“ในที่สุดกูก็รู้จุดอ่อนของมึง มึงแอบชอบธิชานี่เอง เลยคอยช่วยเหลือเธออยู่ตลอด กูตามดูมึงมานานแล้ว แต่เสียใจด้วยนะ ธิชาชอบกู”
“ไอ้เลว” กรพักตร์ตรงเข้ากระชากคอเสื้อของคชากรเต็มแรง สีหน้าโกรธจัด
“ถ้ามึงอยากกินของเหลือเดนจากกู ก็รอหน่อยนะ กูกินอิ่มเมื่อไหร่ กูจะยกให้”
“ไอ้เลวเอ๊ย” กรพักตร์กระแทกหมัดใส่คชากรเต็มแรงจนเลือดกบปาก แต่คชากรไม่โต้ตอบ กลับหัวเราะออกมาเหมือนคนเสียสติ
“เป็นบ้าอะไรของมึง ไอ้เลว” กรพักตร์มองคชากรอย่างเดือดดาล
“มึงน่ะสิบ้า คิดเหรอว่ามึงจะได้สมหวังกับธิชา เธอไม่ได้รักมึง แต่เธอรักกูโว้ย” หลังจากมีเรื่องกันในเย็นวันนั้นคลิปที่กรพักตร์ต่อยคชากรก็ถูกปล่อยออกมา แต่ไม่มีเสียงพูดคุยกัน นั่นทำให้กรพักตร์ถูกนักเรียนในโรงเรียนหลายคนเกลียดเพราะใช้ความรุนแรงกับคนที่ไม่โต้ตอบ นั่นรวมถึงธิชาด้วย หล่อนเห็นหน้าเขาก็สะบัดหน้าหนี หล่อนโกรธที่เขาบังอาจไปทำร้ายผู้ชายที่หล่อนรัก
กรพักตร์ไม่ได้สนใจคนอื่น แต่เขาสนใจแค่ธิชา เขายังคอยตามช่วยเหลือเธออยู่เสมอ เมื่อรู้ว่าเธอขาดเรียนไป จึงตัดสินใจตามไปที่บ้านของเธอ จนรู้ว่าเธอไปทำแท้งและเสียเลือดมาก เธออยู่กับยายซึ่งตาบอด เขาพาเธอไปส่งโรงพยาบาลแต่ปรากฏว่าเธอเสียเลือดมากจนเสียชีวิต
ก่อนเธอสิ้นใจเขาสัญญาว่าจะดูแลยายของเธอให้ดีที่สุด และเขาก็ทำแบบนั้นจริง ๆ จนยายของเธอเสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อน
ในตอนนั้นเขาร้องไห้ออกมา พร้อมสารภาพว่ารักเธอ เขากลัวว่าเธอจะไม่ฟื้นขึ้นมาได้รับรู้ความในใจของเขา เขากลัวพลาดโอกาสที่จะได้บอกความจริงในหัวใจที่มีให้เธอมาช้านาน
“ฉันรักเธอนะ แอบรักมานานแล้ว แอบมอง แอบทำทุกอย่างให้เธอ เธอต้องไม่เป็นอะไรนะ ฉันขอให้เธอปลอดภัย แล้วเราเป็นแฟนกันนะ”
“คนที่คอยดูแลช่วยเหลือฉันมาตลอดคือเธอเหรอ ไม่ใช่เขา” น้ำเสียงของธิชาสั่นระริก กรพักตร์พยักหน้าให้เธอ เพราะเขาไม่อยากเป็นแค่คนในเงาอีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าเธอจะผ่านอะไรมา เขาก็รับได้ทุกอย่าง ขอแค่เธอฟื้นขึ้นมาก็เท่านั้น
“ถ้าฉันรู้สักนิด ฉันจะไม่ยอมเป็นแค่ของเล่นของคนหน้าเนื้อใจเสือ คนที่ทำตัวดีต่อหน้าทุกคนแต่จริง ๆ สารเลวแบบนั้น เขารู้ว่าฉันท้อง แล้วให้ฉันไปทำแท้ง” ประโยคของธิชายังติดอยู่ในหูของกรพักตร์
ในตอนนี้เขาก็ยังเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์มือขึ้นมาก่อนจะกดส่งข้อความไลน์ไปหาเพียงขวัญ เขาบอกรักเธอ และข้อความอีกมากมายที่เต็มไปด้วยการเจียมเนื้อเจียมตัว
ในเมื่อคชากรทำให้ผู้หญิงที่เขารักต้องเสียใจจนตาย มันก็ต้องรับผิดชอบ และสิ่งที่มันทำเอาไว้กับเขา เขาไม่มีวันลืม มันกับแม่ของมันทำให้เขามีปัญหาทะเลาะกับบิดาจนต้องแตกหักกัน ก็อย่าหวังเลยว่าจะมีความสุขและเสวยสุขอยู่บนกองเงินกองทองของครอบครัวเขา
เพียงขวัญอ่านข้อความของกรพักตร์ทุกประโยค แต่เธอไม่ตอบเขา พยายามจะตัดใจ แต่พอข้อความส่งมาเธอก็อดที่จะเผลอกดอ่านเสียไม่ได้
“โอ๊ย!” เธอเอาหมอนปิดหู เอาโทรศัพท์ใส่ไว้ในลิ้นชัก เพราะไม่อยากรับรู้อะไรอีก เธอรู้สึกทรมานกับสิ่งที่เกิดขึ้นเหลือเกิน
กรพักตร์หายหน้าหายตาไปเมื่อส่งข้อความสุดท้ายมาหาเธอว่าเขาจะไม่รบกวนเธออีก นั่นทำให้เพียงขวัญรู้สึกว้าวุ่นใจเป็นอันมาก
“เป็นอะไรของเราแม่ขวัญ เพียงขวัญ!”
“คะคุณป้า?” เพียงขวัญสะดุ้งมองผู้เป็นป้าด้วยใบหน้าเหลอหลา
“เป็นอะไรนั่งใจลอย เขี่ยข้าวในจานไปมา ไม่สบายหรือเปล่า” คริสาเอ่ยถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“ไม่ได้เป็นอะไรค่ะคุณป้า ขวัญสบายดี ขอบคุณนะคะที่คุณป้าเป็นห่วง”
“ถ้าเกิดเจ็บป่วยไม่สบายขึ้นมาตอนแต่งงาน งานได้ล่มน่ะสิ เราห้ามป่วย ห้ามเจ็บ ห้ามตายตอนนี้เด็ดขาดนะ” ประโยคของผู้เป็นป้าทำให้เพียงขวัญชะงักไป หลงดีใจคิดว่าท่านเป็นห่วงแต่ที่ไหนได้ ท่านก็แค่ไม่อยากให้งานแต่งล่มเท่านั้นเอง
“แต่พี่เป็นห่วงขวัญนะ” คชากรวางมือที่หน้าผากของว่าที่เจ้าสาว ก่อนจะยิ้มและมองเธอด้วยสายตาอ่อนโยน ความอุ่นวาบเกิดขึ้นในหัวใจของเธอ ด้วยว่าคชากรเป็นพี่ชายที่แสนดีของเธอเสมอ
“งานที่ร้านน่ะก็ปล่อยให้พนักงานกับผู้จัดการร้านทำไป เพราะยังไงก็ทำงานกันมานานแล้ว เราควรพักผ่อนขัดเนื้อขัดตัว อบผมทำเล็บเตรียมตัวให้พร้อมมากกว่านะ”
“อีกตั้งสองเดือนกว่านะคะคุณป้า”
“แค่สองเดือนกว่าจ้ะ ไม่ใช่ตั้งสองเดือนกว่า การบำรุงพวกนี้ต้องทำกันหลาย ๆ เดือน เราจะทำงานงก ๆ แล้วพอจะเข้าพิธีแต่งงานเพิ่งจะไปนวดหน้าขัดผิวทำผมทำเล็บหรือไง ถึงเวลานั้นเจ้าสาวก็ออกมากระดำกระด่างคนได้นินทากันสิ” แม้จะขี้เหนียวแต่คริสาก็ห่วงหน้าตามากกว่า อะไรประหยัดได้ก็ควรประหยัด แต่สิ่งไหนคือหน้าตาคริสาต้องรักษาหน้าตาเอาไว้ให้ดีที่สุด
“ไม่ต้องไปทำที่ร้านให้เสียเงินเสียทองหรอก สูตรขัดผิวเยอะแยะมากมาย ให้พวกสาวใช้มันขัดให้ก็ใสก็สวยเหมือนกัน” เพียงขวัญถึงกับยิ้มออกมา เพราะผู้เป็นป้าของเธอยังคงประหยัดคงเส้นคงวา
“คุณแม่ครับ”
“ว่าไงหึตาหมอ”
“คุณแม่ลืมอะไรไปหรือเปล่าครับ”
“ลืมอะไรรึ”
“ผมเปิดสถานเสริมความงามนะครับ เป็นหมอด้านความงาม ทำไมต้องให้เพียงขวัญไปทำสวยที่อื่น หรือให้สาวใช้ขัดผิวให้ด้วยล่ะครับ รบกวนงานสาวใช้เปล่า ๆ เพราะเขาก็ต้องทำงานบ้านหลายอย่างนะครับ”
“อ้อ... แม่ลืมไป สงสัยแม่จะแก่แล้วละ” คนขี้งกเผลออุทานออกมา
“แก่อะไรกันคะ คุณป้ายังไม่แก่เสียหน่อย”
“ปากหวานจริงนะเรา”
“งั้นผมจะพาคุณแม่ไปทำสวยให้เป็นสาวสองพันปีด้วยดีไหมครับ”
“เราน่ะ”
“แต่ตอนนี้คุณแม่ก็ยังสวยมากนะครับ แต่เติมอีกนิดหน่อยก็หน้าเป๊ะเวอร์ครับ รับรองว่าทั้งเจ้าสาวและแม่เจ้าบ่าวจะต้องเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในงานแต่งของผม จนใคร ๆ ต่างกล่าวขวัญไปอีกหลายเดือนเลยครับ” ประโยคของลูกชายทำให้คริสาถูกอกถูกใจเป็นอันมาก
หน้าที่การดูแลร้านเป็นของผู้จัดการร้านซึ่งก็คือคนเก่าแก่ที่คริสาไว้วางใจเป็นอันมาก หล่อนค่อนข้างเข้มงวดและเจ้าระเบียบ คริสาจึงค่อนข้างไว้ใจแต่เหตุผลหลักคือเพราะเป็นหนี้บุญคุณกันอยู่นั่นเอง
คริสาเคยช่วยเหลือลูกชายของนางตอนประสบอุบัติเหตุ โดยการช่วยพาไปโรงพยาบาล
ในสมัยนั้นเจิมจิตรเป็นเพื่อนบ้านที่มีฐานะยากจนกว่าคริสา วันหนึ่งเกิดอุบัติเหตุ ลูกชายตัวน้อยเสียเลือดมาก จึงต้องการเลือดด่วน คริสาจึงบริจาคเลือดให้ลูกชายของเจิมจิตร หลังจากช่วยพาส่งโรงพยาบาล เจิมจิตรจึงเป็นหนี้บุญคุณของคริสาและเกรงอกเกรงใจคริสามาโดยตลอด ด้วยว่าหล่อนโดนสามีทิ้งต้องเลี้ยงลูกคนเดียว จึงรักลูกชายคนเดียวมาก ทั้งสองมีชีวิตคล้าย ๆ กัน ต้องเลี้ยงลูกคนเดียวเหมือนกัน เรียกว่าหัวอกเดียวกันจึงมีความเห็นอกเห็นใจกันมากพอสมควร
“ตอนนี้คุณเพียงขวัญเข้าออกคลินิกเสริมความงามของคุณคชากรแทบทุกวันครับ ผมสืบมาได้ว่าเธอไปเข้าคอร์ดก่อนแต่งงานน่ะครับ”
“อย่างนั้นเหรอ” กรพักตร์เคาะนิ้วบนโต๊ะเบา ๆ อย่างใช้ความคิด
“ครับเจ้านาย เจ้านายจะเอายังไงต่อครับ”
“นายไปทำตามที่ฉันบอก” กรพักตร์กระซิบที่ริมหูของลูกน้องคนสนิท วรจักรพยักหน้ารีบไปทำตามคำสั่งในทันที