ไม่มีอาการเซหรือสะดุด ศศิยังคงเก็บอาการตื่นตระหนกไว้บนใบหน้าที่นิ่งเฉยได้อย่างดีเยี่ยม มีแต่เสียงหัวใจที่เต้นกระหน่ำเร็วจนแทบกระดอนกระเด็นออกมานอกอก กับฝ่ามือที่เย็นเฉียบที่แสดงออกมาทางกายภาพเท่านั้น ด้วยสายตาของพี่ชายบุญธรรมที่มองมาบอกให้ศศิรู้ว่าเขาไม่พอใจอย่างหนัก เพียงแวบเดียวเท่านั้นที่เธอเห็นและสามารถเดาความคิดของอเล็กซานโดรออก ก่อนเธอจะหมุนตัวกลับเข้าหลังเวที นางแบบสาวชาวไทยที่มีเสี้ยวตะวันตกเพียงน้อยนิดไม่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงปรบมือที่ดังตามหลัง
เมื่อลงมาถึงหลังเวที พอเท้าแตะพื้นศศิก็รีบบอกกับหัวหน้าทีมงานที่ดูแลว่าต้องขอตัวกลับก่อน โดยขอเสียมารยาทไม่ขึ้นเวทีไปพร้อมกับดีไซน์เนอร์ทั้งสอง
“ศศินี่เธอจะรีบไปไหนกัน” เสียงบาร์บาร่าดังขึ้นทันทีที่เปิดประตูห้องแต่งตัวเข้ามาหลังได้ยินว่าศศิจะกลับทันทีไม่ร่วมขึ้นเวทีแสดงความยินดีกับดีไซน์เนอร์
คนถูกกึ่งต่อว่าด้วยน้ำเสียงตำหนิหันขวับขณะมือบางกำลังถอดชุดคืนให้กับทีมงานและรับเสื้อผ้าชุดเดิมของเธอมาเปลี่ยนกลับ
“ขอบคุณมากค่ะ” ศศิบอกทีมงานที่มาดูแล แล้วหันไปพูดกับเจ้าของเอเจนซี่ชื่อดัง
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่เหนื่อยนิดหน่อยเท่านั้น”
“จริงเหรอ ไม่ใช่เพราะมีนัดที่ไหนหรอกนะ” บาร์บาร่าขยับเท้าเข้ามาใกล้ จ้องสำรวจอย่างจับผิด
“นัด นัดอะไรกันคะ” เจ้าของร่างเพรียวบางเลิกคิ้วสูงถามกลับอย่างสงสัย ไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายหมายถึงเรื่องอะไรและพอดีกับที่แต่งตัวเสร็จเรียบร้อย
“ก็นัดกับเจ้าของดอกไม้ที่รออยู่ด้านนอกนั่นไง” บาร์บาร่าบอกแล้วก็ยื่นดอกไม้ช่อโตที่ซ่อนอยู่ข้างหลังมาอยู่ตรงหน้าคนที่ยังยืนมองงุนงง
ศศิหรี่ตามอง แต่ยังไม่กล้ารับช่อดอกไม้ปริศนานั่น
“ของใครคะ”
“เธอก็รับเอาไปดูเองสิจ๊ะ แค่รับฝากถือมาให้ก็อิจฉาจนอกจะระเบิดแล้ว”
ศศิหัวเราะเบาๆ ให้กับท่าทางประชดประชันไม่จริงจังนักของบาร์บาร่า ก่อนจะยื่นมือออกไปรับ แล้วคลี่การ์ดใบเล็กๆ ที่เสียบไว้ออกอ่าน เป็นกำลังใจให้
“ฟรานเชสโก...”
“ก็ใช่น่ะสิ กองหน้าหนุ่มรูปหล่อของทีมอินเตอร์มิลาน หล่อนใช้เวลาถ่ายแบบกับเขาไม่นานก็สอยหัวใจเขามาได้แล้วเหรอ”
คนถูกกล่าวหาว่าสอยหัวใจนักเตะหนุ่มดาวดังของเมืองมิลานแทบทำดอกไม้ร่วงจากมือ
“บ้าน่ะสิบาร์บ ศศิคุยกับเขาแค่ไม่กี่คำเองนะ แล้วเราก็เป็นเพื่อนกันเท่านั้น เขาคงแวะผ่านมาล่ะมั้ง ก็เขาต้องอยู่มิลานเป็นประจำอยู่แล้ว” ศศิตวาดแหว พลางอธิบายให้บาร์บาร่าเข้าใจไปด้วย
“ข้ออ้าง แต่ยังไงก็ช่างเถอะ เขามารอเธอนานแล้วรีบออกไปเถอะ เดี๋ยวฟรานเชสโกรูปหล่อจะรอนาน สงสารคนหล่อ”
“อะไรกันบาร์บ แล้วตกลงไม่เชื่อที่ศศิพูดใช่ไหม” คนพูดความจริงยังไม่หายข้องใจ ยังยืนกรานถามเอาความเห็นต่อ
“เชื่อจ้ะเชื่อ ก็เธอน่ะเสน่ห์แรงอยู่แล้วเขาคงตามกลิ่นฟีโรโมนเธอมาถึงนี่ด้วยตัวเองได้แหละ ชื่อคุณหนูศศิ อบาเต้น่ะตามหาไม่อยากหรอกถ้าหัวใจเขาอยากจะตามหา”
จากท่าทางและคำพูดของบาร์บาร่าทำให้ศศิส่ายหน้าอย่างเหนื่อยหน่ายและไม่คิดจะอธิบายอะไรเพิ่มเติม เพราะไม่คิดว่าเป็นเรื่องสลักสำคัญใดๆ หญิงสาวมั่นใจว่าฟรานเชสโกกองหน้าหนุ่มแค่แวะผ่านมาเท่านั้น
“งั้นศศิขอตัวกลับเลยแล้วกันนะคะบาร์บ”
“จ้ะ แต่อย่าลืมอีกสองวันเธอมีงานเดินแบบที่ปารีสต่อนะจ๊ะ”
คนสวยพยักหน้ารับคำ “ค่ะ ไม่ลืม ศศิไม่เคยผิดนัดอยู่แล้ว” สั่งลากันอีกครั้ง เจ้าของเรือนร่างเพรียวระหงสมส่วนที่อยู่ในชุดทะมัดทะแมงของตนดังเดิมก็ออกมาจากห้องที่ใช้แต่งตัวเปลี่ยนเสื้อผ้า ก้าวเดินต่อมาไม่นานก็พบกับชายหนุ่มเจ้าของดอกไม้ที่มาดักรออยู่แล้ว
“เพื่อนศศิเองเลวินสัน” ศศิหันไปบอกบอดี้การ์ดหนุ่ม ร่างสูงใหญ่ที่อยู่ในชุดสูทสีดำอย่างดีสองคนจึงถอยห่างออกไป
“สวัสดีค่ะ ฟรานเชสโก” หญิงสาวทักทายทันทีที่เห็น ฟรานเชสโกหล่อเหลาเตะตาแบบนักฟุตบอลทั่วไป รูปร่างกำยำไม่สูงมากแต่เต็มไปด้วยลอนกล้าม จากการต้องเข้ายิมออกกำลังกายตลอดจึงทำให้เขาดูสมส่วนสมบูรณ์แบบจนสาวๆ ต้องหยุดมอง
“สวัสดีครับ ผมมารบกวนคุณศศิหรือเปล่า” เขาเรียกเธอด้วยชื่อไทยที่เธอภูมิใจแทนที่จะเรียกว่าซิลเวียเหมือนเพื่อนนางแบบหลายๆ คนเพราะการออกเสียงเป็นภาษาไทยค่อนข้างยากแต่ฟรานเซสโกก็พยายามเพราะแอบรู้มาว่าศศิชอบชื่อไทยมากกว่าจะถูกเรียกว่าซิลเวีย
“ไม่เลยค่ะ” ศศิยิ้มกว้างตอบแล้วมองตามสายตาของเขาที่มองมายังดอกไม้ที่เธอถืออยู่ในมือ
“ขอบคุณสำหรับลิลลี่ช่อนี้นะคะ”
“กำลังใจจากผมให้คุณศศิครับ” นักเตะหนุ่มบอก ทอดเวลาให้หญิงสาวได้เลือดลมสูบฉีดแล้วรุกหน้าต่อทันที
“คุณศศิเดินแฟชั่นได้อย่างเป็นมืออาชีพมากๆ ไม่รู้ว่าจะรังเกียจหรือเปล่าครับถ้าผมจะชวนออกไปหาอะไรทานข้างนอก”
คนที่ไม่ได้เลือดลมสูบฉีดก้มมองดูเวลา แล้วเผลอกลั้นอาการหาวน้อยๆ ไว้ แต่คนอยู่ฝั่งตรงข้ามก็ทันเห็น
“ศศิพอมีเวลาค่ะ” เธอเงยหน้าขึ้นตอบแล้วต้องยิ้มค้าง
“แต่ผมว่าดูคุณศศิอยากพักผ่อนมากกว่าแล้วมั้งครับ”
คนถูกรู้ทันพรวดเสียงหัวเราะออกมาทันที “คงใช่ค่ะ เกือบสองอาทิตย์แล้วศศิไม่ได้พักเลยรับงานต่อเนื่องมาตลอด แต่ศศิยังไหวนะคะ ออกไปหาอะไรทานแล้วนั่งคุยกันแถวนี้ก็ได้”
“ถ้าอย่างนั้นผมว่าไว้วันหลังดีกว่าครับ ผมเป็นห่วงสุขภาพคุณศศิไม่อยากเบียดบังเวลาพักที่มีน้อยของคุณ”
“ไม่ใช่ว่ากลัวศศิจะหลับคอพับใส่จานอาหารใช่ไหมคะ และคุณคงจะขายหน้ามาก”
“ฮ่าๆ ไม่ใช่เรื่องนั้นแน่นอนครับ คุณศศิไม่มีทางทำให้ผมขายหน้าแน่นอน แต่ถึงจะทำผมก็ไม่ขายหน้าหรืออายใครๆ หรอกครับ ผมรับได้”
“แต่ศศิว่าอย่าดีกว่าค่ะ ศศิไม่อยากทำให้คุณต้องขายหน้าจริงๆ”
“ก็ได้ครับ ผมอยู่ที่มิลานตลอดฤดูกาลนี้ ถ้ามีโอกาสหน้าที่เราสองคนว่างตรงกันอีก ผมขอพาคุณศศิไปทานอาหารสักมื้อนะครับ”
“ตกลงค่ะ ได้ไปกับนักเตะดังระดับโลกอย่างฟรานเชสโก ศศิไม่มีทางปฏิเสธแน่ สาวๆ หลายคนคงอิจฉาศศิกันค่อนเมือง”
“ฮ่าๆ จริงเหรอครับก็คงเหมือนที่หนุ่มๆ ค่อนเมืองคงก่นด่า อิจฉาผมกันยกใหญ่เช่นกัน”
แล้วเสียงพูดคุยหัวเราะก็ไปจบที่สุดบันไดทางลงจากตัวอาคาร ฟรานเชสโกยืนมองจนเห็นบอดี้การ์ดเปิดประตูรถลีมูซีนและคุณหนูคนงามสอดตัวเข้าไปนั่งพร้อมกับโบกมือลาเขาแล้ว นักฟุตบอลหนุ่มรูปหล่อจึงหมุนตัวกลับไปที่รถยนต์ของตัวเองบ้างในที่สุด