บทที่ 2

1094 Words
คุณนายผิงนั่งมองลูกชายและเด็กที่ตัวเองอุปการะมาเลี้ยงเหมือนลูกในไส้ ใช่นางเอ็นดูกลิ่นจันทร์ตั้งแต่แรกเห็นจึงรับเด็กสาวมาเลี้ยงดูแลตั้งแต่เธออายุแปดขวบ จนตอนนี้เป็นสาวสวยสะพรั่ง แถมเป็นเจ้าสาวที่สวยมาก แต่เสียดายความสวยของเธอเจ้าลูกชายตัวดีมองไม่เห็นมัน นางมองทั้งสองที่นั่งที่พื้นพรม ตอนนี้เป็นเวลาส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าห้องหอ นางมองทั้งสองแล้วก็เหนื่อยใจ อีกฝ่ายนั้นแสดงความเกลียดชังออกมาทางสีหน้า แววตาอย่างชัดเจนไม่คิดจะปิดบังใคร ส่วนเจ้าสาวคนสวยก็ได้แต่ฝืนยิ้มกลบเกลื่อนความเศร้าหมองเคล้าน้ำตาของตัวเองแม้มันจะปกปิดไม่มิดก็ตาม “เอาล่ะแม่รู้ว่าลูกไม่ได้เต็มใจกับงานแต่งงานครั้งนี้ แต่คุณดีก็แต่งงานกับน้องแล้ว แม่อยากให้คุณดีใส่ใจดูแลน้องบ้าง ไม่รักไม่เป็นไรแต่อย่าเฉยชากับน้องมากนักเลย ยังไงเสียตอนนี้ก็ถือว่าเป็นผัวเมียกันแล้ว” ผิงนางบอกลูกชายที่นั่งก้มหน้ากัดฟันกรามแน่นอยู่ที่พื้นพรมตรงหน้าตัวเอง “หึ! คุณแม่ยังคิดจะให้ผมใส่ใจผู้หญิงคนนี้อีกเหรอครับ ในเมื่อคุณแม่ก็รู้ดีว่าผมเกลียดกาฝากที่คุณแม่รับมาเลี้ยงมากแค่ไหน” คำพูดของเจ้าบ่าวไม่รักษาน้ำใจไม่สนใจจิตใจของเจ้าสาวที่นั่งข้างตัวเองเลยสักนิด เขาแสดงความชัดเจนของอารมณ์ตัวเองออกมาเสมอ “คุณดีสงบสติอารมณ์หน่อย แม่รู้ว่าลูกไม่เต็มใจ แต่ลูกก็แต่งงานจดทะเบียนสมรสกับหนูจันทร์ไปแล้ว” ตอนนี้กลิ่นจันทร์เป็นสะใภ้ของนางเต็มตัวแล้ว เธอเปลี่ยนมาใช้นามสกุลของครอบครัวเขาเรียบร้อยแล้ว จาก “น้ำใจงาม” มาเป็น “โมกขจร” เรียบร้อยแล้ว ถือว่าตอนนี้กลิ่นจันทร์มีสิทธิ์มีเสียงทุกอย่างในสมบัติของนางที่สามีนางทิ้งไว้ให้ตอนที่เขาจากไปเมื่อสิบปีที่แล้ว “ถ้าคุณแม่ไม่ยกเรื่องโรงแรมและทรัพย์สมบัติของบ้านเราขึ้นมาอ้างผมก็ไม่แต่งงานกับเด็กของคุณแม่หรอก และคุณแม่ก็รู้ว่าผมมีแฟนอยู่แล้ว” เขาบอกในตอนท้ายเมื่อคิดถึงแฟนสาวที่วันนี้เขาพยายามติดต่อหล่อนเท่าไหร่ก็ไม่ได้ เธอคงเสียใจที่เขาทำแบบนี้ แต่เขาทำอะไรไม่ได้เมื่อแม่ของเขายื่นคำขาดไปแล้ว ท่านไม่เคยขู่แต่ท่านทำจริงตามที่บอกทุกครั้ง ฉะนั้นเขาจึงต้องมาเป็นเจ้าบ่าวให้กลิ่นจันทร์ในวันนี้ “แฟนที่ใช้เรือนร่างหาเงินนั่นเหรอคุณดี อย่าคิดจะพาผู้หญิงแบบนั้นเข้าบ้าน และคุณดีคงรู้นะว่าเงื่อนไขในการแต่งงานยังไม่จบเท่านี้ คุณดีจะได้ทุกอย่างก็ต่อเมื่อมีหลานให้แม่ หลานที่เกิดจากคุณดีและหนูจันทร์เท่านั้น หลานที่เกิดจากลูกและผู้หญิงคนอื่นแม่ไม่ต้อนรับ” นางบอกอย่างเด็ดเดี่ยว หึหึ ธรรพ์ขำในลำคอสมเพชตัวเองเหลือเกิน ไม่เคยคิดว่าชีวิตจะตกต่ำขนาดนี้ ใช่เขาตกต่ำเหลือเกิน ตกต่ำถึงขั้นแต่งงานเพื่อรักษาสมบัติของครอบครัวไว้ เขาเกลียดกลิ่นจันทร์นัก เกลียดหล่อนที่สุด เกลียดจนอยากลุกขึ้นกดหัวบีบคอให้ตายคามือ เกลียดหน้าตาใสซื่อ เกลียด! “คุณแม่อย่าดูถูกแฟนผม คุณแม่ต้องการหลานใช่ไหมครับ ได้ผมจะทำให้ตามที่คุณแม่ต้องการ ถ้างั้นตอนนี้ได้เวลาเข้าหอแล้วคุณแม่เชิญกลับห้องตัวเองได้แล้วครับ ผมจะทำหน้าที่ผัวของผมให้มันจบๆ ไป” เขาบอกท่านเสียงเหี้ยม “ยังเรียกแม่นั่นว่าแฟนอีกเหรอคุณดี ตอนนี้ลูกมีเมียเป็นตัวเป็นตนแล้วลูกยังเรียกผู้หญิงคนนั้นว่าแฟนได้ยังไง” “สำหรับผมแล้วตองเป็นแฟนของผมเสมอ เป็นคนที่ผมรักตลอดแม้แต่ตอนนี้ผมก็ยังรักเธอ เชิญครับ ผมจะเข้าหอ” เขาลุกขึ้นไปเปิดประตูห้องหอพร้อมผายมือเชิญท่านออกไปจากห้อง “แม่ไปก่อนนะจันทร์ คืนนี้เป็นคืนที่ดีเป็นวันดี แม่อยากให้หนูอดทนนะจันทร์ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้และวันต่อๆ ไปหนูยังมีแม่คนนี้อยู่จำไว้แม่รักหนูนะ และขอบคุณที่ทำทุกอย่างเพื่อแม่มาตลอด ความดีของลูกจะทำให้ลูกผ่านมันไปได้ เพียงแต่อดทนไปก่อนนะลูก แม่เชื่อว่าสักวันคุณดีจะมองเห็นลูกของแม่บ้าง” นางก้มลงเอ่ยกับเจ้าสาวที่นั่งเงียบมาตลอดที่นางและลูกชายฟาดฟันฝีปากกัน “ความดีมันกินไม่ได้คุณแม่ก็รู้ และอีกอย่างผู้หญิงอย่างจันทร์จะมีอะไรดีกันเชียว และเชิญได้แล้วครับผมจะเข้าหอ” ยิ่งหงุดหงิดเมื่อแม่ที่รักนั้นใส่ใจความรู้สึกกลิ่นจันทร์มากกว่าเขา “ค่ะคุณแม่” เธอก้มลงกราบเท้าผู้มีพระคุณของตัวเองแล้วลุกขึ้นประคองท่านลุกขึ้นจากเตียงแล้วพาเดินไปส่งที่หน้าประตูห้อง “คุณดีอย่ารุนแรงกับน้องนะลูก” ก่อนจะเดินออกจากห้องไปไม่วายสั่งลูกชาย “หึ! คุณแม่อย่าคาดหวังอะไรจากผมเลย ผมมันไม่ใช่ลูกรักของคุณแม่เหมือนเธอ” เขาพูดแค่นั้นก็ดันร่างของแม่ที่รักออกไปให้พ้นประตูห้องแล้วปิดกระแทกเต็มแรง ปัง! ล็อกกลอนทันทีเมื่อประตูห้องปิดสนิท เมื่อล็อกกลอนเรียบร้อยก็หันมามองเจ้าสาวของตัวเองในวันนี้ เขาไม่เคยมีความคิดมากก่อนว่าตัวเองจะแต่งงานและไม่เคยมีภาพมาก่อนว่าเจ้าสาวจะเป็นกลิ่นจันทร์ “สะใจแล้วใช่ไหมที่ทำให้ฉันเป็นลูกชังของคุณแม่ได้ เป็นไงล่ะออดอ้อนจนท่านจะยกสมบัติให้ล่ะสิ” ผลักไหล่เล็กของกลิ่นจันทร์ให้ถอยหลังไปยังเตียงนุ่มที่ตกแต่งสีชมพูหวานพร้อมบนเตียงมีกลีบกุหลาบสีขาวและแดงโรยเป็นรูปหัวใจคู่ “คะ...คุณดีพูดอะไรคะ จันทร์ไม่รู้เรื่อง” “ไม่รู้เรื่องเหรอ ตุ๊บ! ” พวงมาลัยที่คล้องคอของธรรพ์ถูกกระชากโยนทิ้งพร้อมด้วยเท้าใหญ่ของเขาบดขยี้พวงมาลัยมงคลสมรสทิ้งด้วยความเดือดดาล “คุณดีอารมณ์ไม่ดีงั้นจันทร์ขอตัวกลับห้องของจันทร์ก่อนนะคะ” เธอบอกเขาเสียงเบา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD