ตอนที่ 1 ของขวัญที่ถูกทิ้ง

1310 Words
ภายใต้แสงสลัวและดนตรีเร้าใจ ร่างงามโยกขยับไปตามจังหวะอย่างเย้ายวน ไฟหลากสีวิบวับกะพริบถี่ชวนเวียนหัว ทำให้คนที่เอาแต่กระดกเครื่องดื่มดีกรีแรงลงคอแก้วแล้วแก้วเล่าเริ่มทรงตัวไม่อยู่ “ของขวัญ แกไหวหรือเปล่า” คนตัวบางไม่ต่างกันถลามาประคองสาวงามสมกับชื่อเล่นน่ารักว่า “ของขวัญ” ที่บุพการีตั้งให้เปรียบเธอเป็นตัวแทนของขวัญจากพระเจ้าซึ่งประทานมาให้คู่สามีภรรยาที่รักกันปานจะกลืนกิน หึ ไม่ผิดหรอก ครั้งหนึ่งเธอเคยเป็นตัวแทนความรักของพ่อกับแม่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความเจ้าชู้ของพ่อเริ่มทำงาน ความอดทนของแม่ก็ต่ำลงทุกวัน สุดท้ายเธอจึงกลายเป็นของขวัญถูกทิ้ง เมื่อท่านทั้งสองตัดสินใจแยกทางกันตั้งแต่เธอเริ่มแตกเนื้อสาว เธอใช้ชีวิตอยู่ในความดูแลของพ่อ ไม่นานแม่ก็แต่งงานใหม่และย้ายไปอยู่เมืองนอก มีชีวิตครอบครัวที่อบอุ่น มีลูกที่น่ารักอีกสองคน ในขณะที่เธอต้องทนเหงาเดียวดายอยู่แต่บ้านเมื่อพ่อเอาแต่ทำงาน และมีผู้หญิงคนอื่นไปเรื่อย แทบไม่เคยเจียดเวลามาเหลียวแลเธอบ้างเลย ที่จริงเธอก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากมายนักหรอก เธอมีคฤหาสน์หลังใหญ่โตให้ซุกหัวนอน มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน มีเงินในบัญชีหลายสิบล้าน มีอิสระเต็มที่ มีเด็กรับใช้คอยปรนนิบัติเต็มบ้าน และเธอยังคงได้รับความรักจากพ่อและแม่อย่างเต็มเปี่ยมเหมือนเดิม แม้พวกเขาแทบจะไม่มีเวลาให้เธอเลยก็ตาม ไม่ว่าคุณหนูของขวัญอยากจะได้อะไร แพงแสนแพงหรือหายากเย็นแค่ไหน พ่อของเธอจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อหาของสิ่งนั้นมาประเคนให้เธอได้เสมอ เห็นไหมล่ะ เธอยังคงได้รับความรักอย่างเต็มเปี่ยมจริงๆ แต่แค่ไม่ได้รับการเอาใจใส่เลย..ก็แค่นั้น แล้ววันนี้เธอมากระดกเหล้าราวกับคนมีเรื่องทุกข์ร้อนใจทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะว่าชีวิตอันสงบเงียบที่เธอเริ่มชินชา มันได้เปลี่ยนไปอีกแล้วน่ะสิ เมื่อพ่อของเธอแต่งงานใหม่กับแม่หม้ายลูกติดที่ยังสวยสะพรั่งราวกับสาวแรกรุ่น ผู้หญิงคนนั้นมีลูกชายซึ่งแก่กว่าเธอหลายปีและลูกสาวรุ่นเดียวกับเธอ แถมยังเรียนที่เดียวกันอีกต่างหาก ไม่น่าเชื่อว่าโลกมันจะกลมอย่างนี้ ใช่ว่าพอพ่อแต่งงานใหม่ แล้วเธอที่อายุถึงเกณฑ์เข้าสถานบันเทิงได้แล้วจะต้องออกมาทำตัวเหลวแหลกเรียกร้องความสนใจจากพ่อหรอกนะ เธอไม่สนใจและไม่ใส่ใจด้วยซ้ำ แต่ที่เธอต้องมากรอกเหล้าเข้าปากเหมือนกินน้ำอิตาเลียนโซดาแก้วโปรด ก็เพราะว่าลูกชายของแม่เลี้ยงมักจะชอบทำท่าทีคุกคามและจ้องจะลวนลามเธอเสมอ แต่เมื่อเธอบอกพ่อ กลับได้รับสายตาตำหนิจากพ่อของตัวเอง ราวกับเธอเป็นเด็กบ้านแตกขี้โกหก เพราะผู้ชายเสแสร้งคนนั้นวางตัวเป็นผู้ใหญ่ แถมยังมีมาดผู้บริหารที่นิ่งขรึม ซึ่งเขาดูมีภาษีดีกว่าเด็กเอาแต่ใจอย่างเธอร้อยเท่าพันเท่า ในเมื่อพ่อคิดว่าเธอใส่ร้ายลูกของผู้หญิงที่พ่อรักเพราะความริษยา เธอก็จะไม่สนใจเขาอีก ให้มันรู้ไป ว่าเขาจะรักคนอื่นมากกว่าเธอที่เป็นลูกในไส้ “อือ ไหว..” ขวัญชนก หรือ ของขวัญ นักศึกษาสาวคณะบริหารธุรกิจภาคอินเตอร์ชั้นปีที่สองของมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ของเมืองไทย ขยับตัวออกจากอ้อมกอดของเพื่อนรัก แม้จะเซเล็กน้อย แต่ก็ยังเกาะโต๊ะไว้ได้ทัน ดวงตาที่เคยกลมโตบัดนี้ปรือปรอยแทบลืมไม่ขึ้น แต่ก็ยังฝืนสังขารยกแก้วเหล้าขึ้นกระดกอีกครั้ง หมดมาดคุณหนูไฮโซที่ใช้แต่ของแบรนด์เนมตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า “เฮ้ย พอแล้ว แกเป็นอะไรของแกวะวันนี้ กินเหล้าอย่างกับน้ำเปล่า ทะเลาะกับพ่อมาอีกแล้วหรือไง” เกรซ เกศริน ดึงมือของเพื่อนรักออกห่างริมฝีปาก ไม่ให้กระดกเหล้าเข้มข้นแก้วนั้นได้อีก คนโดนขัดใจ ถอนหายใจอย่างหงุดหงิด แม้ไม่อยากจะบอกถึงสาเหตุที่ต้องโทรชวนเพื่อนรักให้มากินเหล้ากันกลางดึกในวันหยุด แต่ก็ต้องยอมรับความจริง “อือ ไอ้ชั่วนั่นมันจะจูบฉัน แต่พ่อไม่เชื่อที่ฉันพูด” “เฮ้ย นี่มันถึงกับจะจูบแกแล้วเหรอ แกอยู่ที่นั่นไม่ได้แล้ว มาอยู่กับฉันไหม” สุดท้ายสองสาวก็ทิ้งตัวลงนั่งพูดคุยถึงปัญหาหนักอก แม้ต้องตะโกนคุยกันแข่งกับเสียงดนตรีที่ดังกระหึ่มในช่วงเวลาไคลแม็กซ์ที่นักเที่ยวกำลังเมามายโยกย้ายกันอย่างสนุกสนานก็ตาม “ฉันออกมาอยู่ที่คอนโดแล้ว วันนี้เอง ถ้าพ่อไม่เชื่อลูกในไส้อย่างฉัน ฉันก็ไม่จำเป็นต้องอยู่บ้านหลังนั้นอีก” “มันก็ดีตรงที่แกจะปลอดภัย แต่ถ้าพวกนั้นฮุบสมบัติของแกล่ะ” “ฉันมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทอยู่เกือบครึ่ง พ่อเพิ่งโอนให้ก่อนจะแต่งงานใหม่กับผู้หญิงคนนั้น คงกลัวว่าฉันจะคิดมากมั้ง ถ้าพ่อหลงผู้หญิงคนนั้นถึงขนาดจะยกทุกอย่างให้ ก็แล้วแต่พ่อเลย ฉันเองก็จะไม่แคร์พ่อแล้วเหมือนกัน” แม้ปากจะพูดไปแบบนั้น แต่เอาเข้าจริงก็ทั้งรัก ทั้งเป็นห่วง แถมยังน้อยใจคนเป็นพ่อเอามากๆ ที่เชื่อคนอื่นมากกว่าลูกในไส้อย่างเธอ “แล้วพ่อแกรู้หรือยัง ว่าแกออกมาอยู่ที่คอนโด” “ไม่รู้ ไม่ได้บอก” เธอกระดกเหล้าเข้าปากอย่างรวดเร็วอีกครั้ง คอนโดมิเนียมหรูหราราคาแพง แถมไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยของเธอห้องนี้ คุณตาซื้อให้เธอเป็นของขวัญที่เธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ของประเทศได้ แม้จะเรียนในคณะที่ใครๆ เหยียดหยามว่าแค่มีเงินก็สามารถเข้าเรียนได้ก็ตาม แต่ถ้ามีเงินแล้วไม่สามารถสื่อสารและอ่านตำราเป็นภาษาอังกฤษได้ทุกตัวอักษร ก็ไม่สามารถเรียนคณะนี้ได้เช่นกัน “จะมีเรื่องวุ่นวายหรือเปล่า” ของขวัญเหยียดยิ้มหยันตัวเอง พร้อมทั้งยื่นโทรศัพท์มือถือรุ่นล่าสุดให้เพื่อนรักดู ว่าหน้าจอมันว่างเปล่า ไม่มีแม้ข้อความของพ่อเธอเลยด้วยซ้ำ แปลว่าเขาอาจจะยังไม่รู้ หรือรู้แล้วแต่ไม่ได้สนใจก็เป็นได้ “หึ ไม่มีสักข้อความ พรุ่งนี้พ่อก็ไปต่างจังหวัด คงไม่มีทางรู้หรอก ว่าฉันหนีออกจากบ้าน” “ของขวัญ แกอย่าคิดมากนะ คืนนี้ฉันว่าแกไปนอนกับฉันก่อนดีกว่า จอดรถไว้ที่นี่แหละ เดี๋ยวเรียกแท็กซี่กลับกัน ฉันก็เมาแล้วว่ะ” “อืม ก็ได้ แต่ขอเมาให้สุดๆ ไปเลยนะ ไหนๆ พรุ่งนี้ก็ไม่มีเรียน” “ได้ งั้นแกนั่งอยู่ที่นี่ก่อน ฉันไปเข้าห้องน้ำแป๊บเดียว อย่าเดินไปไหนคนเดียวนะ” “อืม ไม่ต้องห่วง ฉันโตแล้วนะ” “ก็เพราะโตนี่แหละฉันถึงต้องเป็นห่วง สวยๆ แบบนี้ เกิดมีใครมาลากแกไปจะว่ายังไง” “เว่อร์ละ รีบไปรีบมา” ห้องน้ำที่แออัดทำให้เพื่อนรักของเธอหายไปนาน และในตอนนี้ เธอที่สาดเหล้าลงคอติดๆ กันหลายแก้วก็มองภาพตรงหน้าอย่างพร่าเบลอ ก่อนจะค่อยๆ ดับวูบลงพร้อมกับสติสัมปชัญญะที่ขาดหายไปในตอนนั้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD