เมื่อเสี่ยวเถามาถึงห้องหนังสือ ก็เห็นฮูหยินของตัวเองสวมใส่เสื้อผ้าไม่เรียบร้อย ใบหน้าแดงก่ำ ริมฝีปากบวมเจ๋อ และบริเวณเนินอกมีรอยจุมพิต
เห็นดังนั้นนางก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น "ฮูหยิน กับนายท่าน...” อันที่จริง เด็กสาวอยากจะพูดว่าในที่สุด ฮูหยินก็ทำสำเร็จ! แต่นางไม่กล้าพูดออกไป ถ้าพูดแล้วทำให้ฮูหยินไม่พอใจ เดี๋ยวจะถูกตีขึ้นมาอีก
ซูหลินรู้ว่าสาวใช้คิดไปไกล “มันยังไม่ถึงขั้นนั้น เจ้ารีบเอาเสื้อผ้ามานี่”
เสี่ยวเถา ยื่นเสื้อผ้าให้อย่างลังเล ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนายท่าน เขาสั่งให้นางส่งเสื้อผ้าแบบนี้มาให้ฮูหยิน...
“เสี่ยวเถา ทำไมเสื้อผ้าพวกนี้มันถึงหนักมาขนาดนี้?” ซู่หลินสงสัย
ในฤดูร้อนการใส่เสื้อผ้าจะเน้นแบบบางเบาทำให้รู้สึกสบายจากอากาศร้อน แต่ชุดที่อยู่ตรงหน้ามันเป็นชุดผ้าไหมหนาๆ ซ้อนกันหลายชั้น เมื่อสวมมันปิดมิดลำคอ แค่มองก็รู้สึกว่าร้อนแล้ว
เมื่อได้ยินคำพูดของเจ้านาย เสี่ยวเถา ก็รีบคุกเข่าลง "ฮูหยิน นี่คือคือคำสั่งของท่านแม่ทัพ "
ซูหลินถอนหายใจเฮือกใหญ่ "ลุกขึ้นเถอะ ข้าไม่คิดจะตำหนิเจ้า"
ในท้ายที่สุด หญิงสาวต้องสวมเสื้อผ้าหนาๆ แบบนี้กลับไปที่เรือน และได้รับสายตาแปลก ๆ จากบรรดาบ่าวไพร่ตลอดทาง “ไอ้เลว ไอ้บ้ากาม...” หญิงสาวพึมพำด่าชายหนุ่มที่เป็นต้นเหตุของปัญหา
ซูหลินเดินกลับเรือนไปก็รู้สึกเจ็บเสียดที่ตรงหว่างขามาก เดินๆ หยุด เป็นระยะ
ฉางคงเป็นพระเอกที่คนเขียนนิยายเขียนเอาไว้ว่าเขาเป็นคนสมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่าง ทุกส่วนในร่างกายเขาราวกับเทพสร้าง นางเป็นแค่ตัวร้ายในเรื่องนี้เท่านั้น ถ้าแย่งชิงพระเอกมาจากนางเอก จะมีจุดจบเป็นอย่างไรกันนะ
แต่เท่าที่สังเกตโลกนี้ก็เหมือนกับโลกปกติทั่วไป ไม่มีระบบ ไม่มีภาพชะงักค้าง หรือการบังคับจิตใจให้ตัวละครทำตามบทเลย นางจะพูดจะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น
เมื่อเป็นเช่นนี้ไม่แน่ว่านาง อาจจะเปลี่ยนเนื้อหานิยายต้นฉบับได้ วันนี้คงไปหาลูกสาวไม่ได้แล้ว เด็กน้อยต้องนอนกลางวัน และยังตกใจจากเรื่องเมื่อเช้าอยู่
วันนี้นางจะไปเยี่ยมที่บ้านเดิมในช่วงบ่ายก็แล้วกัน เมื่อมาถึงเรือนนางก็รีบจัดการเปลี่ยนชุดออกทันที ไปอาบน้ำชำระร่างกาย ล้างคราบเหนียวๆ ที่ส่วนล่างออกไป
หลังอาบน้ำนางเลือกชุดสีม่วงไม่หนาไม่บางมาตัวหนึ่ง ให้เสี่ยวเถาช่วยสวมให้ "เสี่ยวเถา เจ้าไปบอกพ่อบ้านให้เตรียมรถม้า ข้าอยากจะกลับไปเยี่ยมท่านพ่อท่านแม่" เสี่ยวเถารับคำรีบเดินออกไปทันที
องค์ชายห้าจ้าวอี้นั่งจิบชารออยู่ที่ห้องโถง เมื่อเห็นร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาเขาก็เอ่ยหยอกล้อ
“ฉางคง เจ้าให้ข้ารอนานเกินไปหรือเปล่า…"
“ว่าธุระของท่านมา” เมื่อได้ยินคำพูดจริงจังไม่ล้อเล่นของฉางคง จ้าวอี้ก็ปรับท่าทีเป็นจริงจัง พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องทหารที่ตอนนี้กำลังออกรบอยู่ที่ชายแดนด้วยการนำทัพของแม่ทัพจากตระกูลอื่น การศึกรบพ่ายแพ้ทุกวันเสียกำลังพลและเสบียงไปมาก
ฉางคงยืนอยู่หน้าโต๊ะ มองดูแผนที่ทางทหาร ไม่นานฝ่าบาทคงจะออกราชโองการให้เขาไปรบ ในใจของเขานึกถึงใบหน้าของหญิงสาวที่เขาเพิ่งจุมพิตไปเมื่อตอนกลางวัน ไปรบครั้งนี้ไม่รู้ว่าจะนานกี่ปีกี่เดือน ลูกและภรรยาไม่ได้รับอนุญาตให้ติดตามออกรบด้วย ไม่รู้ว่านางจะโวยวายจะตามเขาไปเหมือนทุกครั้งหรือไม่