ตอนที่ 2 อาชีพคือเป็นคนว่างงานที่ร่ำรวย
นาวาเดินดูรอบบ้านโดยมีเมบีบินตาม บางครั้งก็พูดอวดสิ่งที่ตัวเองทำแก้เบื่อ อย่างเช่น สระว่ายน้ำตรงหน้า ตอนแรกมันเป็นแค่สระว่ายน้ำธรรมดา แต่ตอนนี้มันได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นเทพีที่อยู่ตรงกลาง มีการไหลของน้ำเป็นทอด ๆ โดมกระจก
“เมบีออกแบบเองด้วยนะ” เจ้าก้อนสีขาวทำตาเป็นประกายอย่างมีความสุข
“เมบีเก่งที่สุดเลย” ยิ่งได้รับคำชม เจ้าเมบีก็ยิ่งอายม้วน สุดท้ายก็บินไปซุกอยู่ในพุ่มไม้ด้านข้าง จนนาวาต้องไปดึงออกมา
ระหว่างที่กำลังเดินชมความหรูหรา เสียงแจ้งเตือนที่ข้อมือก็ดังขึ้น
[รายงานเงินเข้า 100 ล้านเครดิต]
ข้อความฝาก : ค่าหย่า
“100 ล้าน!” นาวาเบิกตากว้างอย่างตื่นเต้น ตลอดชีวิตเขาไม่เคยจินตนาการมาก่อนว่าจะมีเงินเยอะขนาดนี้
“เมบี เรากลายเป็นคนรวยแล้ว!” เมบีทำหน้างง ไม่เข้าใจว่าทำไมนาวาถึงพูดแบบนั้น
“นาวาร่ำรวยเป็นอันดับที่ 20 ของดาว A แห่งนี้ ทรัพย์สินรวมทั้งหมดประมาณ 1 แสนล้านเครดิต เมบีว่านาวาร่ำรวยอยู่แล้วไม่ใช่เพิ่งร่ำรวย หรือเมบีเข้าใจผิด”
“สะ แสนล้าน!” นาวาเบิกตากว้าง แม้ก่อนหน้านี้จะรู้ว่าปู่รวย แต่ไม่คิดว่าจะรวยขนาดนี้! แค่ 100 ล้านที่เพิ่งได้ก็มากมายจนไม่รู้จะใช้ยังไงหมดแล้ว
“เมบี เราตัดสินใจแล้ว! เราจะกลายเป็นคนว่างงานที่ร่ำรวย! ฮ่ะๆๆๆๆๆๆ แค่ก!” เพราะหัวเราะมากไป สุดท้ายนาวาก็เกิดสำลักน้ำลายตัวเองจนเมบีรีบสั่งให้หุ่นยนต์พ่อครัวเอาน้ำมาให้
หลังจากดื่มน้ำเสร็จนาวาก็อุ้มเมบีไปที่ห้องนั่งเล่น เขาอยากได้โทรศัพท์กับโน้ตบุ๊ก แม้ว่าสร้อยมันจะสะดวก แต่มันก็เหมาะกับการใช้งานเล็ก ๆ น้อย ๆ น่าแปลกที่นาวาคนเก่าไม่มีโทรศัพท์
“เมบี เราออกไปห้างกันไหม เราอยากได้โทรศัพท์กับโน้ตบุ๊ก”
“เราสามารถสั่งทางออนไลน์ได้ ใช้เวลาส่งไม่ถึงครึ่งชั่วโมง แต่ถ้านาวาอยากไปเดินเล่นก็ไปได้ ที่บ้านนี้มีวาร์ปส่วนตัว”
นาวารู้สึกตื่นตากับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย สั่งของมาถึงไวว่าน่าตกใจแล้ว มีการวาร์ปชวนให้ตกใจยิ่งกว่าเดิม
การติดตั้งจุดวาร์ปไม่ใช่เรื่องง่ายที่แค่มีเงินก็ทำได้ แม้ว่าในที่สาธารณะจะมีจุดวาร์ปให้ประชาชนหลายพันที่ แต่จุดวาร์ปแบบเฉพาะมีน้อยมากไม่ถึงพันแห่ง นอกจากค่าธรรมเนียมรายปีโหดแล้ว ยังมีการตรวจประวัติแบบละเอียด เพื่อป้องกันอาชญากรใช้หลบหนี
เมบีเล่าอย่างภูมิใจ เพราะกว่าที่ตัวเองจะยื่นอนุมัติสำเร็จก็ใช้เวลาเกือบ 2 ปี นี่ถือว่าไวแล้ว อาจจะเพราะคฤหาสน์นี้เป็นของอดีตจอมพล
“เมบีเก่งที่ซู้ดดด” นาวาก้มไปฟัดก้อนขนอย่างมันเขี้ยว หลังจากฟัดจนพอใจแล้วก็เตรียมตัวออกไปข้างนอก การออกมาข้างนอกครั้งนี้เขาไม่ตื่นเต้นจนลนลานเหมือนครั้งแรก เพราะมีเมบีไปด้วย
ทั้งสองวาร์ปมาถึงห้างที่ใหญ่ที่สุดในดาว A เมื่อมาถึงก็พบกับผู้คนเดินเที่ยวกันอย่างครึกครื้น แม้ว่าเทคโนโลยีจะก้าวหน้าไปไกล แต่มนุษย์ก็ยังเป็นสัตว์สังคม ชอบออกมาแลกเปลี่ยนอะไรหลาย ๆ อย่างกัน
นาวามัวแต่ตื่นเต้นจนไม่ทันสังเกตเห็นสายตารอบ ๆ ผมสีชมพูโดดเด่น เพราะในดวงดาวนี้นอกจากตระกูลฮิตแกรนของอดีตจอมพลกราแดนก็ไม่มีใครผมสีนี้อีกแล้ว นอกจากนี้ยังมีใบหน้าที่ดูดีจนไม่อาจละสายตาได้ อีกทั้งยังมีสัตว์ระดับสูงอยู่ด้วย อิลล์เป็นสัตว์ระดับสูงที่หาได้ยากยิ่งกว่าทอง ทำให้มันมีราคาแพง ยิ่งสีขาวเท่าไหร่ราคายิ่งสูง
ขณะที่นาวายังไม่รู้ตัวเมบีก็เชิดร่างอ้วน ๆ ขึ้นอย่างภาคภูมิใจ เมบีถือเป็นอิลล์ที่ดีที่สุดในกลุ่มพี่น้อง และถูกประมูลมาในราคา 1000 ล้านเครดิต คุณปู่ยอมเสียเงินหลักพันล้านเพื่อซื้อสัตว์เลี้ยงให้หลานชาย
“นาวา ร้านอยู่ทางนี้” นาวาพยายามเก็บความตื่นเต้นไว้ จัดการกอดเมบี และเดินไปทางที่บอก สายตาของนาวายังมองไปรอบ ๆ อย่างตื่นเต้น จู่ ๆ ก็ได้มาอยู่ท่ามกลางเทคโนโลยีสุดล้ำยุค เขาว่าถ้าเป็นคนอื่นคงตื่นเต้นไม่ต่างกัน
“เอ๊ะ!” ระหว่างที่กำลังมองรอบ ๆ อย่างตื่นตาก็มีบางอย่างชนที่ขาของเขา เมื่อก้มไปมองก็เป็นลูกบอล เจ้าของลูกบอลเป็นเด็กชายอายุไม่ถึงสามขวบ เด็กน้อยวิ่งเข้ามามองระหว่างเขาและลูกบอล
“นี่ครับ” ในฐานะที่เป็นหนุ่มหน้าตาดีแสนรักเด็ก นาวาจึงก้มลงไปหยิบลูกบอล และส่งให้เด็กชายตัวน้อยพร้อมรอยยิ้มที่คิดว่าอ่อนโยนที่สุด
อ่อนโยนกว่าพี่ก็นางสาวไทยแล้วน้อง!
“คนประหลาด คุณแม่บอกว่าห้ามคุยด้วย” นาวายิ้มแข็งเมื่อได้ยินแบบนั้น
ให้ตายเถอะ เด็กสมัยนี้ทำไมเป็นแบบนี้! หรือว่าเขาจะแปลก ๆ จริง ๆ ก็เป็นไปได้ อย่างตอนเด็ก ๆ ใคร ๆ คงถูกสอนว่าอย่ารับของคนแปลกหน้า
“โอเค ๆ” นาวาถอยออกมา ระหว่างนั้นเด็กน้อยก็เดินเข้ามาหยิบลูกบอล
“มีอา! แม่หาตั้งนาน มาซนอยู่นี่เองเหรอ” คนมาใหม่เป็นหญิงสาวใบหน้าเข้ารูป ผิวสีสว่างเข้ากับการแต่งหน้าอ่อน ๆ ยิ่งทำให้เธอดูดีราวกับคุณหนูผู้สูงศักดิ์
“คุณแม่ ผมแค่ทำลูกบอลตก” เด็กชายสะดุ้งอย่างแรงเมื่อถูกแม่พูดใส่ ก่อนที่เด็กน้อยจะวิ่งไปทางนั้น หญิงสาวจูงมือเด็กน้อยไป นาวาสัมผัสได้ถึงสายตาแปลก ๆ ของผู้หญิงคนนั้น นอกจากนี้ยังรู้สึกคุ้น ๆ ด้วย แต่เขานึกไม่ออกว่าใคร แต่ก็ช่างมันเถอะ บางทีอาจจะเคยเห็นผ่าน ๆ
หลังจากเดินมาไม่นานก็มาถึงร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่ เมบีทำหน้าที่แนะนำว่าควรซื้อรุ่นไหน สุดท้ายเขาก็ได้โน้ตบุ๊กและแท็บเล็ตมาอย่างละเครื่อง นอกจากนี้ยังได้อัปเกรดเวอร์ชันล่าสุดที่สร้อยข้อมือด้วย หลังจากเดินเล่นอีกพักใหญ่ทั้งสองก็กลับบ้าน
“นี่ เมบีรู้ไหมว่าเราแต่งงานไปกับใคร เล่าให้ฟังบ้างสิ” นาวาถามขึ้น ทั้งที่ความทรงจำอื่น ๆ เขาจำได้ดี แต่พอเป็นความทรงจำเกี่ยวกับอดีตสามีเขากลับจำไม่ได้เลย บางทีนาวาคนเดิมอาจจะไม่ต้องการจำก็ได้
“นาวาแต่งงานตอนอายุ 17 และหย่าตอนอายุ 20 ปีพอดี อดีตสามีคือท่านจอมพลชาร์ล”
“โอ้ว เป็นคนใหญ่คนโตซะด้วย แต่แย่จังนะ เป็นจอมพลซะเปล่า มีตาหามีแววไม่จริง ๆ กล้าทิ้งคนสวย ๆ อย่างเราได้ยังไง” เมื่อได้ยินคำแสนหลงตัวเอง นอกจากเมบีไม่พูดขัดแล้ว ยังพูดเสริมอย่างเห็นด้วย
“ใช่แล้ว! นาวาทั้งหน้าตาดี ทั้งนิสัยดี!”
“เมบีน่ารักที่สุด! สมแล้วที่เป็นเพื่อนหมายเลข 1”
ตลอดทั้งวันนอกจากเดินสำรวจบ้าน นาวาก็ไม่ได้ทำอะไรเลย คฤหาสน์หลังนี้มีเมบีเป็นคนควบคุมหลัก มีหุ่นยนต์พ่อครัว 2 ตัว หุ่นยนต์ทำสวน 5 ตัว หุ่นยนต์ทำความสะอาดบ้าน 5 ตัว หุ่นยนต์ไม่ได้ดูแข็ง ๆ เหมือนโลกก่อน AI พัฒนาจนหุ่นยนต์สามารถสื่อสารกับเจ้าของได้เข้าใจอย่างลึกซึ้ง หุ่นยนต์สามารถตรวจจับคลื่นอารมณ์ของเจ้านายได้เป็นอย่างดี ถ้าหากเจ้านายอารมณ์ไม่ดี หุ่นยนต์ก็จะมีการรับมืออีกแบบ
“เมบีนัดหมอให้เรียบร้อย พรุ่งนี้หมอจะเข้ามาที่บ้าน” นาวาเลิกคิ้วอย่างมึนงงเมื่อจู่ ๆ เมบีก็พูดขึ้น
“หาหมอทำไมเหรอ” คิ้วสวยขมวด ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าบางทีอาจจะตรวจอาการเพิ่มเติม เพราะยังไงเขาก็เพิ่งออกจากโรงพยาบาล
ช่วงเย็นอากาศดีมาก นาวาออกมาเดินเล่นที่สวน สวนได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม ดอกไม้นานาพันธุ์ต่างก็แข่งกันออกดอก ในยุคนี้ป่าลดลงมากทำให้ไม่ค่อยได้เห็นต้นไม้ แต่ดูเหมือนปู่จะชอบต้นไม้มาก ถึงได้สร้างสวนดอกไม้และจัดแต่งสวนอย่างดี
นาวาเดินมาหยุดอยู่ที่ดอกไม้สีแดงสดใสคล้ายดอกกุหลาบมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ มันเป็นกลิ่นที่ชวนให้รู้สึกสดชื่น
“ทำไมหอมจังเลย” ดวงตาสีอ่อนมองดอกไม้ ก่อนจะกลืนน้ำลาย
เอ๊ะ? ปกติดอกไม้มันน่ากินขนาดนี้เลยเหรอ มือขาวจัดการเด็ดดอกไม้ก่อนจะจับใส่ปากพร้อมกับเสียงของเมบีร้องดังขึ้น
“นาวา! ห้ามกินนะ มันกินไม่ได้!” แม้เมบีจะบอกแบบนั้น แต่อีกคนก็เคี้ยว ๆ และกลืนลงคออย่างรวดเร็วราวกับกลัวว่าถ้าช้าเมบีจะให้คายออกมา
“มันอร่อยดีนะ ทำไมต้องทำหน้าดุขนาดนั้นล่ะ ไม่เป็นอะไรหรอก” ไม่ว่าเปล่า เจ้าตัวยังหมุนตัวให้ดูด้วยว่าตัวเองแข็งแรงดี
“แม้ว่ามันจะไม่มีพิษ แต่การทานดอกไม้ดิบ ๆ อาจจะทำให้ท้องเสียได้นะ นาวาเชื่อฟังนะ” เจ้าก้อนขนกระพือปีกรัว ๆ
“ความจริงดอกไม้ดิบทานได้นะ แค่บางชนิดน่ะ” เสียงเถียงในตอนแรกเบาลง เมื่อเห็นสายตาดุ ๆ ของเจ้าก้อนขน
“แค่ชิมเอง เมบีจะชิมไหม”
“นาวากินดอกไม้ไปทั้งดอก แบบนั้นไม่เรียกชิมนะ!!”
สุดท้ายเขาก็ถูกพาออกจากสวนดอกไม้อย่างไม่เต็มใจ อะไรกัน แค่ดอกไม้ไหม มันน่ากินออก แถมหอมอร่อยสุด ๆ! ที่สำคัญยังมีอีกตั้งหลายดอกที่ต้องไปชิม!
###
มาต่อแล้ววววว