“กะเพราทะเลพิเศษครับ”
“เหมือนกันครับป้า กะเพราทะเล!” น้ำเสียงที่คุ้นเคยกับการเลียนแบบจนเป็นนิสัยสะกิดต่อมผมอีกจนได้
ผมหันกลับไปมอง เจอไอ้ไบรอันที่ยืนยิ้มให้แม่ค้า แต่เวลาที่มันมองผมกลับดูกวนตีนฉิบหายเลย!
“นิสัยมึงนี่ขี้เลียนแบบไม่เปลี่ยนเลยนะ” ผมทักมันก่อน อ้อนตีนผมนัก ชักอยากอ้อนตีนมันกลับบ้างเหมือนกัน
“กะพราทะเลคือเมนูโปรดของกูเหมือนกัน ถึงมึงจะชอบก่อน สั่งก่อน แต่ถ้ากูชอบกูก็ไม่สนที่จะสั่งเมนูที่ซ้ำกับมึง”
“เหอะ! กระจอกฉิบหาย”
“ขอบคุณนะครับป้า” ไอ้เวรนั่นไม่แคร์เสียงด่าแต่หันไปยิ้มให้แม่ค้าขายข้าวแทน
“จะว่าไปแล้ว มันก็บ่อยอยู่นะ ที่มึงกับกูชอบอะไรที่เหมือนๆ กัน”
“อย่าเสร่อใช้คำว่ากูชอบเหมือนมึง มึงต่างหากที่เสร่อมาชอบเหมือนกู”
“มึงจะคิดแบบนั้นก็ได้ จะว่าไปแล้วรสนิยมมึงมันก็ไม่เลวนี่นา ขาว สวย น่ารัก สเปคกูเหมือนกัน” ผมชะงักเมื่อได้ยินแบบนั้น จากนั้นก็เลือกที่จะมองหน้ามันทันทีเช่นกัน
“มึงหมายถึงอะไร”
“แล้วมึงคิดว่ากูหมายถึงอะไร”
“ไอ้สัสนี่กวนตีนว่ะ!”
“หึ! ที่ผ่านมามึงชนะกูบ่อยก็จริงนะ แต่กูเชื่อว่า บางเรื่องกูก็มีสิทธิ์ชนะมึงเหมือนกัน” ไอ้ไบรอันยิ้มมุมปาก
“ไม่ต้องทอนนะครับป้า” มันยื่นเงินให้แม่ค้าขายข้าว จากนั้นก็เดินผละตัวออกไป
“ไอ้เวรเอ๊ย อย่างมึงจะชนะอะไรกูได้วะ ไม่มีวัน!” ผมล้วงธนบัตรออกมาจากกระเป๋าตามด้วยการวางลงบนโต๊ะอย่างแรง
“ไม่ต้องทอน!” ประกายตาของแม่ค้าขายข้าวลุกวาว แน่นอนว่ามันต้องเป็นแบบนั้น
แม้ผมจะวางเงินจ่ายทีหลัง แต่แบงก์ของผมใหญ่กว่าของมัน!
ผมเดินกลับมาที่โต๊ะอาหารอย่างเก่า กระแทกตัวลงนั่งอย่างหงุดหงิด ทำคนที่ผิดสังเกตทักขึ้นทันที
“มึงไปหงุดหงิดอะไรมาวะ”
“หงุดหงิดไอ้เวรนั่นไง เห็นหน้ามันทีไรคันไม้คันมือทุกที” ไอ้บอสกับไอ้เคนมองตามสายตาของผม และคงเห็นพร้อมกันว่าไอ้เวรไบรอันนั่งหล่อๆ โดดเด่นในบริเวณนั้นมากกว่าใคร
“คราวนี้เรื่องอะไรอีกวะ” ไอ้เคนเป็นฝ่ายถาม และมันก็ทำให้ผมได้นึกถึงเรื่องเมื่อเช้าขึ้นมาทันที
“วันนี้มันพูดจาแปลกๆ พูดใส่หน้ากูอีกต่างหากว่ามันอาจจะมีเรื่องที่เอาชนะกูได้”
“แล้วมึงรู้ปะว่าเรื่องอะไร” ไอ้บอสเริ่มอยากรู้อยากเห็น
“เรื่องอะไรก็ช่างแม่ง ถึงยังไงคนอย่างมันก็ไม่มีวันเอาชนะคนอย่างกูได้อย่างแน่นอน!”
“เฮ้ย! นั่นเด็กมึงนี่หว่า” เสียงไอ้บอสทำให้ผมหันขวับ แล้วเลือดก็ต้องขึ้นหน้าอีกครั้งเมื่อเห็นว่าไอ้เหี้ยไบรอันกำลังเข้าไปวุ่นวายกับเฌอเบลล์อีกครั้ง
ไอ้เวรนั่นมองมาที่ผมเป็นระยะ สายตาแบบนั้นทำให้ผมคิดออกทันทีว่าเกมนี้ที่มันจะลองดีกับคนอย่างผม อะไรคือเดิมพัน!
“มันรู้จักเฌอเบลล์ของมึงด้วยเหรอวะ”
“เออ เมื่อเช้ากูเห็นมันอยู่กับเฌอเหมือนกัน”
“อยู่ด้วยกัน เดี๋ยวนะ ทำไมเป็นงั้นวะ”
“ก็มันเสือกอยู่คอนโดเดียวกับเฌอไง!”
“เวรแล้วไง!” ไอ้บอสกุมขมับ ส่วนไอ้เคนนั่งมองทุกอย่างเงียบๆ
“มึงไม่เข้าไปขวางวะ เห็นๆ กันอยู่ว่ามันกำลังจีบเด็กมึง”
“ไม่อ่ะ กูคิดว่ากูทำได้มากกว่านั้น”
“ทำไงวะ?”
“ทำให้เฌอเบลล์เป็นของกูเร็วขึ้นไง!”
ช่วงเย็น
‘รอที่ลานจอดรถ’ ผมส่งข้อความไปหาเฌอเบลล์ทันทีที่เลิกคลาส ที่จริงผมตั้งใจว่าจะตามไปเอาใจเธอที่คณะทุกวัน
แต่ตอนนี้ทุกอย่างแปรผันเพราะผมกำลังมีแผน
รอเกือบสิบนาทีเห็นจะได้ เฌอเบลล์ก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า คราวนี้เธอเดินมาขึ้นรถเองโดยที่ผมไม่ได้ลงไปรับ
ผมออกรถโดยไม่ถามอะไรทั้งนั้น และมันก็เป็นแบบที่ผมคิด กลายเป็นเฌอเบลล์ที่เป็นฝ่ายร้อนรน
“เป็นอะไรหรือเปล่า”
“เปล่า!” ผมใช้น้ำเสียงที่กระด้างมากกว่าทุกครั้ง แบบนั้นมันทำให้คนตัวเล็กกัดปากตัวเองเบาๆ
“ให้ไปส่งที่ไหน” เฌอเบลล์หันมามองหน้า บางทีเธออาจจะจำได้ว่าผมเคยพูดเอาไว้ว่ายังไง
“คอนโดก็ได้” ผมหักพวงมาลัยเปลี่ยนเส้นทางโดยไม่คัดค้านอะไรทั้งนั้น
ไอ้ไบรอันเข้ามาวุ่นวายกับผมก็ดีเหมือนกัน บางทีมันอาจจะทำให้ผมยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
นกตัวแรก หากเฌอเบลล์ตกหลุมพรางที่ผมขุดไว้ ผมได้ตัวเธอมาครอบครองแน่
ส่วนนกตัวที่สอง เมื่อเฌอเบลล์เป็นของผม แปลว่าผมชนะไอ้ไบรอันไปโดยปริยาย
“รู้จักปอแก้วคณะเราหรือเปล่า”
“ถามทำไม”
“จะถามว่าคนนั้นคบได้ไหม” ผมหันมองหน้าเฌอเบลล์ เลยได้สบสายตากับตากลมๆ นั่นเต็มๆ
“เชื่อสิ่งที่เคยบอกด้วยเหรอ”
“เพราะเชื่อ ถึงต้องถาม” เธอตอบเสียงแผ่ว แต่อารมณ์ผมนี่สิไม่แผ่วตามเลย
“ถ้าเชื่อแบบที่พูด ไปยุ่งกับไอ้ไบรอันทำไม อย่าปฏิเสธล่ะ เราเห็นเธอไปกินข้าวกับมัน!”
“เราไม่ได้…”
“เราเห็นกับตา!” ผมแทรกขึ้นมาด้วยอารมณ์ที่เดือดสุดๆ
ผมไม่เคยตามผู้หญิงคนไหนแบบนี้ เพราะไม่เคยตาม เลยต้องหงุดหงิดมากเมื่อเห็นว่ามีคนจ้องจะคาบเธอไป ทั้งที่ผมก็เล็งเอาไว้แล้วเหมือนกัน!
“ถ้าเตือนแล้วไม่ฟัง ทีหลังก็จะไม่เตือน ถ้าหลงไปคบคนผิดพ่อแม่เฌอเสียใจ เราก็จะไม่แคร์อะไรเลย” ใบหน้าจิ้มลิ้มสลดลงทันที
“ขอโทษ” หัวใจของผมกระตุกวูบ แน่นอน ผมไม่คิดว่าจะได้ยินคำขอโทษจากเธอ
“ไม่ต้องขอโทษหรอกเฌอ ถ้าเธอชอบมัน…”
“ไม่ได้ชอบไบรอัน!”
“แต่ก็ยอมนั่งกินข้าวกับมัน”
“…”
“บอกแล้วนะว่าไอ้เวรนั่นมันเป็นเสือผู้หญิง ฟันแล้วทิ้งงานถนัดของมัน!”
“แล้วใครไม่เป็นแบบนั้น” เธอถาม ผมเองก็ไม่ได้โลกสวยพอที่จะเป็นคนดี
“ถ้าคนอื่นถามคำถามนี้ เราจะตอบว่าไม่รู้ แต่ถ้าเฌอถาม เราจะตอบว่าผู้ชายคนนั้นคือเราเอง” เฌอเบลล์มองหน้าผม ตอนนี้ผมเองก็มองเธอเหมือนกัน
“เราไม่เคยห่วงผู้หญิงคนไหนเหมือนที่ห่วงเฌอนะ หรือดูไม่ออกว่าเราห่วงเฌอ”
“รู้ แด๊ดดี้คงฝากอาซานย์ อาซานย์ก็คงบอก…”
“ไม่เกี่ยวกับพ่อ เราห่วงของเราเอง เราชอบเฌอนะ เป็นห่วงมาก มากจนหงุดหงิดเวลาที่เห็นผู้ชายเลวๆ แบบนั้นมายุ่งกับเฌอ”
“…”
“เร็วเกินไปไหม ถ้าเราจะขอเฌอคบ”
“ระ เร็วไป” เฌอเบลล์บอกด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่น
“แต่เราห้ามความรู้สึกของตัวเองไม่ได้ บอกมาสิว่าเราควรจัดการความรู้สึกนี้ยังไง”
“เราเพิ่งเจอกัน”
“แต่เราทุ่มเทให้เฌอได้ไม่ต่างจากคนที่รู้จักกันมาเป็นปีๆ”