หยุดร้ายถ้าอยากให้รัก ตอนที่ 9 : หมาป่าเจ้าเล่ห์
โครกก~
ฉันลูบท้องตัวเองอย่างเซ็ง ๆ พอมองนาฬิกาก็พึ่งเห็นว่าตอนนี้มันบ่ายโมงกว่า ข้าวต้มกุ้งเมื่อเช้าคงย่อยไปหมดแล้ว ปกติเที่ยงตรงฉันต้องได้กินข้าวแล้วนะ!! รู้สึกว่าตัวเองเริ่มโมโหหิวแล้วสิ เมื่อทนหิวต่อไปไม่ไหวฉันก็ค่อย ๆ ขยับกายลงเตียงอย่างยากลำบาก ร่องรักที่เสียดสียามขยับตัวทำให้ฉันต้องค่อย ๆ เดินออกจากห้อง
“เจ็บจัง!!”
พึมพำกับตัวเองเบา ๆ แล้วเดินไปที่ห้องครัว โอเคในตู้เย็นไม่มีห่าไรเลยนอกจากเบียร์เกือบ 10 กระป๋องกับน้ำเปล่าอีก3-4ขวด ถามจริงไอ้เจ้าของห้องมันอยู่ไปได้ไง.! ฉันเดินกลับมาทิ้งตัวนั่งบนโซฟาอย่างหงุดหงิด โทรศัพท์ก็ไม่รู้ไปตกอยู่ตรงไหน!! แม่งเอ๊ยยยยหิวนะเว้ยยย นายหิว ๆ ๆ จะร้องแล้วนะT^T
ปิ้งป่อง ๆ ๆ ๆ
เสียงกดออดรัว ๆ ทำให้ฉันยิ่งหงุดหงิดกว่าเดิม ใครแม่งมาตอนนี้.!! แหกตาดูบ้างว่าเจ้าของห้องมันไม่อยู่เว้ยยย ทำไมไม่รู้จักโทรเช็คห๊ะ!! บ่นไปงั้นแหละ สุดท้ายก็ต้องลุกไปเปิดประตูอยู่ดี เพราะไม่งั้นเสียงออดคงดังไม่หยุดแน่ ๆ
“สวัสดีค่ะน้องนาย”
“อ่า...หวัดดีค่ะ”
ฉันยกมือไหว้อย่างเก้ ๆ กัง ๆ ผู้หญิงที่ยืนตรงหน้าฉันสูงประมาณจมูกฉันได้มั้ง ก็ถือว่าไม่เตี้ยเหมือนไอ้เพื่อนรักหมากระเป๋าทั้งสองตัว
“พี่เข้าไปได้ไหม”
“เชิญค่ะ”
“พี่ชื่อฟิวส์นะ เป็นรุ่นพี่ไอ้วิน คือมันฝากข้าวมาให้น้องอะ”
ได้ยินคำว่าข้าวฉันก็ตาโตทันที พี่ฟิวส์นี่แม่งเหมือนแม่พระมาโปรดฉันชัด ๆ พี่ฟิวส์เดินไปทางครัวและหยิบจานใส่กระเพราหมูไข่ดาวให้ฉัน เอ่อ...กระเพราะที่ไม่มีใบกระเพราอะนะ
“ขอบคุณนะคะ” ฉันส่งยิ้มขอบคุณตอบกลับไป แล้วนั่งลงตรงเคาน์เตอร์ครัว
“น้องนายเป็นเพื่อนน้องสไมล์กับน้องปังใช่ไหม พี่เป็นเพื่อนไอ้เดย์กับไอ้เปอร์นะ”
“อ่า...ค่ะ”
ถึงว่าหน้าคุ้น ๆ สงสัยเคยเจอที่ผับของพี่เดย์แน่ ๆ ในกลุ่มพี่เปอร์ ฉันเคยเห็นพี่เดย์กับพี่ฟิวส์ผ่าน ๆ ตา แต่ไม่คิดว่าพวกพี่เขาจะสนิทกับไอ้พี่วินด้วย
จานข้าวผัดกระเพราถูกเลื่อนมาวางตรงหน้าฉัน ตอนแรกก็เกรงใจนิด ๆ แหละที่อยู่ ๆ จะมานั่งกินข้าวคนเดียวต่อหน้าคนอื่นแบบนี้แต่พอเห็นท่าทีที่ดูเป็นมิตรของพี่ฟิวส์แล้วฉันก็ลงมือกินทันที เอาจริง ๆ คือทุกคนดูเป็นมิตรกับฉันหมดนะ ยกเว้นไอ้เจ้าของห้องที่มันหนีไปเรียนแล้วนี่แหละ
“น้องนายนี่ไม่เหมือนใครแบบที่ไอ้วินบอกจริง ๆ ”
“ไม่เหมือนยังไงคะ”
ฉันเงยหน้าขึ้นมองพี่ฟิวส์ที่ส่งยิ้มมาหาฉันอย่างใจดี ไอ้พี่วินแม่งนินทาอะไรฉันให้คนอื่นฟังรึเปล่าวะ
“ไม่รู้สิแบบ...น่ารักดีมั้ง5555”
ฉันมองพี่ฟิวส์อย่างอึ้ง ๆ น่ารักกับผีสิ! หน้าไอ้พี่ฟิวส์แม่งยังหวานกว่าฉันอีก
“เห๊ย ๆ พี่ไม่ได้หมายความแบบนั้นอย่าเข้าใจผิด คือแบบเอ่อ...น้องดูท่าทางไม่ยอมคนอะ”
ไอ้น่ารักกับไม่ยอมคนมันคือความหมายเดียวกันเหรอวะ อะ....อันนี้เจ้านายงงนะคะ คือทั้งกลุ่มพี่วินจะมีใครที่คุยกับฉันรู้เรื่องบ้าง หรือว่าฉันเองที่โง่เกินไป...
“น้องนาย”
“คะ?”
“ขอโทษนะ”
พี่ฟิวส์เอื้อมมือมาเช็ดที่มุมปากฉันเบา ๆ
"......"
“ข้าวติดปากอะ”
“อ๋อ...ค่ะ”
ฉันยังคงก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อโดยที่มีสายตาของพี่ฟิวส์มองจ้องอยู่
“พี่ฟิวส์จะกลับเลยรึเปล่าคะ”
ฉันถามพี่ฟิวส์อีกครั้งหลังกินข้าวเสร็จเรียบร้อย
“กลับเลย. เจ้าของห้องมันโทรด่าพี่แล้ว5555”
พี่ฟิวส์พูดอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับชูโทรศัพท์ที่ยังสั่นอยู่ในมือขึ้นมาให้ฉันดู
“งั้นเดี๋ยวฉันเดินไปส่ง”
“ไม่เป็นไร น้องนายยังเจ็บอยู่ไม่ใช่เหรอ”
“คือ...พี่อย่าบอกใครนะคะ ว่าเห็นฉันอยู่ที่นี่”
ฉันยังไม่แน่ใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเหมือนกันเลยขอร้องให้พี่ฟิวส์ช่วยเก็บเรื่องนี้เป็นความลับไว้ก่อน ถึงมันจะเป็นแค่เซ็กส์แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ฉันมีอะไรกับผู้ชาย
“ได้สิ. ว่าแต่น้องนายกับไอ้วินนี่...."
“แค่ความสัมพันธ์ทางกายค่ะ”
ฉันหัวเราะฝืด ๆ กลับไป แต่ดูท่าแล้วพี่ฟิวส์จะตกใจไม่น้อยเหมือนกัน ก็นะ...มันก็แค่ความสัมพันธ์ทางกาย....
19.26 น.
ทำไมวันนี้ฉันรู้สึกว่าเวลามันเดินช้ากว่าที่ควรจะเป็นนะ ปกติตอนนี้ฉันคงกำลังปาร์ตี้กินเหล้าอยู่กับเพื่อน หรือไม่ก็พาสาวสวยหุ่นอึ้มมาต่อที่โรงแรมแล้ว แต่ตัดภาพมาตอนนี้....ฉันกำลังนั่งดูสารคดีโลกกว้างใน TV จอใหญ่ขนาด 65 นิ้วที่ห้องนั่งเล่นในคอนโดหรูย่านใจกลางเมือง ภาพของเสือตัวใหญ่กำลังกัดกระชากเนื้อกวางออกมากิน เมื่อก่อนฉันคงเป็นเหมือนเสือที่ออกล่าเหยื่อไม่เว้นแต่ล่ะวัน แต่ตอนนี้ทำไมรู้สึกว่าตัวเองเหมือนกวางตัวน้อยที่พึ่งโดนเสื้อขย้ำไป
“ดีขึ้นบ้างไหม”
เสียงทุ้มที่เอ่ยออกมาข้าง ๆ หู ทำให้ฉันต้องหันหลังกลับไปมอง จมูกโด่ง ๆ ของฉันเฉียดแก้มเจ้าของเสียงนั้นไป 0.01 มิล ทันทีที่เห็นใบหน้าหล่อเถื่อนของคนตรงหน้า ฉันก็ดีดตัวถอยห่างด้วยความตกใจ
“มะ...มาตั้งแต่เมื่อไหร่”
อยู่ ๆ ก็รู้สึกประหม่า ความคิดเมื่อครู่ตอนที่ดูสารคดีก็ผุดขึ้นมา ถ้าเกิดฉันเป็นกวาง....พี่วินก็คงเป็นเสือสินะ...
“ไม่คิดว่าจะสนใจสารคดี”
พี่วินไม่ตอบฉัน แต่เลือกที่จะเดินมานั่งลงข้าง ๆ ฉันแทน
“มันไม่มีอะไรดู”
ฉันหยิบรีโมทขึ้นมากดปิดTVและเตรียมลุกหนีเข้าห้อง เหงื่อที่เริ่มซึมออกมาตามหน้าผากทำให้ฉันต้องยกมือปาดออกอย่างช่วยไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่เปิดแอร์เย็นขนาดนี้ แต่ร่างกายฉันมันกลับร้อนขึ้นมาเสียดื้อ ๆ
“จะไปไหน”
โอ้ย!! ตุ้บ!!
ก้นฉันกระแทกลงบนตักแกร่งอย่างแรง แล้วอยู่ ๆ ก็มีมือหนามารัดเอวฉันไว้ ไม่ใช่กอดนะแต่เป็นการรัด!! แผ่นหลังฉันแนบชิดไปกับอกแกร่งที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของคนที่หวังจะแกล้งฉัน
“พี่ทำอะไร ฉันเจ็บนะ!!”
ฉันพูดออกมาเสียงดังแล้วพยายามแกะมือของพี่วินที่กำลังรัดเอวตัวเองออก ถามจริง ชาติที่แล้วเกิดเป็นปลาหมึกเหรอ??
“บอกแล้วไงว่าจะกลับมาง้อ”
“ฉันไม่ต้องการ พี่ปล่อยสิเว้ยย”
ทั้งดิ้นทั้งโวยวายแต่ทำยังไงฉันก็ไม่สามารถหลุดออกจากอ้อมแขนนี้ได้เลย ตอนนี้ฉันเจ็บไปหมดแล้วนะ!!
“อยากดื้อได้ไหม อยู่เฉย ๆ เถอะน่า”
“ไม่เว้ยยย!!”
“พี่บอกให้อยู่นิ่ง ๆ ไงนาย”
น้ำเสียงดุ ๆ ที่หลุดออกมาจากปากพี่วินทำให้ฉันหยุดดิ้นแล้วนั่งนิ่ง ริมฝีปากที่เม้นเข้าหากันจนเริ่มเจ็บ ไม่ชินกับการโดนดุแบบนี้เลย. แล้วทำไมอยู่ ๆ ฉันต้องซึมเป็นหมาหงอยด้วยเนี่ยยยย
“งอนเหรอไง”
"....." ฉันเลือกที่จะไม่ตอบอะไรออกไป
“ขี้งอนจริง ๆ เลยนะนาย อะนี่ ฉันซื้อมาให้”
“อะ...อะไร?” ฉันมองกล่องสีขาวที่ถูกชูอยู่ตรงหน้าอย่างงง ๆ
“เค้ก”
“เค้ก?” ฉันทวนประโยคของพี่วินอีกครั้ง อย่าบอกนะว่านี่คือการง้อ
“อืม หน้าฝอยทองด้วย นายชอบไม่ใช่เหรอ”
กล่องเค้กสีขาวถูกวางลงบนตักฉันพร้อมกับใบหน้าหล่อ ๆ ที่วางคางเกยอยู่บนไหล่ฉัน
“ขะ...ขอบคุณนะคะ”
นอกจากป๊ากับม๊าแล้วก็มีแค่ไอ้ปังกับไอ้ไมล์ที่รู้ว่าฉันชอบกินเค้กฝอยทอง ปกติฉันเป็นคนไม่ชอบของหวานเท่าไหร่หรอก แค่พอกินได้แต่สำหรับเค้กฝอยทองไม่ใช่ว่าชอบนะ แต่มันเป็นความรักเลยล่ะ
“ทีนี้ก็ตอบแทนฉันด้วยการออนท็อปอีกสักรอบเป็นไง”
“ฉันเจ็บอยู่นะเว้ย!!”
มือหนาที่สอดเข้าทาในเสื้อทำให้ฉันต้องรีบเอ่ยห้ามออกไป ยังไม่ทันหายดีเลย ถ้าโดนอีกมีหวังรอบนี้ลุกไม่ขึ้นแน่ ๆ
“อย่าขย่มแรงสิ”
โอ้โห....หมดคำจะพูดเลย ฉันไม่รู้ว่าตัวเองช็อคไปนานแค่ได้กับประโยคนี้
“พี่วิน!!”
“สรุปยังไง”
“เออตกลง แต่....ขอกินเค้กก่อนนะ”
แหนะ!! ไม่ต้องมาว่าฉันกันเลยนะ ก็มันแบบ....ยอมรับก็ได้ว่าฉันเริ่มมีอารมณ์แล้วเหมือนกัน แหม๋คนเรามันก็ต้องเสียสละกันบ้าง เหมือนฉันไงที่เสียสละร่างกายสร้างความสุขให้ตัวเอง5555
“เอาสิ ฉันลงทุนซื้อมาง้อเธอเลยนะ5555”
“งั้นพี่ปล่อย...อื้อออ!”
เสียงฉันจำต้องกลืนลงคอเพราะริมฝีปากถูกครอบครองก่อนที่จะพูดจบ รสจูบที่ทั้งเร้าร้อนและรุนแรงในบางครั้งก็อ่อนโยนมันทำให้ฉันแทบหลอมละลาย ลิ้นร้อนของพี่วินกำลังไล่ต้อนลิ้นเล็ก ๆ ของฉันให้จนมุม ไม่มีแม้แต่จังหวะที่จะหายใจ พี่วินรุกจนฉันแทบไปไม่เป็น ลิ้นของเราพันเกี่ยวกันไปมาน้ำใส ๆ เริ่มไหลย้อยลงมาตามมุมปาก ริมฝีปากฉันถูกดูดเม้นเบา ๆ ก่อนที่ฉันจะต้องร้องออกมาเสียงดัง
โอ้ยย!!
รสเลือดฝาด ๆ ที่ได้ชิมทำให้คิ้วขวากับตีนเริ่มกระตุกแปลก ๆ ทำไมฉันรู้สึกว่าตัวเองสู้อะไรไอ้พี่วินมันไม่ได้เลย.!! แล้วคือปากแตกแต่ต้องมานั่งกินเค้กต่อนี่นะ มันใช่เรื่องไหม ตอบบ!!
“มัดจำไว้ก่อน”
รอยยิ้มมุมปากที่ดูยังไงมันก็เหมือนหมาป่าเจ้าเล่ห์ชัด ๆ พี่วินมันไม่ใช่เสือ!! แต่นี่มันคือหมาป่าที่หลอกล่อให้ฉันตายใจ แล้วสุดท้ายฉันก็จะโดนขย้ำให้ตาย....คาเตียง....