บทที่ 4 หลงทาง EP.2

1079 Words
“แม่พี่ทำอย่างนี้เสมอเวลาพี่กลับบ้าน ที่เห็นนี่ยังน้อยกว่าทุกครั้ง เดี๋ยวคงต้องให้จ่าทัศน์เอาไปแบ่งให้พวกลูกน้องกินบ้าง พวกนั้นกินแย้กันจนหน้าจะเป็นแย้อยู่แล้ว” เมื่อพูดถึงครอบครัวสีหน้าดุๆ ของแสนคมก็ดูอ่อนโยนลง “นั่นสิครับ ผมเห็นพวกจ่าทัศน์จับแย้มาผัดเผ็ดกินกันประจำ” บดินทร์พูดเสียงกลั้วหัวเราะ แล้วก็อดมองไปรอบๆ ตัวไม่ได้ เพราะมองไปทางไหนก็มืดสนิท นานๆ ครั้งจึงจะเห็นรถวิ่งสวนสักคัน “พวกนั้นชอบมาชวนกินอยู่บ่อยๆ แต่พี่กินไม่ลงอดสงสารมันไม่ได้ พอเราจะเอ่ยปากห้าม ก็บอกว่าถึงเราไม่จับกินชาวบ้านที่อยู่ในละแวกนี้ก็จับกินอยู่ดี พี่เลยไม่รู้จะพูดยังไง” แสนคมรำพึงรำพันอย่างอ่อนใจ เขาย้ายไปอยู่ที่ไหนไม่ค่อยมีปัญหาเพราะเป็นคนกินง่ายอยู่ง่าย ลำบากมากกว่านี้ยังเคยผจญมาแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่เขาไม่แตะต้องคือสัตว์ป่าทุกชนิด “จ่าทัศน์กับจ่าโชติชวนผมอยู่เหยงๆ แต่ยังไม่เคยลอง เพราะพอนึกถึงตัวมันขึ้นมาทีไรแล้วกินไม่ลงทุกที” บดินทร์ทำเสียงกึ่งสยอง “แถบนี้สัตว์เลื้อยคลานจำพวกแย้หรือกิ้งก่าค่อนข้างชุกชุม นายรู้ไหมร้านอาหารป่าหลายร้านมีแย้ผัดเผ็ดเป็นเมนูแนะนำเลยนะ” นายทหารรุ่นพี่บอกยิ้มๆ ทว่าขณะที่รถกำลังแล่นเข้าเขตหมู่บ้านได้ไม่นานนัก “เอ๊ะ...พี่ดูโน่นสิครับ เหมือนมีรถใครจอดอยู่ข้างหน้า” บดินทร์อุทานพลางเพ่งสายตาฝ่าความมืด จนรถแล่นเข้าไปใกล้จึงเห็นว่ามีรถยนต์จอดอยู่ข้างหน้าจริงๆ เขาขยับมือขวาจับปืนพกที่เอวเตรียมพร้อมทันที “พี่ก็กำลังมองอยู่เหมือนกัน” คนขับรถพยักหน้า ก่อนจะค่อยๆ ชะลอความเร็ว เพราะต้องขับรถตอนกลางคืนบ่อยครั้ง ทำให้แสนคมเป็นคนช่างสังเกตโดยเฉพาะพื้นที่แถบนี้ “รถเก๋งนี่ครับ” “ใช่...หรูซะด้วย” แสนคมพึมพำเมื่อรถแล่นเข้าไปใกล้ ก่อนจะเพ่งมองเข้าไปในรถแล้วก็อุทานด้วยความแปลกใจ “ผู้หญิงนี่หว่า” “นั่นสิพี่ ผู้หญิงที่ไหนมาจอดรถในที่เปลี่ยวๆ อย่างนี้ ไม่กลัวอันตรายเลยหรือไงนะ” แสนคมไม่ตอบอะไร แต่ตัดสินใจเบนเจ้าดำคู่ใจเข้าจอดข้างทางแล้วค่อยๆ ก้าวลงจากรถ ทั้งยังจับปืนพกที่เอวไว้มั่น เพราะสถานการณ์รอบตัวดูไม่ค่อยน่าไว้วางใจนัก เมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆ กระจกด้านคนขับของรถที่จอดเปิดไฟอยู่ก็ค่อยๆ เลื่อนลง เมื่อนายทหารหนุ่มเห็นใบหน้าของหญิงสาวที่อยู่ในรถชัดเจนก็ถึงกับชะงักด้วยความประหลาดใจและคาดไม่ถึงระคนกัน ‘แม่สาวชุดดำที่เขาพบที่ผับคืนนั้นและเมื่อตอนบ่าย ทำไมถึงมาจอดรถอยู่ที่นี่’ ขณะเดียวกัน พรนับพันที่กำลังตกอยู่ในอาการหวาดกลัวสภาพรอบกาย ทำให้วูบหนึ่งเธอคิดถึงบ้าน...บ้านที่แม้บางวันจะทำให้ร้อนรุ่มแต่ก็ยังดีกว่าต้องผจญกับความเยือกเย็นที่ประสบอยู่ในขณะนี้ ครั้นเห็นรถยนต์คันใหญ่วิ่งเข้ามา ความรู้สึกที่เกิดขึ้นตอนแรกคือดีใจ เพราะเธอกำลังนึกภาวนาให้มีรถผ่านมาสักทีเถอะ ความมืดมิดทำให้เธอแทบจะหลอนอยู่แล้ว ทว่าความรู้สึกต่อมาก็คือกลัว ด้วยไม่รู้ว่าคนที่อยู่ในรถเป็นคนร้ายหรือคนดี แต่ครั้นเห็นร่างสูงใหญ่ในชุดทหารไทยซึ่งกำลังเดินมาชัดๆ หญิงสาวก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก “ช่วยฉันด้วยค่ะ” หญิงสาวเอ่ยขอความช่วยเหลือทันที คนที่ถูกเอ่ยขอความช่วยเหลือ ซึ่งกำลังอยู่ในอาการประหลาดใจและคาดไม่ถึงมองคนพูดนิ่งๆ แล้วความรู้สึกที่ตามมาก็คือใจหาย ถ้าหญิงสาวคนนี้ไม่พบเขากับบดินทร์ แต่พบกับกองกำลังของทหารกะเหรี่ยงเข้า อะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนั้น “ทำไมถึงมาจอดรถในที่เปลี่ยวๆ แบบนี้ คุณไม่รู้หรือไงว่ามันอันตรายมาก” แสนคมถามเสียงเข้มพลางมองหญิงสาวที่เขาพบที่ผับคืนนั้นกับที่ซูเปอร์มาร์เกตเมื่อตอนบ่ายนี้อย่างประหลาดใจไม่หาย ว่าเหตุไฉนเธอจึงมาปรากฏตัวที่นี่ด้วยชุดสวยงามราวกับจะไปงานเลี้ยง น้ำเสียงดุๆ ของเจ้าของร่างสูงใหญ่ ที่เดินเข้ามาจนชิดประตู ทำให้คนถูกถามขุ่นเคืองไม่น้อย ใครอยากจะมาอยู่ในที่สถานที่เปลี่ยวๆ แบบนี้กันเล่า ถ้าไม่เกิดเหตุสุดวิสัยจริงๆ “ฉันหลงทางค่ะ ไม่อย่างนั้นคงไม่มาจอดรถอยู่อย่างนี้หรอกค่ะ” คำตอบของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มขมวดคิ้วเข้มเข้าหากัน “แล้วคุณจะไปไหนไม่ทราบ” “หมู่บ้านห้วยม่วงค่ะ” พรนับพันบอกชื่อหมู่บ้านที่ท่องจนขึ้นใจ ซึ่งคนฟังก็กวาดตามองรถยนต์คันงามของคนพูดแวบหนึ่ง “ผมกำลังจะไปที่นั่นอยู่พอดี” “จริงหรือคะ” พรนับพันอุทานอย่างดีใจ “ถ้าอย่างนั้นคุณช่วยขับรถนำทางให้หน่อยนะคะแล้วฉันจะขับตาม” แสนคมมองสภาพรถคันหรูที่ไม่เหมาะกับสภาพถนนที่นี่แล้วโคลงศีรษะ “คุณแน่ใจหรือว่าจะขับตามผมทัน” หญิงสาวเหลียวไปมองรถคันใหญ่ด้านหลังแล้วนิ่งอึ้ง “...” “ถ้าคุณจะไปที่นั่นต้องให้ผมเป็นคนขับรถให้เท่านั้น” นายทหารหนุ่มเสนอความคิด เพราะถ้าให้เธอขับรถตาม มีหวังได้หลงไปไหนต่อไหนอีกเป็นแน่เพราะความไม่ชำนาญ แม้แต่จ่าโชติยังเคยหลงทางแถวๆ นี้ ทั้งที่ทางเข้าก็อยู่ใกล้ๆ นี่เอง จนต้องยกมือขึ้นไหว้เจ้าป่าเจ้าเขาถึงมองเห็นทาง เรื่องแบบนี้ไม่เชื่อแต่อย่าลบหลู่เป็นอันขาด “แต่ว่า...” หญิงสาวเกิดอาการลังเลและไม่ไว้ใจขึ้นมาทันใด หน้าตาหรือก็เพิ่งจะเคยเห็น จู่ๆ จะมาขอขับรถให้ ไว้ใจได้แค่ไหนเชียว แสนคมมองแล้วรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก จึงพูดตัดบทอย่างไม่แยแส “ถ้าไม่ให้ผมขับก็นั่งรออยู่ตรงนี้จนถึงเช้าแล้วกัน”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD