เมื่อนั่งรถกันมาสักพักอย่างที่ไม่มีใครพูดอะไรกัน มีแค่เสียงเพลงที่เขาเปิดเอาไว้ก่อนหน้าเพียงเท่านั้นเบาๆ เพื่อให้รู้สึกว่าบรรยากาศบนรถไม่น่าอึดอัดจนเกินไป
ทำให้คนที่ถูกเรียกตัวขึ้นมาบนรถกะทันหันอดที่จะชำเลืองไปมองคนด้านข้างเล็กน้อยไม่ได้ สุดท้ายก็ตัดสินใจถามเขาออกมา
"เราจะไปไหนกันเหรอคะ"
"แม่ผมอยากเจอคุณ"
"ค่ะ" พีรดาพยักหน้า
"ว่าไงนะคะ!" พีรดาตาโตตกใจ เอี้ยวทั้งตัวไปหาเขาเมื่อสมองประมวลคำพูดแล้วว่าใช่
"ครับ ผมจะพาคุณไปเจอแม่ ช่วยผมอีกสักครั้งนะครับเดี๋ยวผมเทหนี้ให้คุณทั้งหมด"
"คะ" พีรดาตวงตาลุกวาว แต่คำว่าไปเจอแม่ของเขาตัวเป็นๆ ทำให้พีรดาคิดหนักมากกว่า คิดว่าเรื่องราวที่เธอกลายมาเป็นแฟนปลอมๆ ของเขาจะมีแค่หน้าห้องตรงนั้น แต่ทำไมมัน..
"เพราะคนที่เราเจอเมื่อคืนเขาโทรไปฟ้องแม่ผมว่าเจอผมกับคุณ" กฤษณะว่าอย่างน่าเห็นใจ
"คุณช่วยผมอีกสักครั้งได้ไหมครับ" ระหว่างที่รถจอดติดไฟแดงเขาหันหน้ามาหาเธอเพื่อรอคำตอบ
สายตาของใครบางคนทำเอาหญิงสาวกดดัน แต่พอนึกถึงตอนที่ตัวเองเดือดร้อนเรื่องเงิน เขาให้เธอยืมภายในเวลาไม่กี่นาที แล้วกับงานง่ายๆ แค่นี้ หนี้ที่เหลืออีกสองหมื่นก็ไม่เอาคืน แค่ไปแสดงตัวว่าเป็นของแฟนของเขาไม่กี่ชั่วโมง ทำไมเธอจะช่วยไม่ได้ล่ะ
"ว่าแต่..แม่อาจารย์ดุไหมคะ" ข้อนี้ต่างหากที่ทำให้พีรดาเป็นกังวล
กฤษณะที่ได้ยินอย่างนั้นก็หลุดขำออกมา
"อาจารย์.." พีรดาทำหน้ามุ่ยที่เขามองว่าคำถามของเธอมันเป็นเรื่องตลก เธอก็อยากถามเอาไว้ก่อนสิว่าต้องทำตัวประมาณไหนกัน
"เดี๋ยวเจอคุณก็รู้เองครับ" กฤษณะบอกยิ้มๆ พีรดาถามมาขนาดนี้แล้ว แสดงว่าเธอเต็มใจช่วย แต่แค่กลัวแม่ของเขาราวกับลูกสะใภ้ตัวจริงกลัวแม่ย่าแบบนั้น
"ไม่เอาค่ะ อาจารย์บอกหนูมาก่อน" พีรดาถือวิสาสะวางมือลงบนท่อนแขนแกร่ง แต่เมื่อสัมผัสแล้วว่ามันแน่นจึงออกแรงบีบดูเล็กน้อย อืม..แน่นจริงๆ ก่อนจะพาตัวเองกลับมาสนใจในสิ่งที่เธออยากรู้
"ดุ" แล้วคำว่าดุที่ออกจากปากเขาก็ทำให้หญิงสาวเงียบไป พร้อมกับมือเรียวที่ค่อยๆ ปล่อยออกจากแขนของเขาแล้วหันมานั่งตรงๆ
พยายามหาข้อเชื่อมโยงว่าความจริงแล้วเธอไม่ใช่แฟนของเขาจริงๆ จะไปกลัวอะไร มันไม่ใช่เรื่องจริงสักหน่อย ก็หาคำพูดที่มันโกหกได้เพื่อเอาตัวรอด แค่นี้เองชิลๆ
เวลาต่อมา เห็นเขาค่อยๆ ชะลอความเร็วลงจนรถมาหยุดลงที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง มีประตูรั้วเหล็กสีขาวสูงท่วมหัวอยู่มากประมาณสามถึงสี่เมตร พีรดาอ้าปากค้าง ประตูรั้วบ้านสูงขนาดนี้ ตัวบ้านจะขนาดไหนกัน
มองประตูที่ถูกเปิดออกอย่างอัตโนมัติก็คิดได้ว่าเป็นระบบไฟฟ้า แค่นั้นละก็ทำให้พีรดาได้เจอกับสิ่งที่คิดไปเมื่อกี้ว่า บ้านหรือพระราชวังกรีก
ทำเอาคนที่มองไม่วางตาใจเต้นถี่เมื่อเขาขับรถเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ยิ่งปรากฏความใหญ่โต แต่เธอไม่คิดว่าคนที่รวยขนาดนี้จะซักไซ้ถามถึงเรื่องการใช้หนี้เงินสามหมื่น มิน่าเขาถึงรวย แอบขี้งกนี่เอง
กระทั่งรถมาหยุดลงตรงที่จอดรถมีหลังคา ทำให้พีรดาดึงสติกลับมา อีกฝ่ายทำการดับเครื่องยนต์ลงไป พีรดาก็เห็นเขาเอื้อมมือกลับไปทางด้านหลังแล้วหยิบถุงกระดาษยื่นมาตรงหน้าให้
"อะไรเหรอคะ"
"ชุดครับ เพราะหากผมมีเมียเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยตัวเองแม่ผมคงได้อกแตกตายก่อนพอดี"
"อะ..อ๋อ" พีรดาก้มลงมองชุดของตัวเอง ใช่เลย ตรามหาวิทยาลัยเด่นชัดตรงหน้าอกขนาดนี้ ไหนจะกระดุมเงินที่มีตราสัญลักษณ์ครบทุกเม็ด ทำให้หญิงสาวรีบตอบรับเขาอย่างไว แล้วหยิบมันมาถือเอาไว้ในมือ แต่เมื่อกี้เขาเรียกเธอว่าเมียอย่างงั้นเหรอ
"เรา..เป็นแฟนปลอมๆ กันไม่ใช่เหรอคะอาจารย์" พีรดาหันไปเลิกคิ้วถาม
"ก็เมื่อวานไง อาจารย์ขวัญตาเห็นผมกับคุณเดินมาด้วยกัน คิดว่าคงเข้าห้องแล้วจัดสักยกก่อนนอน แบบนี้เขาไม่เรียกแค่แฟนหรอก"
"แต่เรายังไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ นี่คะ" พีรดาขมวดคิ้วทักท้วง อีกอย่างเขาไม่จำเป็นต้องเล่าละเอียดขนาดนี้ก็ได้ว่าก่อนนอนต้องทำอะไรกัน
"แต่คนอื่นคิดไปไกลแล้วไงครับ คุณอย่าคิดมากเลย ได้ผมเป็นแฟนดีกว่าถูกรางวัลที่หนึ่งเป็นไหนๆ" กฤษณะว่าอย่างชิลๆ ทำตัวสบายๆ ไม่รู้สึกกังวล
"โธ่ แต่ถ้าหนูถูกรางวัลที่หนึ่งจริงๆ หนูก็เลือกเงินนะคะ มีเงินแล้วผู้ชายถึงจะตามมาค่ะ" เธอก็ว่าไปตามความจริง
"เปลี่ยนชุดได้แล้ว" กฤษณะรีบปรามคนตัวเล็กไม่ให้พูดมาก ก่อนที่เธอจะไปมีใคร ตอนนี้ช่วยทำตัวเป็นเมียของเขาต่อหน้าแม่ก่อนได้ไหม
"แล้วห้องน้ำอยู่ที่ไหนเหรอคะที่จะให้เปลี่ยนชุด" พีรดาสอดส่องสายตามองหา ทว่ากลับไม่เจอ
"เปลี่ยนในรถเนี่ยแหละ" ถ้าเขาปล่อยให้เธอเดินเข้าบ้านในสภาพนี้ ชุดที่เขาเอามาให้ใส่ก็คงไม่จำเป็น
"แล้วอาจารย์..?"
"เดี๋ยวผมรอด้านนอก" กฤษณะบอกอย่างรู้ทัน "เสร็จแล้วรีบออกมาก็แล้วกัน"
พีรดาพยักหน้ารัวๆ เป็นอันว่าเข้าใจ พออีกฝ่ายเปิดประตูรถลงไป หญิงสาวก็รีบปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาตัวเองออกจนครบทุกเม็ดก่อนจะถอดออกไปด้านหลัง
ทว่ามือเรียวต้องรีบหุบเสื้อตัวบางเข้าหากันเมื่อประตูฝั่งคนขับถูกเปิดออก พร้อมกับใบหน้าหล่อที่ก้มลงมา
"อาจารย์! หนูโป๊อยู่นะคะ!" พีรดาตำหนิอีกฝ่ายเสียงดังลั่น นั่นทำให้กฤษณะที่ไม่คิดว่าพีรดาแก้ผ้าแล้วรีบเบนสายตาไปทางอื่น
"ขอโทษครับ ผมลืมมือถือ" พร้อมมือที่ยื่นเข้ามาควานหาโทรศัพท์มือถือของตัวเองเพื่อโทรบอกแม่ ทว่าคนที่มองไม่เห็นกลับหาไม่เจอสักที เป็นพีรดาที่ทั้งเคืองทั้งต้องหยิบให้เขาเอง เจ้าตัวถึงค่อยๆ ถอยออกไป
ประตูรถถูกปิดลงไป กฤษณะรีบถอนหายใจเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ลง ยอมรับว่าเมื่อกี้เขาเห็นไปแล้วเต็มสองตา! ก้อนนุ่มสีขาวสองก้อนภายใต้บราเซียสีดำที่ถูกแอ่นขึ้นมา แค่เพียงแวบเดียว แต่เขาสามารถจดจำรายละเอียดได้หมดว่าเนินหน้าอกข้างขวามีจุดสีน้ำตาลเล็กๆ คล้ายขี้แมลงวัน
กฤษณะลูบใบหน้าของตัวเองเบาๆ ก่อนเดินไปเดินมาเพื่อขยับแข้งขาให้เข้าที่ หากเขาเข้าบ้านทั้งแบบนี้ พ่อกับแม่คงมีแซวแน่นนอน ก็กางเกงเขาดูรัดเป้า ยิ่งขยายใหญ่ก็ยิ่งเห็นอนาคอนด้านอนเหยียดยาวภายใต้กางเกงสแล็คสีดำ
อะไรเขาจะรู้สึกไวขนาดนั้น หรือเป็นเพราะว่าเขาขาดเรื่องอย่างว่ามานาน รู้สึกว่าช่วงหลังๆ ที่พึ่งแต่แม่นางทั้งห้า ไม่สามารถทำความรู้สึกที่มีต่อเพศตรงข้ามลดน้อยลงไปได้เลย
แต่เขาก็ไม่ได้เป็นกับใครง่ายๆ เช่นกัน ไม่งั้นเขาคงคว้าทุกคนที่แม่ส่งมาให้ แต่นี่เขาเลือกที่จะเลี่ยงมากกว่าไง แล้วเอาพีรดามาแทน
กระทั่งหญิงสาวที่สวมชุดเดรสสีชมพูอ่อนลายสก็อต มีแขนตุ๊กตาพองๆ ที่เขาซื้อมาให้เสร็จเรียบร้อย หยิบเอาลิปมันเปลี่ยนสีกับแป้งพับที่มีใกล้จะหมดขึ้นมาแต่งเติมใบหน้านิดหน่อย
ดึงยางมัดผมออกไปทางด้านหลังแล้วเอามือสางผมสวยให้เรียบร้อย แต่คนที่รัดผมเอาไว้ทั้งวันทำให้เส้นผมเกิดรอยหยักจนพีรดาที่มองผ่านกระจกทำหน้ามุ่ย หรือจะมัดกลับเข้าไปเหมือนเดิมดี
พอนึกได้ดังนั้นพีรดาก็รวบตึงทันทีได้ไวที่สุด คนที่ทำงานกลางคืนแบบเธอย่อมแต่งหน้าทำผมให้ตัวเองง่ายภายในเวลาไม่กี่นาที
พอดูความเรียบร้อยของตัวเองเสร็จแล้ว เธอก็ดูดีเหมือนกันนะเนี่ย แต่ว่าชุดที่เขาเลือกมาให้ ดูดีๆ ไม่ต่างจากลุคคุณหนูเลย ซึ่งตอนนี้เธอสวมเป็นรองเท้าผ้าใบสีขาวมีถุงเท้านักเรียนเท่าข้อเท้า ช่างไปในแนวกันจริงๆ จนพีรดาส่ายหัว ทว่ากลับแปลกใจมากกว่าเมื่อเขาดูเลือกชุดให้เธอพอดิบพอดี
แต่พอรู้ว่าตัวเองเสียเวลามากแล้วจึงได้รีบเปิดประตูลงไปพร้อมกับกระเป๋าผ้าคู่ใจ
กฤษณะที่เรียกความกระปรี้กระเปร่าตัวเองกลับคืนมาได้ หันไปมองคนที่เดินลงจากรถมา ก่อนจะสำรวจพีรดาตั้งแต่หัวจรดเท้า
ไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่ เอาจริงเขาชอบที่เธอใส่ชุดแบบเมื่อคืนมากกว่ามันดูมีเสน่ห์ดี เขาไม่ได้ชอบผู้หญิงเรียบร้อย เขาชอบคนที่มีความมั่นใจ แต่การเข้าหาผู้ใหญ่จึงต้องหาชุดที่ดูเข้าใจผู้หญิงอย่างคนเป็นแม่มาให้เธอ
"ใส่ได้พอดีนะ"
"ได้ค่ะ"
"แต่รองเท้า.." กฤษณะเอ่ยแล้วหยุดนิ่ง
"ได้ไหมคะ พอดีหนูมีแต่รองเท้าผ้าใบ ถ้าคุณไม่พาหนูกลับหอพักไปเอาก่อน"
"ช่างเถอะ ไม่เป็นไรหรอก" ก่อนจะแบมือขอมือเรียวมากุม พีรดาก็รีบวางลงทาบทับลงด้วยความรู้หน้าที่
พอกฤษณะนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ก่อนจึงหันกลับมาหา
"คะ" คนที่เดินตามหลังเขามา พออีกฝ่ายหยุดกะทันหันทำเอาเธอแทบหัวคะมำ จะชนหน้าอกของเขาอยู่แล้ว
"ทวนความจำหน่อย" มือสองข้างประคองใบหน้าเนียนสวยที่สัมผัสได้ว่าไม่มันแผล็บอย่างตอนที่เธอขึ้นรถ อีกทั้งริมฝีปากอวบอิ่มยังเป็นสีชมพูระเรื่อน่าจูบเพื่อรอฟัง
พีรดาเริ่มหายใจติดขัดกับความใกล้ชิด แต่ก็คิดตามในสิ่งที่เขาประสงค์จะได้ยิน เขาคงหมายถึงให้เธอทวนว่าต้องทำตัวอย่างไรบ้าง
"คุณกฤษ" มีอย่างเดียวที่เขาไม่อยากให้เธอหลุดพีรดาจำได้
"ครับ ไปกัน"
แล้วเขาก็คว้ามือเรียวเล็กไปกุมอีกครั้งให้เดินไปพร้อมกัน