มาร์ริค
"เธอเป็นใคร!!"
ผมตะคอกใส่ร่างเล็กที่อยู่ๆ ก็พุ่งเข้ามาในห้องส่วนตัวที่ผมกับเพื่อนกำลังคุยธุรกิจกันอยู่ ลูกน้องผมรวมทั้งลูกน้องของไอ้เรียวจ่อปืนไปที่ผู้เข้ามาใหม่นั่นถ้าตุกติกโดนยิงทิ้งแน่นอน
"เฮือก!!!"
ร่างเล็กในชุดกี่เพ้าสีแดงสดนั่นสะดุ้งเฮือกกับน้ำเสียงของผม มาเฟียอย่างผมน้ำเสียงคงไม่อ่อนหวานนักหรอกนะ
"หันมา" สั่งเสียงเหี้ยมเมื่อร่างเล็กจ้อยนั่นเอาแต่ยืนสั่นหันหลังให้พวกผม นี่มันกำลังกวนมาเฟียอย่างผมใช่ไหม หรือมันฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่อง
"หันแล้วๆ"
ตอบเสียงสั่นๆ แล้วค่อยๆ หันหน้ามา แล้วเงยหน้าขึ้นมองมาสบสายตากับผมพอดี ให้ตายสิ!! ใครเอาเด็กมาวิ่งซนแถวนี้วะ!! ผมมองเด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มนั่นไม่วางตาเธอก็มองสบตาผมตาแป๋วแถมกระพริบตาปริบๆ อีก ใจผมรู้สึกกระตุกวูบเมื่อมองสบตาเด็กสาวตรงหน้า
"น่ารักถูกใจมาก"
ผมคิดในใจแล้วมองสำรวจร่างเล็กในชุดกี่เพ้าที่รัดรูปไปกับทรวดทรงของเธอ ตัวเล็กมากเล็กจริงๆ แต่หน้าอกนี่มันพิการรึไงวะใหญ่โตมหึมาจริงๆ
หื่มมม!!! ว่าแต่ยัยนี่มันเด็กหรือผู้ใหญ่กันแน่ ตัวเด็กนมแต่นมผู้ใหญ่!!!
ผมสงสัญญานให้ลูกน้องเก็บปืนก่อน
"ชื่ออะไร"
พรึบ!
ผมถามออกไปจนเพื่อนกันลูกน้องหันมามองผมอย่างแปลกใจเพราะผมจะไม่ถามเวลามีคนเข้ามาโดยไม่อนุญาตมีแต่ยิงทิ้งอย่างเดียวไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่แม้แต่คนแก่ผมก็ไม่มีข้อยกเว้น ผมเลว? ก็คงจะใช่ไม่งั้นคงเป็นมาเฟียไม่ได้
"สะ..สะสวัสดีค่ะคุณลุง"
เด็กนั่นไม่ตอบคำถามผมแล้วยังยกมือไหว้ผมแบบย่อเข่าลงเหมือนไหว้คุณครูที่โรงเรียนแล้วเรียกผมว่า***คุณลุง!!!***อ๊ากกกก ช่างกล้านักยัยเด็กนี่เล่นเอาผมแถมหงายหลังตกเก้าอี้!!
"อุ้บ อะแห่มมม"
ผมตวัดสายตามองไอ้เรียวกับลูกน้องที่ขำกับคำเรียกขานของยัยเด็กนั่นจนพวกนั่นเบือนหน้าหนีมีแต่ไอ้เรียวที่ยิ้มกวนประสาทผมเท่านั้น
"นี่เธอเรียกฉันว่าลุงเลยเรอะยัยเด็กบ้า" ผมสบถออกมาเสียงดังลั่นจนเด็กนั่นถอยหลังติดประตูอย่างผหวา
"เอาน่าไอ้มาร์ริคแกจะเสียงดังทำไมดูสิเด็กกลัวจนสั่นไปหมดแล้ว หึหึ" พูดกับผมพร้อมกันกั้นหัวเราะ พลางหันมองหน้ายัยเด็กตาแป๋วนั่น
"ว่าแต่เธอชื่ออะไรเด็กน้อย" เพื่อนผมถามเด็กนั่นยิ้มๆ มันดูอารมณ์ดีเกินไปแล้วนะไอ้เรียว ผมจ้องมองไปปที่เด็กนั่นนิ่งๆ สำรวจไปในตัวด้วย อืม...น่าเลี้ยงจริงๆ..??
"หนะ..หนูชื่อผักหวานค่ะคุณลุง" ตอบพร้อมกับมองพวกผมอย่างหวาดกลัว
"555 ไงละมึงจุกยันชาติหน้า! " ผมหัวเราะเสียงดังลั่นกับหน้าอึ้งๆ ของเพื่อนรักที่โดนยัยเด็กนมโตนั่นเรียกลุงจนน็อคค้างกลางอากาศไปแล้ว มันก็ไม่แปลกถ้ายัยนั่นจะเรียกพวกผมว่าลุงก็ดูแต่ละคนในห้องสิไว้หนวดไว้เครากันซะเต็มที่ดูเหมือนลุงอย่างที่เด็กนั่นเรียกจริงๆ เห็นที่คงรีบกลับไปโกนหนวดเครากันซะบ้างแล้ว
"ใครใช้ให้เธอเข้ามาในห้องนี้" ผมถามเสียงเรียบพร้อมกับจ้องหน้าคนตัวเล็กที่ยืนเบียดประตูแน่นถ้าทะลุออกไปได้ยัยนี่คงไม่รีรอแน่นอน
"ผะ..ผักหวาน..ขะ..เข้ามาเอง..คะ..ค่ะ" น้ำตาคลอแล้วตอบเสียงตะกุกตะกักจนน่าสงสาร
อยากกอดปลอบเด็กน้อยจัง
ไวเท่าความคิด
"เดินมาหาฉัน"
"หื้ม!!" ทุกคนในห้องออกเสียงพร้อมกันแต่ไม่มีใครท้วงติงอะไร
"..."
เด็กสาวมองหน้าผมแล้วส่ายหน้าเหมือนไม่เข้าใจในคำสั่งของผมนัก แถมยังเบียดกับประตูแน่นกว่าเดิมอีก ให้ตายสิ ผมไม่ชอบให้ใครขัดคำสั่ง!!
"มาหาฉันเด็กน้อยถ้าไม่อยากตายก่อนโตเป็นสาว"
พรึบ!!
อีกรอบที่ทุกคนในห้องหันมองผมอย่างพร้อมเพียงในคำสั่งที่ผมสั่งออกไป ไอ้เรียวมันมองผมแล้วยกยิ้มมุมปากอย่างเข้าใจในเกมส์ของผม แน่นอนเพื่อนกันจะนิสัยเหมือนกันคงไม่แปลกอะไร
"ผะ..ผักหวานโตแล้ว อะ..อายุ 18 แล้วค่ะ ตายได้แล้ว...ตะแต่ผักหวานยังไม่อยากตาย อึก..." ส่ายหน้าน้ำตาร่วงไหลอาบแก้มใสพร้อมกับจ้องผมอย่างตื่นกลัว
"เธอจะไม่ตายเด็กน้อยถ้าเธอมาหาฉันตอนนี้" จ้องร่างเล็กที่ยืนสะอื้นไห้อยู่ตรงประตู จนเจ้าของร่างค่อยๆ กระดึ๊บๆ เข้ามาหาผมอย่างไม่ไว้ใจ ผมยกยิ้มมุมปาก เมื่อมองใกล้ๆ ยิ่งน่าฟัดน่าขยำมากแม่คุณเอ้ย!
พรึบ!!
"กรี้ด...ด อึก ฮืออออออ" เด็กน้อยกรีดร้องออกมาเสียงดังพร้อมปล่อยโฮอย่างตกใจ เมื่อผมตวัดรั้งเอวเล็กยกร่างเล็กจนตัวเธอลอยขึ้นมานั่งบนตักผม นุ่มนิ่มดีแท้กลิ่นก็หอม ผมสูดกลิ่นกายเด็กน้อยอย่างหลงใหล กลิ่นแป้งเด็กไม่มีกลิ่นน้ำหอมให้ฉุ่นจมูก ช่างเป็นกลิ่นที่แปลกใหม่สำหรับผม เพราะส่วนใหญ่ผู้หญิงที่ผมเจอจะต้องมีกลิ่นน้ำหอมที่พวกเธอชอบใช้เพื่อเอาไว้ยั่วยวนผู้ชาย แต่ถ้ามันเยอะเกิดไปก็ทำให้จากหอมกลายเป็นเหม็นได้เหมือนกัน ผมดอมดมแก้มเนียมอยู่เนืองๆ ถึงแม้เจ้าตัวจะร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างเอาเป็นเอาตายก็เถอะ
"เงียบ" ผมสั่งเสียงเรียบติดดุเด็กสาวที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นหนักขึ้นเรื่อยๆ ก้มมองคนที่เอาแต่ร้องไห้ ผมละไม่ชอบจริงๆ เสียงร้องไห้ไม่ว่าเสียงนั้นจะมาจากเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ตาม มันน่ารำคาญ!
"อึก...อึก...ฮือออ...อึก" เด็กน้อยบนตักพยายามกลั้นสะอื้นก้มหน้างุดตัวสั่นจนผมรู้สึกได้ ผมจับเชยคางให้เธอเงยหน้าขึ้นมองผม พั่บผ่าสิ!! ใจผมเต้นแรงมากเมื่อได้สบตากับเจ้าดวงตาคู่โตที่มีน้ำตาคลอเบ้าอยู่
"จะ...จะฆ่าหนูไหมค่ะ...อึก...หนูกลัว" เด็กน้อยพูดเสียงสะอื้นแล้วจ้องมองผมอย่างกลัวๆ ตากลมโตที่มองมามันช่างทำใจผมเต้นตึกตักแปลกๆ ผมกอดเอวบางไว้หลวมๆ
"ไม่ฆ่าถ้าเธอไม่ใช่สายลับ"
"....."
"ว่าไงมีใครส่งเธอมารึเปล่า" มองคนที่สะอื้นอยู่บนตักนิ่ง จนเด็กน้อยเบะปากเหมือนจะร้องไห้อีกรอบ
"มะไม่มีค่ะ...หนะ...หนูมากับที่รัก อึก..."
"อะไรนะ!!!" ผมตะคอกออกมาเสียงดังลั่นจนคนบนตักสะดุ้งน้ำตาไหลอีกรอบ แน่สิเห็นใสๆ แบบนี้ไม่น่าเชื่อว่าจะกล้าเรียกที่รักต่อหน้าคนอื่นได้หน้าซื่อตาใสขนาดนี้ มันไม่ธรรมดาเลย
"มึงจะตกใจอะไรวะไอ้มาร์ริคเด็กก็บอกดีๆ โถ่ๆ หนูอย่าร้องเลย" ไอ้เรียวบอกผมยิ้มๆ แล้วประโยคหลังหันไปปลอบคนตัวเล็กที่ร้องไห้สะอื้นอยู่
"อย่าเสือกสิครับ" ทำไมผมต้องไม่พอใจเพื่อนด้วยเพียงแค่มันมาปลอบ
เด็กน้อยของผม ?
"แล้วที่รักของเธอไปไหน ทำไมทิ้งเธอไว้คนเดียว หืม"
"ที่รักอยู่อีก หะ...ห้อง อึก" บอกผมพรางเช็ดน้ำตาปรอยๆ ดูน่าเอ็นดูมาก
ยังไม่ทันที่ผมจะถามอะไรต่อก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมกับเสียงเรียกชื่อคนตัวเล็กบนตักผมเบาๆ
ก๊อก ก๊อก
"ผักหวานออกมาได้แล้ว ผักหวาน"
เสียงเรียกที่เบาแทบกระซิบดังขึ้น พร้อมกับที่คนบนตักหันมองประตูอย่างดีใจ ไม่เพียงแค่คนตัวเล็กเท่านั้นผมพยักหน้าให้ลูกน้องปลดล็อกประตูเพื่ออยากเห็นหน้าที่รักของเด็กน้อยนี่
"ที่รักเรียกแล้ว ผะ..ผักหวานออกไปได้ไหม" มองผมตาแดงๆ
"...."
"ปล่อยหนูนะคะคุณลุง อึก... หนูอยากกลับบ้านแล้ว" หญิงสาวตัวเล็กมองผมตาแป๋วถึงแม้ตามกลมโตนั้นจะมีน้ำตาคลออยู่ก็เถอะ เฮ้อ~
"ผักหวานเร็วสิเดี๋ยวไม่ทัน"
คราวนี้มือเล็กๆ เจ้าของชื่อที่รัก ลอดเข้ามากวักเรียกยิกๆ คนบนตักขยับเหมือนจะลงจากตักผมกอดเอวเล็กแน่นขึ้นอีก จนเจ้าตัวเบะปากมองหน้าผมแล้วน้ำตาก็ทะลักไหลออกมาอย่างกับเขื่อนแตก
"ปะ..ปล่อยหนู..อึก...ฮืออออ"
"ปล่อยก็ได้แต่..."มองหน้าคนตัวเล็กแล้วลากเสียงยาว
"อะ...อะไรค่ะ" หน้าลุ้นกับคำพูดผม
"จูบฉันก่อน" ผมก้มมองคนบนตักที่ทำหน้าเหลอหลา
"..!!!..."
"เอ้ย!!!"