“เรียกเหมือนคนอื่น สาวใช้ที่นี่เรียกฉันว่ายังไง เธอก็เรียกอย่างนั้นแหละ” นราพูดอย่างไว้ตัว ก่อนจะเดินไปนั่งบนโซฟาราคาแพง กวาดสายตามองลูกสะใภ้ที่ตนไม่พึงใจอย่างไม่สบอารมณ์
“นั่นเธอจะทำอะไรน่ะ” นราตวาดลั่นบ้าน ทำเอาภัคธีมาสะดุ้งสุดตัว
“กำลังจะนั่งค่ะ” ภัคธีมาเอ่ยตอบอย่างงุนงง
“ใครใช้ให้นั่งเสมอกับฉัน ถ้าฉันจะสั่งให้นั่งก็เพราะไม่ให้เธอยืนค้ำหัวฉัน แล้วเธอก็ต้องนั่งลงไปบนพื้นแทบเท้าฉัน ฉันเป็นแม่สามีเธอนะ จะมานั่งเสมอฉันได้ยังไง”
“เอ่อ...ค่ะ” ภัคธีมานั่งลงอย่างงุนงง ไม่คิดว่านราจะเจ้ายศเจ้าอย่างขนาดนี้
ก่อนหน้านี้ไม่ได้แสดงออกให้เห็น แต่ในเวลานี้ทุกอย่างเปิดเผยออกมาว่านางเป็นคนมีนิสัยเช่นไร
“อยู่ที่นี่ต้องทำงานทำการ จะงอมืองอเท้าไม่ได้”
“ค่ะ” เธอรับคำ
“ลูกชายของฉันไม่ชอบนอนร่วมกับใคร ฉันให้คนจัดห้องนอนให้แล้ว”
“ค่ะ” เรื่องนอนเธอไม่ได้ติดขัดอะไร เพราะคืนแรกที่เข้าหอก็เหนื่อยจนหลับกันไปคนละฟากเตียง
การเป็นอยู่ที่บ้านสามีค่อนข้างลำบาก เธอไม่ได้ถูกให้ร่วมโต๊ะอาหารด้วย ไม่ได้นอนห้องดี ๆ แต่นอนห้องชั้นล่างของตึก มารดาว่าอย่างไร นทีก็ทำตามมารดาทุกอย่าง
เธอไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับนทีด้วยเพราะนราไม่ยอม
เธอเพิ่งสังเกตว่าแม่ลูกรักกันแน่นแฟ้น นราตามใจลูกทุกอย่าง แต่ไม่อยากให้ลูกมีเมียหรือแต่งงาน แต่ตอนนั้นนทีอยากเอาชนะใจเธอ ก็เลยทำทุกวิถีทางเพื่อชนะใจเธอและครอบครัว คนเป็นแม่สนับสนุนให้ลูกชายมีผู้หญิงคนอื่น ส่วนใหญ่จะจัดหาให้แบบซื้อกินชั่วครั้งชั่วคราว ทั้ง ๆ ที่เธอนทีมีเธอเป็นเมียอยู่แล้ว
สมัยก่อนเขาไปหาบิดามารดาก็มีของฝากติดไม้ติดมือไปตลอด เข้าตามตรอกออกตามประตู ยิ่งบิดารู้ว่าเธอแอบคบหาดูใจกับธร ท่านจึงอยากให้เธอแต่งงานออกเรือนไปเสีย
“พี่นทีเมาเหรอคะ” นอกจากเที่ยวเตร่แล้วเขายังชอบดื่มและมีเรื่องผู้หญิงมาเกี่ยวข้องมากมาย
นทีอาเจียนออกมาจนหมดไส้หมดพุง ทำให้ภัคธีมาต้องร้องออกมา
“พี่นที ทำไมอ้วกแบบนี้ล่ะคะ” เธอมองอ้วกของเขาแล้วรู้สึกรังเกียจ
ไม่ได้รักอยู่แล้ว พอมาเจอพฤติกรรมแย่ๆ ของเขาอีก จึงทำให้เธอรู้สึกว่าคิดผิดที่แต่งงานกับนที
หากวันนั้นเธอหนีตามธรไป ทุกอย่างอาจจะดีกว่านี้ก็ได้
“ลูกชายฉันเมา เธอเป็นเมียก็ต้องดูแลปรนนิบัติสิ เขาอ้วกก็เช็ดสิ”
“มีรอยลิปสติกของผู้หญิงด้วยนี่คะ พี่นทีไปนอนกับผู้หญิงคนไหนมาอีกคะ” เธอเห็นรอยลิปสติกที่ปกเสื้อของเขาก็รู้สึกหดหู่ใจ เขานอกใจเธอครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะมารดาให้ท้าย
แม้จะมีกลิ่นอ้วก แต่กลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงก็โชยมาจากตัวของเขา เธอแยกประสาทสัมผัสของกลิ่นได้ดี เพราะรู้ดีว่าเขาใช้น้ำหอมกลิ่นไหม เนื่องจากแม่สามีให้เธอคอยดูแลเรื่องเสื้อผ้า เครื่องแต่งตัวของนทีเป็นอย่างดี เธอต้องคอยตามดูแลเขาทุกอย่างในฐานะภรรยา
“ขี้บ่นเสียจริง ถ้าฉันรู้ว่าเธอขี้บ่นขนาดนี้ ฉันไม่แต่งงานกับเธอตามที่แม่บอกก็ดี ยิ่งอยู่ยิ่งน่าเบื่อน่ารำคาญ”
“พี่นที” ภัคธีมาไม่คิดว่าจะได้ยินประโยคนี้จากผู้ชายที่เธอเลือกแต่งงานด้วย
“ทำไม เรียกทำไมนักหนา รู้ไหมว่าทำไมฉันถึงต้องไปหาเศษหาเลยนอกบ้าน ก็เธอมันน่าเบื่อ น่ารำคาญ วันๆ เอาแต่ทำงานงกๆ หน้ามันเยิ้ม แต่งตัวก็เชย ก็เห้ย ป้าของฉันยังแต่งตัวดีกว่าเธออีก เซ็กซ์ก็เสื่อม นอนแข็งเหมือนท่อนไม้ แค่ฉันแตะต้องเธอ ฉันก็หมดอารมณ์ทางเพศ”
ภัคธีมาฟังแล้วน้ำตาตกใจ ที่เธอแต่งตัวเห้ยขนาดนี้ ไม่ใช่เพราะแม่เขาใช้งานง ๆ เหมือนทาสหรือไง
“แค่ฉันเห็นหน้าเธอ ฉันก็เซ็กซ์เสื่อมตามเธอไปด้วย”
“พี่นที!” ภัคธีมายกมือขึ้นทาบอก ในขณะที่นรายิ้มอย่างสะใจ เธอแกล้งใช้งานลูกสะใภ้ไม่ให้มีเวลาแต่งตัวเองแหละ เพราะไม่อยากให้ลูกชายหลงเมียมากกว่าแม่
“ทำไม หรือฉันพูดไม่จริง จะไปไหนก็ไสหัวไปเลยนะ”
“ไม่ใช่แค่นอกบ้าน สาวใช้ในบ้านพี่ก็ฟาดเรียบ”
“ก็มันมาอ้าขาให้ฉันเอา”
“ต่ำ มลไม่คิดเลยว่าพี่จะเป็นคนแบบนี้”
“แล้วไง เธอจะทำอะไรฉัน” เขาเดินเข้าหาจิ้มหน้าผากภัคธีมาจนหน้าหงาย
เพียะ! ใบหน้าของนทีหันไปตามแรงตบ
เพียะ! ทันกัน ใบหน้าของภัคธีมาก็หันไปตามแรงตบเช่นกัน
“แกกล้าดียังไงมาตบหน้าลูกชายฉันห้ะ ลูกแม่เป็นยังไงบ้างจ๊ะ” นราเข้าไปดูหน้าลูกชาย ลูบไปมาอย่างห่วงใย
“คุณแม่ไล่มันไปเลย มันกล้าตบผม”
“เดี๋ยวแม่จะไล่มันไปเอง แกเช็ดอ้วกนี่ให้เรียบร้อยด้วย ไม่อย่างนั้นฉันจัดการแกแน่” นราชี้นิ้วสั่งลูกสะใภ้ด้วยสีหน้าเอาเรื่องก่อนจะพาลูกชายขึ้นห้อง
สาวใช้ที่แอบมองอยู่อีกด้านแอบยิ้มสะใจที่เห็นว่าภัคธีมาโดนโขกสับยิ่งกว่าทาส ไม่ได้สุขสบายอย่างที่พวกหล่อนคิด เพราะตั้งแต่รู้ว่านทีตบแต่งเมียเข้ามาในบ้าน พวกหล่อนก็กลัวจะตกกระป๋อง
“สมน้ำหน้า เดี๋ยวก็เลิกกัน” สาวใช้พูดกันสนุกปาก ยิ่งเห็นว่านราไม่ได้รักลูกสะใภ้ตบแต่งของลูกชายเลยสักนิด พวกหล่อนก็ยิ่งยุแยงตะแคงรั่ว ยิ่งใช้แรงงานให้หนักเข้าไปอีก จะได้ทนไม่ไหวจนหนีไป
ภัคธีมาเพิ่งรู้ว่าเธอตัดสินใจผิดพลาดอย่างหนักก็เมื่อตอนนี้กำลังนั่งมองฝ่ามือแตกร้าวของตัวเอง
มันเจ็บมากรวมถึงมีแผลอยู่หลายจุด ทั้งทำความสะอาดบ้านทั้งหมด ทั้งซักผ้า รีดผ้า ทำอาหาร เธอทำงานหนักยิ่งกว่าทาสในเรือนเบี้ยเสียอีก
“นังมล ไปตลาดสิ ลูกชายฉันหิว”
“ค่ะ” ภัคธีมารับคำ เธอกำลังขบคิดหาทางออกให้กับตัวเอง หากกลับบ้านไปตอนนี้กลัวบิดาจะหาว่าเธอมีข้ออ้างที่จะเลิกรากับนที ส่วนมารดานั้น ก็คงจะเชื่อที่เธอพูด แต่เธอยังไม่อยากให้มารดาต้องเสียใจ และเป็นกังวล เธอคงต้องหาจังหวะที่จะหนีไปจากที่นี่
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ทำให้ภัคธีมาต้องกดรับระหว่างเดินไปจ่ายตลาด ทุกวันนี้เธอยิ่งกว่าคนใช้ในบ้าน จะขับรถขับราไปไหนก็ไม่ได้ นอกจากเดินเอา หรือเรียกรถรับจ้าง เงินค่าอาหารถูกจำกัด เธอต้องคิดเมนูหัวแทบแตกเพื่อให้ทุกชีวิตได้กินอิ่มจากค่ากับข้าวที่น้อยนิด นอกจากวันนั้นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนจะกลับมากินข้าวที่บ้าน แม่สามีของเธอก็จะจัดเต็มให้เธอทำอาหารอร่อยๆ ให้ลูกชายกิน เพื่อเอาใจ
“สวัสดีค่ะคุณแม่”
“คิดถึงจัง ลูกเป็นยังไงบ้าง”
“หนูสบายดีค่ะคุณแม่”
“แม่คิดถึงนะจ๊ะ”
“หนูก็คิดถึงคุณแม่ค่ะ คุณแม่สบายดีนะคะ”
“สบายดีจ้ะ”
“จะอ้อมโลกทำไม พูดออกไปตรงๆ สิ” เสียงของบิดาที่ดังแทรกเข้ามาในโทรศัพท์ทำให้ภัคธีมาต้องขมวดคิ้วเข้าหากัน
“คุณพ่อกับคุณแม่มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“เอามานี่” พฤกษ์ดึงโทรศัพท์จากภรรยามาพูดแทน
“แกรู้ไหมล่ะ ไอ้ผู้ชายที่มันบอกว่ารักแกนักรักแกหนาน่ะ ตอนนี้มันกำลังจะแต่งงาน มันไม่ได้รักแกจริงหรอก”
“คุณพ่อหมายความว่ายังไงคะ”
“ก็ไอ้ธรมันกำลังจะแต่งงาน ที่ฉันโทร. มาบอกแกก็เพราะอยากให้แกตาสว่าง แกจะได้เลิกรักไอ้ธรมันสักที แกได้ผัวดีแบบพ่อนทีน่ะดีแล้ว เขาเอาอกเอาใจเก่ง รวยก็รวย มีฐานะ แกเลือกคนไม่ผิดแน่นอน”
บิดาพูดอะไรอีกไม่รู้ แต่เธอแทบทำโทรศัพท์หลุดมือ
“แกฟังฉันอยู่หรือเปล่า ยายมล” พฤกษ์เอ่ยถามไปตามสาย แต่ปรากฏว่าไม่ได้รับการตอบรับจากลูกสาวคนเดียวอีก
“พอแล้วค่ะคุณ”
“โทร. ไปหามันให้มันสำนึกน่ะสิ จะได้ตาสว่างสักที มีอย่างที่ไหน มันบอกว่ารักลูกสาวเรา ไม่ทันไรก็แต่งงานซะแล้ว”
“ลูกเราแต่งได้ เขาก็แต่งได้ มันก็ไม่แปลกนี่คะคุณ” ทิพย์สุคนอดปากเอาไว้ไม่ไหว
“นี่คุณเข้าข้างมันเหรอ”
“ทิพย์แค่เตือนสติคุณก็แค่นั้นเอง อย่าทำให้ลูกเสียใจไปมากกว่านี้อีกเลย ลูกโตแล้ว เราเลี้ยงได้แต่ตัว ใจเขามีความสุขที่อยากจะทำอะไร เราก็ควรสนับสนุน เราเป็นพ่อแม่ก็ควรสนับสนุนให้เขามีความสุขไม่ใช่เหรอ”
“แต่ไม่ใช่ไปรักไปชอบลูกไอ้ประพงศ์ ผมเกลียดมัน”
“คุณกับคุณประพงศ์ไม่ชอบหน้ากัน ทะเลาะกันมาตั้งแต่รุ่นดึกดำบรรพ์ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับลูกด้วย” ทิพย์สุคนทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ลูกแต่งงานไปแล้วสามียังโทร. ไปเยาะเย้ยลูกสาวให้เจ็บช้ำน้ำใจอีก