ตอนที่ 1 เจ้าหนี้ ลูกหนี้

1997 Words
@มหาวิทยาลัยS @15:30 น. "จบหัวข้อการเรียนการสอนวันนี้แล้ว นักศึกษาท่านใดมีข้อสงสัยอยากสอบถามเพิ่มไหมครับ" สายตาคมกวาดมองนักศึกษาทั่วห้องเรียน เมื่อเห็นหลายคนนิ่ง อีกทั้งหลายคนส่ายหน้าเป็นการให้คำตอบกลับมา 'กฤษณะ' จึงพยักหน้าเพียงเล็กน้อยแล้วอนุญาตให้หัวหน้าคลาสเอ่ยทำความเคารพได้ 'นักศึกษาเคารพ' 'ขอบคุณครับ/ค่ะอาจารย์' ทั้งนักศึกษาและอาจารย์ต่างคนต่างเก็บของ คาบนี้เป็นคาบสุดท้ายของวันที่กฤษณะทำการสอนหนังสือ อาจารย์หนุ่มประจำคณะบริหารธุรกิจของมหาวิทยาลัยชื่อดัง พอเก็บของเสร็จก็พาร่างกายที่มีส่วนสูงถึงร้อยแปดสิบเซนติเมตร สัดส่วนนายแบบ สวมเสื้อเชิ้ตสีเปลือกมังคุด เนคไทสีเข้มลายทาง ด้านล่างสวมเป็นกางเกงสแล็คสีดำ รองเท้าหนังสีดำเงาวับ เดินลงมาจากอาคารเรียนเพื่อกลับบ้าน ด้วยใบหน้าของอาจารย์หนุ่มวัยสามสิบหกปีที่ดูดี สุขุมมีเสน่ห์ แถมยังมีผิวขาวมากๆ ไม่ว่าจะย่างกรายไปทางไหนทำให้สาวๆ ต่างเหลียวมอง อดที่จะสะกิดให้เพื่อนที่นั่งข้างๆ ดูด้วยไม่ได้ "นึกอิจฉาคนที่ได้เรียนกับอาจารย์กฤษณะนะ ฉันอยากรีบขึ้นปีสามเร็วๆ จังเลย" ด้วยรู้ดีว่าอาจารย์กฤษณะจะสอนนักศึกษาปีสามปีสี่เป็นส่วนหลัก ทำให้มีโอกาสพบเจอเขาบ่อยครั้งกว่าปีไหนๆ กฤษณะเดินอ้อมไปยังด้านหลังตึกเรียน เพื่อไปขึ้นรถที่นำมาจอดเอาไว้ จู่ๆ ขายาวก็ค่อยๆ ชะลอความเร็วลง แล้วมองไปยังนักศึกษาหญิงคนหนึ่งใส่กระโปรงทรงเอ สวมรองเท้าผ้าใบสีขาว ผมดำขลับรวมขึ้นเป็นหางม้าปล่อยยาว ไหล่ข้างขวาสะพายกระเป๋าผ้าสีขาว ยืนหันซ้ายหันขวาราวกับกำลังมองหาใคร กฤษณะเดินเข้าไปใกล้เพื่อดูให้ชัด หากแต่อย่างนั้นยังคงเว้นระยะห่าง จนได้แน่ชัดแล้วว่าเจ้าของใบหน้าหวานคนนี้เป็นใคร 'พีรดา' นักศึกษาชั้นปีที่สามห้องหนึ่งเขาจำเธอได้ เมื่อพีรดาหันมาเห็นหน้าอาจารย์หนุ่มที่กำลังรอก็ฉีกยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจ รีบเดินปรี่เข้าไปหา ทว่ากฤษณะกลับก้าวถอยหลังพร้อมทั้งส่งสายตาคมเข้มห้ามปรามให้พีรดาหยุดยืนอยู่ตรงนั้น เจ้าตัวที่รับรู้ว่าตัวเองกำลังอยู่ในสถานที่แห่งไหนก็หยุดเท้าที่กำลังจะก้าวเดินต่อไปแทบหัวคะมำ ก่อนกวาดสายตามองไปรอบๆ ว่ามีใครเห็นหรือเปล่า ทิ้งระยะห่างระหว่างเธอกับเขาที่สามเมตรครึ่งคงพอดี ก่อนเอ่ยออกมาด้วยความเร่งรีบ "อาจารย์คะ หนูขอยืมเงินสามหมื่นค่ะ!" "ว่าไงนะ!" กฤษณะแทบไม่เชื่อหู ก่อนเป็นฝ่ายขยับเข้าไปหาเจ้าตัวก้าวหนึ่ง "หนูขอยืมเงินสามหมื่น ให้หนูทำอะไรตอบแทนก็ได้ค่ะ!" ความคนกำลังเร่งรีบทำให้พีรดาเอ่ยออกมาแบบนั้น ทว่าประโยคหลังกลับทำเอากฤษณะถึงกับทำหน้าเหวอ กฤษณะหันซ้ายหันขวาทันที เด็กคนนี้เนี่ยนะ! ทำไมถึงได้มาพูดแบบนี้ในสถานที่แห่งนี้กัน! มือหนาเต็มไปด้วยเส้นเลือดสีเขียวเข้มเด่นชัดตรงหลังมือรีบกดรีโมตปลดล็อกรถแล้วส่งสัญญาณให้เธอเข้าไปคุยกันในนั้นทันที เมื่อมองดูดีๆ พบว่าไม่มีใครอยู่แถวนี้แล้ว พีรดาที่รู้ตัวก็รีบเปิดประตูด้านข้างคนขับขึ้นไปทันที ตามด้วยกฤษณะที่รีบตามเข้ามา ฟิล์มกรองแสงที่เจ้าตัวเพิ่งไปเปลี่ยนมาไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์สามารถบดบังสายตาคนภายนอกมองเข้ามาได้หมดจึงหายห่วง จากนั้นจึงติดเครื่องยนต์ เปิดแอร์ให้เย็นฉ่ำคลายความตื่นเต้นเมื่อกี้ลงไป พีรดายกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู เธอมีเวลาอีกแค่ยี่สิบนาทีเท่านั้นฝ่ายการเงินจะปิดแล้ว โอ๊ย! หญิงสาวยกมือขึ้นปาดเหงื่อที่ซึมออกมาตามกรอบใบหน้า เพราะหลังเลิกเรียนรีบวิ่งมาดักรอ "อาจารย์คะหนูขอยืมเงิน!" พีรดาเอี้ยวตัวไปย้ำกับใบหน้าหล่อเหลาอีกที แสดงสีหน้าอ้อนวอนขอให้เขาเห็นใจ "จะเอาไปทำอะไรมากขนาดนั้น" กฤษณะถามน้ำเสียงติดเหวี่ยงนิดๆ นี่มันเกินครึ่งของเงินเดือนเขาเลยนะ หากไม่ใช่ว่าแม่ที่อยากให้เป็นครูเขาไม่ทำหรอก ไปทำธุรกิจกับพ่อเสียยังดีกว่า วันไหนที่อยากตื่นสายก็เข้าบริษัทช้าแค่นั้นเอง "จ่ายค่าเทอมค่ะ วันนี้วันสุดท้ายแล้วด้วย" พีรดาทำท่าเหมือนจะร้องไห้ออกมา ทำให้กฤษณะนิ่งคิดไป "แล้วทำไมไม่จ่ายตั้งแต่ต้นเดือน" แต่เขาสะกิดใจเรื่องเงินมากกว่า มาแบบนี้เป็นมิจฉาชีพไหมก็ไม่รู้ ถ้าเขาไม่คุ้นหน้าคร่าตาว่าเธอเป็นนักศึกษาที่นั่งอยู่แถวหลังสุด ชอบแอบหลับในคาบเรียน แล้วก็เป็นเขาที่ต้องเดินไปปลุกเธอทุกที จากนั้นมาเขาจำเธอได้แม่น! นักศึกษา'พีรดา' "หนูเสียดายตังค์นี่คะ กะว่าจะถ่วงเวลาให้อยู่กับตัวเองนานๆ หน่อย" พีรดาทำสีหน้าเหงาหงอย "แล้วพอวันนี้จะไปจ่ายค่าเทอมหนูกลับทำเงินหาย" น้ำตาเม็ดเล็กไหลลงมาเป็นสายทันทีราวกับสั่งได้ เธอปล่อยน้ำตาออกมาเมื่อกลั้นไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว คาบบ่ายเธออดทนไม่ร้องกระทั่งนั่งเรียนจนเสร็จ สงสัยมันหล่นบนรถเมล์แน่ๆ แล้วคิดว่าคงไม่ได้คืน ทำให้คนที่เพิ่งรู้ตัวตอนบ่ายสามโมงไม่ตามไปเอา กฤษณะที่เห็นดังนั้นใจแป้วลงไปเลย ชีวิตของเขาจะมีสักกี่คนมานั่งร้องไห้ให้เห็นแบบนี้ "แล้วไม่มีเงินสำรองหรือไง" น้ำเสียงของเขาอ่อนลงคราวนี้ "มีร้อยสี่สิบสี่ในบัญชีค่ะ" พีรดาปาดน้ำตาออก สืบน้ำมูกที่มันอาจไหลออกมา กฤษณะหลับตาลงข่มใจทันที มาสอบเข้ามหาวิทยาลัยราคาแพงแบบนี้ทำไมไม่เตรียมตัวให้พร้อม "อีกสิบห้านาทีฝ่ายการเงินจะปิดแล้วค่ะอาจารย์ หนูสัญญาว่าจะรีบหามาใช้คืน" พีรดาทำหน้าตาน่าสงสาร พนมมือไหว้ อ้อนวอนให้เขาเห็นใจ เธอก็นักศึกษาของเขานี่ไง มาเรียนเจอกันอยู่ทุกอาทิตย์จะหนีไปไหนได้ "หาที่ไหนแล้วเมื่อไหร่" ใจอ่อนลงไปแล้วเกินครึ่ง "หนูทำงานตอนกลางคืน ตังค์ออกสิ้นเดือนค่ะ" "งานอะไร" เขาอยากรู้ก่อนว่าเธอจะมีเงินมาคืนเขาจริงๆ ไม่ใช่มาฉวยโอกาสแล้วเก็บเงียบ ไม่มีสัญญากู้ยืมแค่เพียงลมปาก "เด็กนั่งดริ๊งค์ค่ะ" มิน่า..ชอบมานั่งหลับในคาบเรียนทุกที คราวนี้เขาเริ่มไม่แน่ใจว่าเธอง่วงมากหรือเมาค้างกันแน่ "แล้วพ่อแม่ล่ะ" เขายังไม่เห็นเธอเอ่ยถึงพ่อแม่ที่ทำลูกแล้วเบ่งเธอออกมาเลย "พ่อแม่ไม่มีให้ค่ะ เพราะหนูอยากเรียนต่อจึงต้องทำงานส่งตัวเองเรียน" พีรดามีน้ำเสียงอ่อนลง พ่อกับแม่เธออยู่ต่างจังหวัด แถมยังต้องส่งน้องเรียนมอปลายให้จบ ด้วยความทะเยอทะยานของเธอที่อยากเข้ามาเรียนในกรุงเทพ จึงทำให้พีรดาอาศัยช่วงปิดเทอมก่อนเปิดภาคเรียนมหา'ลัยปีหนึ่งทำงานระหว่างนั้น จากนั้นมาเธอทำเรื่อยๆ ได้มาใช้ไป วนลูบอยู่แบบนี้จนขึ้นปีสาม ท่ามกลางสองข้างทางที่มีแต่ขวากหนาม แต่เธอไม่ยอมแพ้ "ด้วยการเป็นเด็กนั่งดริ๊งนี่นะ แล้วแบบนี้สุขภาพจะไม่แย่ก่อนเหรอกว่าจะเรียนจบ" เขาถามอย่างเห็นอกเห็นใจหากว่าพีรดาพูดความจริง "หลักๆ เสิร์ฟค่ะ เพิ่งมาหัดนั่งดริ๊งเพราะเห็นว่ารายได้ดีกว่า อาจารย์..ถ่วงเวลาหนูค่ะ" พีรดาทำหน้ามุ่ย "แล้วจะเอาอะไรมาเป็นหลักประกันว่าคุณจะไม่หนีผม" กลายเป็นเขาที่ผิดซะงั้น น่าเห็นใจนะ แต่เงินตั้งสามหมื่น เขาต้องแหกตาตื่นขึ้นมาสอนแต่เช้าทุกวัน "อาจารย์คะ เราเจอกันอยู่เกือบทุกวัน" อะไรจะงกได้ขนาดนั้น เธอแค่ยืมนะไม่ได้ขอฟรีๆ เสียหน่อย "พูดให้มันดีๆ หน่อย" คำพูดของเธอนี่ชักทำให้เขาหวาดเสียว "ก็อาจารย์มาสอน หนูก็เข้าเรียนไงคะ เราเห็นกันเกือบทุกวัน" พีรดารีบอธิบายเสริมเพราะไม่คิดว่าเขาจะคิดมาก "ช่างเถอะ สรุปคุณมีอะไรมาค้ำประกันว่าจะใช้ผมคืนแน่ๆ" เขาอยากรู้ในข้อนี้มากกว่า "บัตรประชาชนได้ไหมคะ" เธอคิดว่ามันสำคัญกับคนเรามากๆ นะ ไม่แน่ใจจะได้หรือเปล่า "แล้วบัตรประชาชนของคุณผมซื้อข้าวกินได้หรือเปล่าพีรดา" "ทำไมอาจารย์ปากจัดจังคะ" พีรดาหน้ามุ่ย "น้อยๆ หน่อย นี่เงินผมนะ ผมมีสิทธิ์หวง" "งั้นอาจารย์จะเอาอะไรล่ะคะ เอาบัตรเอทีเอ็มหนูไหม แบบที่เจ้าหนี้ยึดบัตรเอทีเอ็มลูกหนี้ไว้ก่อนน่ะค่ะ" ว่าแล้วพีรดาก็หยิบออกจากในกระเป๋าผ้าสีขาวใบโปรดยื่นให้เขาไป "แต่คุณเพิ่งบอกเมื่อกี้ว่ามีแค่ร้อยสี่สิบสี่เองนะ" อยู่ดีๆ เขากลับจะมีลูกหนี้เสียอย่างนั้น "มันมีเงินของเดือนหน้าที่จะออกในอีกสามวันค่ะ น่าจะออกประมาณสามหมื่น" "ได้เยอะขนาดนั้นเชียว?" "ตับแทบพังเลยค่ะ" เพราะหากจ่ายค่าเทอมไปแล้วก็หมดตัว จึงได้เร่งงานเสริมในเดือนนี้เพื่อให้มีกิน แต่เดือนต่อไปคงไม่ได้เท่านี้แล้วล่ะ กินบ่อยไม่ไหวจริงๆ ร่างกายจะพังเอา กฤษณะถอนหายใจแรงออกมา "งั้นเอามา" "หนูเขียนรหัสเอทีเอ็มให้ค่ะ" เธอจำมาจากคนที่เคยกู้หนี้ยืมสินเขาทำแบบนี้กันทั้งนั้น กฤษณะไม่ได้ห้าม มองคนที่ล้วงปากกาในกระเป๋าสะพายตัวเองมาแล้วฉีกกระดาษในสมุดเรียนเป็นแผ่นเล็กๆ เขียนหมายเลขหกหลักส่งมาให้ พอได้มา กฤษณะก็ล้วงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงตัวเองออกมาเหมือนกัน เข้าแอพธนาคาร ถามหมายเลขบัญชีปลายทางด้วยความกังวล "ห้ามตุกติก" เขาตวัดสายตาไปย้ำเสียงเข้ม ยอดเงินกำลังจะโอนโชว์เด่นที่สามหมื่นบาทไม่มีขาดไม่มีเกิน "ไม่แน่นอนค่ะหนูสาบาน" พีรดาชูสามนิ้ว มือหนาจึงกดส่ง ข้อความแจ้งเตือนเงินเข้าปรากฏในมือถือพีรดาทันที "ขอบคุณนะคะอาจารย์" รอยยิ้มสดใสฉีกกว้างขึ้น รอยบุ๋มตรงแก้มเนียนในระยะประชิดทำเอาคนมองเสียอาการไปเล็กน้อย ก่อนจะดึงสายตากลับไปมองตรงหน้าด้านนอกรถ เมื่อมีนักศึกษากลุ่มหนึ่งเดินผ่านมาทางนี้ กระทั่งเดินผ่านไป พีรดามองว่าอีกสิบนาทีจะหมดเวลาอยู่แล้ว จึงทำท่าจะเปิดประตูรถลงไป หากใครบางคนไม่เรียกเอาไว้เสียก่อน "เดี๋ยว เอาเบอร์โทรศัพท์ของคุณมาด้วยสิเผื่อคุณตุกติกไปอายัดบัตร" เมื่อรู้ตัวว่ากลายมาเป็นเจ้าหนี้เขาต้องรอบคอบ "โธ่อาจารย์คะ" เวลาเร่งรีบจึงทำให้พีรดาไม่มีกะจิตกะใจคิดต่อ แย่งเอากระดาษแผ่นที่อยู่ในมือของเขา พลิกอีกด้านแล้วจดเบอร์โทรศัพท์ของตัวเองลงไป "หนูไปแล้วนะคะคราวนี้ ขอบคุณมากๆ ค่ะ" กฤษณะมองตามหลังคนที่เปิดประตูลงรถไปด้วยความเร่งรีบ แล้วหายลับไปตรงอาคารที่อยู่ใกล้กัน ก่อนก้มลงมองหมายเลขโทรศัพท์ในมือตัวเอง ลงท้ายด้วยชื่อ เป็นฟอนต์ลายมือน่ารักๆ ว่า 'พีรดา' หวนให้นึกถึงลักยิ้มที่สองข้างแก้มด้วยความรู้สึกบางอย่าง    
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD