Married แต่งแล้ว (อย่า) รัก 2

1232 Words
Married แต่งแล้ว (อย่า) รัก 2 ใช้เวลาพักผ่อนนานหลายชั่วโมงก็ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความสดชื่น ฉันออกมาตามนัดของเพื่อน ๆ เพื่อนกินข้าวด้วยกันในรอบหลายเดือน ฉันได้หนังสือต้นฉบับมาทั้งหมดแปดเล่มสำหรับงานแปลเรื่องใหม่ ตั้งใจเอาไว้ว่าจะพักผ่อนสักสามสี่วันแล้วค่อยเริ่มทำงานแต่ไม่คิดว่าพักได้เพียงแค่สองวันฉันก็ต้องรีบเดินทางไปยังบ้านของคุณย่าเพราะคนที่จ้างให้ดูแลท่านโทรเข้ามาว่าท่านไม่สบายหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาล นั่นจึงทำให้ฉันต้องรีบขับรถออกจากคอนโดในช่วงเวลาหกโมงเย็นเพื่อไปดูแลย่า โรงพยาบาลเอกชนเป็นโรงพยาบาลที่ฉันติดต่อเรื่องย้ายคุณย่าเข้ามารับบริการ แต่พอไปถึงก็พบว่าท่านหลับอยู่บนเตียง ฉันจึงต้องนอนพักที่โซฟามุมห้องเพื่อเฝ้าอาการ “ย่า เป็นยังไงบ้างคะ” ช่วงสายที่ย่ารู้สึกตัวตื่นฉันรีบเดินเข้าไปดูพร้อมกับถามไถ่ด้วยความรู้สึกเป็นห่วง เมื่อคืนก็หลับ ๆ ตื่น ๆ อยู่ตลอดทั้งคืน และต้องคอยเช็ดตัวให้ย่าเพราะคุณย่าตัวร้อนมาก “ไม่เป็นอะไรหรอกลูก” “ซนใช่ไหมคะถึงได้ล้มแบบนี้น่ะ” มองคนไม่สบายอย่างดุ ๆ แต่ก็ไม่ได้จริงจังมากนักตอนนี้ย่าก็ฟื้นแล้ว แต่คุณหมอแจ้งว่าคงจะฟื้นตัวยากเพราะท่านก็อายุเยอะมากแล้วเช่นเดียวกัน “คนแก่ก็วูบง่ายแบบนี้แหละลูก แล้วหนูมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ย่าบอกยัยแจ่มแล้วเชียวว่าไม่ต้องบอกหนูน่ะ” คุณย่าบนเสียงแผ่ว ฉันนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียงคนไข้ก่อนจะยื่นมือไปกุมมือท่านไว้ “ต้องบอกหนูถูกแล้ว หนูเป็นห่วงมากเลยนะคะ คุณย่าหิวไหมเดี๋ยวหนูออกไปซื้อโจ๊กให้นะคะ” “ไม่ต้องลำบากหรอกลูก เดี๋ยวพยาบาลเขาก็เอาข้าวมาให้ย่าแล้ว หนูน่ะไปอาบน้ำนอนพักที่บ้านดีไหม” คุณย่าใช้มือข้างที่ฉันกุมอยู่ยกขึ้นลูบที่ผมอย่างเบามือพร้อมกับมองด้วยรอยยิ้มบาง ๆ “ไม่เอาหรอกค่ะ เดี๋ยวหนูจะดูแลย่าเอง หนูเอาของมาแล้ว” “เฮ้อ ดื้อจัง ย่าไม่เป็นอะไรแล้วนะลูก” “หนูก็ห่วงอยู่ดีนั่นแหละ หนูขอไปอาบน้ำก่อนนะคะแล้วจะรีบออกมาป้อนข้าวนะ” “จ้ะลูก ไม่ต้องรีบย่ายังไม่หิวหรอก” ฉันอยู่เฝ้าย่าตลอดทั้งวันมีแอบเผลอหลับไปช่วงบ่าย ๆ ตกเย็นก็มีคนมาเยี่ยมคุณย่า แนะนำตัวและทักทายกันเล็กน้อยฉันก็ขยับออกห่างให้แขกของคุณย่านั้นพูดคุยกันคุณย่าฉันไปเรื่อย ๆ ฉันกะเวลาเดินออกจากห้องพักฟื้นของย่าเพื่อไปซื้อผลไม้มาไว้เผื่อย่าจะหิวตอนดึก ระหว่างที่กำลังเดินกลับเข้ามาภายในลิฟต์ก็มีผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ ฉันขยับไปยืนมุมด้านหนึ่งด้วยความไม่สบายใจก็เขาดูหงุดหงิดน่ะ ฉันเลยไม่กล้าเข้าใกล้ กระทั่งลิฟต์เปิดออกถึงได้เดินออกมาและเดินไปตามทางเดินเรื่อย ๆ กระทั่งเปิดประตูห้องพักกลับเข้าไป ทั้งคุณย่าและแขกของท่านทั้งสองคนก็หันมามองทางฉันทันที “มาพอดีเลยล่ะ” คุณป้าคนนั้นเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง “...” ฉันไม่ได้พูดอะไรทำเพียงแค่เดินเข้ามาภายในห้องพักฟื้นและวางของที่หิ้วอยู่ ไม่กี่นาทีถัดมาประตูห้องพักฟื้นของย่าก็เสียงเคาะดังขึ้นมาเบา ๆ ฉันนึกว่าพยาบาลจะเข้ามาตรวจคุณย่า ไม่ใช่เลยเมื่อประตูห้องที่ถูกเปิดเข้ามานั้นเป็นฝีมือของผู้ชายตัวสูง ที่มีใบหน้านิ่งเรียบไม่สบอารมณ์ และดูจะหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย แต่ที่น่าตกใจไปมากกว่าใบหน้าดุ ๆ ของเขาคือเขาเป็นผู้ชายคนเดียวกับที่ฉันเจออยู่ภายในลิฟต์ตอนกลับขึ้นมาบนนี้ “มาแล้ว เอาละ มาครบทั้งสองคนแล้วแม่มีเรื่องจะบอกนะ” คุณป้าเอ่ยบอก และยังคงมีรอยยิ้มแต่งแต้มบนในหน้าอยู่ดังเดิม “แม่จะให้น้องพลอยและพี่ทัพแต่งงานกัน...” “หา!?” “อะไรนะคะ!?” ทั้งฉันและผู้มาใหม่ทวนถามอย่างตกใจ แต่ผู้ใหญ่ทั้งสามคนที่อยู่ในห้องกลับส่งยิ้มให้เท่านั้นไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม ร้อนรนฉันที่ต้องเข้าไปคุยกับย่าตัวเองให้เข้าใจ “คุณย่าคะ นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมต้องแต่งงานด้วย หนูไม่แต่งนะคะ” รีบเดินเข้าไปจับมือย่าไว้แล้วบอกสิ่งที่ตัวเองต้องการทันที “พลอยลูก...” ย่ามองฉันนิ่ง ๆ มือข้างที่ถูกฉันกุมไว้ออกแรงบีบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น “คุณย่า ไม่แต่งนะคะ” “ย่าเป็นห่วงหนู อยากเห็นหนูเป็นฝั่งเป็นฝา หนูแต่งงานกับพี่เขาเถอะนะลูก” “ไม่ค่ะคุณย่า หนูไม่แต่งอะไรทั้งนั้นนี่มันยุคไหนแล้ว หนูดูแลตัวเองได้ค่ะ อีกอย่างคุณย่าต้องอยู่กับหนูอีกนาน ๆ เลยค่ะ หนูจะดูแลคุณย่าเอง เราย้ายไปรักษาที่กรุงเทพก็ได้ คุณย่าไม่ต้องกลัวนะคะ” รีบอธิบายและไม่สนใจฝ่ามือที่วางอยู่บนไหล่ฉันเบา ๆ นั่นด้วย “หนูพลอย ยังมีอีกเรื่องที่ป้ายังไม่ได้บอกหนู...” คุณป้าที่เป็นคนเอ่ยบอกว่าจะให้ฉันแต่งงานกับผู้ชายคนนั้นเอ่ยเรียกสติฉัน ที่เอาแต่พร่ำบอกว่าจะพาย่าไปอยู่ด้วยและไม่ยอมแต่งงาน “อะไรกันคะ ทำไมทุกคนต้องทำหน้าเครียดแบบนี้ด้วย” “คุณย่าหนูอายุมากแล้วนะลูก” คุณป้าคนตรงหน้าเอ่ยบอกฉันน้ำเสียงที่ฟังดูใจเย็นอยู่ดังเดิม ไม่มีท่าทีหงุดหงิดเลยสักนิดเมื่อเห็นฉันมีท่าทีต่อต้านท่านแบบนี้ “พลอยลูก...” “ค่ะคุณย่า” ขานรับพร้อมกับเงยหน้ามองท่าน ฉันไม่ชอบเลยที่ทุกคนพูดเรื่องการจากลาแบบนี้ ฉันมีแค่คุณย่าแล้วนะทำไมต้องมาพูดแบบนี้ด้วย “ย่าเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะอยู่ได้นานแค่ไหน ย่าอยากเห็นหนูมีครอบครัว มีคนดูแลจริง ๆ นะลูก หนูแต่งงานกับพี่เขาให้ย่าได้ไหม” “...” “อีกฝ่าย คำสัญญาที่พ่อเราคุยกับเพื่อนสนิทเขาอย่างพ่อขุนคือสัญญาที่จะให้หนูกับลูกชายพ่อขุนแต่งงานกัน” ทำไมพ่อไปสัญญาอะไรแบบนั้นกันล่ะ “แต่คุณย่าคะ” “นะลูก ทำเพื่อย่าสักครั้งเถอะนะ” “...” ฉันส่ายหน้าทั้งน้ำตาไม่อยากจะยอมรับหรือตกลงอะไรทั้งนั้น แล้วผู้ชายคนนั้นน่ะดูก็รู้ว่าเขาไม่ได้เต็มใจแต่ทำไมไม่ช่วยกันปฏิเสธล่ะ “ทัพ...” “ครับพ่อ” “ตกลงใช่ไหม เรื่องที่จะแต่งงานกับน้อง” “แล้วผมปฏิเสธอะไรได้ล่ะครับ” “อือ ขอบใจที่ลูกเข้าใจพ่อ” ฉันมองหน้าคุณย่าอย่างไม่สบายใจ ใบหน้าซีดและแห้งเหี่ยวตามกาลเวลากำลังฝืนส่งยิ้มให้ฉัน ฉันทำหน้างอไม่พูดอะไรแต่ก็ยังดูแลย่าอยู่ตลอดทั้งคืน เมื่อแขกทั้งสามคนกลับไปฉันก็เอาแต่นั่งหน้างอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD