หนึ่งเดือนผ่านไปเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก การทำงานในบริษัทเดรโกสำหรับฉันเป็นไปได้ด้วยดี ถึงคุณดีแลนจะดุอยู่บ้างแต่ฉันก็ยังชอบที่นี่อยู่ดี ไม่มีอะไรที่เกินความสามารถของฉัน เราสองคนเข้ากันได้ดีมากแม้ในหนึ่งวันฉันกับเจ้านายจะพูดกันไม่กี่ประโยคก็ตาม
และฉันคิดว่าวันนี้มาถึงแล้ว
วันที่ฉันจะเข้าไปต่อรองข้อเสนอให้กับคุณดีแลน โดยฉันคิดเงื่อนไขเอาไว้เรียบร้อย เหลือแค่หาจังหวะที่เหมาะสมเพื่อเข้าไปคุยกับเขาอย่างจริงจัง ฉันคิดว่าหนึ่งเดือนเป็นเวลาที่เพียงพอแล้วที่เราได้รู้จักกันมากขึ้นและฉันไม่อยากให้พี่ฟ้าต้องทนรอดูความล้มเหลวของไอโรฮานไปนานกว่านี้ ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาไอโรฮานควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า ข่าวในสื่อลงกันให้โครมครามผู้ชายคนนี้น่าเกลียดอย่างไร้ที่ติ ไฟแค้นในอกยิ่งปะทุมากขึ้นทุกวันยิ่งเห็นฉันก็ยิ่งเกลียดมัน
ฉันอยากเห็นมันฉิบหายเร็ว ๆ
ก็อก ๆ
"เข้ามา" เสียงเข้มที่ดังขึ้นทำให้คนที่เคาะประตูขออนุญาตรีบเปิดเข้าไป ปลายฝนยืนตรงหน้าโต๊ะทำงานของคนที่กำลังเก็บของพร้อมจะออกจากห้อง โดยด้านในไม่ได้มีแค่ดีแลนทว่ายังมีอีธานอีกหนึ่งคนที่อยู่ด้วย
"มีอะไร?" ตั้งแต่เข้ามาปลายฝนก็ไม่ยอมพูดจนเขาต้องเอ่ยปากถามออกไปเอง
"ถึงเวลาเลิกงานแล้ว ฉันมีเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องงานอยากคุยกับคุณค่ะ"
"อีธานออกไปก่อน" เพื่อลดความอึกอักของเธอดีแลนจึงออกคำสั่งให้ผู้ช่วยออกจากห้อง ภายในห้องตอนนี้จึงเหลือเพียงแค่เขากับเธอที่กำลังจ้องหน้ากันนิ่ง
"มีอะไรรีบพูดมา ผมมีเวลาไม่มาก"
"ฉันมีเรื่องอยากให้คุณช่วยค่ะ" ในที่สุดปลายฝนก็ตัดสินใจพูดออกไป…
"ช่วย?"
"ฉันรู้ค่ะว่ามันคงเร็วเกินไปที่จะขอให้คุณมาช่วยฉัน แต่เรื่องนี้ฉันรอไม่ได้ ความร้อนใจของฉันมีแค่คุณที่ช่วยได้"
"ต้องการจะพูดอะไร" เธอไม่ยอมเข้าประเด็นจนดีแลนเริ่มไม่ชอบใจ ทำไมต้องอ้อมไปอ้อมมา เขาไม่ชอบความอึกอักกระอักกระอ่วนเป็นที่สุด
"ฉันอยากให้คุณทำลายไรอันกรุ๊ปค่ะ" ปลายฝนพูดออกไปเต็มเสียง ทำเอาคนฟังที่นิ่งในตอนแรกชะงักนิ่งกว่าเดิม
"ฉันต้องการเห็นไรอันกรุ๊ปพังพินาศ มีคุณคนเดียวเท่านั้นที่จะช่วยฉันได้" สายตาของปลายฝนเต็มเปี่ยมไปด้วยความเคียดแค้น มือบางกำกำปั้นไว้แน่นภาพรอยยิ้มของพี่สาวฉายเข้ามาในหัวของเธอ ยิ่งตอนที่นึกได้ว่าจะในชีวิตได้สูญเสียรอยยิ้มแบบนี้ไปแล้วก็ยิ่งทำให้ไฟแค้นราคะแรงมาคุกว่าเดิม
"ทำไม?" ดีแลนสังเกตใบหน้าที่มักจะเต็มไปด้วยรอยยิ้มทว่าตอนนี้กำลังแปรเปลี่ยนเป็นคนละคนราวกับไม่ใช่เลขาของเขาที่รู้จักตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา
"ฉันไม่สะดวกใจที่จะเล่าค่ะ"
"ทำไมถึงต้องเป็นผม"
"ฉันรู้ค่ะว่าคุณมีอำนาจมากกว่าที่ฉันคิด และคิดว่าเดรโกมีอำนาจมากกว่าไรอัน คุณเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด"
"ผมไม่ใช่มาเฟียที่จะหาเรื่องคนไปทั่ว ผมไม่ใช่อันธพาล"
"แลกกับเงินห้าล้านบาทค่ะ" เงินห้าล้านที่ได้มาจากการขายบ้านที่เป็นมรดกเดียวที่พ่อกับแม่ของเธอเหลือไว้ให้ บ้านที่เธอเคยอยู่กำลังจะถูกแลกกับการแก้แค้นแทนพี่สาวอันเป็นที่รัก แม้จะเสียดายและใช้เวลาตระหนักคิดอยู่นานพอสมควรแต่สุดท้ายปลายฝนก็ตัดสินใจจะขายบ้านหลังนั้น เธอคุยกับนายหน้าไว้แล้วบ้านหลังนั้นมีคนให้ราคาสูงถึงห้าล้าน เพราะเป็นที่ทำเลทองเพียงแค่เธอโทรไปยืนยันเงินห้าล้านก็จะตกเป็นของเธอในทันที
"เงินแค่ห้าล้าน?" ปลายฝนเริ่มหน้าเจื่อนลงเมื่อเขาใช้คำว่าแค่กับเงินห้าล้านที่เธอคาดว่าหาทั้งชีวิตคงไม่พอ
"…"
"ทำลายไรอันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เดรโกมีอำนาจมากกว่าก็จริง แต่ก็คงเสียผลประโยชน์ไม่น้อยเหมือนกัน"
"ต้องการจะพูดอะไรคะ?" คำถามเดิมถูกย้อนถามดีแลนที่เอาแต่พูดอ้อมไปมา ปลายฝนเองก็อึดอัดไม่แพ้กัน เธอแค่ต้องการข้อสรุป
"คนฉลาด ๆ แบบเธอลองเสนอมาสิ เผื่อฉันจะเปลี่ยนใจมาช่วยเธอ"
"เงินสิบล้าน"
"เงินไม่ได้อยู่ในตัวเลือกที่ฉันต้องการ" ดีแลนกระตุกยิ้มตอบเสียงเรียบ เขาไม่ได้ต้องการเงิน ร้อยล้านเขาหามาได้ง่าย ๆ แค่พริบตาเดียว กับแค่สิบล้านจากเธอจะเปลี่ยนใจเขาได้อย่างไร
"ตกลงคุณต้องการอะไรกันแน่" ทุกคนก็ล้วนอยากได้เงินไม่ใช่เหรอ…ฉลาดแค่ไหนตอนนี้เธอก็จนปัญญาเหมือนกัน
"ลองเสนอร่างกายของเธอสิ เผื่อจะเปลี่ยนใจให้ฉันช่วยคุณกำจัดมันให้สิ้นซาก"
"…" ร่างเล็กใจกระตุกวูบทันทีที่ได้ยินข้อเสนอจากอีกฝั่ง เสนอร่างกายที่แปลว่ายอมตกเป็นของเขางั้นหรือ…
"กลัวฉันเหรอ?" ก่อนหน้านี้ไม่ได้มีทีท่าว่าเขาจะสนใจเธอเลยสักนิด ทำไมตอนนี้เขาถึงแสดงออกว่าอยากได้เธอกัน
"คุณล้อฉันเล่นหรือเปล่า" ปลายฝนรู้สึกแบบนั้น เขาดูไม่ได้พิสวาทในตัวเธอเลยสักนิด
"ลองเสนอมาสิ เธอจะได้รู้ว่าฉันล้อเล่นหรือพูดจริง"
"…" ปลายฝนเงียบลงอีกครั้ง ถ้าเขาพูดจริง เธอจะยอมให้ใช้ตัวเองเพื่อแลกกับการแก้แค้นงั้นหรือ
"หึ ฉันไม่มีเวลามาคุยเล่นกับเธอแล้ว" ดีแลนพูดจบก็รีบลุกขึ้นจะเดินออกจากห้อง ทันทีที่แผ่นหลังเดินพ้นร่างเล็กที่ยืนคิดอย่างหนักก็พ่นเสียงหวานที่พูดขึ้นทำให้เท้าหนักต้องหยุดเดิน
"แลกกับร่างกายของฉัน คุณจะช่วยทำให้พวกมันพังพินาศได้หรือเปล่า"
"ตกลง" ดีแลนกระตุกยิ้มร้ายก่อนที่จะรีบตอบโดยไม่ได้หันกลับไปมองเปิดประตูออกไปจากห้องทำงานทิ้งให้คนที่ยื่นข้อเสนอด้วยตัวเองถึงกับเข่าทรุดหมดแรงกับการตัดสินใจที่บ้าบิ่น
"กรี๊ดดดดด ยัยปลายฝนแกเสียสติไปแล้วใช่ไหม!"
เช้าวันต่อมา
ฉันรีบสะดุ้งยืนขึ้นพร้อมกับก้มหน้าลงในตอนที่ได้ยินเสียงฝีเท้าและจำกลิ่นน้ำหอมของเขาได้ ตอนนี้ฉันไม่กล้าแม้แต่จะสู้หน้า ด้วยการเจรจาเมื่อวานจบลงที่ฉันเสนอตัวให้เขามันน่าอับอายจนฉันแทบไม่กล้าจะสบตาเขาเลย
"เอากาแฟให้ผมด้วย"
"ค่ะคุณดีแลน" แต่เหมือนว่าเขาก็ยังปกติไม่มีอะไรแปลกไป ในตอนทำงานกับตอนนั้นเขาดูแตกต่างกันสิ้นเชิงเลย ออกคำสั่งจบเขาก็เดินเข้าไปในห้องราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรือว่าข้อตกลงระหว่างเราเขาแค่ล้อฉันเล่นเท่านั้น
ก็อก ๆ
"เข้ามา" ฉันเดินเข้าไปในห้องที่มีผู้ชายสองคนกำลังก้มหน้าทำงาน ก่อนที่ฉันจะหันไปยิ้มให้พี่อีธานแล้วรีบตรงไปวางเครื่องดื่มให้ท่านประธานที่อ่านเอกสารอย่างเคร่งเครียด
"เดี๋ยว…" เรียวขาที่กำลังจะหมุนตัวเดินออกจากห้องชะงักกึก หันไปประสานมือต่อหน้าเจ้านายที่เรียกไว้
คุณดีแลนพยักหน้าให้พี่อีธานที่นั่งทำงานไม่ไกล หลังจากนั้นพี่อีธานก็รีบยื่นเอกสารให้ฉันรับมาอย่างงง ๆ
"อ่านแล้วเซ็นซะ"
"นะ นี่มันอะไรคะ?" ฉันเบิกตากว้างเงยหน้าไปมองเขา
"สัญญาการเป็นผู้หญิงของฉัน" อย่าบอกนะว่าเรื่องเมื่อวานเป็นเรื่องจริง เป็นผู้หญิงของเขางั้นเหรอ…นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย
"มีตรงไหนไม่เข้าใจฉันพร้อมตอบ" ฉันไล่อ่านสัญญาที่ระบุไว้อย่างชัดเจน (1) ทำตามคำสั่งของเขาทุกประการ (2) ห้ามมีพันธะกับใครจนกว่าจะหมดข้อตกลง (3) ต้องย้ายไปอยู่กับเขาเป็นเวลา 5 เดือน (4) จดทะเบียนสมรสกับเขาและหย่าทันทีที่หมดสัญญา 5 เดือน
ผลตอบแทน…ทำลายไรอันกรุ๊ปเท่าที่นางสาวปาณิสราต้องการ
"ไม่เข้าใจหมดเลยค่ะ ทำไมฉันต้องย้ายไปอยู่กับคุณแถมยังต้องจดทะเบียนสมรสกับคุณด้วย" มากเกินไปหรือเปล่า…จดทะเบียนสมรสแปลว่าฉันจะมีสามีเลยนะ แล้วห้าเดือนยังต้องมาหย่าอีกฉันก็จะกลายเป็นแม่ม่ายคำที่ติดตัวไปตลอดชีวิต
"เธอเป็นผู้หญิงของฉัน เป็นนายหญิงของเดรโก แค่ในนามเท่านั้น"
"แปลว่าเรื่องนั้น เอ่อ…" เรื่องบนเตียงเขาก็ไม่ได้หวังเรื่องนั้นใช่ไหม…
"คิดอะไรอยู่" แปลว่าเขาไม่ได้หวังเรื่องนั้นกับฉัน โล่งอกเป็นบ้า ฉันนอนไม่หลับทั้งคืน เพราะคิดว่าเขาอยากได้ร่างกายของฉันเพื่อไปปนเปรอความสุขทางกายได้ยินแบบนี้แล้วฉันหายใจโล่งสบายเลย อ่านนิยายมาเยอะก็คิดเยอะเป็นเรื่องธรรมดาสินะ ขายหน้าเขาอีกแล้ว…
"แล้วทำไมฉันต้องไปอยู่บ้านคุณด้วย"
"เธอเคยเห็นผัวเมียตามกฎหมายอยู่แยกบ้านกันหรือเปล่า" ผัวเมียคำนี้เรียกความขนลุกจากฉันแปลก ๆ
ฉันส่ายหัวตอบเขา ก่อนที่จะถามต่อ
"แล้วทำไมเราต้องจดทะเบียนสมรสกันด้วยคะ แค่อยู่บ้านเดียวกันคนก็เข้าใจว่าเราจดทะเบียนกันแล้ว คุณต้องการจะหลอกใครเหรอคะ"
"เธอไม่จำเป็นต้องรู้ตอนนี้ สัญญาข้อที่ 1 ทำตามคำสั่งของฉันทุกประการ" ขนาดยังไม่เซ็นสัญญาก็บ้าอำนาจซะแล้ว…
"เรื่องผลตอบแทนคุณจะทำตามที่เขียนใช่ไหม?"
"ฉันไม่เคยผิดคำพูด"
"ฉันตกลง" เป็นแม่ม่ายก็ยอม การเจรจาง่ายกว่าที่คิด ฉันรีบลงนามในกระดาษที่มีลายเซ็นของเขาอยู่ก่อนแล้ว ก่อนที่จะยื่นส่งให้พี่อีธานที่ยืนรอรับจากมือของฉัน
"เย็นนี้กลับกับฉัน สัญญาจะเริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป"
"แล้วเรื่องไรอัน…"
"รอดูความฉิบหายของมันเร็ว ๆ นี้"