไปมองเดินหอบหนังสือตรงไปยังจุดที่เป็นรถสองแถวสำหรับออกจากมอ แต่เดินยังไม่ถึงไหน แขนกลับถูกจับ ตัวเธอก็ถูกดึงไปอีกทาง “เอ๊ะ! ทำบ้าอะไรของนายนี่ ฉันจะกลับห้อง” “เดี๋ยวไปส่ง” “ไม่ต้อง!” มีหรืออีตาบ้านี่จะฟัง เขาดึงเธอหยุดหน้าโทรศัพท์สาธารณะใต้ตึก “โทรศัพท์แป๊บ บอกไอ้ภาสก่อน วันนี้มีนัดเทสต์ผับที่ฟิวฯ เผื่อไปสาย” “ไม่ได้อยากรู้” ใบบัวสวนกลับ พยายามกระตุกแขนหนีมือใหญ่ กลับกลายเป็นยิ่งบิดแขนเพื่อให้หลุด มือใหญ่กลับจับแน่น มือคนหรือคีมเหล็ก แข็งก็แข็ง ใหญ่ก็ใหญ่ กำแขนเธอรอบ... ใบบัวคิดฉุนๆ เมื่อไม่สามารถดึงมือหนีได้ “ยืนนิ่งๆ ได้ไหม เดี๋ยวปั๊ดจูบซะหรอก” “ลองสิ จะซัดให้ปากแตก” “คร้าบ...คนเก่ง เดี๋ยวจะลอง...” โจขึงตาดุ ก่อนจะรีบกรอกเสียงลงไปเมื่อได้ยินเสียงคอลล์เซนเตอร์ “...สวัสดีค่ะ ขอทราบหมายเลขเครื่องค่ะ...” “652...” “ข้อความค่ะ” “เพิ่งเรียนเสร็จ อาจไปสาย โจ” ใบบัวเบ้ปาก โกรธจนไม่รู้จะหาคำไหนมาด่า เขาวางโทรศัพท์ก็หันมาลากเธอเดินต่อ “โจ!” “อยู่แค่นี้ เสียงดังทำไม แก้วหูดับจะรับผิดชอบไหม” เธอเดือดดาล เขาหาได้รู้สึกรู้สาอะไรสักนิด “เลิกยุ่งกับฉันสักทีได้ไหม” “ไม่ได้” “หึ” “ก็ไม่ได้อยากจะยุ่ง” เสียงห้าวดังลอยๆ ขึ้น หากมันทำให้คนฟังใจกระตุก ใบบัวตวัดตาค้อน ไม่อยากยุ่งแล้วมาวุ่นวายทำแป๊ะทำเผือกอะไร! โจหยุดข้างรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่ง หยิบหมวกกันน็อกยื่นให้ เธอยืนนิ่ง หน้าบูดหน้าบึ้งไม่รับหมวกไม่ตอบรับอะไรทั้งนั้น เขาถอนใจแรง ไม่เข้าใจตัวเองนักหรอก ทำไมต้องวอแวเธอ แค่รู้สึกว่า อยากทำแบบนี้ ทำไมต้องหาเหตุผลอะไรมากมายด้วย ไม่อยากจะยุ่ง แต่...อดไม่ยุ่งไม่ไหว... ใบบัวถูกจับหมุนหันหน้าเข้าหาร่างสูง หมวกกันน็อกใบเล็กถูกสวมลงบนหัว เธอเบี่ยงหน้า ผลักอกกว้างหวังให้คนบ้าบอถอยออกห่าง ผิดคาด สองมือใหญ่กุมข้างแก้มของเธอไว้ จับตรึงให้อยู่นิ่ง “จะ... จะทำอะไรอะ” หน้าคมคายก้มมาใกล้ ใกล้จนได้กลิ่นลมหายใจอุ่นๆ ปะปนด้วยกลิ่นหมากฝรั่งรสมินต์จางๆ ใบบัวผงะ เอนตัวออกห่าง แม้จะมีหมวกกันน็อกกั้นแต่ความร้อนจากฝ่ามือเขาคล้ายจะแผ่ซ่านมาถึงแก้มเธอ ใจเต้นระรัวรุนแรง เสสายตาหนีตาคม ก่อนจะพบว่าลานจอดรถด้านหลังโจมีรถยนต์จอดอยู่ไม่กี่คันเท่านั้น แม้ไฟบริเวณนี้จะสว่างมากตามธรรมชาติของไฟสปอตไลต์ แต่... ไม่มีใครอื่นอีกแล้วนอกจากเธอกับโจ เขากลั้นยิ้มแทบแย่ แสร้งตีหน้าขรึม ตาดุ สองมือจับไหล่เล็ก ย้ำแรงลงไปเล็กน้อย สร้างความแตกตื่นให้คนดื้อได้มากพอดูจากหน้าเจื่อนซีดทันตา “จูบดีไหม”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD