11

1217 Words
“ทุเรศ ศศิไม่เคยทำอะไรแบบที่ดอนว่าสักนิด ยังไงศศิก็มีความเป็นไทยอยู่ในตัว ผู้หญิงไทยต้องรักนวลสงวนตัว แม่เคยสอนศศิเสมอตั้งแต่ศศิจำความได้ แล้วที่ผ่านมาพี่กับแด๊ดก็รู้ดีว่าศศิไม่เคยเหลวไหลเรื่องผู้ชาย” “จริงเหรอ พี่ว่าเธอคงไม่เคยจดจำ และทำมากกว่าที่พี่พูดล่ะสิ” “หึ คงใช่ ถ้างั้นก็แล้วแต่ดอนจะคิด” คนน้อยใจตอบโต้กลับออกไปอย่างเหลืออดและทำให้ดอนหนุ่มโกรธจัดขึ้นมาได้ทันตาเห็นเพราะแรงอารมณ์อยากประชดประชันนั่น “ถ้าเธอร่านนักพี่ก็จะสนองให้ เอาที่โซฟานี่ก็แล้วกัน ไม่ต้องไปไกลเพราะสำหรับเธอที่ไหนเธอก็คงพร้อมรับศึกอยู่แล้วใช่ไหม หรือจะอ่างจากุชชี่ก็ดีเหมือนกัน ถ้าอยากให้เร้าใจตรงราวบันไดหรือริมระเบียงก็ย่อมได้” อเล็กซานโดรดวงตาแดงก่ำ พล่ามจบก็ผลักร่างบางในอ้อมแขนที่ไม่ทันตั้งตัวให้ล้มลงไปบนโซฟาตัวยาวใหญ่ที่วางอยู่ในเหตุการณ์ศึกรักศึกรบนี้พอดิบพอดี “ไม่นะ คนบ้า ปล่อยศศินะ” เสียงร้องเพราะเจ็บจุกจากการถูกเหวี่ยงลงกับโซฟาดังไม่นาน ศศิก็เปลี่ยนมาเป็นด่าทอกรีดร้อง พร้อมมือบางที่ส่งออกไปเพื่อทุบตีผลักไสปกป้องตัวเองให้พ้นจากการถูกรังแก แต่ก็ไม่เป็นผลอีกตามเคยเมื่อร่างหนาใหญ่ของอเล็กซานโดรตามลงมาทาบทับได้จังหวะพอดี ใบหน้าหล่อคมจมหายไปกับซอกคอขาวผ่องราวกับรอเวลาที่จะได้ดอมดมกลืนกินกุหลาบงามช่อนี้มานาน คิสมาร์คแรกที่ต้นคอจากริมฝีปากสากระคายจึงเกิดขึ้นทันที ไฟปรารถนาที่ถูกจุดขึ้นอย่างรวดเร็วไม่มีปี่มีขลุ่ย ราวกับอดอยากโหยหามานานทำให้ชายหนุ่มที่ความจริงก็ไม่เคยขาดแคลนเรื่องบนเตียงเลยสักคืนถึงกับหิวกระหาย ลากจุมพิตไปทั่วใบหน้าและซอกคอขาวเนียนอย่างไม่รู้จักอิ่ม มือหนาเริ่มตะโบมโลมไล้เข้าไปที่ใต้เสื้อ สอดเข้าไปใต้ฐานชั้นในตัวจิ๋วไม่นานก็ถึงจุดยุทธศาสตร์สำคัญ อเล็กซานโดรครางฮือกับความนุ่มหยุ่นที่นิ้วโป้งสัมผัส ปลายถันบนยอดทรวงอกอิ่มถูกมือหนาไล้วนสะกิดเบาๆ จนทำให้แข็งเป็นตุ่มไตสีชมพูสด ก่อนทั้งมือใหญ่และร้อนผ่าวจะบีบเคล้นกอบกุมทรวงอกมานวดเฟ้นเคล้าคลึงเล่นอย่างมีความสุข ริมฝีปากหยักลึกหยอกเอินกับร่างอรชรที่แสนจะนุ่มนิ่มหอมหวานอย่างหลงใหลพึงใจ เขาไม่เคยนึกเลยว่าศศิจะทำให้เขาขาดการควบคุมและร้อนไปทั้งตัวได้ง่ายดายถึงเพียงนี้ เวลานี้ไม่ว่าที่ไหนแค่เพียงเขานึกถึงใบหน้าสวยหวานของน้องสาวตัวดีขึ้นมา มันก็ทำให้เขาเกิดอารมณ์วาบหวามผงาดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา จนอดโมโหไม่ได้สิน่าว่านี่เกิดอะไรขึ้น ใบหน้าสาวไทยที่เขาแอบหลงรักค่อยๆ เลือนไปจากหัวใจ ในขณะที่ใบหน้าของน้องน้อยที่ไม่เคยไยดีกับชัดขึ้นมาทุกที มันคืออะไรกันแน่ นี่คงไม่ได้หมายความว่าประตูหัวใจเขาเปิดรับน้องสาวต่างสายเลือดคนนี้เข้ามานั่ง ไม่มีทาง เขาหรือจะมีใจให้กับเด็กขี้อิจฉาแบบศศิ “ดอนปล่อยศศิ ไหนบอกว่าเกลียดศศิไม่ใช่เหรอ แล้วตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่รู้ตัวไหม คนเกลียดกันเขาไม่ทำกันแบบนี้หรอก” ศศิรวบรวมกำลังจากที่ชายหนุ่มมัวหลงวนกับทรวงอกสล้างทั้งสองข้าง แล้วเค้นเสียงแปร่งปร่าถามออกไป “เธอว่ายังไงนะศศิ” อเล็กซานโดรถามคล้ายละเมอ “คนเกลียดกันเขาไม่ทำกันแบบนี้” “หมายความว่ายังไง” “ก็หมายความว่าศศิเกลียดดอนมาก และมันก็คงจะพอๆ กันกับที่ดอนเกลียดศศินั่นแหละ และถ้าเราเกลียดกันมากขนาดนี้ ก็ควรจะปล่อยศศิไป อย่ามาทำแบบนี้กับศศิ” อเล็กซานโดรกำลังจะอ้าปากถามอยู่แล้วว่าอะไรทำให้ศศิคิดว่าเขาเกลียดเธอมากขนาดนั้น แต่ความจริงที่ว่าตอนนี้ศศิเกลียดเขาไปแล้ว นั่นเป็นความรู้สึกที่รุนแรงน่าตกใจมากกว่า ชายหนุ่มผละออกจากอกอวบอิ่มหยุดการกระทำอนาจารทุกอย่าง ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง มือหนาลูบใบหน้าหาทางออกให้กับความรู้สึกหงุดหงิดงุ่นง่านที่บรรยายไม่ได้ว่าทำไมต้องแคร์ด้วยว่าศศิจะเกลียดเขา “พี่ให้เธออยู่ที่มิลานได้ถึงคืนนี้ ถ้าเช้าวันพรุ่งนี้พี่ยังไม่เห็นเธอที่เวโรนาอย่าคิดว่าจะได้เป็นอิสระไปไหนมาไหนอีก” คนที่ถูกตราหน้าว่าเกลียดกัน เสเปลี่ยนมาเป็นเรื่องที่ตัวเองทำความเข้าใจได้ง่ายกว่า เพราะถ้าเป็นเรื่องนี้เขาสามารถควบคุมตัวเองและควบคุมเกมทุกอย่างให้เป็นอย่างที่ใจเขาต้องการ แต่ถ้าให้ตอบศศิในเรื่องเกี่ยวกับความรู้สึกที่ซับซ้อนยากเย็นกว่านั้น เขายังหาคำตอบไม่ได้ “คนใจร้าย ศศิไม่ทำตามที่พี่ต้องการหรอก พี่ไม่ใช่แด๊ดอย่ามาบังคับศศิ พี่ไม่ได้เป็นเจ้าชีวิตของศศิเข้าใจเอาไว้ด้วย” คนใจร้ายเริ่มเข้าคุมเกมอีกครั้ง “ลองดูก็ได้ว่าถ้าเธอไม่กลับไปที่เวโรนาเธอจะเจอกับหายนะอะไรบ้าง” มาเฟียตัวฉกาจคำรามในลำคอ สิ้นประโยคเอาแต่ใจของเขา ศศิกำมือแน่นโกรธจัดกับคำข่มขู่ที่ไร้ซึ่งเหตุผล เธอไม่กลัวเขาแน่นอนเพราะเธอเห็นอเล็กซานโดรมาตั้งแต่เล็กและมั่นใจว่าเขาไม่ทำร้ายเธอถึงตาย แต่ระยะหลังมาเธอก็เริ่มไม่แน่ใจ แต่เรื่องนั้นเธอสามารถพักไว้ก่อนได้ ที่เป็นห่วงกังวลมากกว่าคือเธอไม่อยากทำให้ใครที่เกี่ยวข้องกับเธอต้องเดือดร้อนไปด้วย เพราะเธอมั่นใจว่าอเล็กซานโดรจะทำทุกอย่างเล่นงานทุกคนเพื่อบีบบังคับให้เธอกลับไปจนได้ “เจอกันที่เวโรนา” เจ้าพ่อหนุ่มบอกอย่างผู้ชนะ “อ้อ แล้วบอกไอ้กองหน้าหนุ่มคนนั้นด้วยว่าเธอไม่ได้ชอบลิลลี่สีชมพูเลยสักนิด แต่เธอชอบดอกกุหลาบสีขาวต่างหาก และลิลลี่สีชมพูของมันก็ช่างตุ๊ดสิ้นดี” อเล็กซานโดรพูดจบก็คลี่ยิ้มกว้างก่อนจะเปลี่ยนเป็นหัวเราะลั่นแล้วสาวเท้ายาวๆ ออกไปอย่างอารมณ์ดีขึ้นทันตาเห็น ทว่าคนที่ยังไม่ได้จัดระเบียบเสื้อผ้าตัวเอง นั่งโมโหกับท่าทางและคำพูดเอาแต่ใจของเขา ใบหน้างามงอง้ำ กัดริมฝีปากแน่นไม่พอใจที่ถูกเขาบังคับให้กลับไปที่เวโรนาอีกจนได้ แต่อีกใจหนึ่งก็ให้อุ่นซ่านแปลกประหลาดที่เขาล่วงรู้ว่าเธอชอบดอกกุหลาบสีขาวทั้งที่อยู่ด้วยกันมายี่สิบสองปีเขาไม่เคยมีทีท่าทำให้เธอรู้เลยว่าเขาสนใจใคร่รู้อะไรในตัวเธอบ้าง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD