SENIOR 2

1571 Words
(กูให้เวลาอีกแค่ชั่วโมงเดียวมาหากูตอนนี้ ไม่งั้นเตรียมตัวรับศพแม่มึงได้เลย ...เกะกะจริงๆเลยมึง พลั่ก! / ...โอ้ยย) ฉันรีบร้อนเก็บของทุกอย่างแล้วรีบออกจากบ้านแต่โดนมือใหญ่รั้งแขนไว้ก่อน “ปล่อยนะ ฉันจะไปหาแม่ ฮือออ ปล่อยสิ!!!” เขาไม่พูดอะไรแต่ลากฉันไปขึ้นรถของตัวเองที่จอดอยู่ฝั่งตรงข้าม แล้วขับออกไปทันที ระหว่างทางฉันพยายามโทรกลับไปหาแม่แต่มันก็เหมือนเดิมคือติดต่อไม่ได้เพราะพ่อเลี้ยงน่าจะปิดเครื่องไปแล้ว “ผู้ชายคนที่โทรมาคือใคร” “พ่อเลี้ยงของฉันเอง ...ตอนแรกเขาเป็นคนดีมากๆ แต่ช่วงหลังๆเขากลับ....” พอนึกถึงเรื่องในอดีตที่ผ่านมาแล้วมันทำให้ฉันพูดอะไรไม่ออกเลยจริงๆ “มันทำไม?” ไฟยังคงถามย้ำอยู่อย่างนั้น “ไม่มีอะไรหรอก ...มันเป็นเรื่องในบ้านฉัน” ฉันเลือกที่จะเลี่ยงคำตอบและหันหน้าออกไปมองด้านนอก ในใจก็ร้อนรนจนแทบจะขาดใจอยู่แล้ว “เล่ามาเถอะ ฉันอยากรู้” “แต่ฉันไม่อยากเล่า ถ้านายไม่สะดวกใจจะพาฉันไปก็จอดเลยก็ได้ เดี๋ยวฉันหาทางไปเอง” ไฟมองกลับมาด้วยสายตาที่น่ากลัวมากๆ เย็นชาจนขนในตัวฉันลุกเกรียวไปหมด “อืม ไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้บีบคอให้เธอเล่าออกมานี่หว่า ต้องโมโหอะไรขนาดนั้น” ไฟขับมาจอดหน้าบ้านของแม่ จนฉันสงสัยว่าทำไมเขาถึงรู้จักบ้านของแม่ฉันด้วย ฉันยังไม่ได้บอกทางเขาเลยนะ “นายมาบ้านนี้ถูกได้ยังไง ฉันยังไม่ได้บอกทางให้เลยนะ” “เธออยากได้คำตอบก่อนหรืออยากเข้าไปหาแม่เธอก่อนดีล่ะ” จริงด้วย! ฉันรีบวิ่งเข้าไปในบ้าน พอเปิดเข้าไปก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของแม่กับกลิ่นเหล้าที่คละคลุ้งอยู่ภายในจนแทบจะอ้วกออกมาให้ได้ “มะ แม่ ฮืออ แม่เป็นยังไงบ้าง ลิขอโทษ” ฉันประคองร่างแม่ให้ลุกขึ้นนั่งอย่างเบามือเพื่อไม่ให้ร่างกายแม่บอบช้ำไปมากกว่านี้ ไฟที่เดินตามเข้ามาก็มาช่วยพยุงแม่ของฉันอีกแรงนึงก่อนจะอุ้มร่างของแม่ไปที่รถของเขา “มาหาลุงแล้วหรอหนูมะลิ” กลิ่นสาบตัวที่ผสมกับกลิ่นเหล้าลอยมาจากทางด้านหลังทำให้รู้ว่าพ่อเลี้ยงมายืนอยู่ด้านหลังฉันได้สักพักแล้ว เฮือก!! “ทำไมลุงทำกับแม่หนูแบบนี้!!” ฉันตะโกนใส่หน้าพ่อเลี้ยงไปด้วยอารมณ์โมโหจนเกินที่จะอดกลั้นเอาไว้แล้ว “จุๆ อย่าทำหน้านิ่วสิจ๊ะมะลิจ๋า เก็บเสียงไว้นอนครางกับพี่เถอะนะ” พ่อเลี้ยงที่มีอาการเมาเหล้าอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทำสายตาหื่นกระหายมองสำรวจฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า ...จนฉันรู้สึกขยะแขยงสายตานั่นมากๆ “ไอ้ทุเรศ!! คุณเป็นสามีของแม่ฉันนะ อย่ามาพูดเรื่องทุเรศแบบนี้ให้ฉันได้ยินอีก ...ปล่อย!!!”ฉันที่กำลังจะเดินหนีก็โดนกระชากแขนให้เข้าไปใกล้ๆร่างอันโสมมของพ่อเลี้ยง กลิ่นเหล้ากับกลิ่นบุหรี่ที่ปะปนมากับลมหายใจของเขามันน่าสะอิดสะเอียนที่สุด “แล้วก็จะเป็นผัวหนูอีกคนไงจ๊ะ ...ไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวพี่จะทำเบา ฮ่าๆๆ ...โอ้ย!! มึงเป็นใครวะ” ระหว่างที่กำลังยื้อยุดกับพ่อเลี้ยงนั้น อยู่ๆก็มีเท้ายื่นมาจากด้านหลังของฉัน ถีบเข้าที่ท้องของพ่อเลี้ยงจนล้มกลิ้งไปอีกทาง “นาย...” ไฟมายืนบังข้างหน้าฉันแล้วทำสายตาที่น่ากลัวมากจนพ่อเลี้ยงฉันมีผวาไปนิดนึงก่อนที่มันจะปรับให้แววตาเป็นปกติ “ไปดูแม่เธอที่รถก่อนไป ฉันโทรเรียกรถพยาบาลแล้วคงกำลังจะมา” ฉันพยักหน้าก่อนจะวิ่งออกไปดูแม่ สักพักนึงรถพยาบาลก็มารับตัวแม่ไป แต่ฉันไม่ได้ไปด้วยเพราะอาการแม่หนักมากจนบุรุษพยาบาลที่นั่งอยู่ข้างหน้ารถต้องมาช่วยคุณพยาบาลที่อยู่ด้านหลังอีกแรงนึง “นาย ว๊าย!..นายเป็นอะไรหรือเปล่า ” พอวิ่งกลับเข้ามาในบ้านก็เจอร่างของพ่อเลี้ยงนอนสลบอยู่ที่พื้นมีรอยเลือดกระเด็นเลอะไปตามพื้นนิดหน่อย “ฉันไม่เป็นอะไรหรอก ...ห่วงฉันหรือไง” อยู่ก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วยิ้มเจ้าเล่ห์อีก เปลี่ยนโหมดไวเกินไปมั้ยเนี่ย “นายทำอะไรกับเขาน่ะ ..ต่อยเขาหรอ” สภาพพ่อเลี้ยงตอนนี้คือเละมาก ใบหน้ามีแต่รอยเลือดและแผลก็เริ่มที่จะปูดออก “เปล่าอ่ะ ...เอาเก้าอี้ฟาดที่หน้ามันแล้วเอาหน้ามันไปกระแทกกับกำแพงตรงนู้นอีกที” นี่พูดมาได้อย่างหน้าตาเฉยเลยเนี่ยนะ ไฟก็ยืนรอฉันที่เดินเข้าไปหยิบเอกสารกับกระเป๋าเงินของแม่แล้วก็ไปโรงพยาบาลด้วยกัน ทิ้งให้พ่อเลี้ยงฉันนอนจมกองเลือดรอรถพยาบาลอยู่ที่เดิม “เธอจะเรียกรถพยาบาลให้มันทำไมวะ” เขาถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดระหว่างที่เราเดินทางไปหาแม่ของฉัน “ฉันเรียนหมอนะ จะปล่อยให้เขานอนรอความตายได้ยังไงล่ะ” ฉันอธิบายเสียงอ่อนไป ไฟกรอกตาไปมาแล้วถอนหายใจก่อนจะเหยียบคันเร่งให้เราไปถึงโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด “แม่หนูเป็นยังไงบ้างคะหมอ” ฉันนั่งรอที่หน้าห้องฉุกเฉินประมานครึ่งชั่วโมงหมอก็เดินออกมา “คนไข้ไม่เป็นอะไรมากครับ มีรอยฟกช้ำที่ตามลำตัวนิดหน่อย กินยาที่หมอสั่งประมาน 2 อาทิตย์ ก็จะหายเป็นปกติแล้วครับ” ฉันถอนหายใจอย่างโล่งอก เหมือนภูเขาที่แบกมาในตอนแรกนั้นหายไปหมด ไฟทิ้งตัวนั่งลงข้างๆแล้วเอามือฉันไปจับ “นี่นายปล่อยเลยนะ ..มาจับมือคนอื่นเขาแบบนี้ได้ยังไง กลับไปได้แล้วล่ะ เดี๋ยวฉันอยู่เฝ้าแม่เอง” ฉันพยายามที่จะแกะมือเขาออกแต่มันก็ไม่เป็นผลเพราะไฟจับไว้แน่นมากแถมยังเอานิ้วมาประสานกันอีก “ขอบคุณสักคำยังไม่มี แล้งน้ำใจมากเลยเธอ” เขาปรายตามองแล้วเบะปากใส่ “ขอบคุณค่ะเฮียไฟ” ฉันอาศัยช่วงที่ไฟกำลังอึ้งอยู่นั้นรีบเดินหนีเข้าไปหาแม่ในห้องพักที่แม่โดนย้ายไป FIRE ON โห โคตรน่ารักเลยครับตอนที่มะลิเรียกผมว่าเฮียไฟ เสียงโคตรนุ่มอ่ะ พอผมกำลังจะเดินเข้าไปแขนก็โดนรั้งไว้จากทางด้านหลัง พอหันไปมองก็เจอกับพลอยคู่ขาเก่าของผม ...มาทำไมตอนนี้วะ -_- “ไฟมาทำอะไรที่นี่หรอคะ” พลอยถือวิสาสะควงแขนแล้วเอาหน้าอกที่เพิ่งอัพไซส์มาเบียดที่ต้นแขนของผม อย่างออดอ้อน “เรื่องของฉัน เธอยุ่งอะไรด้วย” ถ้าใครคิดว่าผมจะตอบอย่างสุภาพบุรุษล่ะก็ คิดผิดแล้วล่ะ ผมไม่ใช่คนดีเรียกได้ว่าเลวเต็มขั้นเลยแหละ “ทำไมพลอยจะรู้ไม่ได้ล่ะ พลอยเป็นเมียไฟนะ ใครๆก็รู้” โอย เบื่อมุขเสียตัวให้แล้วสถาปนาตัวเองว่าเมียมากเลยว่ะ -_- มีคนมาพูดแบบนี้กับผมเป็นสิบคนต่อวันว่า ‘ฉันเป็นเมียเธอนะ’ ขอล่ะ เปลี่ยนประโยคกันบ้างได้ป่ะวะ น่ารำคาญชิบหาย! “เธอไม่ได้เป็นเมียฉัน เธอนอนกับฉันเพื่อแลกกับกระเป๋า 5 ใบ จำไม่ได้หรอ” ผมใจร้ายและหน้าด้านพอที่จะพูดประโยคนี้ดังๆจนหลายๆคนหันมามองที่ผมกับพลอย จนเธอก้มหน้าลงอย่างอับอาย “ไฟ! จะพูดเสียงดังทำไม พลอยอายเขานะ” พลอยกระซิบแล้วทำน้ำเสียงไม่พอใจ แล้วทำไมผมต้องแคร์วะ ในเมื่อเรื่องที่พูดมันเรื่องจริง ผมสลัดแขนจนพลอยเซออกไปหลายก้าว เธอก็ดูไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่แต่ไม่กล้าแสดงอาการอะไรมาก “อายทำไม ทีตอนเธอพูดเธอยังไม่อายเลย ...แล้วทำไมฉันต้องอายด้วยล่ะ ?” พลอยกระฟัดกระเฟียดเดินออกไปซึ่งผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร เพราะตอนนี้จิตใจไปจดจ่ออยู่กับคนตัวเล็กที่วิ่งหายเข้าไปในห้องพักผู้ป่วยแล้ว “แม่จ๋า ถ้าหายดีแล้วย้ายไปอยู่กับลินะ ถ้าเขาอยากได้บ้านเราก็เอาให้เขาไป ..ลิจะรีบเรียนให้จบไวไว แล้วหาเงินมารักษาแม่นะ” ผมยืนฟังร่างบางที่พูดเจื้อยแจ้วกับแม่ตัวเองอย่างเพลิดเพลินจนแม่ของมะลิเงยหน้ามาเจอผมพอดี “สวัสดีครับคุณแม่” มะลิเงยหน้ามามองหน้าผมอย่างอึ้งๆก่อนที่จะรีบหันกลับไปหาแม่ตัวเองทันที “สะ สวัสดีค่ะ ..เพื่อนเจ้าลิหรอคะ” ...เอาไงดีวะบอกว่าอยากเป็นมากกว่ารุ่นพี่นี่เขาจะกลัวกูป่ะวะ “รุ่นพี่ที่มหาลัยครับ ชื่อไฟ” ผมปล่อยให้โมนั่งคุยกับแม่ไป ส่วนตัวเองก็นั่งอยู่ที่โซฟาด้านหลังฟังไปฟังมาก็เพลินเหมือนกันนะเนี่ย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD