Married แต่งแล้ว (อย่า) รัก 13

822 Words
Married แต่งแล้ว (อย่า) รัก 13 ฉันยังคงใช้ชีวิตในช่วงกลางวันกลับไปดูแลคุณย่า ตกเย็นก็กลับไปที่บ้านของคุณจอมทัพ ที่เหมือนเจ้าของบ้านก็ไม่ค่อยกลับบ้านเช่นเดียวกันเป็นแบบนี้มาเกือบสามสี่วันหลังจากวันงานแต่งเสร็จแล้ว เงินที่แขกใส่ซองมาพอเขานับเสร็จทำทุกอย่างเสร็จคุณจอมทัพก็ใส่ซองแล้วเอาไปฝากธนาคาร ฉันนึกว่าทุกอย่างจะจบเพราะเขาเป็นคนออกค่าใช้จ่ายแล้วเอาเงินส่วนนั้นไป แต่ไม่ใช่ค่ะเขาเอาไปฝากธนาคารแล้วโอนเข้าบัญชีฉัน พอเห็นยอดโอนก็ตกใจเงินในซองที่แกะมาเกือบครึ่งล้านก็จริง แต่มีเงินยอดโอนที่สองที่ถูกโอนเข้ามาเกือบสามแสนไหนจะมีค่าสินสอดที่เป็นเงินสดที่เขา เอาไปเข้าบัญชีไว้ให้นั่นอีก คุณจอมทัพส่งหลักฐานการโอนเงินมาแล้วเงียบไป ฉันถามอะไรก็ไม่ตอบ แต่ฉันไม่อยากใช้เงินของเขาเลยไปเปิดบัญชีใหม่แล้วโอนเงินส่วนของตัวเองที่มีเก็บในบัญชีนั้นมาที่บัญชีใหม่แล้วปล่อยเบลอบัญชีนั้น ดีนะที่บัญชีเก็บเงินของฉันจริง ๆ เขาไม่รู้ ไม่อย่างนั้นเขาได้โอนเงินเข้าไปให้อีกแน่ บอกว่าไม่เอาเขาก็ไม่ฟัง “คุณพลอยกินข้าวที่นี่ไหมคะ หรือจะกลับบ้าน” ป้าแจ่มเอ่ยถามฉันเสียงนุ่มนวลในช่วงเวลาเกือบสี่โมงเย็น คุณย่าเอนหลังพักสายตาที่เก้าอี้โยกตัวโปรดฉันมองคุณย่าอย่างชั่งใจคิดก่อนจะเอ่ยตอบป้าแจ่มที่ยังคงยืนรอคำตอบ “หนูกินที่นี่ค่ะป้า เดี๋ยววันนี้จะนอนที่นี่นะคะ” เอ่ยบอกป้าแจ่มด้วยรอยยิ้ม “นอนไม่ได้ ต้องกลับไปนอนที่บ้านนะเดี๋ยวสามีรอ” คนที่ฉันคิดว่าหลับอยู่เอ่ยบอกเสียงเบา หันไปมองก็พบว่าคุณย่าลืมตาขึ้นมองฉันดุๆ “คุณย่า หนูคิดถึงนี่นาอยากนอนกับคุณย่าบ้าง” เอ่ยออดอ้อนคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้โยก “นอนตั้งแต่เด็กแล้ว วันนี้กลับไปนอนกับสามี” “คุณย่าอะ” เป็นฉันที่มองคุณย่าอย่างแง่งอน แต่ก็ยอมทำตามที่คุณย่าบอก เพราะเมื่อกินข้าวมื้อเย็นเสร็จ ส่งคุณย่าเข้านอนก็ออกมานั่งคิดอะไรอยู่ที่ห้องรับแขก “พี่ส้ม คุณย่าช่วงนี้เป็นยังไงบ้างคะ” “คุณพลอย คุณประจิตไม่ยอมกินข้าวเลย มีแค่ตอนคุณพลอยมาป้อนถึงจะยอมกินบ้าง” “พี่ส้มหนูควรจะทำยังไงดีคะ” เอ่ยถามพี่ส้มที่มีประสบการณ์ดูแลคนสูงอายุ “พี่ว่าลองดูอาการไปก่อนนะคะ ถ้าเห็นท่าไม่ดีเราต้องพาไปโรงพยาบาลค่ะ” “ค่ะพี่ มีอะไรด่วนโทรหาหนูทันทีเลยนะคะ” “ได้ค่ะ คุณพลอยกลับไปพักผ่อนดีไหม จะสองทุ่มแล้วนะคะ คนที่บ้านจะรอนะ” พี่ส้มแนะนำ ฉันพยักหน้าก่อนจะเข้าไปส่องคุณย่าอีกครั้งก่อนจะกลับไปยังบ้านคุณจอมทัพ ที่ฉันเองก็ไม่รู้ว่าเขาจะกลับมาหรือยัง กระทั่งเลี้ยวรถเข้ามาจอดที่โรงจอดรถบ้านเขา ก็เห็นคนตัวสูงยืนกอดอกจ้องฉันอยู่ตลอดการก้าวเดินเข้าไปภายในบ้านหลังใหญ่ “ไปเถลไถลที่ไหน ทำไมไม่รีบกลับบ้าน” นั่นคือสิ่งที่เขาถามกับฉัน น้ำเสียงของคนตรงหน้านั้นฟังดูหงุดหงิดไม่น้อยเลยกับการที่ฉันกลับบ้านช้าขนาดนี้ “...” “อย่ามาเงียบใส่แบบนี้” “ขอโทษค่ะ” ฉันเอ่ยบอกกับคนตรงหน้า ไม่อยากจะทะเลาะหรือเถียงอะไรกับเขาหรอกนะ วันนี้ฉันกังวลเรื่องคุณย่ามากพอแล้วจริง ๆ ไม่อยากจะคิดอะไรที่มันเครียดหรือบั่นทอนจิตใจไปมากกว่านี้แล้ว “อย่ามาประชด” “...” แต่พอได้ยินประโยคถัดมาของเขาฉันถึงกับถอนหายใจแล้วจ้องหน้าเขานิ่ง ๆ “พรุ่งนี้ไปทำงานตอนแปดโมงเช้า อย่าสาย” คุณจอมทัพเอ่ยบอกก่อนจะรีบเดินกลับเข้าบ้าน ฉันถอนหายใจอย่างหงุดหงิดแต่ก็ยอมเดินเข้าบ้านแล้วปิดประตูไว้ทันที กระทั่งกลับขึ้นมาบนห้องนอนที่ถึงแม้จะอยากย้ายไปนอนอีกห้องมากเท่าไหร่แต่เจ้าของห้องก็ไม่ยอมบอกแค่ว่าแม่เขาส่งคนมาดูทุกวันว่านอนห้องเดียวกันไหม ฉันไม่สนใจคนที่นั่งอ่านอะไรบางอย่างบนเตียงนอนเลยสักนิด หลังจากที่เข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดนอนเสร็จฉันก็หอบงานตัวเองลงไปที่ห้องนั่งเล่น งานตัวเองน่ะไม่เท่าไหร่แต่งานแปลที่ต้องส่งมีระยะเวลากำหนดชัดเจน ดังนั้นฉันเลยต้องบริหารเวลาทุกอย่างให้ได้ดีมากกว่านี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD