ตอนที่ 3 ไม่มีใครต้องการ

1263 Words
"แกไปอยู่กับพ่อแก ฉันไม่มีปัญญาส่งเสียแกเรียนหรอก" คำพูดไม่ไยดีของคนเป็นแม่ที่เอ่ยกับลูกสาววัยสิบสองปี ที่กำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นจนตัวโยน เพราะไม่อยากไปอยู่กับไตรทศ ผู้เป็นพ่อ ที่จะต้องย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านของรัศมี ภรรยาคนใหม่ที่มีฐานะดี เป็นแม่ม่ายลูกติดเจ้าของร้านขายส่งอาหารทะเลแห้งแถวมหาชัย ด้วยที่ไตรทศมีอาชีพเป็นเซลล์ขายเครื่องกรองน้ำ นานๆ ครั้งถึงจะได้กลับบ้าน จึงเป็นโอกาสที่ทำให้เขากับรัศมีได้พบกันและทำความรู้จักกัน ยิ่งพบเจอกันหลายๆ ครั้งก็ยิ่งสนิทสนมกัน และได้มีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งจนรัศมีตั้งท้อง และเขาเลือกที่จะทิ้งลูกเมียไปอยู่กินกับรัศมี เพราะเธอสามารถให้ทุกอย่างที่เขาต้องการ แต่เขาก็ต้องแลกด้วยการอยู่ในโอวาทของเธอ เธอใหญ่สุด เขาต้องฟังและทำตามที่เธอต้องการ ทั้งเรื่องทางเดินชีวิต และเรื่องบนเตียงที่เธอมีรสนิยมที่จะผิดแผกไปจากคนปกติทั่วไป คือชอบให้คู่นอนสร้างความเจ็บปวดให้ตัวเองด้วยการทรมานเธอต่างๆ นานาก่อนมีเพศสัมพันธ์ แต่กลับกลายเป็นความชอบของไตรทศไปเสียอีกที่ได้เห็นคู่นอนกรีดร้อง บิดเร้าร่างกาย ด้วยความเจ็บปวดทรมานด้วยน้ำมือของเขา "ไม่นะแม่ นาวจะอยู่กับแม่ นาวไม่ไปอยู่กับพ่อ ไม่นะแม่...ฮืออออออ" นาว สาริศา กอดขาคนเป็นแม่ร้องขออ้อนวอนเสียงแหบแห้งสะอื้นไห้ น้ำใสไหลพรั่งพรูออกจากดวงตากลมที่บัดนี้แดงก่ำอันเนื่องจากการร้องไห้มาเป็นเวลานาน "นาวไปอยู่กับพ่อนะลูก ไปเรียนต่อ ม.1 ที่นู่น นาวจะได้ไม่ต้องลำบาก ไม่ต้องทำสวนให้เหนื่อยด้วยนะ นาวไม่ชอบทำสวนไม่ใช่เหรอลูก" ไตรทศย่อตัวลงนั่งยอง พยายามพูดจาหว่านล้อมด้วยคำพูดหวานหู ชักแม่น้ำทั้งห้าให้ลูกสาวไปอยู่กับตน "ไม่เอา...อึก...นาวจะอยู่กับแม่" นาวกอดขาคนเป็นแม่แน่น น้ำตานองหน้า "แต่แกต้องไป รีบพาตัวมันไปได้ละ ชักช้าอยู่ได้" วิภาไล่ลูกสาว พร้อมทั้งแกะพันธนาการของลูกสาวที่รัดขาของเธอไว้ ผลักออกพ้นตัวอย่างไม่ไยดี เป็นเธอเองที่ติดต่อไปให้ไตรทศมารับนาวไปอยู่ด้วย เพราะเธอก็กำลังตั้งท้องกับยุทธนา สามีใหม่ที่ยังหนุ่มแน่น ที่เจอกันเพราะเขาเป็นพ่อค้าที่มารับซื้อมะนาวที่สวนของเธอ และเธอก็กลัวว่าสามีใหม่จะมาสนใจนาวที่กำลังแตกเนื้อสาว จึงต้องการตัดไฟเสียแต่ต้นลม "ไม่นะ...ไม่...นาวไม่ไป...แม่!!!" นาวร้องเรียก ออกแรงดิ้นสุดตัวเพื่อให้หลุดจากอ้อมแขนของคนเป็นพ่อที่อุ้มเธอออกมาจากคนเป็นแม่ที่ไม่แม้แต่จะชายตามองเธอ "ฮือออออ...นาวจะอยู่กับแม่...ฮืออออออ...จะอยู่กับแม่...นาวไม่ไป...ฮือออออออ" นาวร้องไห้สะอึกสะอื่น ร่ำหาแต่คนเป็นแม่ตั้งแต่ออกจากบ้านสวนที่จังหวัดกาญจนบุรีจวบจนเข้าเขตจังหวัดสมุทรสาคร "โอ๊ยยยยยย เมื่อไรจะหยุดร้องเนี่ย จะแหกปากร้องทำไมนักหนา แม่แกไม่รักแก ไม่ต้องการแกแล้วไม่รู้หรือไง ยังจะเรียกหาอยู่ได้น่ารำคาญ หยุดร้องได้แล้วนะ ถ้าไม่หยุดจะปล่อยทิ้งไว้เป็นหมาข้างถนนนี่เลย รู้ไหมว่าแกมันเป็นตัวภาระที่ไม่ใครต้องการ ไม่รู้ว่าเวรกรรมอะไรของฉันที่จะต้องมารับภาระเลี้ยงดูแกด้วย เงียบเลยนะ อย่าให้ฉันได้ยินเสียงแกอีก" รัศมีโวยวายเสียงดังลั่น ทั้งดุ ทั้งขู่ จนนาวยกมือปิดปากเสียงสะอื้นจนตัวโยน โดยที่คนเป็นพ่อไม่มีปากมีเสียงที่จะปกป้องลูกสาวเลยสักนิด ทั้งยังทำท่าราวกับเกรงกลัวอำนาจเมื่อเจอสายตาของคนข้างๆ ที่ตวัดหางตามองเขาอย่างไม่พอใจที่ต้องไปเอานาวมาเพิ่มภาระเรื่องกินเรื่องอยู่อีก "คุณก็คิดเสียว่าสงสารเด็กตาดำๆ เลี้ยงไว้ให้ช่วยงานที่บ้านที่ร้านก็ได้ ดีเสียอีกคุณจะได้ไม่ต้องเสียเงินจ้างลูกน้อง เดี๋ยวนี้ค่าแรงยิ่งสูงอยู่ด้วย" นี่คือคำพูดที่ไตรทศเคยพูดมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อเอ่ยขอรัศมีเรื่องที่จะเอานาวมาอยู่ด้วย "มันก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว ไม่งั้นจะเอามาเลี้ยงให้เปลืองข้าวเปลืองน้ำทำไม นี่ยังไม่นับที่ต้องมาส่งเสียมันเรียนอีกนะ" รัศมีตอกกลับไตรทศอย่างไม่ไว้หน้า ทั้งคู่พูดคุยกันโดยไม่นึกถึงจิตใจของเด็กอายุสิบสองที่นั่งฟังอยู่เบาะหลัง รับรู้ถึงคำพูดและความรู้สึกของผู้พูด ทำให้นึกคิดไปถึงกาลข้างหน้าที่จะต้องพบเจอ ยิ่งคิดร่างกายก็ยิ่งสั่นเทิ้มสะอื้นไห้แต่ก็ไม่กล้าแม้แต่จะเปล่งเสียงร้องออกมา มือน้อยๆ ปิดปากตัวเองแน่น เมื่อมาถึงบ้านของรัศมี นาวก็ได้พบกับเด็กสาวรุ่นเดียวกับเธอ ปลาดาว โชติกา ลูกสาวของรัศมี สายตาที่ปลาดาวมองนาวเป็นสายตาที่ดูถูกเหยียดหยาม ไม่เป็นมิตรตั้งแต่แรกพบ และปลาทู โชติวัตร เด็กชายวัยสามขวบสายเลือดของไตรทศ ที่ยังไม่ค่อยประสีประสาตามวัยที่มักเล่นสนุกไม่สนใจสิ่งรอบข้างสักเท่าไหร่ แต่น่าจะมีความซนอยู่มากสังเกตได้จากของเล่นที่ทั้งดีและแตกหักกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณบ้านทั้งนอกบ้านและในบ้าน และนั่นเป็นงานแรกที่นาวต้องทำในทันทีที่มาถึงด้วยคำสั่งของรัศมี ก่อนจะขึ้นห้องนอนไปกับไตรทศปล่อยให้เธออยู่ลำพังกับปลาดาวและปลาทู นาวพักอยู่ที่ห้องนอนเล็กๆ ชั้นล่างของบ้านที่มีเพียงเบาะปูนอน หมอนใบเล็ก ผ้าห่ม ราวแขวนผ้า และพัดลมเก่าๆ ที่จะพังแหล่ไม่พังแหล่ ส่วนคนอื่นๆ จะนอนชั้นบนได้เปิดแอร์เย็นๆ นอนกันอย่างสบาย นาวต้องตื่นแต่เช้าเพื่อมาหุงหาอาหารให้กับทุกคนก่อนไปโรงเรียน ต้องทำงานบ้านทุกอย่าง ทั้งกวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างจาน ซักผ้า รีดผ้า แล้วยังต้องไปช่วยงานที่ร้านขายส่งอาหารทะเลแห้งที่ตลาดในวันหยุด แทบจะไม่เคยได้พัก เหนื่อยสายตัวแทบขาด ซึ่งต่างจากปลาดาวและปลาทูที่วันๆ ไม่ต้องทำอะไรเลย ตื่นเช้าแต่งตัวไปโรงเรียนกลับมาก็เอาแต่เล่นสนุก ได้เรียนโรงเรียนเอกชน ส่วนนาวได้เรียนโรงเรียนวัดใกล้บ้าน ส่วนคนเป็นพ่อก็ขับรถส่งของตามออเดอร์ลูกค้ากับรัศมี ไม่เคยสนใจด้วยซ้ำว่าเธอจะกินอิ่ม นอนหลับไหม หรือแม้แต่ถามว่าเหนื่อยไหม หลายครั้งที่เธอต้องแอบร้องไห้อยู่คนเดียว ตัดพ้อกับโชคชะตาของตัวเอง เธอไม่ชอบทำงานสวน แต่งานสวนที่เธอทำยังไม่เหนื่อยมากมายขนาดนี้ ที่นี่เธอไม่รู้จักใคร ไม่มีใครให้เธอได้ระบายความความรู้สึกอัดอั้นในใจ ต่างจากบ้านสวนที่เธอยังมีเพื่อนที่เติบโตมาด้วยกัน ยังได้พูดคุย วิ่งเล่นกัน มีความสุขไปตามประสา แต่ไม่ใช่กับที่นี่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD