กรุงเทพมหานคร
ในห้องเก็บเอกสารอับชื้นอากาศหายใจก็น้อยนิดทำให้คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวแทบทรงตัวยืนไม่ไหว เหนื่อยล้าสะสมหลายวัน ช่วงนี้ลูกชายของหล่อนไม่ค่อยสบายงอแงหนักทำให้ไม่มีเวลาพักผ่อน เช้ามาก็ต้องฝืนกายเตรียมตัวมาทำงานเป็นผู้ช่วยเลขานุการบริษัทแห่งหนึ่งที่เพิ่งจะเข้ามาทำงานได้เพียงสามเดือน กษมาคือชื่อของหล่อน ชื่อของผู้หญิงอับโชคที่ยังมีลมหายใจเพื่อจะได้เรียนรู้ความเจ็บปวดตราบนานเท่านาน ชีวิตหล่อนย่ำแย่ เรื่องเรียน เรื่องงาน รวมไปถึงเรื่องความรัก
เมื่อเอ่ยถึงเรื่อง ‘รัก’ เวลาไหนหัวใจหล่อนมักจะเจ็บแปลบขึ้นมาทุกครั้งเพราะมันได้ปิดตายไปร่วมห้าปีได้ ปิดตาย... ทั้งที่ในหัวใจดวงนี้ยังมีใครหนึ่งคนที่หล่อนแอบเก็บซ่อนเอาไว้ คิดถึงเขาครั้งไหนก็แสนเจ็บปวดหัวใจ
เข้มแข็งสิกั้ง เธอต้องเข้มแข็งให้มากกว่านี้
กษมาตั้งมั่นในใจก่อนจับแฟ้มเอกสารเก่าฝุ่นเขรอะมาพลิกหาแฟ้มที่ตนเองต้องการส่วนมืออีกข้างกุมขมับที่ร้อนฉ่า
“อยู่ไหนนะ”
เรียวปากสีซีดพึมพำขณะพยายามเขย่งเท้าขึ้นสูงเพื่อสอดส่องมองหาแฟ้มเอกสารที่เจ้านายสั่งให้มาหา
ห้องนี้ค่อนข้างมืดและอับแต่จะให้ทำอย่างไรได้ในเมื่อหล่อนเป็นแค่ลูกจ้างถูกสั่งมายังไงก็ต้องทำตามอย่างไม่สามารถเลี่ยงได้ ปลายนิ้วชี้อ่อนแรงเลื่อนทางขวาไปตามสันปกเพื่อหาแฟ้มงานบางอย่างทว่าไม่ว่าจะหายังไงก็หาไม่เจอ
พักใหญ่หล่อนได้ยินเสียงดังขึ้นจากทางด้านหลังพร้อมกับบานประตูถูกเปิดเข้ามา
“หนูกั้งยังหาไม่เจออีกเหรอ ทั้งที่ฉันให้เวลาหาตั้งหลายนาทีแล้วแท้ๆ” ทรงพลเอ่ยเสียงอ่อน ก้าวเท้าเข้ามาหาลูกจ้างสาวแสนสวยที่ตนเองอยากได้มาเป็นอนุภรรยา เสียแต่หล่อนเล่นตัวเก่งชะมัด เล่นตัวเก่งจนเขาอยากจะรวบหัวรวบหางให้รู้แล้วรู้รอด!
กษมาหมุนกายกลับมา ลดมือข้างที่กุมหน้าผากลงก้มหน้าเล็กน้อย “ตอนนี้ยังไม่เจอแต่ดิฉันจะพยายามหาดูให้ดีอีกครั้งค่ะ มันน่าจะอยู่แถวๆ ชั้นนี้”
“ทำงานไม่ได้เรื่องเลยนะ ฉันแค่ให้มาหาแฟ้มงานหนูกั้งก็หาให้ฉันไม่ได้ แฟ้มนั้นจะต่างจากเพื่อนเพราะเป็นสีเงินมีสันสีดำตัดเป็นลายทาง”
ท่านก้าวเท้าเข้ามาหาหญิงสาววัยยี่สิบสี่ เห็นแววตาตื่นตระหนกกับการก้าวถอยหลังแล้วก็ยิ่งได้ใจ
“ดะ... เดี๋ยวนะคะ”
กษมากลัวแต่ทำใจดีสู้เสือมองหน้านายจ้างนัยน์ตาไหวระริกลดสายตาลงมองแฟ้มในมือของเขา “แฟ้มงานก็อยู่ในมือของท่านนี่คะ แล้วจะให้ดิฉันมาหาในนี้ทำไม”
“อ่า ความแตกจนได้สินะ” ทรงพลหัวเราะเสียงทุ้มวางแฟ้มที่ตนเองเคยต้องการค้างบนชั้นวางเอกสาร ย่างสามขุมเข้าหาแม่กวางสาวทีละก้าว “หนูกั้งรู้ไหมว่าฉันรักและเอ็นดูหนูมากแค่ไหน เงิน ทอง บ้าน รถ ชีวิตครอบครัวที่ดีหนูไม่อยากได้เหรอ มาเป็นอนุของฉันเถอะนะ ฉันจะให้ทุกอย่างที่หนูกั้งต้องการ”
“ไม่ค่ะ ดิฉันไม่ต้องการ อย่าเข้ามานะ! ไม่อย่างนั้นฉันจะร้องขอให้คนช่วย!” กษมาตะคอกเสียงดังหอบหายใจแรงหยิบแฟ้มต่างๆ จากชั้นมาโยนใส่ชายแก่ตัณหากลับมือเป็นระวิง
“แหกปากร้องไปเถอะ พนักงานข้างนอกเขากลับบ้านกันหมดแล้ว” ยิ้มยียวน ก้าวเท้าเข้าหากษมาไม่พอยังปลดเนกไทออกด้วยท่าทางคุกคาม
“อย่าเข้ามานะ!”
“โอ๊ย! ฉันเจ็บนะหนูกั้ง” มีหนึ่งครั้งที่โยนแฟ้มหนาถูกหน้า เขาชักสีหน้าอารมณ์เสียใส่ กระชากปอยผมนุ่มของคนที่กำลังวิ่งหนีกลับมาเผชิญหน้า
“อย่าเล่นตัวให้มากก่อนที่หนูจะไม่มีค่าให้ฉันง้อ เป็นแค่ผู้หญิงใจแตกแท้ๆ จะมัวทำงานงกๆ หาเงินเลี้ยงลูกทำไม มาเป็นเมียน้อยฉันไม่ดีกว่าเหรอสบายกว่ากันเยอะ ฉันไม่ใช้งานหนูหนักหรอก!”
“ฉันไม่ได้ใจแตก!”
“เหรอ! เหรอจ๊ะ น้อยใจถึงกับร้องไห้เลยเหรอ” ท่านยิ้มมุมปากสมเพชเวทนา “แต่หนูก็ท้องไม่มีพ่อไม่ใช่เหรอ!”
เจ็บใจนัก กษมาเจ็บใจจนน้ำตาไหล
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย ฮือ... ปล่อยฉันนะ”
มือน้อยทุบหน้าอกชายผู้เป็นนายจ้างอย่างแรงหวังให้เขาปล่อยผมตัวเอง น้ำตาไหลพราก เสียใจไม่อยากให้มีเหตุการณ์อะไรแบบนี้เกิดขึ้นกับตนเองอีกครั้ง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หล่อนถูกคนใจโฉดพยายามข่มเหง หลายครั้งหลายหน สู้ยากแต่ก็สู้เอาตัวรอดมาได้ทุกครั้งและครั้งนี้หล่อนก็ต้องรอดให้ได้เช่นกัน
แควกกกก!!
“อย่านะ!!” กษมากรีดร้องที่ถูกฉีกกระชากเสื้อผ้าอย่างกักขฬะ หวาดกลัวสุดหัวใจเหมือนเป็นปฏิกิริยาตอบโต้
หล่อนผลักเขาออก แต่โชคร้ายตำแหน่งที่หล่อนผลักไปนั้นเป็นชั้นวางแฟ้ม ทำให้หัวทรงพลกระแทกแตกจนได้เลือด ร่างทรงพลทรุดลงพื้นก่อนมือหนาจะยกขึ้นวางทาบหน้าผากที่ปวดหนึบๆ แล้วก็เป็นอย่างที่คิดว่านังตัวแสบเล่นงานเขาจนเลือดตกยางออก! “แก! นังสารเลว!”
“มะ... มันก็สมควรกับคนเลวๆ อย่างแกแล้วแหละ” กษมาอ่อนแรงทว่ายังแข็งใจพูดก่อนใช้โอกาสนั้นวิ่งหนีไม่คิดชีวิต เก็บของบนโต๊ะทำงานด้วยความรวดเร็วเพื่อออกไปจากบริษัทเฮงซวยแห่งนี้
วิ่งออกมาจนถึงถนนสายหลักก็เรียกแท็กซี่ ทิ้งบริษัท ทิ้งเจ้านายชาติชั่วไว้ข้างหลัง
“ฮึก... ฮือ...” หล่อนสะอื้นร่ำไห้จนตัวโยนนึกน้อยใจในบุญวาสนาที่ทำให้ชีวิตตกต่ำจนถึงจุดต่ำสุด ต่ำจนหล่อนแทบไม่มีเรี่ยวแรงที่จะมีชีวิตอยู่บนโลก