ครืดดด ครืดดด ~
ฉันควานหาเสียงเจ้ากรรมที่โทรมารบกวนเวลานอนอันแสนเช้าตรู่ ดวงตากลมค่อย ๆ เปิดเปลือกตาอันหนักอึ้งเมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ปาไปตีสอง เพราะระหว่างทางที่กลับหอฉันเห็นป้ายรับสมัครคนล้างจานแบบพาร์ทไทม์พอดีได้โอกาสก็เข้าไปสมัครหาเงินระหว่างรองานประจำ
แล้วเวลาหกโมงเช้าเช่นนี้ใครกันที่โทรมา หน้าจอโทรศัพท์ไม่ได้ปรากฏชื่อคนโทร ถ้าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่โทรมาสัญญาเลยว่าฉันจะด่ายันบรรพบุรุษเลยคอยดู
"ฮัลโหลค่ะ…" ฉันหลับตาพูดด้วยเสียที่งัวเงียก่อนที่ปลายสายจะตอบกลับมาทำเอาฉันถึงกับลืมตาตื่นลุกมานั่งแทบไม่ทัน
"สวัสดีครับผมโทรมาจากบริษัทเดรโกกรุ๊ปครับ"
"ดะ เดรโกกรุ๊ปเหรอคะ!?" ปลายฝนคนขี้เซาหายไปในพริบตาเดียว
"ครับ ขอโทษที่รบกวนแต่เช้าครับ ผมจะโทรมาแจ้งว่าคุณผ่านการคัดเลือกตำแหน่งเลขาซีอีโอครับ ไม่ทราบว่าเก้าโมงวันนี้สะดวกเข้ามาสัมภาษณ์หรือเปล่าครับ?"
"สะดวกค่ะสะดวกมากเลยค่ะ"
"ครับ งั้นเจอกันที่บริษัทเวลาเก้าโมงตรงนะครับคุณปาณิสรา"
"ขอบคุณค่ะ"
กรี๊ดดดดดด ฉันซุกหน้าไว้กับหมอนแล้วตะเบ่งสุดเสียง ในที่สุดฉันก็ได้ทำงานแล้ว ไม่เสียแรงที่เมื่อวานสิงสถิตอยู่บริษัทนั้นทั้งวัน ไอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่างเหมาะเจาะเสียเหลือเกิน ฉันมั่นใจมากว่าเหตุการณ์ที่ฉันดักรอเขามาทั้งวันแล้วบังเอิญได้จัดการให้เมื่อวานเข้าตาซีอีโอของบริษัทถือว่ายังพอมีความดีที่สวรรค์ประทานสถานการณ์อย่างเป๊ะปังอยู่บ้าง
แต่ที่ดีใจไปกว่านั้นคือแผนการแก้แค้นของฉันคืบหน้าแล้ว ก่อนหน้านี้ข่าวหน้าหนึ่งด้านธุรกิจลงกันให้ควักว่าไรอันกับเดรโกที่จับมือคู่ค้ากันมานานฉีกสัญญาทะเลาะกันครั้งใหญ่ ซึ่งเหตุการณ์ที่ฉันเห็นคนหล่อคนนั้นหรือคุณดีแลนทายาทของเดรโกยืนยันว่าพวกเขาบาดหมางกันจริง ๆ ศัตรูของศัตรูคือเพื่อนกันก็แวบเข้ามาในหัวของฉัน ฉันอาจจะไม่มีอำนาจมากพอที่จะแก้แค้นมันด้วยตัวเองแต่ฉันยืมมือเขาทำให้ได้
แต่คนอย่างคุณดีแลนใช่ว่าจะเข้าถึงตัวเขาได้ง่าย การสมัครเป็นเลขาเป็นเรื่องที่ฉันทำได้มากที่สุด ได้ทั้งงานทั้งใกล้ชิดยิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัว…
พี่ฟ้ารอฝนก่อนนะ ฝนจะพาคนที่ฆ่าพี่ฝนมารับผิดให้ได้
ฉันรีบเข้าไปอาบน้ำอาบท่าเตรียมตัวเพื่อไปสัมภาษณ์งาน ถ้าให้เดาวันนี้ซีอีโอของบริษัทคงจะเป็นคนลงสัมภาษณ์ด้วยตัวเอง ตำแหน่งที่ฉันได้รับถือว่าเกินคาดสำหรับคนจบใหม่แบบฉันมาก ฉันไม่คิดด้วยซ้ำว่าวันนี้จะมาถึงง่ายเช่นนี้คงต้องขอบคุณเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้คุณดีแลนเห็นถึงความสามารถที่แท้จริงของฉัน
แต่จะพูดออกไปเยอะมากไม่ได้ อย่างไรวันนี้ฉันยังคงต้องผ่านด่านการสัมภาษณ์อีก พ่อจ๋าแม่จ๋าพี่ฟ้าดลบันดาลให้ฝนได้งานนี้ด้วยนะคะ…
ก็อก ๆ
ฉันยืนรอหน้าห้องพร้อมกับรวบมือถือแฟ้มเอกสารด้วยใจที่เต้นรัว ครั้งนี้นับว่าเป็นการสัมภาษณ์งานครั้งแรกหลังจากที่ฉันเรียนจบแถมยังเป็นการสัมภาษณ์กับบริษัทยักษ์ใหญ่และตำแหน่งที่ค่อนข้างจะเกินตัวทำเอาคนที่ไม่ค่อยกลัวแบบฉันประหม่าอยู่ไม่น้อยเลย
"เชิญครับ" ทันทีที่คนในห้องเอ่ยอนุญาตฉันก็รีบบิดประตูเข้าไปด้วยท่าทางที่มั่นใจ แม้ข้างในจะซ่อนทั้งความประหม่าและตื่นเต้นไม่น้อย
"เชิญนั่งครับ" มือหนาของคนที่ขึ้นชื่อว่าซีอีโอบริษัทผายมือยังเก้าอี้ตรงหน้าเขา พระเจ้า…มองจากไกล ๆ ว่าหล่อวัวตายมาก ๆ แล้วดูใกล้ ๆ เขาโคตรจะหล่อเลยดวงตาคมสีดำมืดสนิทจมูกโด่งเป็นสันคมและริมฝีปากอมชมพูใบหน้าออกไปทางลูกครึ่งฝรั่งไม่น่าเชื่อว่าจะยังมีคนหล่อสมบูรณ์แบบอยู่ในโลกใบนี้
แต่มันใช่เวลาไหมปลายฝน รีบดึงสติแล้วนั่งลงซะ แกจะชวดงานเพราะบ้าผู้ชายไม่ได้
"สวัสดีค่ะ อันนี้เป็นแฟ้มสะสมผลงานของฉันค่ะ"
"ครับ" ซีอีโอสุดหล่อรับแฟ้มงานจากมือฉัน ก่อนที่จะวางไว้ข้าง ๆ โดยไม่คิดจะเปิดอ่าน
อะไรกัน…ไม่สนใจผลงานของฉันหน่อยเหรอ ในนั้นบรรจุทั้งประสบการณ์ฝึกงานถึงสี่ปีซ้อนรวมไปถึงรางวัลการแข่งขันหลายรายการระหว่างที่เรียนมหาวิทยาลัยเขาไม่มีท่าทีที่จะเปิดอ่านเลยหรือไง
"ผมอยากฟังคุณเล่าด้วยตัวเอง" เจ้าของใบหน้าหล่อเอ่ยเสียงเรียบเขาจดจ้องฉันอย่างไม่ละสายตาหรือนี่จะเป็นการทดสอบการวางตัวและบุคลิกของฉันหรือ…
"ได้ค่ะ ขอแนะนำตัวก่อนค่ะดิฉันชื่อนางสาวปาณิสรา…" แล้วฉันก็ร่ายคำพูดยาวมากมายงัดทั้งประสบการณ์และความสารถทั้งหมดที่มีพูดออกไปให้หมด แนวโน้มที่คาดว่าจะทำให้เขารับฉันเข้าทำงานฉันก็ไม่ปล่อยให้ขาดตกบกพร่องพูดคนเดียวราว ๆ ห้านาทีโดยที่มีเขานั่งจดจ้องอยู่เงียบ ๆ ไม่รู้ว่ากำลังฟังหรือหลับในใส่ฉันกันแน่ เขาเงียบมากเงียบเสียจนฉันกลัวว่าเขาจะเบื่อที่ฉันพูดเป็นต่อยหอย หรือว่าฉันกำลังจะชวดงานนี้จริง ๆ
"คร่าว ๆ ก็ประมาณนี้ค่ะ"
"…" ไม่มีเสียงตอบรับจากเขาเลยสักคำ ฉันเริ่มใจไม่ดีแล้ว
จนกระทั่ง…
"ออกไปข้างนอกเซ็นสัญญาร่วมงานกับผู้ช่วยของผมได้เลยครับ"
"ขะ ขอบคุณค่ะ" ในที่สุดฉันก็ยิ้มออกรีบพนมมือขอบคุณเขาโดยเร็ว ฉันได้งานแล้ว ~
"คุณปลายฝนสะดวกเริ่มงานพรุ่งนี้เลยหรือเปล่า"
"สะดวกค่ะ จริง ๆ เริ่มงานวันนี้ก็ได้ค่ะ ฉันเตรียมตัวมาแล้ว"
"งั้นวันนี้ผมจะสอนงานให้คุณปลายฝนแล้วกันครับ ผมอีธานยินดีที่ได้ร่วมงานครับ" คุณอีธานยื่นมือซ้ายให้ฉัน ยินดีที่ได้ร่วมงานเป็นคำที่ฉันอยากได้ยินมากที่สุดเลย
"ขอบคุณค่ะ คุณอีธานเรียกฉันว่าปลายฝนเฉย ๆ ก็ได้ค่ะ ไม่ต้องคุณก็ได้" ฉันยื่นมือจับพร้อมกับกดยิ้มตาหยี การผูกมิตรกับเพื่อนร่วมงานเป็นเรื่องที่ควรทำเป็นอันดับแรกแต่ทำไมพี่อีธานมองหน้าฉันแล้วชะงักล่ะ
"มีอะไรหรือเปล่าคะ?"
"อะ อ๋อ เปล่าครับ ถ้าไม่รังเกียจเรียกผมว่าพี่ก็ได้ครับ ผมเป็นผู้ช่วยของท่านประธานครับ เราคงจะได้ร่วมงานกันบ่อย ๆ"
"ได้ค่ะพี่อีธาน" ฉันส่งยิ้มอีกครั้ง คราวนี้คนตรงหน้าเริ่มหน้าแดงและทำตัวไม่ถูก อย่าบอกนะว่าพี่อีธานกำลังเขินฉันอยู่งั้นเหรอ…
"ระ เราไปกันดีกว่าครับ ผมจะสอนงานให้" ว่าจบพี่อีธานก็เดินหันหลังหนีฉันทันที อะไรกันคนตัวโตร่างบึกบึนกำลังอายฉันอยู่เหรอ เขาหน้าตาดีมากพอที่จะมีสาว ๆ มายิ้มให้แบบนี้นะ ถึงจะหล่อน้อยกว่าท่านประธานแต่พี่อีธานก็ไม่ได้แย่เลย
"อันนี้โต๊ะทำงานของเรานะ อยู่หน้าห้องท่านประธานพี่จัดการเรื่องของใช้เลขาคนเก่าออกไปหมดแล้ว มีอะไรสงสัยหรือเปล่า"
"เอ่อพี่อีธานคะ คือ…"
"มีอะไรเหรอ?"
"ฝนไม่รู้ว่าเป็นเรื่องที่ควรถามหรือเปล่า แต่ฝนแค่สงสัยว่าทำไมเลขาคนเก่าถึงลาออกไปเหรอคะ?" ฉันแค่สงสัยเพราะเหตุผลการลาออกเลขาคนเก่ามีผลต่อการทำงานของฉัน
"พี่ไม่แน่ใจแต่เหมือนว่าจะรู้สึกว่าท้องก็เลยลาออกไปเลี้ยงลูกครับ"
"อ๋อ…" สบายใจขึ้นเยอะเลย ถ้าลาออกไปโดยไม่มีเหตุผลฉันคิดว่างานที่นี่คงหนักหรือท่านประธานอาจจะไร้เหตุผลจนทำงานต่อไม่ได้แน่
"ทำไมครับ กำลังนินทาอะไรอยู่ในใจหรือเปล่าครับ"
"แหะ หน้าฝนดูออกขนาดนั้นเลยเหรอคะ" ฉันยิ้มแห้ง ๆ
"แทบจะตะโกนออกมาเลยครับ" ฉันกับพี่อีธานยิ้มออกมาพร้อมกัน โดนจับจนได้ พี่เขาก็คงจะมีนินทาเจ้านายในใจเหมือนฉันบ้างแหละแค่ไม่ได้พูดมา ทว่าในขณะนั้น…
แกร็ก!
ประตูห้องของคนที่ฉันกำลังนินทาดันเปิดออกมาพอดี รอยยิ้มกว้างบนใบหน้าของฉันและพี่อีธานหุบลงพร้อมกันก่อนที่จะยืนรวบมือแล้วก้มหน้าลงให้คนที่เดินมาออกมาใบหน้าเรียบ
"ผมจะให้คนเตรียมรถครับ" พี่อีธานพูดจบก็โค้งคำนับแล้วรีบเดินนำออกไป เท้าหนาของท่านประธานที่กำลังจะเดินผ่านหน้าฉันหยุดเดิน เหลือบมามองฉันพูดทิ้งท้ายก่อนที่จะเดินตามออกไป
"สนิทกับคนเร็วดีนะครับ…"