“ทำไม...” เขาค่อยๆ เลื่อนสายตาลงจากหน้าฉันไปที่ช้อนและจานของเขา “เจนไม่ใช้ช้อนกลางตักล่ะครับ”
จบเลย... โอ๊ย! ถ้าไม่เห็นว่าหล่อจะขอยืมหม้อในครัวมาตีหัวเขาแล้วนะ
“โทษที ลืมตัว” ฉันยิ้มแหย เขามองนิดนึงแต่ก็ใช้ช้อนตัวเองตักกุ้งเข้าปาก
“ล้อเล่น ต้องลนลานขนาดนั้นเลยเหรอ?” เขาขำที่เห็นฉันหน้าเปลี่ยนสี พอพูดจบก็เคี้ยวตุ้ยๆ และมองด้วยสายตาตลก ฉันงงๆ กับเขานิดหน่อย อันที่จริงก็งงมากๆ จะใช้คำว่าตามไม่ทันก็ไม่รู้เหมาะมั้ย ควรใช้คำว่า ไม่เข้าใจน่าจะเข้ากว่า
ไม่รู้จริงๆ ว่าตอนไหนเขาเล่น หรือตอนไหนเขาพูดจริง
เพราะไม่ว่าเขาจะพูดอะไร สีหน้าเขาก็นิ่งอยู่ตลอด แถมเสียงก็โมโนโทนมากด้วย
“ก็จุนทำหน้าจริงจัง ก็ตกใจสิ” ฉันว่าแล้วกินบ้าง คนตัวสูงเคี้ยวพักนึงก่อนจะกลืนแล้วค่อยตอบฉัน มีความเป็นผู้ดีสูงมาก ไม่พูดตอนเคี้ยวข้าว
“ถ้าเป็นเจน ก็คงไม่เป็นไรหรอก”
“เป็นคนอนามัยดีนะ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” ฉันพูดประโยคที่มักจะได้ยินสมัยเด็กๆ ช่วงที่รณรงค์ให้กินช้อนกลางและล้างมือก่อนทานข้าว
“อืม ตอนเด็กๆ ผมเป็นคนป่วยง่ายน่ะ นิดๆ หน่อยๆ ก็ป่วยแล้ว”
“อ๋อ”
...มีสตอรี่และที่มาของความอนามัยแฮะ ไม่ได้เป็นคนบ้าเพอร์เฟ็คอย่างที่คิด ฉันพยักหน้ารับ
“เขียนไว้ในแบบฟอร์มแล้วนะ ลองอ่านดู” เขาว่าก่อนจะพยักเพยิดไปที่ไอ้เล่มที่เข้าสันอย่างดีด้วยเทปสีชมพูสองเล่มที่วางบนโต๊ะฝั่งนึง “อย่าลืมเขียนให้ผมด้วยนะครับ ส่งได้วันไหน พรุ่งนี้เช้ารบกวนแจ้งด้วยนะ”
ฉันรู้สึกว่าจุนพยายามจะพูดจากันเอง แต่ก็ยังติดภาษาทางการอยู่บ้างตามนิสัย เฮ้อ อยู่กับเขาแล้วเหมือนตัวเองกำลังย้อนกลับไปสมัยมัธยมที่ต้องทำงานส่งอาจารย์ตอนเช้ายังไงยังงั้น
จะมีผัวทั้งทีต้องมานั่งกรอกแบบฟอร์มด้วย!
“เราเดทกันสามครั้งนะครับ”
“ฮะ” ฉันเงยหน้าขึ้นมาจากจานข้าวแล้วมองเขาเล็กน้อย
“เดทกันสามครั้ง ถ้ายังไม่โอเค เราค่อยมาคิดดูใหม่ ถ้าโอเคก็หมั้นกัน ดีมั้ยครับ” จุนถามความเห็น แต่ไม่แน่ใจว่าเขาต้องการความเห็นรึเปล่า ฉันรู้สึกเหมือนเขามีธงคำตอบอยู่ในใจชัดเจนอยู่แล้ว ต่อให้ฉันพูดอะไร เขาก็คงจะคิดแบบเดิม
“เดทสามครั้งเองเหรอ...”
“ระหว่างนั้นเราก็ลองศึกษาดูใจด้วยการแชทผ่านแอพพลิเคชั่นในมือถือด้วยก็ได้ครับ พวกโซเชี่ยลมีเดียหรือจะโทรคุยก็ได้ครับ ผมจะพยายามตอบไวๆ ถ้าไม่รู้จะตอบอะไร ผมจะส่งสติ๊กเกอร์”
โห ดูเป็นคนใส่ใจนะ... =_=
“วันนี้เป็นครั้งแรก... เราแค่คุยกันเฉยๆ ก็ได้ครับ ครั้งที่สองถ้าความสัมพันธ์พัฒนาเราน่าจะจับมือกันได้ ไม่น่าเกลียด”
“อ่อ... เหรอ” ฉันทำหน้างงๆ กับการอธิบายของเขา เขาพูดเหมือนการคบกันมันเป็นการวางแผนทำรายงานที่มีขั้นตอน
“ถ้าครั้งที่สามเราพัฒนามากขึ้น เราอาจจะจูบกันได้ครับ”
“ฮะ” ฉันชะงักไป หน้าร้อนและจินตนาการอยู่คนเดียว เขาพูดเรื่องนั้นด้วยสีหน้าเฉยเมยยังกับอาจารย์กำลังอธิบายการบ้าน
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมจะทิ้งระยะเวลาของการเดททั้งสามครั้งให้ห่างกัน ดังนั้นคุณเจนจะไม่ดูเป็นผู้หญิงใจง่ายแน่นอน”
เอ่อ... ฉันไม่ได้ห่วงเรื่องนั้น ที่ฉันห่วงคือทัศนคติของนายต่างหาก ไอ้บ้า! เขาจะมากำหนดได้ไงว่าเราจะจับมือตอนไหน จูบเวลาใด มันอยู่ที่ฟีลลิ่งและสถานการณ์ตอนนั้นย่ะ! ฉันกำลังจะคบหากับผู้ชายนะ ไม่ได้กำลังมาสร้างเสริมประสบการณ์ทางวิชาการกับใคร
เครียดนะเนี่ย แต่ก็หล่อ ความรู้สึกในใจฉันมันตีกันแล้ว!
“นี่จุนเคยมีแฟนมาก่อนรึเปล่า?” ฉันวางช้อนส้อมและเท้าคางมองหน้าเขาจริงจัง หน้าหล่อๆ แบบนี้ถ้าจะมีผู้หญิงมาชอบก็ไม่แปลก ฉันแค่สนใจว่าผู้หญิงประเภทไหนที่เคยคบกับเขา
“เคยครับ”
“เหรอ คบกันนานมั้ย?”
“อืม หมายถึงคนไหนเหรอครับ?”
“เอาที่คบนานที่สุดน่ะ”
“หลายเดือนนะครับ จำไม่ได้ ผมไม่ค่อยจำเรื่องอดีตนะ” เขาทำหน้าคิดอยู่แค่แป๊ปเดียวแล้วกินต่อ ฉันยิ้มแห้งๆ “ถ้าเจนกังวลเรื่องว่าเราจะอยู่ด้วยกันแล้วไปรอดรึเปล่า ผมก็คิดไว้แล้วว่าถ้าเราหมั้นกัน เราจะลองย้ายมาอยู่ด้วยกันก่อนครับ”
“นี่วางแผนไปไกลนะ” ฉันหัวเราะ ไม่รู้เขาพูดจริงหรือพูดเล่นเพราะไม่ว่าเขาจะพูดอะไรสีหน้าจุนก็ไม่เปลี่ยน
“ชีวิตเราต้องมีการวางแผนนะ”
“แต่ก็ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ เป็นคนจริงจังกับทุกเรื่องเลยรึเปล่าเนี่ย”
“ใช่ครับ”
“จุนต้องหาช่องว่างให้ตัวเองบ้างนะ คนเราทำอะไรเป็นแบบแผนไปตลอดไม่ได้หรอก บางเรื่องมันก็ควบคุมไม่ได้”
“เราถึงต้องทำทุกทางให้มันควบคุมได้มากที่สุดไงครับ”
เฮ้อ ฉันคิดถูกรึเปล่าเนี่ยที่จะทะเลาะกับเขา ฉันเอียงคอเล็กน้อยแล้วนั่งคิดอะไรสักพักก่อนจะลุกพรวดขึ้นมาให้คนตรงหน้าชะงัก เขามองฉันด้วยสายตางงๆ ฉันยิ้มเล็กๆ ก่อนจะแกล้งนางด้วยการดึงมือที่กำลังถือช้อนอยู่มาจับพร้อมทำหน้ากวนๆ
“นี่ไง เราจับมือจุนตั้งแต่ครั้งแรก เห็นมั้ย แค่นี้มันก็ไม่เป็นไปตามแผนของจุนละ”
“...”
ฉันยิ้ม จุนนิ่ง มือนุ่มๆ ของเขาทำให้ฉันรู้สึกแปลกขึ้นมานิดหน่อย พอทุกอย่างเงียบ จากที่ตั้งใจจะแกล้งและแสดงให้เห็นว่าแผนของเขาน่ะมันไร้สาระ ก็กลายเป็นการทำให้ฉันอึดอัดกว่าเดิม
“แผนการมันเปลี่ยนได้ตลอดแหละครับ” จุนเลื่อนสายตามามองฉันก่อนจะยิ้มให้ “ถ้าเจนอยากข้ามขั้น ผมก็เปลี่ยนแพลนได้เสมอ”