บทที่6

1370 Words
‘ดอกกุหลาบดอกแรกที่พี่ภูมิให้พรีมมันหอมมาก รอยยิ้มของเขาเหมือนกับแสงแดดอุ่นๆ ที่ตราตรึงอยู่ในหัวใจ ทุกครั้งที่หลับฝัน ก็มักจะเห็นหน้าเขาเป็นคนแรก ผู้ชายที่มีรอยยิ้มอบอุ่นเสมอ ในความฝันพรีมใส่ชุดเจ้าสาว ส่วนพี่ภูมิก็สวมชุดเจ้าบ่าว เราสองคนแต่งงานกัน รักกัน สร้างความสุขร่วมกัน แต่ก็คงทำได้แค่ฝันเท่านั้น…เพราะสุดท้ายก็ต้องตื่นขึ้นมาพบความจริงที่ว่าเขาคือพี่ชายของตัวเองอยู่ดี’ เรื่องราวมากมายที่ควรจะเรียกว่ามันคือความในใจเสียมากกว่าถูกอ่านไปทีละหน้าอย่างตั้งใจ ภูมินทร์ไม่เคยรู้เลยว่าเขามีผลต่อชีวิตของราชาวดีมากแค่ไหน กระทั่งตอนนี้ที่ได้อ่านความรู้สึกที่เธอได้เก็บซ่อนเอาไว้ด้วยตัวเอง มันเลยทำให้เขารู้ว่าผู้หญิงที่เขาเรียกว่าน้องสาวมาโดยตลอดไม่เคยรักเขาอย่างที่น้องสาวควรรักพี่ชายเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่เธอกลับรักเขาในฐานะผู้หญิงคนหนึ่งที่อยากจะรักผู้ชายอีกคน ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ไม่สมควรจะเกิดขึ้นอย่างยิ่ง “พี่ขอโทษนะพรีม แต่พี่ทำแบบนั้นไม่ได้จริงๆ” เสียงสะท้อนคงไม่มีวันไปถึงอีกคนดังขึ้นก่อนสายตาจะมาหยุดลงที่หน้าสุดท้ายซึ่งดูจากวันที่ ก็ทำให้รู้ว่าเธอเพิ่งจะเขียนมันในวันที่จะไปจากกันนี่เอง ‘ถ้าพี่ภูมิได้อ่านสมุดเล่มนี้ของพรีมแล้วพี่ภูมิคงจะรู้ว่าพรีมรักพี่ภูมิมากแค่ไหน แต่พรีมไม่ได้ต้องการให้พี่ภูมิรักพรีมตอบหรอกนะคะ เพราะพรีมรู้ตัวดีว่าตัวเองเป็นได้มากที่สุดแค่ไหน…พรีมแค่อยากให้พี่ภูมิได้รับรู้ ความรู้สึกที่แท้จริงของพรีมบ้างมันก็เท่านั้นค่ะ พี่ภูมิไม่ต้องเป็นห่วงพรีมหรอกนะคะ พรีมจะพยายามกลับมาเป็นน้องสาวของพี่ภูมิให้ได้…พรีมเชื่อว่าสักวันพรีมจะทำได้! แต่คงไม่ใช่วันนี้ หรือตอนนี้ ไม่ใช่แน่ๆ พรีมถึงเลือกที่จะไปเพราะอยากให้พี่ภูมิมีความสุข ถ้าพี่ภูมิมีความสุขพรีมเองก็สุขด้วย อย่ารู้สึกผิดอะไรทั้งนั้นกับพรีมเลยนะคะ เพราะพรีมจะไม่ร้องไห้อีกแล้ว พรีมจะเลิกรักพี่ภูมิให้ได้แล้วถ้าเกิดว่าวันนั้นมาถึงเมื่อไหร่ พรีมให้สัญญาว่าพรีมจะเป็นฝ่ายกลับไปหาพี่ภูมิด้วยตัวเอง จะกลับไปเป็นน้องสาวอย่างที่พี่ภูมิต้องการให้ได้ แม้ว่านั่นมันจะเป็นสิ่งที่ยากสำหรับพรีม พรีมจะต้องทำให้ได้เป็นกำลังใจให้พรีมด้วยนะคะ’ รักเสมอ ราชาวดี หนึ่งปีต่อมา ไร่วศินดูครึกครื่นมากกว่าวันไหนเมื่อข่าวการมาเยือนของหลานชายสุดหล่อของเจ้าของไร่แพร่สะพัดไป ทุกคนต่างตื่นเต้นกับการมาเยือนในครั้งนี้ของภูมินทร์เป็นอย่างมาก จะมีก็แต่หญิงสาวหนึ่งคนภายในบ้านเท่านั้นที่ดูเหมือนจะไม่ยินดียินร้ายเท่าไหร่กับข่าวการมาเยือนของใครคนนั้น ที่เพิ่งจะได้รับรู้เมื่อไม่กี่วันแม้แต่นิดเดียว “คุณพรีม! จะออกไปไหนคะ ประเดี๋ยวคุณพี่ก็มาถึงแล้วนะคะ” คนถูกเรียกหยุดชะงักชั่วครู่ ก่อนจะหันไปตอบอย่างไม่เต็มเสียง “พรีมจะเข้าไร่ค่ะ ฝากป้าพรบอกคุณป้าด้วยนะคะว่าเย็นๆ พรีมถึงจะกลับ พรีมไปก่อนนะคะ” ราชาวดีตอบกลับก่อนจะเดินลิ่วๆ หนีออกมาจากบ้านมา ไม่สนว่าเสียงของหญิงชราจะดังตามหลังมาแค่ไหน นาทีนี้เธอสนเพียงว่าต้องทำยังไงให้ตัวเองหนีไปไกลๆ มากกว่า จะได้ไม่ต้องอยู่เจอใครบางคนที่นี่ก็หนึ่งปีแล้วที่ไม่ได้เจอกัน เธอยังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับภูมินทร์ในตอนนี้ ยอมรับว่าตลอดเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมาไม่มีเลยสักวันที่จะไม่คิดถึงเขา ไม่มีเลยที่จะไม่แอบร้องไห้เมื่อคิดถึง แต่เพื่อความถูกต้องเธอจำต้องอดทนและพาตัวเองถอยห่างจากเขาทุกวิถีทางเท่าที่จะพอทำได้ แต่ในขณะที่เธอกำลังพยายามหลีกเลี่ยงที่จะรับรู้ข่าวคราวของอีกฝ่ายนั้น ภูมินทร์เสียเองที่พยายามติดต่อเธอตลอดเวลา แต่เขาก็ต้องพบกับความผิดหวังเพราะเธอไม่ยอมรับสาย ไม่ยอมแม้กระทั่งตอบกลับข้อความที่เขาส่งมาถามไถ่กระทั่งอีกฝ่ายใช้ไม้ตายข่มขู่มาว่าจะบุกมาหากันถึงที่นี่ ซึ่งเธอเองก็ไม่คิดเลยว่าเขาจะทำอย่างที่พูดเข้าจริงๆ แต่ถึงต่อให้เขาจะมาหรือไม่มามันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธออยู่แล้ว เพราะตลอดระยะเวลาหนึ่งปีเธอได้เรียนรู้อะไรหลายๆ สิ่ง การไม่มีเขาในชีวิตมันอาจทำให้เธอคิดถึงเขามากกว่าที่เคยเป็นก็จริง แต่เธอก็ไม่ยักจะตาย… เพราะฉะนั้นมันก็แปลได้ว่าต่อให้จะมีเขาในชีวิตหรือไม่นั้นมันก็คงไม่สำคัญกับเธออีกต่อไป เธออยู่ได้และจะอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ “ไงครับน้องพรีม ทำไมวันนี้มาเช้าจังเลย” เสียงร้องทักทายจากใครบางคนทำให้ราชาวดีหลุดออกมาจากความคิดของตัวเองได้สำเร็จ เธอหันไปส่งยิ้มหวานให้กับกวี ชายหนุ่มที่เข้ามาเติมเต็มหลายๆ สิ่งในชีวิตได้ดี เขาดีกับเธอเสมอ ช่วยสอนงานในด้านต่างๆ หนำซ้ำยังคอยดูแลเธอแทบทุกอย่างจนทำให้เธอรู้สึกเหมือนมีพี่ชายจริงๆ หากอีกฝ่ายคิดเช่นเดียวกันมันก็คงดีไม่น้อย แต่สำหรับเขาแล้วเธอไม่ใช่แค่น้องสาว แต่เป็นทั้งรักแรกและรักเดียวที่เขาเคยมีก็ว่าได้ ชายหนุ่มเพิ่งจะสารภาพรักกับเธอเมื่อไม่นานมานี้ เขาบอกกระทั้งว่ารักเธอตั้งแต่วันแรกที่คุณป้าเอารูปเธอให้ดู กระทั่งเมื่อหนึ่งปีก่อนที่ได้เจอกันเขาก็รู้ได้ในทันทีเลยว่านี่คงเป็นโชคชะตา และเขาจะไม่ยอมสูญเสียมันไปโดยที่ไม่ได้บอกให้เธอได้รู้ความจริงในใจของตัวเอง ยอมรับว่าเธอเองก็ตกใจและตั้งรับไม่ทัน แต่เพราะอีกฝ่ายดีแสนดีกับเธอมากนั่นเลยทำให้เธอไม่กล้าแม้แต่จะปฏิเสธเขาไป ซึ่งฝ่ายทางกวีเองก็เข้าใจดีและยอมที่จะให้เวลาเธอได้คิดและตัดสินใจ “พรีมแค่รู้สึกเบื่อๆ ค่ะ ก็เลยเข้าไร่เร็วหน่อย พี่วีมาถึงนานรึยังคะ” กวีลอบมองเจ้าของคำตอบพร้อมรอยยิ้มก่อนจะเอ่ยถามบางสิ่งที่เขาเองก็เพิ่งจะรับรู้พร้อมกันกับเธอเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ออกมา “ไม่ใช่เพราะอยากหนีพี่ชายหรอกเหรอครับ ทำไมล่ะครับพรีม หนีออกมาแบบนี้ไม่สมเป็นพรีมคนเก่งของพี่เลยนะรู้ไหม” “พรีมเปล่าหนีค่ะ พรีมก็แค่…ยังไม่พร้อม นะคะพี่กวี วันนี้ให้พรีมทำงานด้วยนะคะ พรีมไม่อยากกลับบ้านตอนนี้” กวีลอบยิ้มให้กับความแน่วแน่ที่เมื่อตัดสินใจแล้วก็ยากจะเปลี่ยนใจเอาง่ายๆ ของหญิงสาวก่อนจะเอ่ยตอบตกลงเหมือนอย่างทุกครั้งที่เขาไม่เคยปฏิเสธคำขอร้องของราชาวดีได้เลยไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือว่าเรื่องใหญ่ “ก็ได้ครับ ถ้างั้นเลิกงานไปทานข้าวที่บ้านพี่ดีไหม คุณพ่อท่านถามถึงน้องพรีมทุกวันเลย” คนถูกเชิญแทบจะตอบตกลงในทันที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD