“ฉันต้องทำอะไรอีกไหมนอกจากเสิร์ฟเครื่องดื่ม”
“ถ้ามีหนุ่มๆ มาชวนคุยเธอก็พูดคุยกับพวกเขาดีๆ ถ้าเขาอยากให้ทำอะไรก็ทำแต่ถ้ามันมากเกินไปเธอก็ปฏิเสธได้ แล้วที่สำคัญเธอต้องยิ้มและยิ้มเข้าไว้ เข้าใจไหม?”
“อืม ขอบใจเธอมากนะ” ฉันยิ้มตอบซาร่า เธอยิ้มตอบและยักไหล่น้อยๆ ตามสไตล์ก่อนที่เธอจะถือถาดเครื่องดื่มและเดินเลี่ยงออกไปหากลุ่มผู้ชายกลุ่มหนึ่งที่นั่งพูดคุยกันอยู่มุมห้อง
ไหนๆ ก็รับงานมาแล้วฉันก็คงไม่มีทางเลี่ยงอื่น นอกจากทำงานให้มันเสร็จๆ ไป แค่ไม่กี่ชม.งานก็จบลงแล้ว พยายามท่องในใจราวกับสะกดจิตตัวเองว่าฉันมาทำงานนี้เพื่ออะไร พอคิดถึงจำนวนเงินที่จะได้มามันก็ทำให้ฉันมีแรงฮึดสู้ขึ้นมา ฉันสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ พยายามรวบรวมความกล้าขณะที่เดินเข้าไปหากลุ่มผู้ชายที่กำลังยืนจับกลุ่มคุยกันอยู่
“รับเครื่องดื่มไหมคะ”
ทันทีที่เห็นใบหน้าของผู้ชายในกลุ่มนั้นชัดๆ ฉันก็แทบลืมหายใจของตัวเอง มันเป็นผู้ชายบ้าๆ กลุ่มนั้นที่ฉันเจอเมื่อคืนที่ผ่านมา
ตอนนี้นอกจากโลกจะกลมมากๆ แล้วฉันยังรู้สึกว่าตัวเองช่างโชคร้ายและดวงซวยมากอีกต่างหาก ฉันพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ พยายามสะกดอารมณ์โกรธเท่าที่จะทำได้ขณะสวมหน้ากากปั้นหน้ายิ้มแย้มออกไป
“มาทำงานที่นี่ด้วยเหรอ หึ..พอแต่งตัวแบบนี้ก็ดูเซ็กซี่ดีนะ สนใจรับงานนอกเวลาไหม ฉันกระเป๋าหนักนะ” โนเอลแสยะยิ้มออกมา สายตาคู่นั้นของเขาฉายอารมณ์โกรธออกมาอย่างปิดไม่มิด มือหนาเอื้อมมือออกมาหยิบเครื่องดื่มออกไปจากถาดในมือของเธอ
“มึงจะโมโหเด็กไปทำไม เมื่อคืนมึงก็ทำเกินไปจริงๆ ” ดีแลนส่ายหน้าอย่างเอือมระอากับความเจ้าคิดเจ้าแค้นของเพื่อน
“โมโหไม่หายว่ะ กูยังแสบแผลที่คออยู่เลย ถ้าแม็กเครย์มันไม่เข้ามาขัดซะก่อน แม่งจะจับเชือดให้ร้องครางทั้งคืนเลย” เขาขบสันกรามแน่น สายตามองจ้องเด็กสาวตรงหน้าราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“ฮ่าๆ ” ดีแลนหัวเราะออกมาเบาๆ
“พูดถึงแม็กซ์ คืนนี้มันมาไหม” บิชอปหันซ้ายหันขวาเมื่อมองไม่เห็นวี่แววของคนที่พวกเขาเอ่ยถึง
“ไม่รู้ กูยังไม่เห็นเลย” ดีแลนพูดตอบ
มือเล็กกำถาดเครื่องดื่มไว้แน่เมื่อเห็นสายตาดูถูกของผู้ชายสารเลวที่ทำเรื่องไม่ดีกับฉันไว้เมื่อคืน ยิ่งฟังคำพูดลามกหยาบคายของผู้ชายตรงหน้า อารมณ์โกรธในใจของฉันตอนนี้ก็เหมือนกับภูเขาไฟที่กำลังรอวันระเบิด ในสมองร้องเตือนให้รีบพาตัวเองออกจากตรงนี้ให้เร็วที่สุดก่อนจะควบคุมตัวเองไม่อยู่ ฉันรีบก้าวเท้าออกไปจากตรงนั้นทันที
ฉันเดินเสิร์ฟเครื่องดื่มกับของว่างมาเกือบสามชั่วโมงเต็ม พอเห็นจังหวะเหมาะๆ ฉันก็เดินออกเลี่ยงออกมาอยู่ตรงจุดที่ค่อนข้างปลอดคน มือเล็กค่อยๆ ถอดรองเท้าส้นสูงออกมา สายตามองรอยถลอกและส้นเท้าที่แดงก่ำพลางถอนหายใจออกมา ไม่เป็นแผลสิฉันจะแปลกใจมากกว่าเพราะต้องเดินไปเดินมาบนรองเท้าส้นสูงสี่นิ้ว แต่หนักกว่าเจ็บเท้าคือฉันเมื่อยหน้ามากเพราะต้องฉีกยิ้มหวานทำหน้าต้อนรับแขกอยู่ตลอดเวลา
เสียงฝีเท้าหนักๆ ที่เดินตรงเข้ามาหาทำให้ฉันรีบหันไปมองต้นทางเสียงทันที ผู้ชายร่างสูงที่ใบหน้าค่อนข้างมีอายุเดินยิ้มกรุ้มกริ่มตรงเข้ามาหาฉัน ใบหน้าเขาแดงก่ำและดวงตาที่เป็นประกายเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์และยังเดินเซจนเห็นได้ชัด
“ฮ่าๆ มาอยู่นี้เอง ฉันเดินตามหาหนูตั้งนานแน่ะ”
“คุณมีอะไรหรือเปล่าคะ”
“มีสิ..ไม่มีจะเดินหาหนูให้เมื่อยทำไมกัน หนูถูกใจฉันมากเห็นครั้งแรกก็อยาก...ฉันมีข้อเสนอดีๆ ให้หนูนะ” เขาเดินเข้ามาใกล้ๆ มือคว้าหมับเข้าที่เอวคอดของเด็กสาวไว้แน่น ใบหน้าหื่นกามมองจ้องหน้าอกอวบอิ่มของเธอไม่กะพริบตา
“ว๊าย!! คุณจะทำอะไร ปล่อยฉันนะ ปล่อยสิ!!” เธอเบิกตากว้างมองหน้าผู้ชายคนนั้นด้วยความตกใจ มือเล็กทุบลงบนตัวเขาอย่างแรงแต่ยิ่งดิ้นแรงมากเท่าไหร่มือเขาก็ยิ่งรัดแน่นขึ้น
“มาทำงานแบบนี้เพราะอยากได้เงินไม่ใช่เหรอไง ทำเป็นสะดีดสะดิ้งทำไมล่ะจ๊ะ”
“ฉันมาทำงานไม่ได้มาขายตัว ปล่อยฉันนะไอ้แก่ตัณหากลับ ปล่อยย!!” ร่างบางดิ้นขัดขืนสุดแรง ยิ่งเธอขัดขืนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งไปกระตุ้นอารมณ์หื่นของผู้ชายตรงหน้าให้พลุ่งพล่านขึ้น มือของเขาดึงกระชากชุดเกาะอกของเธอลงมาใต้ราวนมก่อนซุกไซ้ใบหน้าลงไปสูดดมกลิ่นหอมจากกายสาว
“มะไม่นะ ช่วยด้วยค่ะ ใครก็ได้ช่วยย ..อุ๊บ!!” ยังไม่ทันที่เธอจะได้ตะโกนเรียกให้คนช่วยมือสากก็เอื้อมขึ้นมาปิดปากเธอไว้ทันที
“ใครจะช่วยเธอได้กันแม่สาวน้อย ฉันใหญ่แค่ไหน คนในงานก็รู้ดี ยอมฉันซะดีๆ ก็จบนะ เสร็จแล้วฉันจะให้เงินไปกินขนมนะจ๊ะ” เขาพูดเสียงอู้อี้ขณะที่ริมฝีปากซุกไซ้กับหน้าอกอวบอิ่มของเด็กสาวอย่างหลงใหล
“กรี๊ดด!! อย่านะ!!”
ฉันส่ายหน้าไปมาด้วยความรังเกียจขณะที่พยายามดิ้นรนให้หลุดออกจากมือแข็งทั้งสองข้างที่จับรวบข้อมือของฉันให้ไพล่ไปไว้ข้างหลัง
เพล้ง!!
เสียงแก้วที่ตกกระทบพื้นทำให้ทั้งคู่หยุดชะงักและรีบหันไปมองต้นทางเสียงทันที ชายหนุ่มร่างสูงในชุดสูทสีดำยืนมองดูพวกเขาด้วยใบหน้าเรียบเฉย
“ขอโทษที่เข้ามาขัดจังหวะ ทำต่อสิครับคุณรัฐมนตรีสุชาติ” เสียงทุ้มต่ำพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบขณะที่สายตาดุดันมองจ้องหน้าผู้ชายตรงหน้าเขม็ง
“คุณแม็กเครย์! ผะผม.. เอ่อ..พอดียัยเด็กนี่มันเข้ายั่วก็เลยอดใจไม่ไหว เอ่อ..ผมต้องขอตัวก่อนนะครับ” เขารีบปล่อยมือออกจากข้อมือเล็กทั้งสองข้างและรีบผละตัวออกห่างจากเธอทันที อาการมึนเมาก่อนหน้านี้แทบหายเป็นปลิดทิ้งก่อนจะรีบเดินเลี่ยงออกมาจากจุดนั้น
ร่างบางทรุดตัวลงนั่งยองๆ กับพื้นขณะที่มือเล็กรีบจัดชุดให้เข้าที่เข้าทาง เธอเงยหน้าขึ้นมามองเขาเขม็ง ผู้ชายคนนี้มาช่วยเธอไว้เป็นครั้งที่สองแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญหรือโชคช่วย แต่ในเวลาแบบนี้เธอรู้สึกซาบซึ้งในความมีน้ำใจของเขามาก หญิงสาวมองดูร่างสูงที่ทำท่าจะเดินออกไป เธอรีบหยัดตัวลุกขึ้นก่อนจะรีบเดินเข้าไปคว้าชายเสื้อสูทด้านหลังเขาเอาไว้แน่น
“ขอบคุณที่เข้ามาช่วยหนูนะคะ”
“หึ.. ฉันแค่เดินผ่านมาทางนี้พอดี”
“เอ่อ..ขอบคุณมากๆ ค่ะ”
“ฉันช่วยเธอไว้สองครั้งแล้วใช่ไหม ไม่สิ ..นี่มันครั้งที่สาม”
“…” เฌอแตมเงยหน้าสบสายตากับแม็กเครย์ด้วยความงุนงง
“มานี่สิ” แม็กเครย์จับข้อมือเล็กไว้ก่อนจะดึงตัวเธอให้เดินตาม
“อ๊ะ! ดะเดี๋ยว คุณจะพาหนูไปไหน”
“ถ้าตามมาเธอก็จะได้รู้เรื่องที่เธออยากรู้ สนใจไหม” เขาเอ่ยออกมาขณะที่หันมาสบสายตากับหญิงสาวตรงหน้า สายตาคมเข้มมองดูเรียวปากอวบอิ่มที่เคลือบลิปสติกสีแดงสดและเลื่อนสายตาลงมาดูเนินอกอวบอิ่มที่โผล่พ้นชุดเกาะอกอยู่ครู่หนึ่ง ชายหนุ่มปล่อยมือออกจากข้อมือของเธอและก้าวเท้าเดินออกไป
หญิงสาวมองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินห่างออกไปเรื่อยๆ เธอยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิมและในสมองครุ่นคิดไปกับคำพูดของเขาก่อนจะตัดสินใจหันไปคว้ารองเท้าสิ้นสูงมาถือไว้ในมือก่อนจะรีบวิ่งตามหลังชายหนุ่มออกไป
“คุณแม็กเครย์คะ หนูต้องทำงาน เอ่อ..แล้วตอนนี้ก็ยังไม่เลิกงานเลย”
“ตัดสินใจเอาเอง”
“คะ?” เธอมองเขาด้วยความสงสัยและงุนงงหนักกว่าเดิม
“ฉันไม่ชอบพูดซ้ำๆ แต่จะพูดอีกครั้งก็ได้.. เลือกเอาว่าจะไปกับฉันหรือจะทำงานที่นี่ต่อ”
“หนูจะไปกับคุณค่ะ” เธอพูดโพล่งออกทันทีและแทบไม่เสียเวลาคิดด้วยซ้ำ
รอยยิ้มกระตุกขึ้นบนริมฝีปากเมื่อได้ยินคำพูดนั้นออกจากปากของหญิงสาว แม็กเครย์ไม่ได้หันมามองหน้าเธอแต่เขาหันไปมองหน้าวิคเตอร์และก้องเกียรติที่เดินตรงเข้ามาหา สายตาของทั้งคู่มองจ้องหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างหลังเจ้านายหนุ่มด้วยความแปลกใจ
“ไปเตรียมรถ ฉันจะกลับแล้ว”
“ครับนาย/ครับนาย” วิคเตอร์และก้องเกียรติพยักหน้าตอบคำเจ้านายหนุ่มก่อนจะที่ก้องเกียรติจะเดินออกไปจัดการตามคำสั่ง
“นายจะพาผู้หญิงคนนี้กลับไปด้วยเหรอครับ” วิคเตอร์มองการกระทำของเจ้านายด้วยความแปลกใจเพราะปกติเจ้านายมักจะไม่พาผู้หญิงหน้าไหนกลับไปที่เพนต์เฮาส์ส่วนตัว
“ใช่”