ในกระท่อมคืนแรก

2494 Words
พรายรพีหยิบผ้าเช็ดตัวและชุดใหม่ที่สะอาด—เสื้อเชิ้ตและกางเกงขาสั้นที่เขาเตรียมไว้—แล้ว เขาโยนผ้าเช็ดตัวและชุดใหม่ไปยังมีนา “นี่” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่หยาบคายและไร้ความปรานี “ไปอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า” มีนารีบหยิบผ้าเช็ดตัวและชุดใหม่ด้วยมือที่สั่นเทา เธอรู้สึกถึงความกลัวและความไม่แน่นอนในใจ แต่รู้ว่าเธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปฏิบัติตามคำสั่ง เธอเดินเข้าไปในห้องน้ำที่มืด อย่างทุลักทุเล น้ำตาที่หลั่งไหลทำให้เธอรู้สึกถึงความเหน็ดเหนื่อยและความผิดหวัง ห้องน้ำที่นี่เป็นสถานที่เล็กๆ มืดๆ ภายในห้องน้ำมีแต่ตุ่มใส่น้ำที่มุมหนึ่ง เมื่อเธอปิดประตูห้องน้ำ เธอถอนหายใจลึกๆ และมองไปรอบๆ น้ำในตุ่มดูไม่สะอาด แต่มีนาไม่สามารถเลือกได้ เธอรู้ว่าตัวเองต้องทำความสะอาดเพื่อรู้สึกดีขึ้น เธอค่อยๆ เอื้อมมือไปดึงน้ำจากตุ่มด้วยภาชนะที่วางอยู่ข้างๆ น้ำเย็นทำให้เธอรู้สึกเย็นชาและกระทบถึงความรู้สึกของเธออย่างทันที มีนาเริ่มล้างตัวเองอย่างช้าๆ เธอพยายามล้างคราบโคลนที่ติดอยู่บนร่างกาย น้ำที่ไหลจากภาชนะทำให้ความเย็นกระทบผิวของเธอ แต่ยังไม่สามารถลบล้างความเจ็บปวดและความเศร้าที่ลึกในใจของเธอได้ ขณะที่น้ำไหลผ่านตัวเธอ น้ำตาของเธอไม่หยุดไหล เธอนั่งลงบนพื้นห้องน้ำ ก้มหน้าลงและปล่อยให้ความเศร้าแผ่กระจายออกมาผ่านน้ำตาของเธอ “ทำไม…” เธอกระซิบเสียงสะอื้น “ทำไมชีวิตฉันถึงต้องตกอยู่ในสภาพนี้? มีนาเดินออกจากห้องน้ำด้วยความหวาดหวั่น น้ำจากตุ่มที่เธอใช้ทำความสะอาดร่างกายยังคงหยดอยู่บนพื้นห้อง เธอสวมชุดใหม่ที่สะอาดขึ้นแล้ว แต่สภาพจิตใจของเธอไม่สามารถสะอาดตามไปได้ เมื่อเธอกลับเข้ามาในกระท่อมเสียงของการเปิดประตูดังไปในความเงียบ เธอรู้สึกถึงความเครียดและความไม่แน่นอนในทุกก้าวที่เดินผ่านเข้าไป ความหวาดกลัวและความระแวงทำให้หัวใจของเธอเต้นรัว เธอมองไปรอบๆ ด้วยสายตาที่ไม่มั่นคง กระท่อมยังคงมืดและเต็มไปด้วยความเงียบสงัด ความสับสนทำให้เธอไม่แน่ใจว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป ทุกเสียงเล็กๆ ที่เธอได้ยิน เสียงของลม หรือเสียงของสัตว์ที่เคลื่อนไหวด้านนอก ทำให้เธอรู้สึกกระวนกระวาย เธอไม่รู้ว่าจะมีสิ่งใดเกิดขึ้นในกระท่อมนี้หรือไม่ มีนานั่งลงบนพื้นไม้ที่เย็นเฉียบ ความรู้สึกของความเปล่าเปลี่ยวและความหวาดกลัวเข้าครอบงำจิตใจของเธอ เธอหันไปมองที่มุมต่างๆ ของกระท่อมซึ่งตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นที่อันตราย “นี่คือที่ที่ฉันต้องอยู่?” เธอกระซิบกับตัวเองด้วยเสียงที่เบาและสะอื้น “ฉันจะต้องทำอย่างไรต่อไป?” น้ำตาเริ่มไหลลงมาอีกครั้ง แม้จะพยายามควบคุมอารมณ์ของเธอ แต่ความรู้สึกของการถูกทิ้งและความไร้ที่พึ่งยังคงหลั่งไหลออกมาจากหัวใจของเธอ กระท่อมที่มืดสนิทถูกสาดส่องด้วยแสงจากตะเกียงน้ำมันขนาดใหญ่ที่พรายรพีกำลังถืออยู่ขณะเดินเข้ามาภายใน แสงสีส้มจากตะเกียงทำให้เงามืดและความเงียบที่ปกคลุมกระท่อมเริ่มถูกขจัดออกไป พรายรพีเดินเข้ามาด้วยความมั่นใจ แต่เมื่อแสงสว่างจากตะเกียงส่องไปที่มุมของกระท่อม ใบหน้าของเขากลับเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ภาพที่ปรากฏต่อสายตาของเขาทำให้เขาหยุดหายใจไปชั่วขณะ มีนานั่งอยู่บนพื้นไม้ สภาพของเธอเต็มไปด้วยความเปียกปอนจากหยดน้ำ ร่างของเธอสะท้อนแสงจากตะเกียงในลักษณะที่ทำให้เธอดูสวยงาม เส้นผมเปียกลู่ตามไหล่ ผิวขาวผ่องสะท้อนแสงไฟอ่อนๆ ทำให้เธอดูราวกับภาพวาดที่มีชีวิต เขารู้สึกเหมือนทุกสิ่งรอบตัวหยุดนิ่ง ไม่เคยมีอะไรทำให้เขารู้สึกเช่นนี้มาก่อน ความงามของมีนาทำให้เขารู้สึกหวั่นไหวอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นในชีวิต ดวงตาคมเข้มที่มองเธอจับจ้องอย่างไม่ละสายตา หัวใจเต้นแรงจนแทบระเบิดในอก สายตาของเขาสบกับดวงตาของเธอ สัมผัสได้ถึงความบริสุทธิ์และเย้ายวนที่หลอมรวมเป็นหนึ่ง ความรู้สึกนี้มันใหม่และแรงกล้าเกินกว่าที่เขาจะควบคุมได้ ราวกับว่าเขากำลังถูกดึงดูดเข้าสู่สิ่งที่ไม่อาจต้านทาน สับสนและหวั่นไหวจนแทบลืมหายใจ ทุกอย่างรอบตัวพรายรพีดูเหมือนจะหยุดหมุนเมื่อเขาจ้องมองมีนา สายตาของพรายรพีเต็มไปด้วยความชื่นชมและความตะลึง เขารู้สึกถึงความประทับใจที่ลึกซึ้งและไม่สามารถหักห้ามได้ ความงามของมีนาในสภาพที่งดงามและบริสุทธิ์ทำให้เขาต้องหยุดนิ่งเพื่อทำความเข้าใจว่าทำไมเขาถึงรู้สึกเช่นนี้ พรายรพีสะกดใจไว้แน่น พยายามควบคุมความรู้สึกที่พลุ่งพล่านในอก เขาทำหน้าตึงขรึม ดวงตาคมเข้มยังคงจ้องมองมีนาอย่างไม่วางตา แต่น้ำเสียงและท่าทางกลับยิ่งแฝงไปด้วยความดุดันยิ่งขึ้น “เธอ…” พร้อมชี้นิ้ว ไปหยิบผ้านวมตรงมุมนั้นมา มีนา: พยักหน้าและเดินไปที่มุมห้องเพื่อหยิบผ้านวม พร้อมถามเสียงตะกุกตะกักและกังวล "ค..คุณจะนอนที่นี่เหรอคะ? พรายรพี: (ตอบเสียงเข้มและดุดัน ขณะจ้องมองมีนา) "ถ้าไม่ให้นอนที่นี่ แล้วจะให้นอนที่ไหน? กระท่อมนี้มีห้องเดียว พรายรพี: ยิ้มเล็กน้อย "ใช่ ฉันจะนอนที่นี่ แล้วเธอก็จะต้องอยู่ที่นี่ด้วย ไม่มีที่อื่นให้เลือก" ผ้านวมที่เธอนำมาปูเป็นผ้าห่มเก่าที่ดูทรุดโทรมแต่สะอาด ช่วยให้พื้นไม้แข็งๆ ของกระท่อมดูนุ่มนวลขึ้น มีนาใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการจัดผ้านวมให้เรียบและวางอย่างระมัดระวัง แม้ว่าการเคลื่อนไหวของเธอจะยังคงมีความระแวดระวังและกระวนกระวาย เธอใช้แรงทั้งหมดในการดึงและเกลี่ยผ้านวมให้เรียบ อาการกระวนกระวายของเธอทำให้มือของเธอเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและไม่หยุดนิ่ง ในขณะที่เธอทำงานอยู่ พรายรพียังคงยืนอยู่ในมุมห้อง สายตาของเขาติดตามการเคลื่อนไหวของมีนาอย่างเงียบๆ รู้สึกถึงความตื่นเต้นและความกลัวที่แผ่ซ่านออกมาจากเธอ มีนาไม่สามารถหยุดความรู้สึกตื่นเต้นที่เกิดขึ้นในตัวเธอได้ ขณะที่เธอทำงานอย่างเร่งรีบ ความรู้สึกของการถูกจับตาและสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคยทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง ร่างกายของเธอสั่นเล็กน้อยจากความวิตกกังวล เมื่อเธอจัดการผ้านวมเสร็จแล้ว พรายรพีใช้สายตาคมกริบมองลงมาที่มีนา ก่อนออกคำสั่งเสียงเข้มดุดัน "นอนลง" มีนารู้สึกถึงความเข้มแข็งในน้ำเสียงนั้นจนไม่อาจปฏิเสธได้ ร่างกายของเธอสั่นระริกแต่ก็ทำตามคำสั่งอย่างเลี่ยงไม่ได้ เธอนอนลงบนผ้านวมที่ปูอยู่บนพื้นกระท่อม สายตาเธอหลุบลงด้วยความหวั่นไหว ไม่กล้ามองสบตาพรายรพี รู้สึกถึงอำนาจที่แผ่ออกมาจากเขา ซึ่งทำให้เธอไม่อาจขัดขืนได้แม้แต่น้อย เธอล้มตัวลงนั่งบนที่นอนที่เธอเพิ่งจัดเตรียมไว้ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น กระท่อมที่แสงตะเกียงน้ำมันสว่างจ้าเริ่มเงียบสงัด เมื่อพรายรพีดับตะเกียงเจ้าพายุอันใหญ่ที่ถืออยู่ลงอย่างช้าๆ ด้วยมือที่มั่นคง ขณะที่เขาปิดตะเกียง ความมืดมิดก็กลับเข้ามาครอบงำกระท่อมอีกครั้ง เสียงดังของไฟที่ดับลงทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความเงียบสงัด พรายรพีทรุดตัวลงนั่งบนพื้นที่ที่มีนาเพิ่งจัดเตรียมไว้ โดยที่ผ้านวมที่มีนาได้ปูไว้กลายเป็นที่พักชั่วคราวของเขา เขาลงไปนอนที่มุมหนึ่งของผ้านวม ร่างสูงใหญ่ของเขาดูเหมือนจะครอบคลุมพื้นที่ที่มีนาปูไว้ทั้งหมด ท่าทางของเขาเงียบสงัดและสงบ ขณะมองไปที่มุมห้องที่มีนาเพิ่งทำให้ดูสะอาดและนุ่มนวลขึ้น ในความมืดพรายรพีสามารถรู้สึกได้ถึงความหนาวเย็นและความเงียบสงัดที่ปกคลุมกระท่อม แม้ว่าเขาจะนอนอยู่บนพื้นที่ที่มีนาเตรียมไว้ แต่ท่าทางของเขาไม่แสดงออกถึงความรู้สึกอะไรมากนัก เขาทำเหมือนว่าการนอนบนผ้านวมที่มุมห้องเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเขา มีนานั่งอยู่ที่มุมของกระท่อมด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน เธอสังเกตเห็นพรายรพีที่นอนอยู่บนผ้านวมที่เธอเตรียมไว้ ร่างสูงใหญ่ของเขาค่อยๆ หายไปในความมืดและเงียบสงัดของกระท่อม ความรู้สึกของการร่วมอยู่ในสถานที่เดียวกันกับผู้ชายที่มีอำนาจอย่างพรายรพีทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นและวิตกกังวล แม้จะมีความหวาดหวั่นและความวิตกกังวลที่ครอบงำใจ มีนาก็รู้สึกถึงความอ่อนเพลียที่สะสมมาอย่างหนักในช่วงหลายวันที่ผ่านมา สถานการณ์ที่เธอเผชิญอยู่ทุกวันทำให้ร่างกายและจิตใจของเธอหมดแรง ความเหนื่อยล้าจากการเดินทางอันยาวนาน การถูกจับกุม และการต้องปรับตัวในสถานที่ใหม่ทำให้เธอไม่สามารถต้านทานความง่วงได้ เมื่อเธอนั่งอยู่บนผ้านวมที่เตรียมไว้อย่างระมัดระวัง ร่างกายของเธอก็เริ่มสั่นเล็กน้อยจากความเหนื่อยล้า ในที่สุด มีนาก็ปล่อยให้ตัวเองหลับไปอย่างรวดเร็ว ความเหนื่อยล้าครอบงำเธอจนไม่มีที่ว่างให้ความวิตกกังวลอีกต่อไป พรายรพีหลับตาลงอย่างแรง พยายามข่มความปรารถนาที่พุ่งพล่านในอก แม้แต่เสียงลมหายใจของมีนาก็ทำให้เขาตื่นตัว รู้สึกถึงความอ่อนนุ่มของร่างกายเธอที่อยู่ใกล้เพียงลมหายใจ นี่คือความทรมานที่เขาไม่เคยเผชิญ ความรู้สึกที่กดดันเหมือนเชือกเส้นบางรัดรอบหัวใจ กักขังเขาไว้ในกรงแห่งความต้องการที่เกือบจะกลืนกินเขาทั้งเป็น เขาพยายามสะกดกลั้นความปรารถนา แต่ยิ่งข่มใจเท่าไหร่ หัวใจของเขาก็ยิ่งเต้นแรง เหมือนมีไฟร้อนลุกลามไปทั่วร่างกาย ความเข้มแข็งที่เขายึดมั่นมาตลอดกลับเริ่มสั่นคลอน เมื่อร่างบางของมีนานอนอยู่ข้างกาย เขากำหมัดแน่น พยายามควบคุมตัวเองไม่ให้พลาดพลั้งไปตามแรงดึงดูดอันทรงพลังนั้น แต่มันกลับยากเย็นเหลือเกินในค่ำคืนที่เต็มไปด้วยความปรารถนาเช่นนี้ แต่เมื่อมองไปยังร่างบางข้างๆกลาย กลับเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอของเธอเป็นการแสดงถึงความสงบและความหลับลึก พรายรพีมองดูมีนาอย่างเงียบๆ เขาเห็นถึงความเหนื่อยล้าที่ทำให้เธอหลับไปอย่างรวดเร็ว ในความเงียบสงัดของกลางดึกนี้ ความเงียบที่ดูเหมือนจะไม่สิ้นสุดกลับถูกทำลายด้วยเสียงละเมอของเธอ มีนา ท่ามกลางการหลับที่เต็มไปด้วยความฝันร้าย และความวิตกกังวลในจิตใจ ร้องไห้และขยับมือไปมาด้วยความทุกข์ทรมานในความฝัน เธอถามหาพ่อของเธอซ้ำๆ อย่างสิ้นหวัง “พ่อ... พ่อ...” เสียงของเธอเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความเหงา พรายรพีที่นอนอยู่ในมุมของผ้านวมได้ยินเสียงร้องไห้และละเมอของมีนา พรายรพีพลิกตัวหันกลับมารวบร่างมีนาเข้ามาในอ้อมกอดอย่างรวดเร็วและแนบแน่น ร่างกายแข็งแกร่งของเขาปกป้องเธอจากความหนาวเหน็บในยามค่ำคืน ความอบอุ่นจากร่างกายของเขาซึมผ่านผิวหนังของมีนาเข้ามา ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ในขณะที่เธอละเมอร้องหาพ่อด้วยเสียงที่สั่นเทา พรายรพีใช้อ้อมแขนที่แข็งแรงและมั่นคงโอบล้อมเธอไว้ แม้ในความสลัวของห้อง มีนารู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและความปลอดภัยที่แผ่กระจายมาจากพรายรพี เธอค่อยๆ หยุดละเมอ และปล่อยใจให้สงบลงในอ้อมกอดของเขา ความหนาวเหน็บภายนอกไม่อาจเทียบกับความอบอุ่นที่เธอรู้สึกได้จากอ้อมกอดนี้ ความรู้สึกที่ทำให้เธอผ่อนคลายลง จนกระทั่งเธอค่อยๆ ดำดิ่งกลับเข้าสู่การหลับอย่างสงบ พรายรพีรู้สึกถึงการสัมผัสของมีนาที่เบียดแนบแน่นกับอกกว้างของเขา หน้าอกของมีนานั้นเต็มไปด้วยความนุ่มนวลและความอุ่นที่ทำให้พรายรพีรู้สึกถึงความต้องการที่รุนแรง เขาค่อยๆ รู้สึกถึงการเต้นของหัวใจที่เพิ่มความเร็วขึ้น ความร้อนในตัวเขาเพิ่มมากขึ้นเมื่อหน้าอกของมีนาเบียดแน่นกับแผงอกกำยำของเขา มือของพรายรพีเริ่มลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของมีนา เขาปลดปล่อยความต้องการที่ยิ่งใหญ่ของเขาผ่านการสัมผัสที่ร้อนแรงและกระตุ้น เขาค่อยๆ พลิกตัวให้แนบชิดกับร่างของมีนา มากยิ่งขึ้น ร่างกายของเขาเริ่มตอบสนองกับความรู้สึกที่มีนาก่อให้เกิด มีนาลืมตาตื่นจากความรู้สึกที่กระตุ้นเธออย่างรุนแรง ความตกใจปรากฏชัดบนใบหน้าของเธอเมื่อพบว่าพรายรพีอยู่ใกล้เกินไปและรู้ว่าเขากำลังมีความต้องการที่แรงกล้า ก่อนที่มีนาจะได้ขัดขืนหรือพูดอะไรออกมา พรายรพีใช้มือหนึ่งยึดแก้มของเธอเบาๆ ขณะริมฝีปากของเขาแตะลงบนริมฝีปากของเธออย่างรวดเร็ว การจูบที่รุนแรงและเร่าร้อนของเขาทำให้มีนารู้สึกถึงความรู้สึกที่ใหม่และท่วมท้น ความรู้สึกนี้ทำให้เธอแทบหยุดหายใจ "ถ้ายอมดีๆ ฉันอาจจะพาเธอกลับบ้าน" จูบแรกที่พรายรพีมอบให้มีนาเต็มไปด้วยความร้อนแรงและเย้ายวนใจ ริมฝีปากของเขาสัมผัสอย่างนุ่มนวลในตอนแรก ก่อนที่เขาจะเพิ่มความร้อนแรงขึ้น จูบที่เต็มไปด้วยความหลงใหลและแรงดึงดูดนั้นทำให้มีนาแทบหยุดหายใจ ความรู้สึกที่ใหม่และท่วมท้นนี้ทำให้เธอเริ่มหลุดพ้นจากความรู้สึกตกใจและหันไปสัมผัสความรู้สึกที่เข้มข้นขึ้น การตอบสนองของมีนาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและไร้เดียงสา ขณะที่เธอพยายามเรียนรู้และเข้าใจถึงความหมายของการจูบนี้ ริมฝีปากของพรายรพีเริ่มมีความร้อนแรงมากขึ้น ขณะที่เขาครางอย่างพอใจเบาๆ สัมผัสของเขานั้นเต็มไปด้วยความเอาใจใส่ เขาใช้ลิ้นสัมผัสริมฝีปากของมีนาอย่างนุ่มนวล ค่อยๆ สอดแทรกเข้าไปในปากของเธอ ทำให้มีนารู้สึกถึงความร้อนแรงและความปั่นป่วนภายในหัวใจ เสียงครางของพรายรพีเป็นสัญญาณของความพอใจที่เขารู้สึกจากการตอบสนองอย่างไร้เดียงสาของมีนา พรายรพีสะกดใจถอนจูบออกอย่างยากลำบาก ริมฝีปากเขายังคงรู้สึกถึงความหวานที่ติดอยู่ เขากดศีรษะของมีนาลงบนอกแกร่ง กอดเธอแน่นราวกับจะยึดเธอไว้เป็นของตัวเอง ความปรารถนาในใจยังคงพลุ่งพล่านแต่เขากลับต้องควบคุมมันไว้ด้วยความเข้มแข็ง เสียงพร่าของเขากระซิบข้างหูเธอเบาๆ แต่เต็มไปด้วยความดุดัน "วันนี้แค่นี้ก่อน" เขากล่าวเสียงต่ำ "แล้วอย่าดิ้นล่ะ นอนดีๆ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน" น้ำเสียงของเขาเข้มและดุ ทำให้มีนาไม่กล้าขยับตัว เธอทำตามคำสั่งอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ ความกลัวและความรู้สึกสั่นไหวในใจผสมปนเปกันอย่างไม่อาจแยกออก เธอนอนนิ่งในอ้อมกอดของเขา ไม่กล้าขัดขืนแม้แต่น้อย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD