สามหนุ่มโสด(คู่หมั้น)

1406 Words
อีกฝั่ง หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป ..... ปรานต์ ปรเมศวร์กับเพื่อนสนิทของเขา ผับหรูย่านใจกลางเมือง เสียงเพลงในผับดังสนั่นปลุกเร้านักท่องราตรี... "ออกมาเจอกันหน่อยดิวะ" ธีระโทรเรียกให้เพื่อนสนิทสองคนออกมาดื่มเป็นเพื่อน...เพียงไม่นานเพื่อนสนิทของเขาก็มาถึงที่ร้าน "อะไรของมึงวะไอ้ธี ยังไม่ทันไรก็เมาเหมือนหมา" คิมหันต์วิศวกรหนุ่มหล่อเดินเข้ามาทักเพื่อน "แล้วไอ้ปรานต์ยังไม่มา" "ถ้ามามึงก็เห็น" ธีระยกแก้วขึ้นดื่มรวดเดียว "กวนตี** แล้วมึงเป็นอะไรดื่มเหล้ายังกับน้ำเปล่า" "กูอกหักวะ!" "เฮ้ย! เหลือเชื่อวะ ประธานบริษัทอย่างมึงเนี่ยนะอกหัก" คิมหันต์ดูจะไม่เชื่อที่เพื่อนพูด "อ้าว ไอ้ปรานต์มาพอดี ทางนี้เว้ย" เขาโบกมือเรียกหนุ่มหล่อมาดผู้ดี ดีกรีเจ้าของธุรกิจส่งออกอันดับต้นๆ ของประเทศเพื่อนเขาตำแหน่งงานดีๆ ทั้งนั้นยกเว้นเขาที่เป็นแค่ววิศวกร " ไอ้ธีมันตายแล้วหรอวะ" ปรเมศวร์ยิ้มมุมปากร้อยวันพันปีมันจะชวนเพื่อนเมาแต่ดันมาฟุบหลับที่โต๊ะ " กูยังไม่ตาย แต่ใจกูแม่งตาย" ธีระพูดขึ้นประธานบริษัทอย่างเขาไม่คิดว่าจะมีสภาพนี้ "ฮ่าๆ มันอกหักว่ะ กูนี่อยากจะขำกลิ้งปลอบใจมันหน่อยดิน้องๆขอเหล้าแรงๆ จัดมาที่โต๊ะนี้หน่อย" นานๆ ทีพวกเขาจะปล่อยตัว ปกติคีพลุคจนเป็นอีกคนและนี่ก็คือตัวตนที่แท้จริงของทุกคน คนเรามีหน้าที่ต่างกันแต่ละหน้าที่ภาพลักษณ์ก็ต่างกันจะให้มาทำตัวเสเพลเหมือนอย่างที่เป็นอยู่มันก็ไม่ใช่พวกเขาจะมีนิสัยดิบเถื่อนก็ต่อเมื่ออยู่กันสามคน ถ้านอกจากนั้นจะต่างกันลิบลับนิ่งสุขุมดูเป็นคนละคน "อย่างไอ้ธีเนี่ยนะอกหัก ต้องสวยแค่ไหนวะถึงทำให้มันอกหักได้" ปรเมศวร์เองก็ใช่ย่อยยกเหล้าขึ้นดื่มอย่างกับน้ำเปล่านานครั้งเขาจะออกมา บวกกับช่วงนี้มีเรื่องให้เครียดมากมายเลยถือโอกาสดื่มหนักสักวัน "นั่นดิ ไหนมึงลองเล่าให้เพื่อนฟังด ว่าสวยขนาดไหน" ธีระค่อยๆ เงยหน้าขึ้น ความจริงเหล้าไม่ได้ทำให้เขาเมาขนาดนั้นแต่ที่ทำให้เขาเมาคือความรู้สึก...มันเจ็บที่ถูกผู้หญิงที่คิดว่ายังไงเธอก็เลือก ตัดความสัมพันธ์และยังหนีเขาไปอีก คิดว่าถ้าเธอโสดแล้วเขาจะมีสิทธิ์แต่ความจริงนั้นไม่ใช่เลย " มึงจำผู้หญิงที่กูเคยเล่าให้ฟังได้ไหมวะ" ธีระหันไปถามปรเมศวร์ เมื่อเดือนที่แล้วเขาเคยเล่าให้เพื่อนฟัง "อืม ก็พอจำได้" เขาตอบไปส่งๆ ความจริงก็จำไม่ค่อยได้เพราะในตอนนั้นเขากำลังมีปัญหาทางธุรกิจต่างคนก็ต่างปรึกษากัน "กูไม่เห็นรู้เรื่อง" คิมหันต์พูดขึ้น "เดี๋ยวมันเล่ามึงก็รู้เอง" " ผู้หญิงคนนั้นเป็นพนักงานในบริษัทกู" "เชี่ย มึงกินเด็กในสังกัด" คิมหันต์อุทานขึ้นอย่างตกใจ เหลือเชื่อ "ยังไม่ได้กินเว้ยย! แค่กำลังจะจีบ" "มึงจริงจังขนาดนั้นเชียว" "อืม กูคิดว่าคนนี้ใช่ แต่เธอดันมีแฟนแล้ว กูก็รอวันที่เขาเลิกกับแฟน แล้วแม่งก็เป็นจริงว่ะ เธอเลิกกับแฟน" ธีระนิ่งเงียบไปเหมือนจะง่วงๆ "แล้วไงต่อวะ" "หลังจากนั้นเธอก็เปลี่ยนมาแต่งตัวสวยโคตรและในตอนนั้นก็ทำให้กูเห็นว่าถ้ากูไม่เริ่มจีบกูก็อด กูก็เลยลดทิฐิทำตามหัวใจ" กว่าเขาจะกล้าจีบเธอมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเพราะเธอเป็นเพียงพนักงานการตลาดในบริษัทของเขา สมภารไม่กินไก่วัด "แล้วสุดท้าย" คิมหันต์ดูจะให้ความสนใจกับเรื่องที่ธีระเล่าต่างจากอีกคนที่กระดกเหล้าจนจะหมดขวดคนเดียว " แล้วกูก็มานั่งอกหักอย่างที่มึงเห็นอยู่นี่ไง กูต้องเสียพนักงานดีๆ เสียทั้งผู้หญิงที่กูชอบ แม่งไม่คุ้มเลยว่ะ" เขาไม่น่าสารภาพกับเธอเลยว่าเขาชอบ นั่นน่าจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เธอลาออก... "หมายความเธอลาออก เฮ้ยแม่งสุดจริงวะ" ยิ่งฟังคิมหันต์ก็ยิ่งช็อกตาม เพื่อนเขาเป็นถึงเจ้าของบริษัทประวัติก็ดีเลิศไม่มีเรื่องเสียหายเรื่องผู้หญิงก็ไม่มีจะมีผู้หญิงคนไหนกล้าปฏิเสธมันได้ เขาชักอยากจะเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นแล้วสิ แล้วยังเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาๆ พนักออฟฟิศ สุดจริง "มึงคิดว่ากูไม่ดี ไม่หล่อตรงไหนวะ" ธีระยื่นหน้าหล่อๆ เข้ามาใกล้ๆ เพื่อน จนคิมหันต์ต้องเอามือผลักหน้าเพื่อนรักออกไป "แม่งขนลุก สัส อย่าเข้ามาใกล้กู มึงดีมึงหล่อสมบูรณ์แบบทุกอย่าง แต่มึงไม่ใช่สเป็คเธอ มันก็เท่านั้น" "แล้วมึงไอ้ปรานต์ มึงคิดว่ากูเป็นไงวะ" เรื่องถูกสาวออฟฟิศทิ้งทำให้เจ้าของบริษัทอย่างธีระหมดความมั่นใจในตัวเองจนต้องมาถามเพื่อน "มึงก็เป็นมึงไง" ปรานต์พูดขึ้นเพียงเท่านั้น เรื่องที่เพื่อนเล่าทำให้เขานึกถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาพึ่งจบความสัมพันธ์กับเธอไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วคงเพราะเธอเองก็เป็นสาวออฟฟิศ รู้ว่ามันคนละเรื่องแต่อยู่ๆหัวมันก็คิดไปเองจนเขาต้องกระดกเหล้าซ้ำๆ "เฮ้ย ไอ้ปรานต์เหล้าเอาไว้กินพอเมาๆ แต่นี่มึงเล่นแดกยังกับน้ำเปล่า แล้วเรื่องที่มึงกำลังจะหมั้นกับน้องอิงฟ้ามันเรื่องจริงรึเปล่าวะ" คิมหันต์ผู้ไม่เมาพูดขึ้นอย่างสงสัย เขาตั้งใจจะมาถามปรเมศวร์เรื่องนี้โดยเฉพาะ แต่ดันมาเจอเรื่องธีระอกหัก วุ่นวายไปอีก "มึงรู้ได้ไง" ปรเมศวร์เงยหน้าขึ้น ปรายตามองเพื่อนสนิทเรื่องนี้เขายังไม่ได้บอกใคร "กูรู้จากอายน้องสาวกู แล้วสรุปเรื่องจริงรึเปล่าวะ" อิงฟ้าเป็นเพื่อนสนิทอะอายน้องสาวของคิมหันต์เขาจึงรู้เรื่องนี้จากน้องสาว "จริง ก็อย่างที่มึงรู้" ปรเมศวร์ยกเหล้าขึ้นดื่มอีกครั้ง ดื่มยังไงก็ยังดูไม่เมา "เฮ้ย เรื่องหมั้นเรื่องแต่งงานมันเรื่องใหญ่นะเว้ย จะหมั้นทั้งทีทำไมมึงไม่บอกพวกกู กูคิดว่าน้องกูพูดเล่น" คิมหันต์ยังไม่อยากจะเชื่อ แต่คิดว่าที่เพื่อนยอมก็น่าจะเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจเรื่องนี้มันค่อนข้างซับซ้อนและอิงฟ้าก็ยังเป็นผู้หญิงที่รักมันมาก เธอหลงรักเพื่อนเขามาตั้งแต่สมัยเรียน " เรื่องจริงป่าววะ" ธีระพูดแทรกขึ้นอย่างงงๆ "เรื่องมันแค่เริ่มพูดคุย กูเลยยังไม่ได้บอก ถ้าได้วันเวลาแน่นอนเดี๋ยวกูบอกอีกที" "แล้วน้องเกรซที่เป็นนางแบบละวะ" ธีระเข้าใจว่าปรเมศวร์ยังคบอยู่กับนางแบบสาวสวยสุดเซ็กซี่ แต่เพื่อนเขามันก็ควงสาวไม่ซ้ำจนเขาเองก็หลงๆ ลืมๆ "สัส กูเลิกกับน้องเขาไปนานแล้ว มึงนี่นะจำได้แต่ละอย่าง" เขาเลิกกับนางแบบสาวมาเป็นปี แล้วก็โสดมาเป็นปี มีแค่แอบกินลับๆ ไม่นับ ถือว่าโสดยาว " เอ้อใช่ไอ้ธี มึงก็พูดมั่วๆ ไอ้ปรานต์มันโสดมาเป็นปีแล้ว ที่มันแอบกินแอบควงไม่นับ ฮ่าๆ" คิมหันต์หัวเราะดังลั่น "แล้วมึงคิดจะถอดเขี้ยวเล็บหมั้นกับน้องอิงฟ้าจริงๆเหรอวะ" " ก็คงถอดไปก่อน" ปรเมศวร์พูดด้วยใบหน้าบึ้งตึง "ฮ่าๆ ยังไม่ทันแต่งก็เริ่มกลัวเมียแล้วเว้ย เอ้าชนแก้วหน่อยฉลองให้กับไอ้ปรานต์มันกำลังจะสละโสด" คิมหันต์กับธีระยกแก้วขึ้นชนฉลอง " อ้าวไอ้ปรานต์มึงก็ชนด้วยดิวะ" "เชิญมึงฉลองกันสองคน สัส" พูดจบร่างสูงก็ลุกออกจากโต๊ะท่าทางหงุดหงิด... "อ้าว ไอ้ปรานต์มึงจะไปไหน ฮ่าๆสงสัยมันจะเขินว่ะ" คิมหันต์แกล้งแซวเพื่อน เขารู้ว่ามันกำลังเครียด " เรื่องจริงเปล่าวะ" ถึงขนาดนี้แล้วธีระยังไม่อยากจะเชื่อ "ไอ้ธีมึงนี่นะ มันพูดขนาดนั้นแล้ว มึงยังจะสงสัยอีก ฮ่าๆกูละเหนื่อยกับมึงจริงๆ" แยกย้าย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD